ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมานฉันท์  (อ่าน 250 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมานฉันท์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2022, 07:07:11 am »
0


สมานฉันท์

คำว่า “สมานฉันท์” เป็นคำที่ไม่ค่อยได้ยินใช้กันบ่อยนัก จนมีการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ซึ่งมีคุณอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จึ่งได้ยินได้ฟังคำๆนี้บ่อยมากขึ้น

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 อธิบายคำ”สมานฉันท์”ไว้ว่า “ความพอใจร่วมกัน ความเห็นพ้องกัน” แต่ความพอใจหรือความเห็นพ้องต้องกันจะเกิดขึ้นได้ ก็จากพฤติกรรมของทั้งสองฝ่าย ใช่หรือไม่?

คำว่า “สมานฉันท์”ในชื่อของคณะกรรมการชุดนี้ คงต้องการให้มีความหมายในเชิงภาษาอังกฤษ คือคำว่า Harmony ซึ่งแปลว่า ความกลมกลืน ความปรองดอง และความสามัคคี ก็เช่นเดียวกันอีก ความกลมกลืนหรือความปรองดองหรือความสามัคคี จะเป็นจริงขึ้นได้ ต้องมาจากท่าทีและความประพฤติของทั้งทุกฝ่าย จึงจะเกิดความสมานฉันท์ที่แท้จริง

อนึ่ง คำว่า “สมานฉันท์” ในทีนี้ยังมีความหมายต่อไปอีกว่า จะไม่ใช้ความรุนแรง ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในทางศาสนา เชื้อชาติและวัฒนธรรมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรงกันข้ามจะใช้หลักอหิงสาหรือ non-violenceในการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่หลักอหิงสาจะเป็นจริงได้ในโลกของความเป็นจริง ก็ต่อเมื่อเมื่อถึงจุดจุดหนึ่งฝ่าย ตรงข้ามต้องหยุดหรือบรรเทาความรุนแรงลงเหมือนกัน เพราะตามความเป็นจริง คงไม่มีใครสามารถอดกลั้นตั้งอยู่ในหลักอหิงสาได้ตลอดไปเป็นแน่

มีข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง กล่าวคือ จริงความสมานฉันท์ไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้อย่างปุบปับ ไม่ใช่พอมีคณะกรรมการอิสระชุดนี้ขึ้นมาแล้ว จะสามารถเนรมิตให้เกิดความสมานฉันท์ได้ทันทีทันใด !


@@@@@@@

แต่ความมุ่งหวังของประชาชนทั่วไป เห็นว่า สถานการณ์รุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ยือเยื้อมานานจนข้ามปีแล้ว รัฐบาลยังหาทางออกไม่ได้สักที จึงคิดว่า ความสมานฉันท์ หรือหลักอหิงสา อาจเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป่าพรวดเดียว ก็คงสามารถระงับเหตุร้ายในอาณาบริเวณนี้ได้อย่างแน่นอน

แต่ความจริงก็ได้ปรากฎแล้วว่า หลักความสมานฉันท์ ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์ถึงปานนั้นหรอก ! อันที่จริง ปัญหาภายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สะสมและหมักหมมมานาน ดังนั้นการจะหวังใช้หลักความสมานฉันท์เป็นยาแก้ไข้แบบ “ทันใจ” ย่อมเป็นไม่ได้

ตรงกันข้ามแนวทางสมานฉันท์จะมีผลเป็นรูปธรรมแน่นอนได้ก็ในระยะยาว และประชาชนทั้งสองฝ่าย จะต้องมีความอดกลั้นและอดทน มิฉะนั้นก็จะพากันตกไปในหลุมพรางของฝ่ายไม่หวังดี ซึ่งต้องให้เกิดความแตกแยกที่ขยายวงกว้างและล้ำลึกขึ้นไปอีก!

