สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ธรรมะสาระ => สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน => ข้อความที่เริ่มโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 22, 2015, 11:54:15 pm



หัวข้อ: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: ดนัย ที่ กรกฎาคม 22, 2015, 11:54:15 pm
                                                 
                                (http://www.madchima.net/forum/gallery/70_22_07_15_11_26_53.jpeg)

ตายแล้วไปไหน ๑


     ท่านสหธรรมมิกทั้งหลาย เคยมั้ยที่เราสนทนากับผู้อื่น เราพูดถึงสิ่งที่เราไปรู้ ไปเห็น ไปแจ้ง มาด้วยตนเอง แต่ก็ไม่สามารถจะแสดงหลักฐานใด ๆ ให้ผู้อื่นเห็นได้ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่เรารู้ เราเห็น เราแจ้ง เป็นเรื่องจริง

     จุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น สมมติว่าถ้าเราต้องอธิบายให้กับปู่ ย่า ตา ยาย บิดา มารดา ที่ท่านไม่เคยศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์ ไม่เคยใช้กล้องจุลทรรศน์ ว่าจุลินทรีย์มีอยู่จริง จะอธิบายอย่างไร?

     ถ้าท่านปฏิเสธว่าไม่เชื่อ แล้วบอกให้เราพิสูจน์ให้ดู ให้เห็นกับตา ถึงจะเชื่อ เราจะทำอย่างไร?

     ถ้าเราไม่เอากล้องจุลทรรศน์พร้อมตัวอย่างจุลินทรีย์มาให้ท่านดู เราก็คงต้องพาท่านไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อพิสูจน์กันใช่มั้ย?

     แต่ถ้าเราไม่มีความสามารถจะเอามาให้ท่านดู หรือจะพาท่านไปดู หรือไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทำให้เราไม่สามารถ ทำให้ท่านเห็นด้วยตาตัวเองได้

     สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เรียกว่า จุลินทรีย์ ก็ยังคงมีอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลงใช่มั้ย? หรือว่าพอ ปู่ ย่า ตา ยาย บิดา มารดา ของเราปฏิเสธที่จะเชื่อ แล้วสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เรียกว่า จุลินทรีย์ จะหายไปจากโลก?


     เชื้อโรคเองก็เช่นกัน ตอนนี้เปิดทีวีก็ต้องมีข่าวโรคเมอร์ส ซึ่งผู้ป่วยเกิดการติดเชื้อไวรัสชนิด corona เป็นแล้วรักษาให้หายขาดยาก ตายไปก็เยอะ แล้วมีใครเคยเห็นเชื้อไวรัสชนิดนี้กับตาตัวเองบ้าง?

     แพทย์แนะนำว่า ให้สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาไปที่โรงพยาบาล หรือประเทศที่มีการระบาด หรือในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด

     ถ้าเราจำเป็นต้องไปในที่ที่มีโอกาสติดเชื้อโรคเมอร์ส ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่ามันติดต่อทางการหายใจได้หรือไม่ แต่เราก็รู้ด้วยตัวเองใช่มั้ยว่า ควรต้องสวมหน้ากากอนามัย

ฉันใดก็ฉันนั้น
     จะมีใครสามารถเอา นรก หรือสวรรค์ มาแสดงแก่เราได้
     จะมีใครสามารถเอา สัตว์นรก หรือเทวดา พรหม มาแสดงแก่เราได้

เราควรเชื่อว่ามี นรก สวรรค์ สัตว์นรก เทวดา พรหม
     เพราะว่าเรามีความเห็นว่า ผู้ใดไม่มีศีล มีจิตเป็นอกุศล ตายจากโลกนี้แล้วไปสู่ทุคติ มี นรก เป็นต้น ย่อมมีกายเป็นสัตว์นรก
     เพราะว่าเรามีความเห็นว่า ผู้ใดมีศีล มีจิตเป็นกุศล ตายจากโลกนี้แล้วไปสู่สุคติ มี สวรรค์ เป็นต้น ย่อมมีกายเป็น เทวดา หรือ นางฟ้า

หรือว่า
เราไม่ควรเชื่อว่า มี นรก สวรรค์ สัตว์นรก เทวดา พรหม
     เพราะเราไม่เคยเห็น สัตว์นรก เทวดา พรหม
     เพราะเรามีความเห็นว่า เทวดา พรหม เป็นความเชื่อของพวกพราหมณ์





ขอบคุณภาพประกอบจาก : http://9poto.com/ (http://9poto.com/)ละครย้อนหลัง/พระมหาชนก-the-story-of-mahajanaka



     




หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: บุญเอก ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 12:11:15 am
 st11 st12 st12 like1


หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 01:22:38 am
(http://www.mx7.com/i/5da/GNvU4.jpg)

ศรัทธาเรานั้นสร้างให้มันมีขึ้นมาเอง ใครจักเชื่อหรือไม่ในศรัทธานั้นไม่สำคัญ เพราะเป้าหมายเขาไม่มีอย่างที่เรามี ทุกสิ่งสรรมีได้ก็ที่ใจนี้กำหนดกระทำ


หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 01:46:07 am
 thk56
          ตายแล้วไปไหน....ก็คงไปตามที่จิตเกิดภพเกิดชาติ  เอาไว้ตามที่อยากชอบ  ครับ

           วนเวียนว่ายตายเกิด  ตามที่ใจได้ปรุงและปราถนากันเอาไว้

            ขออนุโมทนาบุญ ครับ

           


หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 05:48:42 am
ตายแล้วไปไหน ?
   
