พิมพ์

[ธัมมะวังโส]

การพูดจา แสดงธรรรม จะทำให้ทุกท่าน ถูกใจทุกคน ยอมรับทุกท่านได้หรือไม่ ?

เป็นคำถามที่ดี มาก อีกคำถามหนึ่ง

  การพูดจา หรือ แสดงธรรม นั้นจะใ้ห้เป็นที่ถูกอก ถูกใจ บรรดาท่านทั้งหลายนั้น เป็นไปได้ยาก เพราะทุกคน ต่างจิต ต่างใจ ต่างความคิด ต่างอุปนิสัย ต่างจริต กับคนนี้ แสดงธรรม อย่างนี้ได้ผล แต่กับคนนั้นแสดงธรรม แบบนี้ไม่ได้ผล ก็เพราะความแตกต่าง ของอุปนิสัยจริต แต่ละท่านไม่เท่ากันนั่นเอง

    ดังนั้นหากจะให้ถูกใจ ทุกท่าน ทุกคนในโลกนี้ แม้แต่พระพุทธเจ้า ยังทำไม่ได้ ลำพังพวกเรามีบารมี ขนาดไหน จะทำได้จ๊ะ แต่เมื่อแสดงธรรมให้เป็นที่รัก ของ เทวดา และ มนุษย์ จำนวนหนึ่ง จะมาก หรือ น้อย อย่างนี้พอได้นะจ๊ะ

   ดังนั้นการแสดงธรรม ไม่ได้มุ่งหวัง ว่าใครจะเข้าใจธรรม เพียงแต่ผู้แสดงธรรม ได้แสดงเนื้อหา ที่ตนรู้ เห็นแล้ว เข้าถึงให้ผู้ฟัง ที่มีบารมีร่วมกัน ได้น้อมนำไปปฏฺบัติ เพียงเท่านั้น ความหมายอื่น ๆ นั้นในการแสดงธรรม ไม่มีเลย...
 

   ดังนั้นพระพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงตรัสว่า เราเป็นแต่เพียงผู้บอกทาง ส่วนหนทางเธอทั้งหลายเป็นผู้เดิน


  เจริญธรรม / เจริญพร

 
   

[chutina]

ความหมาย ก็คือ ไม่มีทางที่จะทำให้คนทุกคนขอบใจในพระธรรมของพระพุทธเจ้าได้หมดใช่หรือไม่คะ แล้วถ้าคิดอย่างนี้ ก็คือท้อแท้ หรือไม่คะ แล้วก็วางเฉยไม่ต้องทำอะไร ต่อไปเพียงแต่ปฏิบัติที่ตัวเราอย่างเดียวใช่หรือไม่คะ

 

[samapol]

ผมว่า ความหมายชัดเจน นะครับ คือการแสดงธรรมนั้น ไม่ได้เพื่อให้ใครถึงธรรมทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับผู้ฟังธรรมด้วยว่า จะนำธรรมไปปฏิบัติอย่างไร ครับ

 

[Goodbye]

เป็นคำแนะนำให้กับ คนที่พยายาม ช่วยในการเผยแผ่พระธรรม ด้วยนะคะ
เพราะจะได้ไม่หลง ตนเอง และ ไม่หลงกับการ โปรดใครไม่ได้ คะ

[ธัมมะวังโส]

เจตนาของเรื่องนี้ ก็เพื่อ เตือน ศิษย์ทุกท่าน ผู้รู้ที่มีความพากเพียร ในการช่วยกันคิดเผยแผ่พระธรรม กรรมฐานให้วางใจเป็นกลาง ให้ได้ เวลาที่เราแสดงธรรม กรรมฐาน ออกไป อย่าไปคาดหวังว่าผล จะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ แต่อยากให้ท่านได้ทำไว้เพียง เพื่อ ปีติในธรรมที่ได้ทำหน้าที่ ใครจะเข้าใจ หรือ ไม่เข้าใจ ก็ต้องอยู่ที่วาสนาบารมีธรรม ที่สั่งสมกันมาด้วย

   ในสมัยครั้งพุทธกาล หลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ ๆ นั้น คนที่พบพระพุทธเจ้าก่อน กลับไม่สนใจแลบลิ้นให้พระพุทธเจ้า เสียนี่ จึงไม่ได้เป็น ปฐมสาวกในพระพุทธศาสนานี้ ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อเราแสดงธรรม กรรมฐาน ใด ๆ ออกไปแล้ว ก็จะมีคนที่เข้าใจ และไม่เข้าใจ อยู่อย่างนี้ประจำ
 
   ใครมีวาสนาบารมี ก็รับธรรมกรรมฐานไปปฏิบัติ ส่วนใครรับไปแล้วไม่ได้นำไปปฏิบัติให้ถูกต้องตามแนวทาง ฝืน ทิฏฐิ ตนเองไม่ได้ก็จะช้าในการภาวนาเช่นกัน

   ดังนั้น จึงให้กำลังใจกับทุกท่านที่ช่วยเป็นปาก กระบอกเสียง ให้แก่พระธรรมว่า อย่าไปหวั่นไหว เมื่อคนชอบ หรือ ไม่ชอบ หรือ เฉย ๆ แต่ให้ท่านทำหน้าที่ด้วยการวางใจ เป็นกลางตามแนวทางพระกรรมฐาน เสียเถิด ท่านก็จะสามารถช่วยงานประกาศพระธรรม กรรมฐาน นี้ได้ อย่างดี

 เจริญธรรม / เจริญพร