คุณหมอประเวศ วะสี ได้กล่าวความจริงที่ว่า มหาตมะ คานธี ซึ่งเป็นศาสดาใหญ่ของหลักอหิงสา คือการไม่ใช้ความรุนแรง หรือยึดถือในแนวทางของความสมานฉันท์ ก็ถูกคนฮินดูขวาสุด ลอบยิงจนสิ้นชีวิต

แต่ก็ยังมีข้อสังเกตในเรื่องนี้ต่อไปด้วยว่า แม้จนทุกวันนี้ เวลาได้ผ่านไปร่วม 50 –60 ปีแล้วก็ตาม แต่ความขัดแย้งระหว่างฮินดูกับมุสลิมในชมพูทวีป ก็ยังเกิดขึ้นบ่อยๆและบางครั้งก็รุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก !

นี่เป็นอุทาหรณ์ที่ชี้ให้เห็นถึง หลักความสมานฉันท์หรือหลักอหิงสาของมหาตมะ คานธี นั้นมีความเป็นไปได้ในโลกของความเป็นจริงสักเพียงใด !

@@@@@@@

มีข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง โลกปัจจุบันเป็นโลกของฝ่ายเอียงขวา ! และสังคมไทยก็เป็นสังคมที่เอียงขวาเช่นเดียวกัน!

นอกจากนั้น คุณอานันท์ ซึ่งเป็นประธาน กอส.นั้น ถึงแม้จะมีคนเป็นมิตรเป็นเพื่อนหรือเป็นผู้นิยมสนับสนุนอยู่มากมายก็ตาม แต่คุณอานันท์ก็มีศัตรูจองร้ายจองผลาญอยู่เหมือนกัน !

จะเห็นได้จากการมีนักจัดรายการโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียงสองคน ซึ่งเป็นฝ่ายขวาตกขอบ ได้โจมตีวิพากษ์วิจารณ์คุณอานันท์อยู่เรื่อยไป ! และทั้งสองคนนี้ก็มักย้ำให้เห็นถึงช่องว่างต่างๆของแนวทางสมานฉันท์ในการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดภาคใต้ !

นอกจากนี้คนไทยส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน ถึงแม้คนไทยเหล่านี้มักจะไม่ได้เป็นชาวพุทธที่เคร่งครัดในหลักพุทธธรรมก็ตามที แต่ก็ไม่ชอบที่ได้เห็นคนต่างศาสนา มาทำลายวัดและทำร้ายพระสงฆ์องคเจ้า !

กรณีมีคนร้ายบุกเข้าเผาทำลายวัด และฆ่าพระ ที่วัดพรหมประสิทธิ์ ตำบลบ้านนอก อำเภอปานาเระ จังหวัดปัตตานี จึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความกระเทือนใจแก่คนไทยส่วนใหญ่ซึ่งเป็นชาวพุทธ ยิ่งเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี ได้ออกแถลงการณ์ในนามคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานีเรียกร้องให้จับกุมคนร้ายรายนี้มาลงโทษโดยเร็วที่สุด และมีข้อเรียกร้องให้เอาบุคคล ซึ่งเป็นสาย ”เหยี่ยว” กลับมาแก้ปัญหาภาคใต้

เรียกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผลถึงกับพระสงฆ์องคเจ้าออกมาเรียกร้อง ให้มีการดำเนินการปราบปรามผู้ก่อการร้ายขั้นเด็ดขาด แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทีเดียว ! ที่สำคัญแถลงการณ์ของคณะสงฆ์ปัตตานีครั้งนี้ ยังเรียกร้องให้ยุบเลิกคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ หรือ กอส. เสีย ! โดยอ้างว่าคณะกรรมการชุดนี้มีความลำเอียงเข้าข้างไทยยมุสลิมมาโดยตลอด !

เป็นอันว่าครั้งนี้ความสมานฉันท์โดนกระแสของฝ่ายสงฆ์ ซึ่งแสดงท่าทีว่า“เอียงขวา” ตีกลับเข้าอย่างเต็มหน้าทีเดียว !



