ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การเปลี่ยนชื่อนามสกุล ชีวิตจะดีขึ้น จริงไหม.?  (อ่าน 708 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


การเปลี่ยนชื่อนามสกุล ชีวิตจะดีขึ้น จริงไหม.?

ถาม : การเปลี่ยนชื่อนามสกุล ชีวิตจะดีขึ้นจริงไหม ทำไมคนถึงมีความเชื่อกันว่า การเปลี่ยนชื่อ นามสกุลแล้วชีวิตจะดีขึ้น

พระมหาเฉลิม  ปิยทสฺสี  ได้ตอบปัญหาเรื่อง การ เปลี่ยนชื่อ นามสกุล ชีวิตจะดีขึ้นจริงไหม ไว้ดังนี้

ตอบ : ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตน สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมคือการกระทำของเขา การกระทำนั้นแหละจะจำแนกให้เลวทรามประณีตต่างกัน ไม่สำคัญกับชื่อหรอก “คนชื่อน้อยโตใหญ่ก็มากมี คนชื่อมีทุกข์ยากก็เหลือหลาย คนชื่อบุญหลาย ตายไปเมื่อวานนี้ คนที่ตายก็จงเอาไปฝัง คนที่ยังก็จงทำความดีโอ๊ยมันบ่แน่ดอกนาย”เปลี่ยนจิต เปลี่ยนใจ เปลี่ยนร้ายให้เป็นดีดีกว่า

เรื่องของกรรมนี้ พระราชญาณกวี หรือท่านปิยะโสภณกล่าวไว้ในบทความเรื่อง เกิดมาทำไม ไว้ดังนี้

 :96: :96: :96: :96:

วิธีคิดของแต่ละคนย่อมมีผลต่อชีวิต

คิดลบติดลบ คิดบวกได้กำไร ชีวิตคนคิดลบจะยอมสยบอยู่เพียงกฎแห่งกรรม เขาจะโยนทุกอย่างให้กฎแห่งกรรม จะไม่ยอมแก้ไขสิ่งใดให้ดีขึ้น จนก็ยอมจนตามกฎแห่งกรรม เหมือนคนเชื่อหมอดูทำนายทายทักไว้หลงเชื่อจนยอมจำนนต่อคำทำนายนั้น แทนที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ชีวิตดีขึ้น แต่กลับพอใจที่จะฝังชีวิตไว้กับคำทำนาย จนเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงตามคำทำนายหมอดู กรรมก็เช่นกัน หากคิดว่าเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม และยอมจมชีวิตไว้ที่กฎแห่งกรรมอย่างเดียว ไม่ยอมออกแรงพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ชีวิตเราก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น ตรงกันข้ามกับคนที่เชื่อกฎแห่งกรรม แต่พยายามแก้ไขกรรม พัฒนาคิดค้นจนชีวิตเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ก็ได้ชื่อว่าเขาแก้ไขอกุศลกรรมให้เป็นกุศลกรรม

คนไทยส่วนใหญ่เมื่อเอ่ยถึงกรรมมักคิดไปในทางลบ เช่น พูดว่าเวรกรรม ทั้ง ๆที่พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า กรรมเป็นคำกลาง ๆ เป็นได้ทั้งดีและไม่ดี ถ้ากรรมดีก็เรียกกุศลกรรม ถ้าไม่ดีก็เรียกอกุศลกรรม คำถามสำคัญคือ เราเกิดมาทำไม จะต้องช่วยกันหาคำตอบที่ถูกต้องให้ได้ คือ ควรให้เป็นไปในเชิงบวกมากกว่าลบ ข้าพเจ้าจึงอยากให้ทุกคนหมั่นคิดเสมอว่า เราเกิดมาสร้างบุญบารมี เพิ่มบุญที่จะหมดให้เต็มเปี่ยมกลับคืน เหมือนคนที่รู้ว่าเงินจะหมดก็เร่งหาเงิน รู้ว่าอายุจะหมดก็เร่งสร้างบุญกุศล

วิธีคิดว่าเราเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมี เป็นการคิดที่ทำให้มองชีวิตเฉิดฉาย โชติช่วง ไม่ร้อนรุ่ม ร่วงโรย เหมือนมองว่าเกิดมาชดใช้กรรม จะทำให้เราไม่ยอมจำนนต่อความทุกข์ยากลำบากง่าย ๆ จะทำให้เกิดพลังชีวิต เกิดความอุตสาหะพยายามไม่สิ้นสุดคนที่ยากจนเสื่อผืนหมอนใบ แต่กลับกลายเป็นเจ้าสัวได้เพราะอะไร หากมิใช่เพราะวิริยบารมี คือพากเพียรเรียนรู้ไม่อยู่นิ่งๆ คนเช่นนี้ฝากชีวิตไว้ที่กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เป็นงานสร้างสรรค์ เขาจึงเจริญก้าวหน้าได้

@@@@@

จริงอยู่ คนบางคนเกิดมามีชะตากรรมที่น่าสงสารมาก อาจไม่พบทางออก เช่น คนพิการซ้ำซ้อนแต่กำเนิด แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว หากเป็นเช่นนั้นทางออกก็คือยอมรับความจริงแล้วจะสบายใจ คิดว่านั่นเป็นเพราะกรรมแต่ชาติปางก่อนก็ได้ เป็นเพราะความผิดปกติของยีนก็ได้ แปลว่า เมื่อได้พยายามแก้ไขอย่างเต็มที่แล้ว สุดท้ายก็ต้องยอมรับสภาพที่เป็น

จริงตามเงื่อนไขของกฎแห่งกรรม การพยายามสุดกำลังของมนุษย์แล้ว จึงยอมรับว่านี่คือกฎแห่งธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรทำ มิใช่งอมืองอเท้าอ้างแต่กฎแห่งกรรมเรื่อยไป แล้วไม่ยอมทำอะไร แล้วจะหาความเจริญก้าวหน้าหาบุญบารมีได้อย่างไร ข้าพเจ้าขอเชิญชวนท่านผู้อ่านมาปรับทัศนคติตัวเองใหม่ในการดำรงชีวิต คือ อยากให้มองเห็นการได้ชีวิตเกิดมาเป็นมนุษย์คราวนี้ว่ามีความสำคัญมาก

ธรรมชาติให้เรามาเกิดก็เพื่อให้โอกาสสร้างบุญบารมี เหมือนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญบารมี 10 ประการ คือ ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมีเมตตาบารมี อุเบกขาบารมี มาหลายภพชาติ จึงได้ตรัสรู้ พระพุทธองค์มิได้ทรงมองชีวิตเป็นการชดใช้กรรม แต่เป็นการสร้างบุญบารมี แม้เงื่อนไขชีวิตจริงของคนบางคนอาจเลวร้ายเกินคิด แต่ก็สามารถปรับความเลวร้ายให้เป็นบารมีได้

คนทำชั่วประชดชีวิตล้วนมีความคิดเชิงลบ คนสร้างชีวิตล้วนมีความคิดเชิงบวก

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.goodlifeupdate.com/47680/healthy-mind/changename/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