     ถ้าสร้างกุศล  ก็
        1. มนุษย์โลก
        2. เทวโลก
     
     ถ้าสร้างอกุศล
        1.ติรัจฉานคติ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาณ
        2.เปตคติ      เกิดเป็นเปตร
        3.อสุรกายคติ เกิดเป็นอสุรกาย
        4.วินิปาตคติ   เกิดเป็นสัตว์นรก

      :58:


หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 07:29:52 am
  st12
    มารโลก -มนุษย์โลก-เทวโลก-พรหมโลก .....พระนิพพาน

     เรียงตามนี้ครับ


หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: Akira ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 08:25:13 am
 st11 st12 st12 thk56 like1


หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 06:06:18 pm
ตายแล้วไปไหน ภาวะจิตสุดท้ายก่อนตายเป็นเช่นไรย่อมส่งผลการเกิดใหม่ในภพภูมิหน้า หากจิตสุดท้ายนึกถึงแต่คุณงามความดีมีจิตที่สว่างก้อจะไปสู่สุขคติภูมิ หากจิตสุดท้ายนึกถึงแต่สิ่งที่เป็นอกุศลก่อจะถูกส่งๆปทุกข์คติภูมิ จิตสุดท้ายก่อนตายเป็นเช่นไรขึ้นอยู่กับว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาทำอะไรไว้บ้าง หากทำชั่วมาทั้งชีวิตแต่จะมาเล่นลักไก่นึกถึงแต่สิ่งดีๆนึกถึงแต่พระก่อนตายมันก็ไม่ได้ มันจะเหมือนกับหนังมาฉายให้ดูตอนสุดท้ายเป็นฉากๆ เพราะฉะนั่นหมั่นทำแต่ความดีไว้เป็นดีที่สุดเพื่อความไม่ประมาทอย่างน้อยจิตก่อนตายก้อจะได้มีแต่สิ่งที่ดีๆให้นึกถึงก่อนจะดับสูญ st12


หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 06:33:37 pm
เรื่องความตายในวาระจิตสุดท้ายจากคำบอกกล่าวของพระอาจารย์

แม้ว่าเราทุกคนจะเห็นและรู้ว่า ความตาย เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ แต่ก็หาทำให้คนเราเกรงและหยุดพฤติกรรมเลวลงไม่ ทั้งนี้เหตุจากความเชื่อที่ผิดที่คิดว่าการกระทำใดใดนั้นไม่สำคัญขอเพียงวาระจิตสุดท้ายคิดแต่สิ่งดีสิ่งที่เป็นกุศล เมื่อดับจิตแล้วสุคติเป็นที่หวังได้ ผมจะไม่เชื่อคำพูดอย่างนี้เด็ดขาดถ้าหากไม่ได้ยินด้วยหูของตนเองจากเพื่อนที่นับถือในวงการค้าพระเครื่องที่ศึกษารู้เรื่องราวเกจิอาจารย์ดังมากรูป เรื่องของความตายเมื่อวันนั้นมันมาถึงคุณคุณคิดกันอย่างไร ครูอาจารย์ท่านกล่าวเล่าให้เข้าใจอย่างนี้ครับว่า เมื่อวันนั้นมาถึงต่อให้คุณจะเคยสั่งสมบุญกุศลใดใดมามากต่อมากจะหวนระลึกนึกถึงบุญเหล่านั้นขณะเวลานั้นไม่ได้เลย เรียกว่านึกไม่ออก บ้างมีบ้างที่ป่วยนอนเจ็บใจก็จับแต่อาการเจ็บอยู่อย่างนั้นทรมานอยากตายให้พ้นเจ็บก็ทำไม่ได้เช่นกัน สิ่งหนึ่งที่ครูอาจารย์ท่านถามผมเรื่องการภาวนาว่า "รู้ไหมเราภาวนาไปเพื่ออะไร" ผมก็ตอบท่านไปว่า "เตรียมตัวตาย" พระอาจารย์ตอบว่า "ถูก" ดังนั้นการภาวนาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ครูอาจารย์ท่านเน้นย้ำเสมอๆ และอย่าสงสัยนะครับว่า พระอาจารย์ท่านรู้ได้อย่างไร ซึ่งก็ความตายนั่นแหละที่ท่านเผชิญกับมันมาก่อนจึงกล่าวเล่าให้ผมนั้นเข้าใจ แท้แล้วจิตคนเราเกิดดับอยู่ตลอดเวลามันสำคัญที่ดับขณะจิตเป็นกุศลหรืออกุศลให้จิตนั้นหน่วงเนื่องจุติครับ


หัวข้อ: Re: ตายแล้วไปไหน ๑
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 08:46:24 pm
เป็นอย่างนี้หรอกหรือค่ะอย่างนี้ต้องเร่งภาวนาแล้วเพื่อเตรียมตัวตาย st11 like1