ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำท่วมประเทศไทยตอนนี้ ที่เห็นแสดงให้เห็นความเห็นแก่ตัว ของ คนไทยอย่างชัดเจน  (อ่าน 3685 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

มะยม

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 74
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ดร.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา


ขอบคุณจาก http://www.lampangclub.com

ใครว่าคนไทยเป็นคนใจกว้าง มีความโอบอ้อมอารี เอื่อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปัน 
 
 
ผมว่า...พูดผิดพูดใหม่ได้นะครับ 
 
เพราะ กรณีน้ำท่วมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกตั้งแต่จังหวัดในภาคเหนือ เช่น จังหวัดอุตรดิตถ์ไล่ลงมาจนถึงจังหวัดในภาคกลาง เช่น สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยาฯลฯ
 
ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมักง่ายและความเห็นแก่ตัวของคนไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้   
 
ตัวอย่าง ปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยได้เปลี่ยนจากสังคมของ การเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขไปเป็นสังคมของความเห็นแก่ตัวอย่างสมบูรณ์ คนที่มีเงินหรือมีอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือกว่าก็สามารถเอาเปรียบคนยากคนจน ได้(อย่างหน้าชื่นตาบาน) ลองดูตัวอย่างดังต่อไปนี้นะครับ
 
 
ตัวอย่าง ที่หนึ่ง การปล่อยปะละเลยให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในภาคเหนือเพื่อปลูกพืช เศรษฐกิจ เช่น ข้าวโพด   แสดงให้เห็นว่านักธุรกิจหรือผู้ที่มีอิทธิพลทั้งหลายไม่เคยสนใจเลยว่าการทำ ธุรกิจที่ใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบนั้นได้นำมาสู่การสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ที่ ทำหน้าที่เป็นต้นน้ำสำคัญของประเทศ พื้นที่ต้นน้ำเหล่านี้ทำหน้าที่ชะลอการไหลของน้ำในฤดูฝนและคลายน้ำที่อุ้ม ไว้ในฤดูแล้ง
 
 
เมื่อนักธุรกิจไทยเลือกที่จะรุกรานพื้นที่ป่าไม้ เพื่อปลูกข้าวโพดทั้งที่รู้ว่าเป็นการทำลายระบบนิเวศและเป็นต้นตอของปัญหา น้ำท่วมน้ำแล้งของประเทศไทย ก็ย่อมแสดงให้เห็นถึงความมักง่ายและความเห็นแก่ตัวของกลุ่มทุนเหล่านี้ทั้ง สิ้น หลังจากที่นักธุรกิจค้าข้าวโพดได้กอบโกยผลประโยชน์จากการทำลายระบบนิเวศใน พื้นที่ต้นน้ำ เป็นที่พอใจแล้วก็แสดงความใจแคบโดยการทิ้งปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้คนยากคนจน ในชนบทในภาคกลาง
 
ตัวอย่างที่สอง น้ำเป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถบริหารจัดการอย่างง่ายๆ ไม่งั้นคนเขาไม่เสียเวลาห้าปีแปดปีเพื่อร่ำเรียนวิชาชลศาสตร์หรือวิศวกรน้ำ หรอกครับ แต่การแก้ปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันกลับอาศัยความมักง่ายโดยการมอบให้ผู้ว่า ราชการจังหวัดต่างๆ รับผิดชอบการแก้ปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดของตน
 
 
เช่น การสร้างทำนบกั้นน้ำไม่ให้เข้าท่วมพื้นที่ในจังหวัดของตนเอง  แต่เคยคิดหรือไม่ว่าน้ำจำนวนนั้นจะถูกผลักออกไปท่วมจังหวัดอื่นๆ ถัดไปอย่างไรบ้าง ดังนั้น การป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่ดำเนินกันมาแบบว่าพื้นที่ใดมีเงินมากก็สร้าง เขื่อนให้สูงกว่าเพื่อผลักน้ำให้ไปท่วมพื้นที่อื่นหรือจังหวัดอื่นแทน ถ้าคนไทยยังแก้ปัญหากันแบบนี้ผมก็คิดว่าเป็นการทำงานที่เห็นแก่ตัวสิ้นดีและ เป็นการแก้ปัญหาแบบมักง่าย
 
ตัวอย่างที่สาม การพัฒนาตัวเมืองต่างๆ ผู้คนหวังแต่จะกอบโกยประโยชน์ใส่ตนเองโดยไม่แยแสต่อส่วนรวม ในการพัฒนาเมืองพบว่าทางไหลของน้ำเดิม เช่น ลำคลอง ลำห้วย ลำธารต่างๆ ที่เป็นทางระบายน้ำในฤดูฝนก็ถูกถมไปหมดเพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ทาง เศรษฐกิจ
 
