พิมพ์

[มะเดื่อ]

มีปัญหา ค้างตอบ เยอะนะครับ ช่วยกันตอบดีหรือไม่ครับ ?
  ผมเองก็ ติดตาม กระทู้มา 2 ปีแล้วครับ แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยตอบกระทู้ได้สักกระทู้เลยครับ เคยแต่โพสต์ถาม ครั้น 2 - 3 วันนี้เองได้เห็นพระอาจารย์ นำคำถามจากเมล มาโพสต์ เพื่อให้เราช่วยกันตอบบ้าง ก็กะจังหวะว่าจะช่วยตอบจะได้บุญ ต้นปีบ้าง แต่ครั้นพออ่านปัญหา แล้ว ก็คิดว่าตอบไม่ได้ครับ
 
  จึงพอเข้าใจ ถึงความลำบากของพระอาจารย์ ว่าทำไมไม่ตอบคำถามเสียที ผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ส่งคำถามทางเมลให้พระอาจารย์ ซึ่งก็ได้รับการอนุเคราะห์ จากพระอาจารย์ในการตอบบ้าง ไม่ตอบบ้างครับ

  พอได้รับคำตอบก็ดีใจ ครับ แต่พอไม่ได้ รับคำตอบ ก็รู้สึกว่า พระอาจารย์ไม่สนใจเราเลย แต่พอได้เห็น QA คำถามแบบตอบรวมได้จากจดหมาย ที่คัดมาให้พวกเราช่วยตอบแล้ว รู้สึกลำบากใจจรง ๆ ครับ

   1.ตอบไม่ได้
   2.คำถามแต่ละคำถาม ต้องใช้ความเพียร ในการตอบมากมาย อย่างมาก เมื่อก่อนผมก็คิดว่า ทำไม่พระอาจารย์ตอบสั้นจัง แบบถามคำตอบคำ จึงเข้าใจแล้วว่าเป็นงานหนักมากครับ สำหรับผูรับจดหมาย แล้วต้องตอบ
   3.คำถามทางธรรม ค่อนข้างเป็น ชั้นสูงครับ

   สรุปแล้ว เพื่อน ๆ มีความคิดเห็นว่าอย่างไรครับ >

   

[สุกัญญา]

ปัญหายากเกินกว่า เราจะตอบ ได้ สิจ๊ะ

 

[ศรีสุพรรณ]

ปัญหา ระดับ นี้ต้องเป็น ทีมมัชฌิมา หรือ ลูกศิษย์ใกล้ ๆ แล้วถึงจะตอบได้
เราได้แต่อ่านปัญหา วันนี้รู้ว่าพระอาจารย์ ยังไม่ได้ตอบ

   อนุโมทนา กับทุกท่าน ที่ช่วยตอบด้วยนะคะ ตามอ่านเสมอคะ

 

[dam_black]

เพราะสุดวิสัย กลัวตอบผิด แล้ว โดนอัด นะสิ
จึงไม่กล้าตอบ นั่นแหละ

 สรุปแล้ว ปัญหายากส์ คะ

 

[vichai]

คิดว่า รอพระอาจารย์ตอบดีกว่า ครับ เพราะเท่าที่อ่านไม่ใช่ปัญหาที่เราจะตอบได้เลยสักปัญหาครับ

 

[naka-54]

ตรงตามภาพ ห้องกระทู้เลยคะ เพราะ มีเพียงเล่มเดียว จริงๆ

 

[kindman]

คือ คนทำงาน สนใจกรรมฐาน อยู่ครับ แต่ การตอบปัญหากรรมฐาน นั้นไม่ถนัด เกรงว่าตอบแล้วผิด จะเป็นบาปให้ความเห็นมั่ว ๆ ก็จะทำให้เราบาป มาก

  เคยได้ยินหลวงพ่อพระครู ( หลวงพ่อจิ๋ว ) ท่านเคยบอกว่า คนสอนกรรมฐาน นี้ บาปเข้าไปครึ่งตัวเชียวนะครับ ถ้าสอนผิด ก็ครึ่งตัว ถ้ามีคนทำตามแบบผิด ก็เต็มตัวครับ

[มหายันต์]

เห็นปัญหาแล้วน่าหนักใจ อยากช่วยตอบ แต่ ผมเองก็ไม่ได้ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ก็จนปัญญาครับ

 

[raponsan]

 คิดดี จิตเป็นกุศล
 หากตอบไม่ได้ ทางออกก็คือ ไม่ตอบคำถามแบบตรงๆ
 ตอบแบบเป็นเพื่อนคุย ตอบแบบให้กำลังใจ ไม่ตอบแบบฟันธง

