ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ‘พระเทพประสิทธิมนต์’ นำบูรณะ พระนอนใหญ่อายุ ๖๐๐ ปี  (อ่าน 1213 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


‘พระเทพประสิทธิมนต์’ นำบูรณะ พระนอนใหญ่อายุ ๖๐๐ ปี

บุญบูรณะพระนอนใหญ่อายุ๖๐๐ปี‘พระเทพประสิทธิมนต์’นำคณะศรัทธาให้เสร็จใน ๖ เดือน

โบราณสถานวัดพระนอน ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งโบราณสถานดังกล่าวทางกรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยจากการสำรวจของสำนักศิลปากรที่ ๓ พบว่าวัดพระนอนแม้ไม่ปรากฏหลักฐานในพระราชพงศาวดาร หรือหลักฐานอื่นใด ทางสำนักศิลปากรที่ ๓ จึงกำหนดอายุจากหลักฐานโบราณวัตถุที่ปรากฏ ซึ่งในที่นี้จะดูลักษณะทางศิลปะขององค์พระนอน ที่มีเค้าของวงพระพักตร์ แบบพระพุทธรูปสมัยอู่ทองรุ่นที่ ๓ อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐ ระหว่าง พ.ศ.๑๙๐๐-๒๐๐๐ อายุประมาณ ๖๐๐ ปี กล่าวได้ว่า มีการสร้างขึ้นในกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ต่อเนื่องมาหลายสมัยจนถึงสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

นอกจากพระนอนแล้วภายในโบราณสถานดังกล่าวยังพบหลักฐานทางสถาปัตยกรรม แบ่งเป็นส่วนสำคัญ ดังนี้ วิหารพระนอน เจดีย์ราย กลุ่มอาคาร และกลุ่มหลุมฝังศพ ซึ่งวัดดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากอยู่ใกล้กับวัดใหญ่ชัยมงคล อยู่ระหว่างโบราณสถานวัดชุมพล และโบราณสถานวัดประโดก


 :96: :96: :96: :96:

ทั้งนี้หลักจากที่มีการขุดค้นพบพระนอน พบว่าบริเวณส่วนองค์พระนอนแตกเกือบทั้งหมดคงเหลือไว้เพียงพระพักตร์ครึ่งเดียว โดยสำนักศิลปากรที่ ๓ ได้สำรวจองค์พระ พบอีกว่าเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นกว้าง ๒ เมตร ยาว ๑๒ เมตร เป็นประติมากรรมนูนสูง พระเศียรหันไปทางทิศตะวันตก หันพระพักตร์มาทางทิศใต้ นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า วัดโคกพระนอนแห่งนี้อายุกว่า ๖๐๐ ปี มีเนื้อที่ ๒ ไร่ สร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง ช่วง พ.ศ.๑๙๐๐ ถึง พ.ศ.๒๐๐๐ ต่อเนื่องหลายสมัยอยู่ในช่วงสมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรถ ยังไม่ชัดเจนว่าว่าพระองค์ใดเป็นผู้สร้าง

จากการสำรวจเบื้องต้นที่เคยทำประวัติไว้ โดยภายในวัดจะมีวิหารขนาดใหญ่คลุมองค์พระนอนองค์ใหญ่ ลักษณะปูนปั้น มีความยาวประมาณ ๘ เมตร เป็นพระนอนที่มีความงดงามองค์หนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีลักษณะคล้ายกับพระนอนวัดธรรมิกราช จ.พระนครศรีอยุธยา พระนอนภายในวัดพระนอนจักรศรี จ.สิงห์บุรี และนอนในวัดขุนอินทรประมูล จ.อ่างทอง และวัดโคกพระนอนแห่งนี้ จัดอยู่ในกลุ่มโบราณทางทิศตะวันออก หรือกลุ่มโบราณสถานอโยธยา ซึ่งโบราณที่สำคัญได้แก่วัดใหญ่ชัยมงคล วัดสามปลื้ม วัดอโยธยา

 ans1 ans1 ans1 ans1

พระเทพประสิทธิมนต์ (โกศล มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม หรือ “เจ้าคุณเณร” เปิดเผยว่า วัดดังกล่าวถูกปล่อยร้างมานานมากมีวัชพืชขึ้นปกคลุมเป็นจำนวนมาก เมื่อได้ไปพบเห็นแล้ว เกิดความสะเทือนใจ ซึ่งที่ผ่านมานั้นได้นำคณะศรัทธาญาติโยมสร้างพระพุทธขนาดต่างๆ มากมาย แต่ยังไม่เคยซ่อมพระพุทธรูปขนาดใหญ่สักครั้ง ตามประวัติพระนอนองค์ดังกล่าวสร้างไว้เมื่อ ๖๐๐ ปีก่อน มาวันนี้ถือว่าเป็นบุญที่มีส่วนในการซ่อมพระองค์ดังกล่าว