 
เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กอบโกยเงินโดยการถมทาง น้ำสาธารณะเพื่อทำหมู่บ้านจัดสรร เจ้าหน้าที่ของรัฐพอได้รับเงินค่าน้ำร้อนน้ำชาแล้วก็ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ สร้างถนนต่างๆ ก็ยกระดับให้สูงซะจนน้ำไม่สามารถไหลผ่านได้ พื้นที่เขตธุรกิจหรือเขตอุตสาหกรรมก็สร้างทำนบกันน้ำไม่ให้ท่วมพื้นที่ของตน โดยให้คนยากคนจนในพื้นที่เกษตรกรรมต้องรับชะตากรรมกับปัญหาน้ำท่วมน้ำหลาก แทน การขยายตัวของพื้นที่เมืองในลักษณะเช่นนี้นอกจากไม่นำไปสู่การพัฒนาที่ ยั่งยืนแล้วช่างสะท้อนความด้อยพัฒนาคนอีกด้วย
 
ตัวอย่างที่สี่ เกิดเป็นคนกรุงเทพนี้ช่างวิเศษเสียจริงๆ กี่ปีต่อกี่ปีที่ประเทศไทยมีปัญหาน้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายมากมาย ทรัพย์สมบัติของชาวบ้านที่ซื้อหามาด้วยเงินทองที่แสนจะหายากก็ถูกน้ำพัดพา อันตรธานไปหมด
 
แต่คนกรุงเทพยังคงใช้ชีวิตปกติ ว่างจากงานก็ช้อปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง ทำสิ่งที่ตนเองสนใจ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาน้ำท่วมเลย
 
 
การ ที่คนกรุงเทพฯ ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเป็นเพราะคนกรุงเทพฯ มีเอกสิทธิ์และมีสตางค์มากพอทีจะสร้างแนวกันน้ำสองริมฝั่งแม่น้ำและปิดประตู กันน้ำทุกจุดเพื่อ  ป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าเขตกรุงเทพฯ เมื่อน้ำจำนวนนี้ไม่สามารถไหลเข้าพื้นที่กรุงเทพได้ มันก็ต้องไหลไปท่วมพื้นที่ข้างเคียงแทน
 
 
อย่างนี้ไม่เรียกว่า เป็นการบริหารจัดการน้ำอย่างเห็นแก่ตัวก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรแล้วครับ  ถามว่า...คนรวยในกรุงเทพฯเคยมีจิตใจที่คิดจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ เพื่อนำเงินรายได้ของชาวกรุงเทพฯไปชดเชยประชาชนในพื้นที่ข้างเคียงที่ ต้องอยู่ใต้น้ำแทนคนกรุงเทพหรือไม่...ไม่เคยและไม่คิดจะทำด้วย อย่างนี้ไม่เรียกว่าเอาเปรียบ ใจแคบ เห็นแก่ตัวก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรแล้ว
 
นอก จากจะมีเล่ห์เหลี่ยมในการเอาเปรียบพื้นที่รอบๆแล้ว คนกรุงเทพฯ ก็ยังยกภาระการจ่ายค่าชดเชยทั้งหมดไปให้รัฐบาลกลางแทน อย่าลืมนะครับว่าเงินของรัฐบาลที่นำมาจ่ายเป็นค่าชดเชยน้ำท่วมก็คือเงินของ ประชาชนทั้งประเทศนั่นเอง  เมื่อรัฐบาลนำเงินจำนวนนี้มาจ่ายเป็นค่าชดเชยน้ำท่วมเสียแล้ว เงินที่จะนำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศให้กับประชาชนในชนบทในอนาคต ก็ต้องถูกตัดทอนลงไป
 
 
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ คนกรุงเทพฯ ไม่ยอมรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ แต่โยนภาระทั้งหมดให้คนจนในชนบทที่ต้องใช้เงินของตัวเองมาชดเชยให้ตัวเองจาก ปัญหาน้ำท่วม การทำแบบนี้เป็นวิธีการทางการคลังสาธารณะที่แยบยลมาก ผมเองไม่คิดเลยว่าคนไทยด้วยกันจะกล้าทำกันขนาดนี้
 
สรุปความได้ว่า การบริหารจัดการน้ำท่วมของประเทศไทยในปัจจุบันเป็นเพียงการแก้ปัญหาแบบตัว ใครตัวมัน ใครมีเงินมากกว่า มีอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือกว่า เช่น ชาวกรุงเทพมหานคร หรือคนในเขตเมืองใหญ่ๆ ก็ใช้อิทธิพลของตัวเองสร้างสิ่งปลูกสร้างที่แข็งแรงกว่าเพื่อผลักน้ำให้ไป ท่วมพื้นที่รอบนอกแทน ทำให้พื้นที่อื่นๆ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอยู่แล้วต้องอยู่ใต้น้ำนานขึ้นและ/หรือเผชิญกับ ระดับน้ำที่สูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น การกระทำอย่างนี้ไม่เรียกว่าเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว มักง่ายก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้วครับ.