 แค่โพสต์ :25:ให้กับเจ้าของกระทู้ ก็เป็นกุศลแล้ว
 

[kobyamkala]

อนุโมทนา กุศล จิตเจตนา ของทุกท่าน ด้วยคะ
อย่างไรเสียก็ช่วยพิจารณา ด้วยนะคะ

  คำตอบ บางคำตอบก็อาจจะตอบได้ บางคำถามก็ไม่ได้เกี่ยวกับ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ก็มีนะคะ
 


ถึงไม่เป็นแสงเจิดจ้า ดัง ยามอากาศสดใส แต่ในเมฆหมอกก็ น่าจะใช้ได้บ้างนะคะ

 

[whuchi]

สาธุ กับทุกท่าน ด้วย แต่ไปอ่านแล้ว ก็จนใจด้วย อีกอย่างรักษา มารยาทเพราะเป็นพระอาจารย์โพสต์ถาม เกรงว่าถ้าตอบไปอาจจะล่วงเกินได้ นะครับ ถึงจะระบุว่า มาจาก email ถ้าตอบ ก็หมายถึงตอบให้พระอาจารย์โดยตรง

  นี่แหละที่ผมเป็นห่วง นะครับ เอาเป็นว่า ถ้าไม่ใช่ปัญหา ที่พระอาจารย์โพสต์ ก็จะพยายามช่วยตอบนะครับ แต่กว่าจะเข้ามาอ่านก็ดึกอย่างนี้ นะครับ ทำงานครับ บางครั้ง เข้ามาก็ชอบอ่าน ก่อน ไม่ชอบตอบครับ จึงไม่ได้ช่วยตอบ ถ้าว่างงานอยู่ ก็ดีนะครับ จะได้มาช่วยบ้าง กว่าจะกลับมาถึงบ้าน ก็ 3 ทุ่ม ก็ต้องอ่านก่อนครับ


 

[wayu]

ก็ช่วยกันตอบไปครับ แต่ ต้องเลือกด้วย ครับ
เอาเท่าที่ตอบได้ ส่วนเรื่องกรรมฐาน นั้น ค่อนข้างจะตอบยาก ครับ

เพราะถ้าไม่ภาวนา ก็ใช่ว่าจะตอบได้ ส่วนผู้ภาวนาก็ใช่ว่า จะทำได้อีก

 จึงเป็นเรื่องยากที่จะตอบ

 

[วรรณา]

อันที่จริง ไม่ได้เป็นศิษย์กรรมฐาน โดยเฉพาะห้องกรรมฐาน นั้น ควรจะได้ ทีมมัชฌิมา ศิษย์กรรมฐาน เป็นผู้ช่วยตอบมากกว่า บุคคลทั่วไปคะ

 

[เฉินหลง]

ต้องการทำบุญ เหมือนกัน แต่เกรงว่า ตอบไปจะหาว่าอวดรู้ หรือ มีปัญหามาก เหมือนเว็บมาสเตอร์ วิจารณ์ไปเร็ว ๆ นี้ จึงขอเป็นผู้อ่าน ก่อนนะครับ

   

[tcarisa]

ต้องดูกาละเทศะ ด้วยคะ

 ว่าสมควรตอบลงไปหรือไม่ เกรงว่า ตีเสมอ ครูอาจารย์ อันนี้ กลัวแล้วเจ้าคะ

 โดยเฉพาะกรรมฐาน ถ้าเกี่ยวกับ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลักษณะแจ้งอารมณ์กรรมฐาน อย่างนี้ไม่ควรตอบคะ แต่ถ้าเป็นเรื่อง ปลีกย่อย เช่นการจัดถาด คำอธิษฐาน ประวัติกรรมฐาน ประวัติหลวงปู่ ประมาณนี้ก็น่าจะช่วยตอยอยู่คะ

 

[winyuchon]

อยู่ที่ วิจารณญาณ ความเหมาะสม แต่โดยส่วนตัว ห้องกรรมฐาน นี้ เป็นคำตอบที่ตอบได้ยาก ไม่ได้เหมาะแก่ผู้ที่มาถามเล่น ๆ ดังนั้น พิจารณา คำถามแล้ว ก็ยังจนได้คำตอบ คือการภาวนายังไม่ถึง จึงไม่รู้จะตอบอย่างไร ?

