ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คำถามเก็บตก เรื่อง เดียวกัน นำมาฝาก ให้ท่านตอบกันก่อน 1 พ.ค.56  (อ่าน 4295 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ask1

  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไม่โชคดี เลย
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไม่หายป่วย
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  ไม่เห็นถอดจิตได้
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไม่สำเร็จสักที
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไม่เข้าใจธรรม
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไ่ม่เห็นจะบรรลุ
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  ไม่ถูกหวย
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  ไม่ได้งานสักที รอมาตั้งนานแล้ว
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  ไม่มีใครชม
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  เจ้านายไม่เห็นขึ้นเงินเดือนให้
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  หมายังไล่กัด
 
   และอีกหลาย ๆ คำถาม ทำนองนี้ ซึ่งมองแล้วเป็นเรื่องเดียวกัน คือ ความปรารถนา ของผู้ภาวนากรรมฐาน นั้นต่างกัน


  ใครตอบได้ ก็ช่วยตอบกันก่อนนะ

   ;)
Aeva Debug: 0.0004 seconds.
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ยังไม่มีใครตอบ เลย นะ .....ฤาว่า จะไม่มีใครตอบได้

  ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การภาวนา เป็นไปเพื่อความลดละเลิก  กิเลสและสังโยชน์ ตามขั้นตอน แห่งไตรลักษณ์ เพื่อเห็นอริยสัจน์ ความจริงอันประเสริฐ................วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย ก็เป็นสังโยชน์.....มันก็ย่อมเห็นเป็นธรรมดา เห็นตาม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  พระตถาคตตรัสว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา อย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ต้องไปสงสัย
จงภาวนาเถิด จะเกิดผล
 
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
นั่งกรรมฐาน เพื่ออะไร สิคะ ตรงนี้น่าคิดนะคะ
   
    นั่งกรรมฐาน แสดงว่า เป้าหมายไม่ใช่เพื่อถูกหวย แต่นั่งกรรมฐาน เพื่อ มรรค ผล นิพพาน ใช่หรือไม่คะ อาจจะเป็นเพราะว่า คนเราที่มานั่งกรรมฐาน ก็มีความคิดแอบแฝง อยู่นะคะ

     เหมือนรำไม่ดี ก็ไปโทษปี่ โทษกลอง เจ้าคะ

    :49:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

nopporn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นเพราะว่า ผู้ฝึกกรรม ฐาน ตั้งแนวทางการภาวนา ผิด ใช่หรือไม่คะ

  ที่พระอาจารย์ต้องการสื่อในคำถามนี้ คือ เรื่องที่กล่าวมาเป็นปัญหา นั้นไม่ได้เกี่ยวกับการฝึก กรรมฐาน

   st12
บันทึกการเข้า
อยู่แก๊งค์ ป่วนอ๊บ

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คำถาม นี้ น่าจะแสดงให้เห็นว่า ผู้ ภาวนากรรมฐาน ยังกำหนด เป้าหมายในการภาวนา จริง ๆ ยังไม่ได้ ผมเองเคยคำถามในลักษณะนี้ไปเมื่อ พรรษาที่แล้ว และได้คำตอบก็คือ การกำหนด ทุกข์ ไม่เป็น กำหนดอริยสัจจะ 4 ไม่ได้ ก็กำหนดเป้าหมายในการภาวนาไม่ได้เช่นกัน

   thk56 st12
บันทึกการเข้า

นินนินนิน

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คิดว่า คำตอบ น่าจะมาถูกทาง แล้ว นะครับ คือการกำหนดเป้าหมาย ในการภาวนา นั่นเอง ที่พระอาจารย์กำลังจะสื่อ จากคำถาม

  แต่ที่นี้ปัญหาการกำหนด เป้าหมาย นี่สิ มีวิธีการอย่างไร

  ต้องรอ เพื่อน ๆ มาช่วยกันตอบแล้วนะครับ

   st12
บันทึกการเข้า

pimpa

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 138
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อาจจะเป็นเพราะส่วนลึก ๆ เวลานั่งกรรมฐาน ก็ต้องการสิ่งเหล่านี้ คะ

  :49:
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


นมัสการพระคุณเจ้าครับ ขอใครขิอตอบคำถามด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผมด้วยนะครับ อาจจะผิดเพี้ยนมากน้อยเพียงไร รบกวนพระอาจารย์และผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ


ask1

  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไม่โชคดี เลย
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไม่หายป่วย
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  ไม่เห็นถอดจิตได้
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไม่สำเร็จสักที
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไม่เข้าใจธรรม
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม ไ่ม่เห็นจะบรรลุ
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  ไม่ถูกหวย
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  ไม่ได้งานสักที รอมาตั้งนานแล้ว
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  ไม่มีใครชม
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  เจ้านายไม่เห็นขึ้นเงินเดือนให้
  นั่งกรรมฐาน แล้ว ทำไม  หมายังไล่กัด
 