 

ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1316606565&grpid&catid=02&subcatid=0200

http://www.lampangclub.com/board/index.php?topic=7547.0
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 
 กรุงโรมไม่ได้สร้างภายในวันเดียว บุญบารมีของคนแต่ละยุคแต่ละสมัยไม่เท่ากัน

 ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดโดยบังเอิญ

 วิบากกรรมเพิ่งเริ่มแสดงผล...เท่านั้นเอง

 ที่แสดงอยู่ น่าจะเป็นเพียงหนังตัวอย่าง เป็นเพียงบททดสอบ

 เราควรสำรวจตัวเองว่า พร้อมหรือยังที่รับมือกับมหันตภัยข้างหน้า

  :49:

 
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Mahajaroon

  • 1.บรรพชิต
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 63
  • ข้างนอกต้องแก้ไข ข้างในต้องปล่อยวาง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เห็นด้วยกับความรู้ของท่านบางส่วนที่ว่า น้ำท่วมประเทศไทยตอนนี้ ที่เห็นแสดงให้เห็นความเห็นแก่ตัว ของ ผู้มีอำนาจในประเทศไทยอย่างชัดเจน   แต่พีน้องไทยไม่เคยทิ้งกันมีความเดือดร้อนที่ไหนก็ร่วมใจกันไปช่วยกันเสมอ สังคมบ้านนอกยังพอมีให้เห็น พระคุณเจ้าหลายวัดในกรุงเทพบอกบุญชาวบ้านช่วยเหลือน้ำท่าม เช่นภาพนี้ครับ





จะเห็นได้ว่าในสังคมไทยยังมีคนดีอยู่มาก หากวันใดคนดีๆที่มีปัญญา    ไม่เหลืออยู่ในสังคมไทยวันเป็นจุดจบที่สมบูรณ์ เพราะทุกวันนี้คนเน้นจะหาความรู้อย่างเดียว แต่กลับทิ้งคุณธรรม   คนฉลาดเอาเปรียบคนอื่นได้ง่ายที่สุด
อยากทราบว่าใครจะรับผิดชอบเรื่องแบบนี้ กฏแห่งกรรมไม่เคยปราณีใคร จัดไปเต็มเหวี่ยงเลยพี่ เอาให้เต็มที่เลยเธอ กรรมจะจัดสรรค์พวกที่ทำไม่ดี ให้ไปสู่อบายแน่นอน ส่วนคนทำดีย่อมสุขแท้จงแน่ใจ
 :03:                                                    :03:                                      :s_laugh:
บันทึกการเข้า
พุทธะนับหมื่นอยู่ที่ใจ

lastman

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 158
  • สระบุรี มีอรอยพระพุทธบาทมากที่สุด.................
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นด้วยครับ ตอนนี้ สิ่งที่จะพิสูจน์หัวใจคนไทย ในเรื่องธรรมะ

ก็คือ คุณธรรม ที่เรียกว่า สังคหวัตถุ 4 ประการ ครับ

 ช่วยกันเุถิดครับ ในเรื่องที่เป็นเรื่องที่เกินจากอำนาจของเรา ก็ขอให้ผู้มีอำนาจทั้งหลาย มองเห็นและแก้ปัญหากันจริงเสียทีครับ

 เตรียมตัวกับ อุทกภัย ที่จะเกิดหนักขึ้นทุกปีครับ

 สร้างภูมิจิต ด้วย ทาน ศีล ภาวนา 3 ประการให้เหนียวแน่นครับ

  :25: :25: :25:

 
บันทึกการเข้า
อนันตริยกรรม ๖ พึงงดเว้น
มีเพื่อนบอกว่าคุณจะเลวอย่างไรก็ได้ แต่อย่าทำผิดศีล ๕

ทิด...คนหนึ่งที่นับถืออาจารย์

tasawang

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 116
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ่านบทความนี้ เหมือนได้ตอกย้ำความคิดของตนเอง ที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ ว่าเหตุที่เกิดมาจากอะไรกันแน่
สภาพการณ์ น้ำท่วมปีนี้ เป็นเพราะว่ามีน้ำมากจริง ๆ หรือ ๆ มีการทำปิดกั้นระบบระบาย กักเก็บน้ำไว้มากเกินเหตุ

คิดแล้ว ก็น่าจะปวดหัว จริง ๆ

แต่ที่แน่  ๆ เราคนไทยก็ไม่ทอดทิ้งกันง่าย ๆ ใช่หรือไม่ครับ ( ถ้าไม่จำเป็น หรือ ไม่กวน... มาก )

ผมเองเข้าไปร่วมกับอาสาบางทีก็ เสียอารมณ์เหมือนกัน บางครั้งก็โดนด่า ว่าทำไมพึ่งมาช่วย บ้าง

อะไรจะปานนี้ เราเป็นอาสา เข้าไปช่วยแต่กลายเป็นว่า มองเราเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไปซะนี่

  ก็ต้องเข้าใจกับสภาวะการณ์ ความเครียด ...... ของผู้ประสพภัยทุกท่าน ครับ

 พลังธรรม พลังใจ พลังความคิด และ ช่วยกันให้เต็มทีครับ

 :s_hi: :s_hi: :s_hi:
บันทึกการเข้า

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สัตว์โลกต้องเป็นไปตามกรรม
บันทึกการเข้า