จริงอยู่ ในบริเวณสามจังหวัดภาคใต้นั้น ในระดับหนึ่งโดยทั่วไปชาวไทยพุทธได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติกับคนไทยเชื้อสายมลายูซึ่งนับถือศาสนาอิสลามตลอดมา แต่คนสองกลุ่มนี้ ต่างก็มีความรู้สึกว่าเป็นพวก “เรา” พวก”เขา”อยู่เหมือนกัน !

กรณีเกิดความรุนแรงที่ยืดเยื้อครั้งนี้ ได้มีเรื่องกระทบกระเทือนถึงความรู้สืกของคนไทยพุทธทั้งประเทศเหมือนกัน! อย่างเช่นกรณีพระถูกลอบทำร้าย จนเวลาออกบิณฑบาตร ต้องมีเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ คอยถืออาวุธคุ้มกัน ภาพเช่นนี้นับว่ากระทบกระเทือนความรู้สึกของชาวพุทธทั่วไปมิใช่น้อย สภาพเช่นนี้เองย่อมเป็นเรื่องที่กดดันไม่ใช่เพียงพระภิกษุสงฆ์เท่านั้น แต่รวมตลอดถึงคนไทยพุทธที่อยู่ในที่อยู่ในบริเวณสามจังหวัดนี้เช่นเดียวกัน !

มีข้อสังเกตมาแต่ต้นแล้วว่า บรรดากรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ฯเกือบทุกคน ต่างให้ความสนใจเกี่ยวกับสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และความเป็นธรรมของฝ่ายมุสลิมเท่านั้น รวมทั้งนักคิดและนักวิชาการทั้งหลายที่มีความสนใจในเรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้ ก็มักมีแนวทางเช่นเดียวกัน ทั้งนี้โดยมักคำนึงถึงแต่ความไม่เป็นธรรมต่างๆที่ฝ่ายมุสลิมได้รับตั้งแต่ในอดีตจนถึงปีจจุบัน แต่ไม่ได้มองสภาพความเป็นจริงให้รอบด้าน

ยกตัวอย่าง เมื่อนายทหารนาวิกโยธินถูกฆ่าอย่างทารุณที่หมู่บ้านตันหยงลิมอ ก็ไมมีเสียงแสดงความเสียใจและเห็นอกเห็นใจครอบครัวผู้ตาย ทั้งไม่มีเสียงประณามการทำทารุณกรรมครั้งนั้น อันที่จริงทหารนาวิกโยธินสองนายที่ต้องเสียชีวิตไปนั้น ก็ด้วยยึดมั่นในแนวทางของความสมานฉันท์และหลักอหิงสา จึ่งยอมให้ชาวบ้านคุมตัวโดยไม่ได้คิดต่อสู้ขัดขวาง

แต่ในงานศพของสองนายทหารนาวิกโยธินก็ไม่ปรากฎพวงหรีดของคณะกรรมการอิสระฯ ทั้งนี้ไม่ต้องพูดถึงการแสดงตัวไว้อาลัยในงานศพ ซึ่งก็ไม่ปรากฎเช่นเดียวกัน เมื่อเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี ได้ออกแถลการณ์ กรณีผู้ร้ายบุกเข้าเผาทำลายวัดและฆ่าพระสงฆ์ ของวัดพรหมประสิทธฺ์ ปัตตานี คราวนี้ ได้มีเสียงพึมพำจากกรรมการอิสระสมานฉันท์ฯบางคนว่า ได้ถวายเงินให้วัดนี้ไปแล้วจำนวนหนึ่ง พูดคล้ายกับว่า เงินก็ให้ไปแล้วจะมาโวยวายอะไรอีก !