   และอีกหลาย ๆ คำถาม ทำนองนี้ ซึ่งมองแล้วเป็นเรื่องเดียวกัน คือ ความปรารถนา ของผู้ภาวนากรรมฐาน นั้นต่างกัน


  ใครตอบได้ ก็ช่วยตอบกันก่อนนะ

   ;)
Aeva Debug: 0.0004 seconds.

 ans1

ตอบ - เพราะเอาความสุขสำเร็จของตนไปผูกไว้กับสิ่งที่เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
         สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ย่อมมีความตั้งอยู่ เสื่อมสลาย และ ดับไปเป็นธรรมดา
         ความปารถนาในสิ่งที่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ย่อมนำทุกข์มาให้
         ความปารถนาในสิ่งที่ไม่มีตัวตนย่อมนำทุกข์มาให้
         ความปารถนาในสิ่งที่ไม่เที่ยงไม่มีตัวตน มันมีแต่ทุกข์ดังนี้

- เพราะด้วยมองเห็นว่าสิ่งนี้ไม่ดับสูญไป จึงเห็นว่าสิ่งนี้ๆมีอยู่จริง มีตัวตนอยู่จริง จึงใคร่ได้ปารถนาทะยานอยากที่จะมี อยากเป็น อยากได้
เช่น เห็นว่าเพราะมีโชคลาภ จึงได้ของสัการะบ้าง ได้เงินบ้าง ได้ทองบ้าง เพศตรงข้ามหลงไหลบ้าง ก็จึงถือเอาโชคลาภเป็นอัตตา จึงแสวงหาในโชคนั้น
เช่น เห็นว่ากายนี้เป็นเรา เป็นของเรา จึงใคร่ทะยานอยากจะให้มีให้เป็นไปอย่างที่ใจนั้นต้องการ จึงถือเอากายนี้เป็นอุปาทาน ยึดมั่นถือมั่นในรูปขันธ์
**จนถึงความเห็นตายแล้วเกิดใหม่ไม่จบสิ้นหรือไม่สูญไป หรือ เห็นว่ามีความเที่ยงแท้ มีตัวตน ไม่สูญสิ้นไป

- เพราะมีกระทบสัมผัสรับรู้ในสิ่งใดๆ หรือ เรื่องใดๆ ทาง หู ตา จมูก ลิ้น กาย แล้วเกิดความพอใจยินดีและความไม่พอใจยินดี แล้วเอามาตั้งเป็นตัวเป็นตนว่า
สิ่งนี้ๆคือสุขของเรา สิ่งนี้ๆคือทุกข์ของเรา ก็แล้วจึงเกิดความใคร่ได้ปารถนาใคร่ได้ที่จะเสพย์ในสิ่งอันใดที่ตนให้ความพอใจยินดีไว้ และ ไม่ปารถนาใครได้ที่จะเสพย์ในสิ่งาี่ตนไม่มีความพอใจยินดี
เช้น เรื่องการถอดจิต การบรรลุธรรม เป็นต้น

- เพราะด้วยมองเห็นว่าสิ่งนี้ดับสูญไป จึงเห็นว่าสิ่งนี้ๆมันทำให้สูญไปไม่มีอีกต่อไปแล้ว ก็จึงเกิดความไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ไม่อยากพบเจอ ทะยานอยากที่จะผลักหนีไปให้ไกลตน
เช่น เวลาที่เรามีโชคลาภ ก็คิดว่าทำให้ตนถูกหวยได้เงิน พอโชคไม่มีจึงไม่ถูกหวย ก็จึงปารถนาที่จะมีโชค ไม่ปารถนาที่จะอับโชค ยอมทำทุกอย่างให้ตนมีโชคลาภเพื่อให้ได้ลาภสักการะเป็นต้น
**จนถึงความเห็นว่าตายแล้วสูญสิ้นไม่เกิดอีก ก็จึงไม่อยากตายบ้าง หรือ ไม่กระทำสิ่งที่ดีงามบ้าง

เพราะเหตุนี้ๆ คนจึงติดอยู่ ไม่รับรู้และยอมใน โลกธรรม ๘ คือ
ลาภ ๑   ความเสื่อมลาภ ๑
ยศ ๑   ความเสื่อมยศ ๑
นินทา ๑   สรรเสริญ ๑
สุข ๑   ทุกข์ ๑
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