ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระ มงคลเทพมุนี (เอี่ยม) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม  (อ่าน 4464 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
    • ดูรายละเอียด



    ในกระบวนเทศน์มหาชาติซึ่งมีมาช้านานแล้ว ตั้งแต่สมัยกรุง
ศรีอยุธยาเป็นต้นมา  และตกทอดมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ นั้น

    พระมงคลเทพมุนี (เอี่ยม)  อดีตเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม 
บางกอกใหญ่  ตั้งแต่เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์  พระครูพจนโกศล (เอี่ยม) นั้น
ถือว่า  ท่านเป็นสุดยอดนักเทศน์มหาชาติฝีปากเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

     ก่อนอื่น ควรมาทำความรู้จักกับประวัติการเทศน์มหาชาติ และ
ประวัติและผลงานของท่าน  พอสังเขป ดังนี้ 


ประวัติการเทศน์มหาชาติ

    ในเรื่องพระมาลัยคำหลวงซึ่งเป็นพระ นิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์
ได้กล่าวถึงพระมาลัย ซึ่งเป็นพระเถระองค์หนึ่งแห่งโรหนคาม ลังกาทวีป เป็น
พระอรหันต์ที่มีอิทธิฤทธิ์มาก มักจะไปโปรดสัตว์ในเมืองนรกเนือง ๆ  ครั้งหนึ่ง
พระมาลัยเถระได้รับดอกบัวจากชายผู้หนึ่ง จะนำไปบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์
ชั้นดาวดึงส์ ระหว่างที่พระมาลัยนั่งคอยเพื่อจะเฝ้าพระศรีอาริยเมตไตรยนั้น ก็มี
เทพยดาทยอยกัน มานมัสการพระเจดีย์จุฬามณี  ทรงทราบว่าพระมาลัย มาจาก
ชมพูทวีป จึงตรัสถามว่าชาวชมพูทวีปทำกุศลอย่างไรบ้าง  พระมาลัยทูลตอบ
ว่า

       “บางคนครองศีลไซร้ บางคนให้ทำทาน ทำอุโบสถสถานสถูป บ้าง
ทำพระวิหารพระชินราช บ้างทำอาวาสในเมือง” และยังทูลต่อไปว่า “ชาวชมพู
ทวีปทำบุญกุศลก็เพื่อหวังพบพระศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรยทั้งสิ้น”

      พระศรีอาริยเมตไตรยได้ทรงฟังดังนั้นจึงให้ พระมาลัยมาบอกแก่
ชาวโลกว่า “ให้ทำมหาชาติเนืองนันต์ เครื่องสิ่งละพันจงบูชาให้จบ
ทิวาวันนั้น  ตั้งประทีปพันบูชา ดอกปทุมาถ้วนพัน.........”

               อาจเป็นด้วยคำพูดของพระศรีอาริย์ตอนนี้เอง จึงเกิดความเชื่อ
กันมาตลอดว่า “การฟังเทศน์มหาชาติ ให้จบในวันเดียวกันจะได้บุญมาก และ
จะได้พบกับพระศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรยในที่สุด”     พระศรี
อาริย-เมตไตรยตรัสว่า พระองค์จะเสด็จมาอุบัติเมื่อสิ้นพุทธกาล คือ พ.ศ
๕๐๐๐

                มหาเวสสันดรชาดกฉบับภาษาบาลีประกอบด้วยพระคาถา
(ฉันท์ชนิดหนึ่งชื่อปัฐยาวัตตฉันท์)  จำนวน ๑,๐๐๐ พระคาถา   จึงเรียกเป็น
สำนวนชาวบ้านว่า “เทศน์คาถาพัน”

         ประเพณีการเทศน์มหาชาติของราษฎรนั้นปรกติมีระหว่างเดือน
๑๒ กับเดือนอ้าย (ตามปฏิทินจันทรคติ)  อุบาสกอุบาสิกามักรับเป็นเจ้าของ
กัณฑ์เทศน์คนละ ๑ กัณฑ์ ผู้ใดรับเป็นเจ้าของกัณฑ์ใด ก็จัดเครื่องบูชาและ
เมื่อถึงเวลาเทศน์กัณฑ์นั้นก็ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ เจ้าของกัณฑ์มักจะประกวด
กันในการจัดเครื่องบูชาดอกไม้ธูปเทียนสำหรับถวายพระนั้น จัดเป็นชุดตาม
จำนวนพระคาถาในกัณฑ์ที่เป็นเจ้าของ เทศน์มหาชาติเป็นการบำเพ็ญกุศลที่
ครึกครื้นในรอบปี

ที่มา : http://poobpab.com/content/vessandon/wess3.htm-

ขอขอบคุณ
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
    • ดูรายละเอียด
Re: พระ มงคลเทพมุนี (เอี่ยม) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 08:55:08 am »
ประวัติและผลงานของ พระมงคลเทพมุนี (เอี่ยม)

    พระมงคลเทพมุนี มีนามเดิมว่า เอี่ยม ฉายาว่า เกสรภิกขุ เป็นสกุล
พราหมณ์ ชาติภูมิ อยู่ตำบลบางขนุน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี บิดาชื่อ
เกษ มารดาชื่อส้ม เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ แรม ๑๐ค่ำ
ปี จอ จุลศักราช ๑๒๐๐ ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๘๑

    ปีพระพุทธศักราช ๒๓๙๖ ในสมัยรัชกาลที่ ๔  เมื่ออายุ ได้ ๑๕ ปี
ได้เป็นศิษย์พระญาณสังวร (บุญ) อยู่ที่วัดราชสิทธาราม   ปีพระพุทธศักราช
๒๓๙๘ อายุ ๑๗ ปี บรรพชาเป็นสามเณรในสำนักพระปลัดอ่อน  วัดราชสิทธา
ราม  ศึกษาอักขระสมัย และเรียนพระปริยัติธรรมบาลีมูลกัจจายน์ ในสำนัก
มหาดวง วัดราชสิทธาราม 

    ครั้นถึง ปีพระพุทธศักราช ๒๔๐๒ อายุครบอุปสมบท  ได้อุปสมบท
ณ วัดราชสิทธาราม พระวินัยรักขิต วัดหงส์รัตนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์  พระ
อมรเมธาจารย์ (ทัด) วัดราชสิทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์  และพระ
สังวรานุวงศ์เถร (เมฆ)  วัดราชสิทธาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์  อุปสมบท
แล้ว  ได้ศึกษาวิปัสสนาธุระ  ในสำนักพระสังวรานุวงศ์เถร (เมฆ)

    ต่อมาพรรษาที่ ๑๔ ได้ออกสัญจรจาริกถือธุดงค์ ไปตามจังหวัด
ภาคเหนือ โดยตามพระสังวรานุวงศ์เถร (เมฆ) ไปบ้าง บางที่ก็ไปเองบ้าง และ
เคยแรมพรรษาที่วัดดอยท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ สองพรรษา

    กลับมาแล้วได้รับแต่งตั้งเป็น พระฐานานุกรมที่พระใบฏีกา ว่าที่
ฐานานุกรมชั้นที่ ๓ ของพระสังวรานุวงเถร (เมฆ)  ต่อมาพรรษาที่ ๑๙ ได้เป็น
พระปลัด ว่าที่ฐานานุกรมชั้นที่ ๑ ของพระสุทธิศีลาจารย์ วัดราชสิทธาราม 

    ปีที่ท่านเป็น พระปลัด นั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าฯ กรม
พระยาบำราบปรปักษ์ มีพระประสงค์  ให้พระมงคลเทพมุนี ครั้งเป็นที่ พระปลัด
เอี่ยม ช่วยแต่งลิลิตมหาราช ท่านก็แต่งถวายจนสำเร็จ การแต่งในครั้งนั้นมีผู้อื่น
ช่วยบ้างเล็กน้อย   ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาบำราบ
ปรปักษ์ ได้นำหนังสือที่ท่านแต่งเสร็จแล้ว ไปไว้ในหอพระสมุดวชิรญาณ


    ถวายเทศน์หน้าพระที่นั่ง  รัชกาลที่ ๕

    ต่อมาได้ถวายเทศน์ กัณฑ์วนประเวศ หน้าพระที่นั่ง รัชกาลที่ ๕ จึง
ทรงแต่งตั้งเป็นพระครูชั้นพิเศษที่ พระครูพจนโกศล

   
    เป็นทั้งนักกวี  นักเทศน์มหาชาติ  และพระกรรมฐาน

    พระครูพจนโกศล ท่านเป็นทั้งนักกวี เป็นทั้งนักเทศมหาชาติฝีปาก
เอก เป็นพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับด้วย กรมพระยาดำรง ได้เขียนเล่า
ประวัติ พระมงคลเทพมุนี (เอี่ยม) ไว้ในหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ ของ
พระมงคลเทพมุนี  (เอี่ยม)  เมื่อปีกุน พ.ศ. ๒๔๖๖ ว่า


     "กระบวนเทศน์มหาชาติ ของพระมงคลเทพมุนี (เอี่ยม) ดูเหมือน
จะเทศน์ได้ทุกกัณฑ์  แต่กัณฑ์วนประเวศ นั้นนับว่า ไม่มีตัวที่จะเสมอ ท่านได้เคยถวายเทศน์นั้นประจำตัว มาตั้งแต่ข้าพเจ้า (กรมพระยาดำรง) ยังเด็ก  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕  ก็ทรงโปรด แต่ทรงมี
พระราชดำรัสติ อยู่คราวหนึ่ง ว่า...

    “พระครูเอี่ยม (พระครูพจนโกศล) เทศน์ก็ดี แต่อย่างไรดูเหมือน
อมก้อนอิฐไว้ในปาก”  ต่อมา เมื่อท่านได้เป็น พระมงคลเทพมุนี ฟันหักหมด
ปากแล้ว ได้ถวายเทศน์อีกครั้งหนึ่ง รัชกาลที่ ๕ ทรงดำรัสชมว่า “ตั้งแต่
ก้อนอิฐหลุดออกจากปากหมด พระมงคลเทพฯ เทศน์เพราะขึ้นมาก”
ท่าน นับอยู่ในพระราชาคณะที่ทรงพระเมตตาองค์หนึ่ง คู่กับพระสังวรานุวงศ์เถร (เอี่ยม) วัดราชสิทธาราม  พระสังวรานุวงศ์เถร คนทั้งหลายเรียกว่า พระปลัด
เอี่ยมใหญ่ (สมัยท่านเป็น พระปลัด)  พระมงคลเทพมุนี คนทั้งหลายเรียกว่า
พระปลัดเอี่ยมเล็ก (สมัยท่านเป็น พระปลัด)


    ถึงปีเถาะ พระพุทธศักราช ๒๔๓๔ สมัยรัชกาลที่ ๕ เลื่อนสมณศักดิ์
จากพระครูพจนโกศล เป็นพระราชาคณะสามัญที่ พระสุธรรมธีรคุณ ได้รับพระ
ราชทานนิตยภัต  เดือนละ ๑๒ บาท


    เลื่อนจาก พระสุธรรมธีรคุณ เป็น พระมงคลเทพมุนี

    วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๔๓๔ เลื่อนเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่ พระ
มงคลเทพมุนี  สมณศักดิ์เสมอชั้นเทพ มีสำเนาประกาศดังนี้  ให้เลื่อน พระ
สุธรรมธีรคุณเป็น พระมงคลเทพมุนี ศรีรัตนไพรวัน ปรันตประเทศ เขตอรัญ
วาสีบพิตร สถิตย์ ณ พระพุทธบาท เมืองปรันตะปะ บังคมคณะพระพุทธบาท
มีนิตยภัตร ราคา ๓ ตำลึงกึ่ง มีฐานานุศักดิ์ ควรตั้งได้ ๕ รูป คือพระครูปลัด ๑
พระครูวินัยธร ๑ พระครูวินัยธรรม ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครูใบฏีกา ๑ รวม ๕ รูป
มีตำแหน่งพระครูผู้ช่วย ๓ รูป  คือ

    ๑. พระครูพุทธบาล      พระครูรักษาพระพุทธบาท
    ๒. พระครูมงคลวิจารย์ พระครูรักษาพระพุทธบาท
    ๓. พระครูญาณมุนี      พระครูรักษาพระพุทธบาท


    ปีพระพุทธศักราช  ๒๔๕๗  เป็นเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม

    พระ มงคลเทพมุนี (เอี่ยม) ได้เป็นผู้ช่วยพระพุฒาจารย์ (มา)
วัดจักรวรรดิ์ ปีพระพุทธศักราช ๒๔๕๖ รักษาการเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม
(พลับ)   ต่อมาปีพระพุทธศักราช ๒๔๕๗ ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม
(พลับ)

    ด้านการศึกษา พระสังวรานุวงศ์เถร (ชุ่ม) เป็นพระอาจารย์ใหญ่
ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ด้านการศึกษา พระปริยัติธรรม พระมหาสอน เป็นพระอาจารย์
ใหญ่  วันพฤหัสบดี ที่ ๗ กันยายน ๒๔๕๗ จึงขอลาออกจากเจ้าคณะพระ
พุทธบาท และเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม เพราะชราทุพพลภาพ จึงถวาย
พระพร ขอลาออกจากหน้าที่

    ต่อพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ (สิ้นรัชกาลที่ ๕ แล้ว)
ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ประมาณ สามเดือนเศษ

    พระมงคลเทพมุนี (เอี่ยม) อาพาธด้วยโรคชรา และถึงแก่มรณภาพ
เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๖๖ คำนวนอายุได้ ๘๕ ปี พระ
ราชทานเพลิงศพเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๖


    ผลงานของ พระมงคลเทพมุนี

    ผลงาน ของพระมงคลเทพมุนี คิดทำนองหลวงสวดพระอภิธรรม ๑
เป็นนักเทศมหาชาติฝีปากเอก ๑   เป็นกวีแต่งลิลิตมหาราชครั้งเป็น พระปลัด
เอี่ยม ๑


ที่มา  :  ที่มา : 
http://www.somdechsuk.com/index.php?option=com
_content&task=view&id=53 -

ขอขอบคุณ

      จึงนับว่า  พระมงคลเทพมุนี (เอี่ยม) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชสิทธา
ราม  บางกอกใหญ่  ซึ่งได้เคยถวายการเทศน์หน้าพระที่นั่งถึง  ๒ ครั้ง  ถือว่า
ท่านเป็นสุดยอดนักเทศน์มหาชาติฝีปากเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์   สมควรได้
รับการบันทึกและยกย่องเชิดชูท่านองค์หนึ่งแห่งสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นี้

ที่มาหลัก

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=623324
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
    • ดูรายละเอียด
หลวงปู่เอี่ยม วัดพลับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
    • ดูรายละเอียด
Re: พระ มงคลเทพมุนี (เอี่ยม) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2015, 01:29:10 pm »
เจ้าอาวาส ในอดีต :72:
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา