ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ภิกษุณีรูปแรกมีลูก  (อ่าน 884 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ภิกษุณีรูปแรกมีลูก
« เมื่อ: มกราคม 18, 2020, 07:04:51 am »
0

 

สิ่งแรกในพระพุทธศาสนา (39) : ภิกษุณีรูปแรกมีลูก

เรื่องนี้คงอื้อฉาวมากสมัยพุทธกาล แต่บังเอิญภิกษุณีเธอไม่ผิด คือมิได้ผิดศีล จึงไม่มีผลในแง่ลบ เรื่องมีอยู่ว่า มีสตรีนางหนึ่งอยากบวชแต่ก็ไม่ได้บวช เพราะพ่อ-แม่ไม่ต้องการให้บวช จึงต้องแต่งงานอยู่กินกับสามี คอยปรนนิบัติสามีอย่างดี จนสามีพอใจ

เมื่อได้โอกาสก็บอกกับสามีว่า ตนอยากบวช ขออนุญาตบวชได้ไหม สามีเห็นภรรยามีจิตใจหนักแน่น จึงอนุญาตให้ภรรยาบวช นางจึงไปบวชที่สำนักนางภิกษุณี นางไม่รู้ดอกว่า ก่อนหน้านั้นเล็กน้อยนางได้ตั้งครรภ์ เมื่อมาบวชแล้วครรภ์ก็โตขึ้นๆ จนปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งหลาย

พระเทวทัตผู้ดูแลนาง เห็นเช่นนั้น ก็มิได้สอบสวนอะไร สั่งให้นางสึกทันที เพราะกลัวเป็นความเสื่อมเสีย นางยืนยันกับพระเทวทัตว่า นางมิได้ล่วงละเมิดสิกขาบทอะไร นางบริสุทธิ์ จะไม่ยอมสึกตามคำสั่งของพระเทวทัตเป็นอันขาด

พระเถระก็ชักไม่พอใจ ก็หลักฐานเห็นโทนโท่อย่างนี้ ถึงจะบอกว่าตนบริสุทธิ์ก็ฟังไม่ขึ้น พูดง่ายๆ ว่า “อมพระมาทั้งโบสถ์ก็ไม่เชื่อ” ประมาณนั้น

@@@@@@

เมื่อพระผู้ดูแลไม่ยอมฟังเหตุผล ไม่ยอมสอบสวนหาสาเหตุ จะให้สึกท่าเดียว นางก็ต้องยื่นฎีกาถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงทราบสาเหตุอยู่ก่อนแล้ว แต่เพื่อให้เรื่องมันชัดในสายตาผู้คนทั้งหลาย จึงทรงมีพุทธบัญชาให้พระอนุรุทธเถระ ผู้เชี่ยวชาญในพระวินัยเป็นผู้พิจารณาอธิกรณ์

เนื่องจากเป็นเรื่องของผู้หญิง บุรุษก็ไม่ถนัดเป็นธรรมดา พระเถระจึงขอแรงงานนางวิสาขาให้ช่วย นางวิสาขาจึงนิมนต์ภิกษุณีมาสอบถามสองต่อสอง คงมีการตรวจอาการด้วยละครับ ตรวจดูการเปลี่ยนแปลงของกายภาพ สอบถามวันมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย สอบถามวันหมดประจำเดือนอะไรประมาณนั้นอย่างละเอียด ทำรายงานส่งพระอนุรุทธเถระ นางสรุปว่า พระเถรีตั้งครรภ์ก่อนออกบวช

พระอนุรุทธะก็ถือเอาข้อมูลนั้นแหละ มาประมวลกับหลักฐานอย่างอื่น แล้วสรุปว่านางบริสุทธิ์ นำเสนอพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ก็ทรงประกาศว่า นางภิกษุณีไม่มีความผิด นางก็เลยไม่ได้ลาสิกขา พระเทวทัตก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บไปตามระเบียบ


@@@@@@

เมื่อครบกำหนดแล้ว ทารกน้อยก็คลอดออกมา ภิกษุณีก็ต้องเลี้ยงลูกเองสิครับ คงทุลักทุเลน่าดูแหละ บังเอิญพระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปเฝ้าพระพุทธองค์ เสร็จจากเฝ้าพระพุทธองค์ ก็ทรงตรวจดูที่อยู่ของพระสงฆ์และพระภิกษุณีสงฆ์

ทรงสดับเสียงเด็กร้องจึงเสด็จดำเนินเข้าไป เห็นภิกษุณีกำลังเลี้ยงทารกอยู่ ทรงถามไถ่ได้ความ จึงทรงออกพระโอษฐ์ขอเด็กไปเลี้ยง นางภิกษุณีผู้เป็นแม่ก็จำใจให้ เพราะตนเองก็ไม่สะดวกในการเลี้ยงดู อีกอย่างลูกชายก็ไปอยู่ในรั้วในวังคงไม่ลำบาก

แต่หลังจากลูกจากไป นางก็มิเป็นอันปฏิบัติธรรม คิดถึงแต่ลูก จนไม่ได้บรรลุมรรคผลอะไรเลย ลูกชายของนาง ภายหลังออกมาบวชเป็นสามเณร ตั้งใจปฏิบัติธรรมจนเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่อายุยังน้อย

นางรู้ข่าวว่าลูกชายบวช ก็ตามหา จนวันหนึ่งพบเข้า จึงวิ่งเข้าหาร้องว่า “ลูกๆ” ด้วยความคิดถึงสุดประมาณ สามเณรรู้ว่าถ้าพูดดีกับแม่ แม่ก็จะไม่บรรลุธรรมอะไร จึงทำเป็นเสียงเคร่งขรึม พูดว่า “อะไรกัน บวชมาตั้งนาน แค่ความรักแม่รักลูกยังตัดไม่ขาด” ว่าแล้วก็เดินหนีไป

@@@@@@

ว่ากันว่าหัวใจผู้เป็นแม่แทบแหลกสลาย สลบฟื้นขึ้นมาแล้ว ทิฐิมานะก็เข้ามาแทรกแทนที่ “เสียแรงเราคิดถึงตั้งหลายปี ไม่เป็นอันกินอันนอน ลูกเราเห็นหน้าเรากลับพูดแบบไม่มีเยื่อใย ไม่รักก็ไม่รัก (วะ)” แล้วก็ตัดใจตั้งหน้าปฏิบัติธรรม ในที่สุดก็ได้บรรลุธรรม

เรื่องของนางภิกษุณีมีลูกก็จบลงด้วยประการฉะนี้ ลูกชายของนางภายหลังบวชพระแล้ว เป็นนักเทศน์มีชื่อเสียงนามว่า “กุมารกัสสปะ” ครับ



ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 มกราคม 2563
คอลัมน์ : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ผู้เขียน : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
เผยแพร่ : วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ.2563
ขอบคุณ : https://www.matichonweekly.com/column/article_262962
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