ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ธารพระกร คู่ บารมี  (อ่าน 4779 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
    • ดูรายละเอียด
ธารพระกร คู่ บารมี
« เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2010, 07:33:18 pm »
มาช่วยโพสต์ ตำนานลำดับ พระกรรมฐาน คะ



ธารพระกร คู่พระบารมี
คู่พระกรรมฐาน เกิดแก่ท่านพระราหุลเถรเจ้า
เมื่อท่านพระราหุลเถรเจ้า มีพระชนมายุได้ ๓๑ พรรษา ๑๑  ย่างเข้าสู่พระภิกษุผู้เถรแล้ว ขณะเมื่อท่านประทับนั่งบำเพ็ญสมณะธรรม อยู่ที่ป่าอันธวัน นอกกรุงสาวัตถี 
ครั้งนั้นมีเทวดาตนหนึ่ง อันนับเนื่องในหมู่พรหม ชั้นสุทธาวาส ได้มาสิงสถิตคอยท่า ท่านพระราหุลเถร อยู่ ณ ที่ต้นโพธิตรัสรู้ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ได้ทราบด้วยใจแห่งตนว่า  บารมีวิมุตติธรรม ของท่านพระราหุลเถรแก่กล้าแล้ว  ก็สมัยนั้นแล  ธารพระกร คู่พระบารมีธรรม คู่พระกรรมฐานมัชฌิมา  ของท่านพระราหุล ได้เกิดขึ้นแล้ว แก่เต็มที่แล้ว  ณ ป่าอันธวัน  ในดงไม้ไผ่ยอดตาล
เทวดา อันนับเนื่องในหมู่พรหม ชั้นสุธาวาส ที่สิงสถิตคอยท่า ท่านพระราหุลอยู่ ณ ต้นโพธิตรัสรู้นั้น  ได้เข้าไปหา ท่านพระราหุลเถรเจ้า  แล้วกล่าวว่า  ข้าพระองค์เป็นเทพดาที่สิงสถิตอยู่ ณ ควงไม้พระศรีมหาโพธิ  ตรัสรู้ของพระบรมครู   
บัดนี้ธารพระกร คู่พระบารมี คู่พระกรรมฐานมัชฌิมา ของท่านพระราหุลเถร ได้เกิดขึ้นแล้ว แก่กล้าแล้ว ขออาราธนานิมนต์  ท่านพระราหุลไปนำเอา ไม้ธารพระกร ที่ดงไผ่ยอดตาล ในป่าอันธวันนี้เถิด
ท่านพระราหุล ได้เสด็จไปที่ดงไผ่ยอดตาลนั้น ถึงแล้ว เทวดาตนนั้น แสดงให้ท่านราหุลทราบว่า ธารพระกรไผ่ยอดตาลอยู่ ที่ต้นไผ่ยอดตาลนี้  เป็นต้นที่แก่สูงที่สุดใน ดงไผ่ยอดตาลนี้
ขณะนั้นท่านพระราหุล มีความวิตกแห่งใจว่า  จะตัด ต้นไผ่ยอดตาลอย่างไร เทวดาตนนั้นทราบความปริวิตกแห่งใจของท่านพระราหุล  จึงบรรดาลให้ คนตัดฟืนในที่ไกล้ป่านี้ มา ณ ที่แห่งนี้ ครั้นคนตัดฟืนอันเทวดาดลใจมาถึงที่แห่งนี้  เห็นท่านพระเถร  ทราบอาการของพระเถรว่า ต้องการ ปลายยอดของไผ่ยอดตาลนั้น จึงตัดมาถวายท่านพระราหุล ประมาณหนึ่งวา   ตัดแล้วเทวดาประจำต้นไผ่ยอดตาลก็มา สิงสถิตประจำอยู่ ที่ไม้ธาร พระกร  และไม้ธารพระกรนี้ได้เป็นไม้ที่มีอานุภาพมาก
ครั้งนั้นท่านพระราหุลเถร ได้ธารพระกรคู่บารมีแล้ว ก็เสด็จไปบำเพ็ญสมณธรรมต่อ ณ ป่าอันธวัน ไม้ธารพระกรไผ่ยอดตาลนี้  ถือเป็นเสมือน รัตนเจ็ดประการ ประจำพระองค์ของพระเจ้าจักรพรรดิ์ หรือเสมือนเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ของพระเจ้าแผ่นดิน  ส่วนไม้ธารพระกร ไผ่ยอดตาล ของท่านพระราหุลเถร หรือของพระอริยเจ้าทั้งหลาย  แสดงถึงบารมีธรรม ของพระอริยเจ้าแต่ละองค์  ซึ่งนับว่าสูงกว่า แก้วเจ็ดประการ ของพระเจ้าจักรพรรดิ์ หรือเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ของพระราชา หรือพระเจ้าแผ่นดิน  เพราะเป็นของพระอริยเจ้าผู้พ้นโลก เหนือโลก เหนือโลกิยะธรรมทั้งปวง  พระอริยะที่จะได้ ไม้เท้าเบิกไพร ไผ่ยอดตาล ต้องเป็นผู้มีจักรธรรม ๔ ประการคือ ๑.ปฎิรูปเทสวาสะ อยู่ในถิ่นที่เหมาะ   ๒. สัปปุริสูปัสสยะ   สมาคมกับคนดี มีพระอริยเจ้าเป็นต้น  ๓. อัตตสัมมาปณิธิ  ตั้งตนไว้ชอบ สิ่งสำคัญประการสุดท้ายคือ ข้อ ๔ ปุพเพกตปุญญตา ได้กระทำความดีไว้แต่ปางก่อน จึงจะได้ จักรรัตน คือไม้เท้าประกอบบารมีธรรมนี้

บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
    • ดูรายละเอียด
Re: ธารพระกร คู่ บารมี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2010, 07:34:23 pm »
จักรรัตน ประกอบบารมี ของพระอริยเจ้า๑.ธารพระกรใผ่ยอดตาล จักรรัตน ประกอบบารมีธรรม ของพระเจ้าจักรพรรดิ์ โดยธรรม ๑.ช้างแก้ว ๒.ม้าแก้ว ๓.นางแก้ว ๔.ขุนคลังแก้ว  ๕.ขุนพลแก้ว ๖. จักรแก้ว ๗.แก้วมณี  จักรรัตน ประกอบบารมีธรรม ของพระราชาธิราช  ๑.พระมหาพิชัยมงกุฏ ๒พระแสงขรรค์ชัยศรี  ๓.ธารพระกร ๔.วาลวิชนี  ๕.ฉลองพระบาท
----------------------------

บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
    • ดูรายละเอียด
Re: ธารพระกร คู่ บารมี
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2010, 07:36:19 pm »
ต้นไม้ไผ่ยอดตาล เป็นต้นไม้สูงประมาณ ห้า ถึงเจ็ดวา โค้นต้นเท่าต้นแขน ลำต้นเลียวเล็กขึ้นไปเรื่อย ๆเปลือกลำต้น เป็นลายเหมือนข้อไผ่  มีใบเป็นพุ่มอยู่ปลายยอดเหมือนใบตาล ก้านใบมีหนามตามขอบเหมือนก้านตาล  มีดอกเป็นช้อระย้าห้ากลีบ สีขาวปนเหลืองม่น   เรียกว่าไผ่ยอดตาล มีเทวดาสิงสถิตในต้น เป็นต้นไม้มีที่มีอายุยืนนาน  ห้าร้อย ถึงพันปี เป็นไม้เนื้อแข้ง  เป็นไม้สำหรับทำธารพระกร คู่บารมีของพระอริยบุคคล
กล่าวว่า ท่านพระราหุลเถร ไม่เคยเหยียดหลังบนเตียงตลอดเวลา ๑๒ พรรษา(ช่วงปฏิบัติธรรม ก่อนเป็นพระอเสขบุคคล)) อุปสมบท พระชนมายุ ๒๐ บำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน ๑๒พรรษา บรรลุอรหัตผล พระชนมายุ ๓๒ พรรษา ๑๒ ทรงเผยแพร่พระกรรมฐานมัชฌิมา  ๑๐ พรรษา  เข้าสู่พระนิพพานเมื่อพระชนมายุได้  ๔๒ พรรษา
และยังมีพระมหาเถรเจ้าอื่นๆอีกเช่นพระสารีบุตรเถระ ไม่เคยเหยียดหลังบนเตียงตลอด ๓๐ พรรษา พระมหาโมคคัลลานเถระก็เหมือนกัน. พระมหากัสสปเถระไม่เคยเหยียดหลังบนเตียง ๑๒๐  พรรษา พระอนุรุทธเถระ ๕๕  พรรษา พระภัททิยเถระ ๓๐   พรรษา พระโสณเถระ ๑๘  พรรษา พระรัฎฐปาลเถระ ๑๒  พรรษา พระอานนทเถระ ๑๕  พรรษา  พระพากุลเถระ ๘๐  พรรษา(หลังบวชเมื่ออายุ ๘๐ อายุ ๑๖๐ พรรษา จึงนิพพาน) พระนาฬกเถระ(นาลกเถระ)ไม่เคยเหยียดหลังบนเตียงจนปรินิพพาน ในอิริยาบถยืน หลังสำเร็จอรหัตผลแล้ว ดำรงค์ชนมายุสังขารอยู่เพียง ๗ เดือน
ท่านพระราหุลเถร ทรงบรรลุพระอรหันต์ พร้อมด้วยมรรค ๔ ผล ๔ อภิญญา ๖ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ แล้ว กาลต่อมาก็มีกุลบุตร ที่ได้ทราบกิตติศัพท์ว่า ท่านพระราหุลเถรเจ้านั้น สมเด็จพระบรมศาสดาสถาปนาท่านเป็นเอตทัคคะในทาง ผู้ใคร่ในการศึกษา กุลบุตรที่มีธาตุเดียวกับท่านพระราหุลเถรเจ้า  ก็เข้ามาเป็นสัทธิวิหาริก และอันเตวาสิก ศึกษาในสำนักของท่านพระราหุลเถรเจ้า ตามแบบอย่างที่พระองค์ท่านได้ศึกษามา เพื่อสืบทอดการตั้งความปรารถนา และเจตนารมณ์ของพระองค์ท่าน จำนวน ๑๐๐  รูปเศษ พระเถร ที่สืบทอดพระกรรมฐานมัชฌิมา ของพระราหุลเถรเจ้าองค์หนึ่ง นามว่า พระโกลิกะเถรเจ้า เป็นต้น
พระราหุลเถรเจ้า  ครั้งทรงบรรพชาเป็นสามเณร ทรงนุ่งห่มจีวร แบบมีรัดประคดพระอุระ(ปัจจุบันเรียกว่าห่มดอง) ครั้นได้อุปสมบท โดยเอหิภิกขุอุปสัมปทา จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ท่านพระราหุลเถรเจ้า  ก็ยังทรงนุ่งห่มจีวร แบบรัดอก อย่างครั้งเป็นสามเณร   ตลอดมา จนเข้านิพพาน
ต่อมาเมื่อพระราหุลเถรเจ้า นิพพานแล้ว สัทธิวิหาริก ผู้สืบทอดพระกรรมฐานของพระราหุลเถรเจ้า ก็พากันห่มจีวร แบบรัดประคดอกกัน ตลอดมา พร้อมสืบทอดไม้เท้าไผ่ยอดตาลของพระองค์ท่านด้วย
เมื่อถึงตติยสังคายนา  พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ และการนุ่งห่มจีวร แบบรัดอก ก็เผยแพร่มาโดยพระโมคคัลลีบุตรติสสเถรเจ้า เข้ามาถึงลังกาทวีป  โดยพระมหินทรเถรเจ้า มาสุวรรณภูมิโดย พระโสณเถรเจ้า พระอุตรเถรเจ้า  ผ่านมาถึงยุดศรีทวารวดี  ยุคสุโขทัย  ยุดอยุธยา  จนถึงยุดรัตนโกสินทร์  จนถึงทุกวันนี้ที่เรียกว่า มหานิกาย

บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
    • ดูรายละเอียด
Re: ธารพระกร คู่ บารมี
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2010, 07:38:29 pm »
พระราหุลเถรเจ้า ท่านดำรงค์พระชนม์สังขาร สมควรแก่กาลแล้ว ก็เสด็จดับขันธ์นิพพาน ณ พระแท่นปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ของท้าวสักเทวราช บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก  เมื่อพระชนมายุได้ประมาณ ๔๒ พรรษา นิพพานก่อนสมเด็จพระบรมศาสดา ๙ พรรษา เมื่อพุทธกาลที่ ๓๖
พระราหุลเถรเจ้า นิพพานก่อน พระสารีบุตรเถรเจ้า ๘ พรรษา พระสารีบุตรนิพพาน วันปุรณมีเพ็ญ เดือน ๑๒ เมื่อพุทธกาลที่ ๔๔
พระราหุลเถรเจ้า นิพพานก่อนพระโมคคัลลานเถรเจ้า ๘ พรรษา พระโมคคัลลานะนิพพาน วันสิ้นเดือน ๑๒ คือ แรม ๑๕ ค่ำ เมื่อพุทธกาลที่ ๔๔
พระมหาสาวกประจำทิศยุคพุทธกาล
พระพุทธเจ้าสถิต ทิศเบื้องบน ทิศบูรพา  พระโกญฑัญญะเถรเจ้า ประจำธาตุดิน พระสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ผู้รู้ราตรีนานทิศอาคเนย์ พระกัสสปเถรเจ้า  องค์ปฐมสังคายนา รักษาพระธรรมวินัย ทิศทักษิณ พระสารีบุตรเถรเจ้าพระสารีบุตรเถรเจ้า พระอัครสาวกเบื้องขวา ทางเลิศปัญญา ทิศหรดี พระอุบาลีเถรเจ้า  รักษาพระวินัย ทิศประจิม พระอานนทเถรเจ้าประจำธาตุไฟ พุทธอุปัฎฐาก รักษาพระธรรม ทรงพหูสูตทิศพายัพ  พระมหากัจจายนเถรเจ้ารจนาพระคัมภีร์มูลกัจจายน์ รักษาเนื้อความ ทิศอุดร พระโมคคัลลาเถรเจ้าประจำธาตุลม อัครสาวกเบื้องซ้าย เลิศทางอิทธิฤทธิ์
ทิศอิสาร เป็นทิศสุดท้าย พระราหุลเถรเจ้า ทรงประจำทิศนี้ และสืบทอดพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ
----------------------------------------


บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร