ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กิเลสเบาบาง ลง ได้ เกื้อหนุนกรรมฐาน ควรหมั่น พิจารณาปัจจัย ทั้ง 4  (อ่าน 4451 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


( ในรูปเป็นอาหาร สำหรับอาจารย์ ที่ผ่านมา สองวันก่อน 1 มี.ค.58 )

"พออยู่ พอฉัน ไม่อัคคัตมาก แต่พอให้มีเรี่ยวแรงประกอบกิจในศาสนานี้ได้ เมื่อจะฉันย่อม นึกถึงผู้ทำทาน ที่เหนื่อยยากลำบากายกว่าจะหา อาหารได้และต้องมาแบ่งปันให้เรา ดังนั้นเมื่อนึกถึงความลำบากของเจ้าของทาน ทานนี้ บิณฑบาต จึงสมควรแก่การปัจจเวกคือ การพิจารณา เหตุผล และ ทำความรู้สึกให้ถูกตรง ว่า เราบริโภค เพื่ออะไร ไม่ใช่เพื่อประดับ ตกแต่ง แต่บริโภค เพื่ออัตภาพนี้คงอยู่ได้ ดังนั้นหากเป็นนักปฏิบัติภาวนาที่มุ่งตรง ต่อ พระสุคตแล้ว มุ่งหวังพระนิพพาน ย่อมพิจารณาปัจจัย 4 ให้ถูกที่ควร เมื่อ สามปีที่แล้ว ฉันมีปัจจัย ที่ได้รับมอบมาเพื่อจะได้ไปใช้ เมื่อไปตลาดก็เพลิดเพลินกับการใช้ ย้อนหลัง 3 เดือนนี้ผ่านมา ฉันมีปัจจัยเหมือนกัน เดินเข้าไปในตลาดแล้วก็กลับด้วยมือเปล่า เพราะคิดไม่ออกว่า จะซื้ออะไร ? นั่นก็เพราะว่าผลการหมั่นพิจารณา ปัจจัย 4 สำหรับบรรพชิตแล้ว เป็นการขัดเกลานิสัย ตลอดถึงกิเลส ที่มีอยู่ให้เบาบางทั้งทางตรง และทางอ้อมนั้นเอง ดังนั้นการพิจารณาปัจจัย 4 แบบบรรพชิต จึงเป็นกรรมฐานองค์หนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องของอาหาร ก็เรียกว่า อาหาเรปฏิกูลสัญญา ดังนั้นท่านที่หวังความเจริญก้าวหน้าในธรรม ก็พึ่งเจริญพิจารณา การใช้ปัจจัย 4 ด้วย อย่างถูกต้อง และสมควร ...."

ข้อความบางส่วนจากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนาและการเดินทาง ของ ธัมมะวังโส


บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ต้องขอบคุณ เจ้าของแห่ง ทาน ทุกท่าน ที่ ดูแล พระอาจารย์ ให้มีชีิวิตอยู่

  การที่เป็นพระ มันก็มีเรื่องลำบาก หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องวินัย ของพระ การอยู่ การฉัน นั้น วินัยเป็นขอ้บังคับไม่ให้เราทำอะไรตามใจตนเอง พระพุทธเจ้า บังคับด้วยวินัย เรื่องการฉัน ก็มี ยาวชีวิก ยาวกาลิก และอาหารบิณฑบาต

   ดังนั้นเป็นเรื่องมากไม่ได้ อยากฉัน พิสซ๋า KFC น้ำตก ส้มตำ ไก่ย่าง อะไรก็ตาม ที่อยากกิน อยากฉัน ( ตามใจกิเลส ) นี้ทำไม่ได้ เพราะว่า ภิกษุ ต้องเป็นผู้เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย ตายให้ยาก ( ถ้าไม่นิพพาน พยายามอย่าพึ่งตาย ) การอนุเคราะห์ แก่ธรรม และ วินัย ก็คือการควบคุมตนเองทางอ้อมส่วนหนึ่ง

   แต่บางครั้ง เถรตรง เกินไป ก็ลำบาก นะ
   เช่นบางวัน บิณฑบาต ไม่ได้ ไม่มีอะไรให้ฉัน มี ม่าม่า อาหารกระป๋อง ก็พอแทนได้ แต่ของพวกนี้ เก็บไว้นานไม่ได้ ในครอบครองตนเอง ดังนั้น เมื่อได้มา เลี่ยงจากอาบัติ ( เล็กน้อย ) ก็ต้องมอบกรรมสิทธิ์ ให้กับคนที่ดูแล ใกล้ ๆ ตัวครอบครองแทน วันไหน บิณฑบาตไม่ได้ ไม่มีอาหารฉัน ก็ถือบาตร ไปยืนหน้าบ้าน เป็นที่ทราบกัน แต่คนที่ดูแล เขารู้อยู่แล้ว เพราะเขาดูทุกวัน ถ้าไม่มีก็ทำให้ฉัน แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องทำ ถ้าอาหารแห้งหมด ก็แจ้งบอกว่า หมดแล้วนะ ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ไม้ตาย นมกระป๋อง ควักกระเป๋า ( ยาวชีวิก )

   แต่ก็แปลกดีนะ ถึงจะฉันน้อยลง หรือไม่ได้ ฉัน ลักษณะร่างกายของ พระอาจารย์ มันก็ยังอ้วน ทรงอยู่อย่างนี้ เช่นเดิม นี่นับว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับส่วนตัว บางครั้ง นั่งกรรมฐานนาน และนาน มาก ๆ ( ไม่บอกนะว่านานเท่าไหร่ ห้ามถาม ) ออกมาก็ฉันนมกล่อง 3 กล่อง ทุกครั้ง ชดเชย

   ดังนั้นเรื่องการฉัน นี้ สำหรับพระภาวนาแล้ว ก็ย่อมต้องระวัง ต้องพิจารณาปัจจัย 4 ตามความจำเป็น ยิ่งตัวเราเองต้องซื้อ อาหารด้วยแล้ว ทราบดีว่า อาหารแต่ละอย่าง ที่ ท่านสละเป็นทานมานั้น มันคือหยาดเหงื่อ แรงงาน ของท่านทั้งหลาย ที่สละให้กับ พระอ้วน ๆ เพื่อการส่งเสริม อัตภาพ ให้มีชีิวิตอยู่รอด เพื่อการภาวนา เพื่อผลแห่งทาน เพื่อการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา หลายประการ

   ขออำนวนอวยพรให้ท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นเจ้าของแห่งทาน ที่ได้ถวายมานั้น จงรู้สึกยินดี ใน ทานกรรมฐาน ส่วนนี้ เมื่อมีความทุกข์ เกิดขึ้นขอให้ท่านนึกถึงทาน และผลแห่งทานที่ท่านได้สร้างได้สละแล้วแก่สงฆ์ นั้นด้วยทุกครา ก็จะเป็นการส่งเสริมการภาวนาของท่าน ให้สมบูรณ์ พูนผลเพิ่มขึ้น จิตตั้งมั่นได้ไวในองค์แห่งกรรมฐาน


    เจริิญธรรม / เจริญพร

  ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0

ต้องขอบคุณภาพนี้ ของ http://www.bloggang.com/data/m/mcayenne94
( คือ ภาพนี้ ทำให้เห็น เรื่องการวิเวก ของ พระที่ภาวนาจริง ๆ แล้ว มันแขวนชีวิตอยู่ด้วยความศรัทธา ตั่งมั่นในสิ่งที่ตนเองเชื่อถือ ว่า จะรอดหรือไม่รอด แต่หากเราไม่มีกำลัง ไหวพริบ ปฏิภาณ การเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่วิกฤติ เลย ก็เท่ากับเหมือนเรากำลังแขวนตนเองอยู่ที่หน้าผา สูงนั่นเอง )



สำหรับ การอยู่ วิเวก ของพระอาจารย์ จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ อยู่ที่คำสั่ง ครูอาจารย์
ยิ่งนาน และใกล้จะได้ออกจากวิเวก บททดสอบ ก็เพิ่มขึ้นเป็น ทวีคูณ

  เคยนั่งกรรมฐาน แค่ชั่วเวลานิดหน่อย ตอนนี้ก็ถูกเพิ่ม ให้เป็นมากหน่อย
  เคยได้พื้นที่ เดินไปมามาก ก็ถูกจำกัดลง ให้น้อยลงไปเรื่อย ๆ ฟังจากครูท่านว่า ท่านจะจำกัดพื้นที่ของเราให้เหลือเพียง 8 ตารางเมตร เท่านั้น เพื่อรับสถานการณ์ บางอย่างในอนาคต

  ดังนั้น ยิ่งใกล้ จะจบการวิเวกแล้ว ตอนนี้ก็โดนข้อสอบเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ นะ

  เจริญธรรม / เจริญพร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2015, 07:21:06 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
ที่ต้องน้ำตาไหล ก็ สิ่งที่เห็นล่วงหน้านั่นแหละ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 04, 2015, 07:15:56 am »
0
บางครั้งการรู้เห็นล่วงหน้า ก็ไม่ดี เพราะเห็น ก็ไม่สามารถ เข้าไปแก้ไขอะไร ได้

 สิ่งที่ต้องทำไว้ในใจโดยแยบคาย ก็คือ กมมุนา วตฺตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เหมือนที่ คุณ komol กล่าวไว้ในกระทู้หนึ่ง ในเช้านี้ นั่นแหละ

  พระพุทธเจ้า พระองค์ สอน ศรัทธา ไว้ สี่ ประการ เป็น สิ่งที่พุทธสาวก ไม่ควรขาด

       1. กัมมสัทธา เชื่อเรื่องกรรม คือ การสร้างความดี 
       2. วิปากสัทธา เชื่อเรื่องผลแห่ง กรรม ถ้าทำไม่ดี ก็มีผล คื อบาย
       3. กัมมัสสกตาสัทธา  เชื่อว่ากรรมที่ทำ ถูกสืบทอด ด้วยเจตนาเป็น มรดกกรรม ติดตัวไปทุกภพ ทุกชาติ
       4. ตถาคตโพธิสัทธา  เชื่อในการตรัสรูของพระพุทธเจ้า ว่า ถ้าสร้างกรรมที่เป็นเหตุให้นิพพาน คือการไม่เกิดอีกต่อไป คือ พ้นจากบ่วงแห่งกรรม นั้นสามารถทำได้

   ดังนั้น ในวัน มาฆะบูชานี้ ก็คงให้ ธรรม แก่ท่านทั้งหลาย โปรด พอกพูน สัทธา ทั้ง 4 นี้ไว้ เพื่อเป็นกำลังแห่งการภาวนา เพื่อพ้นจากวัฏฏะสงสาร นี้ ด้วยกัน ทุกท่าน ทุกคนเทอญ

 
  เจริญธรรม / เจริญพร

 
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ระดับ ครูอาจารย์ มีฉันเท่านี้ ไม่อยากจะเชือเลย

  :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
กิเลส เต็มกระมัง เลย เห็นหรือป่าว
   :bedtime2:
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ สาธุ ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

nopporn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ระดับ ครูอาจารย์ มีฉันเท่านี้ ไม่อยากจะเชือเลย

  :smiley_confused1:

  ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน คะ น่าจะมีอาหารอยู่ข้าง ๆ แต่ไม่ถ่ายลงมาหรือป่าว คะ
  แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น จริง ๆ ก็แสดงว่า พระอาจารย์ มีชีิวิต การฉัน ที่ลำบากมากเหมือนกันนะคะ แบบนี้
 

 
กิเลส เต็มกระมัง เลย เห็นหรือป่าว
   :bedtime2:

  เห็นมีแต่ ข้าวโพดอ่อน ข้าวสวย น้ำพริก และ ปลากระป๋อง นะคะ ไม่เห็น กิเลส
  หรือ กิเลส ของ คุณ modtanoy หน้าตาเป็นอย่างนี้
  ถ้าเป็นอย่างนี้ เราฆ่า ได้ทุกวันเลย .ซ...

 :88: st12
บันทึกการเข้า
อยู่แก๊งค์ ป่วนอ๊บ

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าเสียดาย ครับ ที่ในเฟคบุ๊ค ตอนนี้ ทาง ทีมงาน ไม่ไปโพสต์ กันนะครับ

  st11 st12
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
กิเลส เต็มกระมัง เลย เห็นหรือป่าว
   :bedtime2:


    ฉัน ตรงไป ตรง มา ไม่มีลับลม คมใน
    มีก็บอกว่า มี
    ไม่มี ก็บอกว่า ไม่มี
    ไม่มี ก็ไม่ขอ และ ไม่บอก ถึงแม้จะปวารณา ไว้
    ไม่มีนามแฝง มีตัวตนจริง ในโลกออนไลน์ นะ

    เมื่อวานก็ข้าวเปล่า กับ ปลากระป๋อง
    เหตุเพราะว่า บิณฑบาต ไม่ได้ นั่นเอง..
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