 

[indy]

เรื่องตอบไปแล้วโดนสมาชิก เข้ามาแซวนั้น ผมก็โดนมาแล้ว มันก็เป็นธรรมดา
โดนไปสามครั้งชักเซ็ง ไม่รู้มาเสียเวลากับเขาทำไม ทำให้ไม่สนุก ไม่อยากมีส่วนร่วม
บางทีเพื่อนเขามองว่าไม่ใช่มัชฌิมา แต่บางอารมณ์ของจิต มัชฌิมาไม่ได้สอนทั้งหมด
ตรงนั้นถ้าเราแก้ให้เขาได้ เขาก็จะเร็ว ไม่ต้องมาติดอยู่

ผมไม่ได้ไม่สนใจกรรมฐานแบบนี้ มันยังไม่ถึงเวลา
ทุกคืนที่นั่งกรรมฐาน ผมอารธนาสมเด็จสุกท่านตลอด ดังนนั้นวันนี้ยังไม่ฝึกแต่พรุ่งนี้ก็ไม่แน่
ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า เอาให้ได้สักอย่างหนึ่ง ที่เหลือมันไม่ยาก

[ธัมมะวังโส]

.เจริญธรรม ทุกท่าน ที่เข้ามาช่วยโพสต์ กัน

   เมื่อท่านเข้ามาแล้ว จะมี อยู่ 2 สถานะ คือ 1.ผู้อ่าน 2.ผู้เขียน

   ในสิถิติ ที่ผ่านของเว็บ เป็นเวลา 2 ปีกว่า สถิติของผู้อ่าน นั้น นับว่าอยู่ในเกณฑ์ ที่ใช้ได้  ส่วนสถิติของ ผู้เขียนนั้น นับรายบุคคลได้ คือ มีผู้เขียนน้อยกว่า ผู้อ่าน

    อาตมา ก็ทำหน้าที่ เป็นทั้งสองอย่าง คือ ทั้งผู้อ่านและผู้เขียน 2 ปีมานี้ใครเขียนอะไรมาก็อ่าน จึงจดจำกระทู้ได้ ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง

    ดังนั้นเรื่อง อ่านนั้น ไม่ใคร่มีปัญหากันเพราะใคร ๆ ก็อ่านได้ จะอ่านมาก หรือ อ่านน้อย ก็อยู่ที่ความชอบใจ วันนี้จะมาแนะนำเรื่องการเขียน ที่ท่านทั้งหลายจะได้มีแนวทางการเขียนกันดีขึ้น และ เป็นประโยชน์ การเขียน จะว่าไปแล้วก็เหมือนการแสดงความคิดเห็น เหมือนเราพูด นั่นแหละ คืออยากพูดอะไร ก็เขียนอย่างนั้น ดังนั้นการเขียน จึงมีผลกระทบโดยเฉพาะ วิชาพระพุทธศาสนา อาศัยเกณฑ์ การภาวนาแล้ว สงบ ได้ เป็นคำตอบ   ดังนั้นจะขอแนะนำท่านทั้งหลายดังต่อไปนี้ ในเวลาที่จะเขียน

   1.ก่อนจะเขียน ควรจะอ่าน มีหลายคนเขียน โดยที่ไม่ได้อ่านเนื้อหา ซึ่งอาตมาก็เห็นมีหลายกระทู้ คือผู้เขียนอ่านแค่หัวข้อกระทู้แล้ว ก็ตอบซึ่งนับว่ามีความผิดพลาด เป็นอย่างมากเพราะบางครั้ง หัวข้อกระทุ้ไม่ได้ตรงกับ เนื้อหาที่จะถาม จึงทำให้เกิดปัญหาว่า ตอบไม่ตรงจุด หรือ ไม่ตรงคำถาม

   2.เมื่อจะเขียน ควรอ่านทุกคำตอบ นั่นก็หมายความว่า ผู้เขียนควรจะอ่าน คำตอบของผู้อื่น มาทั้งหมดก่อน แล้วค่อยอธิบายเสริม บางครั้งเท่าที่ดูก็คือ ไม่อ่านกระทู้ที่ตอบมาตั้งแต่ต้น แล้ววิจารณ์ จึงเกิดปัญหาว่า ผู้ตอบกลายเป็นผู้ผิด ซึ่งส่งผลกระทบกับ อาตมา เพราะท่านก็จะไม่ช่วยกันตอบกันอีก ทำให้อาตมามีงานหนักมากขึ้น

  3.ท่านที่จะตอบ ก่อนตอบ พึงพิจารณา สถานะของตนเองด้วย ว่า user ที่ใช้อยู่นั้น อยู่ในสถานะอะไร เช่น ผู้ดูแล ทีมงาน พระภิกษุ/สามเณร เพราะบุคคลที่ตอบแล้วมีผลกระทบกับผู้ที่ช่วยตอบเป็นอย่างมาก

  4.การเขียนทุกครั้ง ควรใส่ใจว่า เป็นการแจกธรรมทาน ซึ่ง ธรรมทาน เป็นสาธารณะ มิใช่ ผู้อ่านจะมีแต่ผู้ถามดังนั้น ถ้าท่านใส่ใจในเรื่องการแจกธรรมทาน ท่านก็จะไม่ท้อ ในการเขียน