ดังนั้นอาตมาจึงร่วมกับกรมศิลปากร ดำเนินการบูรณะโบราณสถานวัดพระนอนทั้งหมด โดยให้องค์พระกลับมามีความสมบูรณ์ดังเดิมตามพุทธลักษณะ เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีของชาติ ที่สำคัญส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาแห่งใหม่ที่มีความสำคัญใจกลางพื้นที่พระนครศรีอยุธยา


 :25: :25: :25: :25:

อย่างไรก็ตามหากชาวพุทธจะมาร่วมบูรณะสามารถสมทบทุนได้ที่วัดศรีสุดาราม โดยการบูรณะครั้งนี้ร่วมทั้งสร้างวิหารครอบจะใช้งบประมาณทั้งหมด ๕ ล้านบาท ใช้ระยะเวลาบูรณะในส่วนองค์พระพุทธณูป ๖ เดือน ส่วนการสร้างวิหารครอบใช้เวลาประมาณ ๑ ปี ทั้งนี้ในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ กันยายนนี้ เวลา ๙.๑๙ น. พล.อ.นพดล ฝักอังกูร เจ้ากรมเสมียนตรา จะไปเป็นประธานในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขออนุญาตบูรณะพระนอน ผู้มีจิตศัทธาร่วมบูรณะพระนอนกับพระเทพประสิทธิมนต์ สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดศรสุดาราม โทร.๐๙-๐๖๗๘-๖๕๐๐-๑๙



 st11 st11 st11 st11 st11

อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้ทรงนิพนธ์หนังสือเรื่อง “ตำนานพระพุทธเจดีย์” ประทานความเห็นว่า การสร้างพระพุทธรูปนั้น ปรากฏอยู่ในตำนานพระแก่นจันทน์ ซึ่งได้กล่าวถึงพุทธประวัติตอนที่พระพุทธองค์ได้เสด็จขึ้นไปเทศนาโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และทรงค้างอยู่ที่ดาวดึงส์สวรรค์นั้น ๑ พรรษา พระเจ้าปเสนทิแห่งกรุงโกศลเมื่อมิได้เห็นพระพุทธองค์มาช้านาน ก็มีความรำลึกถึง จึงทรงรับสั่งให้ช่างทำพระพุทธรูปด้วยไม้แก่นจันทน์แดงขึ้น ประดิษฐานไว้เหนืออาสนะที่พระพุทธองค์เคยประทับ

ครั้นเมื่อพระพุทธองค์เสด็จกลับจากดาวดึงส์มาถึงที่ประทับ พระแก่นจันทน์ลุกขึ้นปฏิสันถารกับพระพุทธองค์ด้วยปาฏิหาริย์ แต่พระพุทธองค์ตรัสสั่งให้พระแก่นจันทน์กลับไปยังที่ประทับ เพื่อรักษาไว้เป็นตัวอย่างพระพุทธรูป ซึ่งสาธุชนจะได้ใช้เป็นแบบอย่างสร้างพระพุทธรูป เมื่อพระพุทธองค์ทรงล่วงลับไปแล้ว

 st12 st12 st12 st12

ความที่กล่าวไว้ในตำนานประสงค์ที่จะอ้างว่าพระพุทธรูปแก่นจันทน์องค์นั้นเป็นแบบอย่างของพระพุทธรูปซึ่งสร้างกันต่อมาภายหลัง หรืออีกนัยหนึ่งคืออ้างว่า พระพุทธรูปมีขึ้นโดยพระบรมพุทธานุญาต และเหมือนพระพุทธองค์ เพราะตัวอย่างสร้างขึ้นตั้งแต่ในครั้งพุทธกาล อย่างไรก็ตามที่กล่าวนี้เป็นเพียงตำนานที่น่าจะเขียนขึ้นภายหลังเมื่อมีการสร้างพระพุทธรูปกันแพร่หลายแล้ว

อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป นำมาจากหนังสือ “หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑” โดยพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี จัดทำโดยเจ้าหน้าที่ธัมมวิโมกข์ การสร้างพระพุทธรูปจัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในกรรมฐานจัดว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน (การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์) ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก

การสร้างพระถวายด้วยอำนาจพุทธบูชาทำให้มีรัศมีกายมากเป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า “พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต” แปลว่า “การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก”


 :25: :25: :25: :25:

การสร้างพระพุทธรูปนี่เป็นพุทธบูชาเป็นพุทธานุสสติในกรรมฐาน ๔๐ กอง ท่านบอกว่ากำลังของพุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่นก็เห็นจะจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ทีนี้เมื่อเราต้องการสร้างพระพุทธรูปให้สวยตามที่เราชอบเห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าเราชอบพระแบบไหนปางไหน ก็ให้สร้างอย่างที่เราชอบจิตจะได้เกิดศรัทธา


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150908/212998.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11สาธุ สาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา