หัวข้อ: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:01:44 am ขอรวมกระทู้ ตายแล้วไปไหน ๒ และ ตายแล้วไปไหน ๓ เข้าด้วยกัน
เนื่องจากบางท่าน อาจไม่ได้อ่านกระทู้ทั้ง ๒ จนครบ เพราะพระพุทธเจ้ามีปกติแสดงธรรมเป็น คู่ การศึกษาธรรมก็ควรศึกษาเป็น คู่ เมื่อรู้จัก วิบัติ ๓ ก็ควรรู้จัก สัมปทา ๓ เมื่อรู้จัก สัมปทา ๓ ก็ควรรู้จัก วิบัติ ๓ เหมือนเราจะละอกุศล เจริญกุศล เราก็ต้องรู้จักธรรมส่วนที่เป็นอกุศล เราต้องรู้จักธรรมส่วนที่เป็นกุศล เราถึงจะละธรรมที่เป็นส่วนอกุศลได้ และยึดธรรมที่เป็นกุศลได้ ถ้าเราศึกษาแต่ธรรมที่เป็นอกุศล เราก็รู้แต่ธรรมที่ควรละ ควรสลัดออกจากใจ แต่เราไม่รู้ธรรมที่ควรยึดถือ ควรน้อมนำเข้าสู่ใจเรา ถ้าเราศึกษาแต่ธรรมที่เป็นกุศล เราก็รู้แต่ธรรมที่ควรยึดถือ ควรน้อมนำเข้าสู่ใจเรา แต่เราไม่รู้ธรรมที่ควรละ ควรสลัดออกจากใจ หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:03:56 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/70_22_07_15_11_29_32.jpeg)
วิปัตติสัมปทาสูตร ว่าด้วยวิบัติ และสัมปทา ภิกษุทั้งหลาย วิบัติ ๓ ประการนี้ วิบัติ ๓ ประการ อะไรบ้าง คือ ๑. สีลวิบัติ (ความวิบัติแห่งศีล) ๒. จิตตวิบัติ (ความวิบัตแห่งจิต) ๓. ทิฏฐิวิบัติ (ความวิบัติแห่งทิฏฐิ) <สีลวิบัติ> เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ นี้เรียกว่า สีลวิบัติ <จิตตวิบัติ> เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ(เห็นผิด) มีจิตพยาบาท นี้เรียกว่า จิตตวิบัติ <ทิฏฐิวิบัติ> เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นวิปริตว่า “ทานที่ให้แล้วไม่มีผล ยัญที่บูชาแล้วไม่มีผล การเซ่นสรวงไม่มีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและชั่วก็ไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มีคุณ บิดาไม่มีคุณ โอปปาติกสัตว์ไม่มี สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบทำให้แจ้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งก็ไม่มีในโลก” นี้เรียกว่า ทิฏฐิวิบัติ เพราะสีลวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะจิตตวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดใน อบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะทิฏฐิวิบัติเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ภิกษุทั้งหลาย วิบัติ ๓ ประการนี้แล พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต [๓. ตติยปัณณาสก์] ๒. อาปายิกวรรค ๕. วิปัตติสัมปทาสูตร ขอบคุณภาพประกอบจาก : http://khunsamatha.com/blog/dhammakaya-C3.html (http://khunsamatha.com/blog/dhammakaya-C3.html) หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:05:19 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/70_23_07_15_2_18_01.jpeg) วิปัตติสัมปทาสูตร ว่าด้วยวิบัติ และสัมปทา สัมปทา ๓ ประการนี้ สัมปทา ๓ ประการ อะไรบ้าง คือ ๑. สีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล) ๒. จิตตสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยจิต) ๓. ทิฏฐิสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ) <สีลสัมปทา> เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติ ผิดในกาม การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดคำหยาบ และการพูดเพ้อเจ้อ นี้เรียกว่า สีลสัมปทา <จิตตสัมปทา> เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา ไม่มีจิตพยาบาท นี้เรียกว่า จิตตสัมปทา <ทิฏฐิสัมปทา> เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นสัมมาทิฏฐิ(เห็นชอบ) มีความเห็นไม่วิปริตว่า “ทานที่ให้แล้วมีผล ยัญที่บูชาแล้วมีผล การเซ่นสรวงมีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำไว้ดีและชั่วมี โลกนี้มี โลกหน้ามี มารดามีคุณ บิดามีคุณ โอปปาติกสัตว์มีสมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบทำให้แจ้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งมีอยู่ในโลก” นี้เรียกว่า ทิฏฐิสัมปทา เพราะสีลสัมปทาเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เพราะจิตตสัมปทาเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เพราะทิฏฐิสัมปทาเป็นเหตุ สัตว์ทั้งหลายหลังจากตายแล้วจึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๓ ประการนี้แล พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต [๓. ตติยปัณณาสก์] ๒. อาปายิกวรรค ๕. วิปัตติสัมปทาสูตร ขอบคุณภาพประกอบจาก :http://my.uamulet.com/BlogDetail.aspx?ID=767404 หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: sakol ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:34:15 am st11 st12 st12
ธรรมส่วนสอง เคยได้ยิน ทางเว็บนี้มีการพูดถึง บ่อย ๆ นะครับ :13: thk56 หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: saieaw ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:52:27 am st11 st12
หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 06:43:14 am ธรรมอันนำไปสู่ความเป็นเทวดา 2 ประการ คือ
หิริ ความละอาย 1 โอตตัปปะ ความเกรงกลัว 1 หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 09:35:15 am st12 st12 st12 st12
หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 03:33:07 pm gd1 st12
ขออนุโมทนาสาธุ ธรรม หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 05:35:49 pm st11 st12 st12 thk56 like1
หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: paisalee ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 08:21:38 pm ความพร้อมด้วย ศีล เกิดได้ เพราะ คุณธรรม สอง ประการ คือ
หิริ ความละอายต่อบาป โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป แต่ในยุคนี้ เรื่อง บาป นรก คนไม่เชื่อแล้ว มันจึงผิดศีล กันมาก ใช่หรือไม่ ครับ ทำดี แล้ว อดตาย คนจึงเลือกทำชั่ว เพื่ออยู่รอด เสียมากกว่า :49: :49: :49: หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 11:38:53 pm ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมครับ
ธรรมที่เป็นคู่เป็นธรรมของโลก เป็นธรรมที่ควรละ ถ้ายังยึดไว้เราก็อยู่ในโลก แต่ถึงเราละได้แล้ว แต่รูปขันธ์เรายังอยู่ในโลกเราก็ยังต้องเจออยู่ มีคนดี ก็ต้องมีคนไม่ดี ไม่มีทางที่ใครจะทำให้โลกนี้มีแต่คนดีได้ และก็ไม่มีทางที่่ใครจะทำให้โลกนี้มีแต่คนไม่ดีได้ มีสรรเสริญ ก็มีนินทา ไม่มีใครในโลกโดนชมตลอด และก็ไม่มีใครในโลกโดนด่าตลอด มีเกิด ก็มีดับ สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลง และดับไปในที่สุด เป็นธรรมของโลก พระอรหันต์ก็พ้นจากธรรมของโลกไม่ได้ พ้นจากการโดนด่าไม่ได้ ถ้ารูปขันธ์ท่านยังอยู่ในโลก ส่วนท่านเอาอะไรพ้นจากโลก พ้นจากโลกธรรม เรา ๆ ท่าน ๆ คงทราบดีอยู่แล้ว การพยายามให้ทุกคนเป็นคนดี ก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าท่านใดปรารถนาสาวกภูมิ การทำให้เราพ้นจากโลกเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญอันดับแรกหรือไม่ การไปพระนิพพานนั้น พระพุทธเจ้าองค์ไหนก็พาเราไปไม่ได้ พระอรหันต์องค์ไหนก็พาเราไปไม่ได้ เราต้องไป ด้วยตัวของเราเอง พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ ท่านเป็นเพียงผู้บอกทาง กิเลสของใคร ก็คนนั้นแหละที่ต้องจัดการเอาเอง เป็นกิจของเรา ธรรมะที่ผมนำมาบอกต่อ ผมก็ศึกษาจากครูอาจารย์หลาย ๆ ท่าน โดยเฉพาะพระไตรปิฎก ผมไม่ได้คิดเอง เพราะผมไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระปักเจกพุทธเจ้า ที่ท่านตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ดังนั้นถ้าธรรมะที่ผมนำมาลงในกระทู้จะซ้ำกับที่อื่นก็ไม่แปลก เป็นเรื่องที่ถูกต้องเสียอีก แสดงว่าผมไม่ได้คิดนึกเอาเอง เพราะถ้าคิดนึกเอาเองก็เป็นแต่อธรรม เพราะจิตผมยังมีอวิชชาอยู่ จะคิดให้ถูกให้ตรง เหมือนพระพุทธเจ้า กับพระอรหันต์ไม่ได้ หัวข้อ: Re: วิปัตติสัมปทาสูตร (วิบัติ ๓ สัมปทา ๓) เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 06:51:04 am st11 st12 st12 like1
|