  5.ทุกครั้งที่เขียน ต้องตั้งสติ ว่า สามประเภทอีกแล้ว ที่มีอยู่ คือ 1. ชอบ 2. ชีง  3. เฉยๆ เมื่อเราเขียน ก็จะมีอยู่ สามพวกที่เข้ามาอ่าน  ชอบ ก็อนุโมทนา ชัง ก็ขัด เฉยๆ ไม่มีปฏิกิริยา เมื่อท่านเขียน ต้องเจริญ สติ ในส่วนนี้ ว่า เราไม่ได้เขียนให้ใครชอบ หรือ ชัง หรือ เฉยๆ แต่เราเขียนเพราะว่า อาจจะมีประโยชน์ กับผู้ปฏิบัติ ไม่ทางใด ก็ทางหนึ่ง ไม่คนใด ก็คนหนึ่ง ดังนั้น ถ้าท่านเจริญ สติ กันอยู่อย่างนี้ ท่านก็จะไม่หวั่นไหว เมื่อ เขา ชอบ ไม่หวั่นไหว เมื่อ เขาชัง ไม่หวั่นไหว เมื่อเขาไม่สนใจ  อาตมาเชื่อและศรัทธา ในพระพุทธเจ้า และเชื่อในผลแห่งธรรมทาน แม้มีคนอ่าน เพียงคนเดียว ก็ใช้ได้แล้ว ถึงไม่มีคนอ่าน ก็เป็นการฝึก ธรรมวิจยะของเรา ให้เพิ่มขึ้น

  6.การเขียนข้อความธรรม เป็นการแจกธรรมทาน การวิจารณ์ธรรมเป็นสิ่งที่ควรจะพอกพูน ดังนั้นถ้าท่านนึกถึงบุญที่พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้ว่า การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง ท่านก็ไม่ควรจะวิตกกับการแจกธรรม

  7.การเขียน ที่เป็นวิธีการ เฉพาะของเรา ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่น เห็นว่าถูก ถ้าท่านเขียนวิธีการของเราลงไป เพื่อให้คนอื่นยอมรับ ก็ต้องพิจารณา ถึงจริตกันด้วยว่า จริต มีไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเขียนวิธีการรูปแบบของเราลงไป ต้องตั้งสติไว้ อย่าขัด อย่าเคือง เมื่อคนอื่นวิจารณ์ นั่นเป็นการชนะใจของตัวท่านเอง เมื่อเราเป็นนักภาวนาก็อย่ามาท้อถอยเพราะคำวิจารณ์ เพราะสิ่งนี้แสดงถึงคุณธรรมของท่านด้วย 
   
    อาตมาได้รับจดหมาย เดือนละ ไม่ต่ำกว่า หมื่นฉบับ จดหมายนั้น ส่วนใหญ๋จะเป็นด่า เสียมากกว่า ยกตัวอย่างบางท่านกล่าวว่า อาตมา อวดเก่ง อวดรู้ เป็นต้น ( ซึ่งเป็นศิษย์สายเดียวกันด้วยซ้ำ ) มีถึงขั้นกล่าวให้เลิกทำเว็บ เลิกเผยแผ่ก็มี ถ้าอาตมา มาถือสาเรื่องอย่างนี้ เว็บนี้ก็จะไม่มีอยู่ ถึงวันนี้

  8.ถ้าจะเขียน แต่ตอบไม่ได้ ควรทำอย่างไร คำตอบก็คือ ควรค้นคว้า แล้วค้นคว้าอย่างไร จะไม่ผิด ก็คือ ต้องค้นคว้าในพระไตรปิฏก ถ้าค้นคว้าในส่วนนี้แล้วจะไม่ผิด ดังนั้นถ้าจะช่วยโพสต์ copy ข้อความพระไตรปิฏก ที่คิดว่าเกี่ยวข้อง วางลงมาดีกว่า ถ้าไม่แน่ใจกับคำตอบ

  9.ทุกคนเป็นสหายธรรม กันในชาตินี้ จึงมาได้อ่าน ได้ฟัง ได้เขียนแนะนำกันในชาตินี้ มิใช่มาโดยบังเอิญ ดังนั้นถ้าทุกท่านทำความเข้าใจเช่นนี้ ได้แล้ว ก็จะเห็นความสำคัญของกัลายณมิตร และกัลยาณธรรม ซึ่งกันและกัน

  10.ทุกคำถาม และ คำตอบ มีค่าควรแก่การอนุโมทนา ทั้งนั้น

  เจริญธรรม