@@@@@@@

อย่าลืมว่ าเป็นเรื่องของทั้งสองฝ่ายต้องร่วมกันจึงเกิดความสมานฉันท์ขึ้นได้ ! ไม่ใช่ให้ฝ่ายหนึ่งยื่นมือออกไป แต่อีกฝ่ายหนึ่งสวนหมัดชกเปรี้ยงอยู่เรื่อย ! อย่างนี้เห็นจะไม่ใช่ความสมานฉันท์เสียแล้ว ! จริงอยู่ผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นชนส่วนน้อยของภาพใหญ่ของเมืองไทยทั้งประเทศ ! แต่ในบริเวณจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ไทยพุทธเป็นชนส่วนน้อย ! เราจึงจำเป็นที่จะต้องให้ความคุ้มครองชนส่วนน้อยกลุ่มนี้เหมือนกัน !

มีคนไทยพุทธผู้หนึ่ง ซึ่งมีรกรากและหลักฐานอยู่ในจังหวัดหนึ่งในบริเวณนี้มาหลายชั่วคนแล้ว ได้มาแสดงความวิตกกังวลถึงอนาคตของคนไทยพุทธเช่นตัวเขาและครอบครัว เขาบอกว่า เขาเองรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีใครเป็นที่พึ่งของเขาได้เลย เขาเห็นแต่ฝ่ายทหารเท่านั้น ที่ยังให้ความคุ้มครองพวกเขาอยู่ เขาบอกว่าถ้าบีบให้ฝ่ายทหารถอนตัวจากบริเวณนี้เสียแล้ว เขาก็คงขายบ้านขายช่องเก็บทรัพย์สินอพยพหนีไปอยู่ที่อื่นได้แล้ว !

ได้มีผู้เสนอแนวคิดในการให้มีการแก้ปัญหาระยะยาวของบริเวณสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีเขตปกครองตนเองเป็นพิเศษโดยเฉพาะ หรือบางทีก็เลี่ยงไปเรียกว่า ให้มีการตั้งระบมหานครปัตตานี คลุมพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ แล้วมอบให้มุสลิมปกครองกันเอง

แนวคิดดังกล่าวนั้นอาจเป็นทางออกในที่สุดในเรื่องสามจังหวัดภาคใต้ แต่ระบบดังกล่าวต้องมีหลักประกันให้ความคุ้มครองอย่างเข้มแข็งและจริงจังแก่สิทธิต่างๆของชาวไทยพุทธที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้น ให้เขาเหล่าอยู่กันได้ด้วยความเป็นปกติสุข ไม่มีการเบียดเบียนรังแกกัน


@@@@@@@

มิฉะนั้น เมื่อมีเขตปกครองพิเศษแล้ว ต้องให้ชาวไทยพุทธต้องอพยพหนีลี้ภัยออกมาหมด ก็เท่ากับยกติดแดนสามจังหวัดภาคใต้ให้เขาไปเท่านั้นเอง !

หลังจากเสนอบทความครั้งนี้แล้ว ก็อาจถูกตราหน้าว่าเป็นพวกสาย “เหยี่ยว”หรือเป็นพวก ”ขวาตกขอบ” ก็เป็นได้ ! แต่เพียงต้องการเตือนให้คิดกันบ้างว่า ต้องพิจารณาเรื่องความสมานฉันท์ให้รอบด้าน ! ไม่ใช่ให้เกิดความรู้สึกว่าห่วงแต่ด้านหนึ่งด้านเดียวจนเกินไป !

ความสมานฉันท์ไม่ใช่เป็นเรื่องของความเร่าร้อนทางปัญญาเท่านั้น ! แต่ความสมานฉันท์จะเกิดเป็นจริงขึ้นได้ ก็ด้วยความยากลำบากและความเสียสละของทุกฝ่าย !






Thank to : https://mgronline.com/daily/detail/9480000150464
MGR Online , เกษม ศิริสัมพันธ์, โลกกว้าง - ทางแคบ
เผยแพร่ : 31 ต.ค. 2548 18:44 ,โดย : เกษม ศิริสัมพันธ์
Photo : pinterest
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 20, 2022, 07:30:35 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