พิมพ์

[raponsan]

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

"พระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม"
พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
ผู้ใดได้ไปนมัสการ จะได้รับอานิสงส์มีผู้คนให้ความเคารพนับถือ

พระธาตุพนม (ประจำวันเกิดวันอาทิตย์)
ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารอำเภอธาตุพนมห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นสถานที่เคารพสักการะทั้งของชาวไทยและชาวลาว ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้น ระหว่าง พ.ศ. 1200 – 1400 ตามตานานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะพระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทาการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น“วรมหาวิหาร” กล่าวกันว่า ถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็นลูกพระธาตุ เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต

 

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนมจังหวัดนครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า(เนินดินสูงจากพื้นธรรมดาประมาณ 3 เมตร) ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม

 

ประวัติ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
ตามตำนานอุรังคธาตุ กล่าวว่า ท้าวพญาทั้งห้าผู้เป็นใหญ่ ได้แก่พญาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหานหลวง พญาคำแดง เจ้าเมืองหนองหานน้อย พญาจุลณีพรหมทัต เจ้าเมืองจุลนีพรหมทัต พญาอินทรปัตถ์ เจ้าเมืองอินทปัตถนคร และพญานันทเสน เจ้านครศรีโคตรบูรณ์อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุ ได้สร้างอูบมูงขึ้นเพื่อประดิษฐานพระอุรังคธาตุ ตามพุทธพยากรณ์

โดยก่อสร้างด้วยดินดิบ (อิฐดิบ) ฐานพระธาตุพนมได้ขุดลงไปจนเป็นอูบมุง (อุโมง) เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กระดูกส่วนหน้าอก เมื่อก่อด้วยดินดิบเสร็จแล้ว จึงได้ก่อไฟเผาพระธาตุเป็นเวลากว่าหลายวัน อิฐจึงได้แห้งสนิทจรดกัน ในพระธาตุพนม บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า

 

ซึ่งประมาณ พ.ศ. 8 พระอุตรเถระและพระโสณเถระ สมรทูตของพระเจ้าอโศกมหาราช ได้อัญเชิญมา และพระ มหากัสสปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้บนภูกำพร้า ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ พระธาตุพนมได้รับการบูรณะและอุปถัมภ์โดยกษัตริย์แห่งล้านช้าง

   พ.ศ. 2223-2225 และเป็นรูปแบบที่นิยมในอีสาน
     พ.ศ. 2233 พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) ปฏิสังขรณ์พระธาตุให้สูงขึ้น
     พ.ศ. 2483 รัฐบาลได้บูรณะให้สูงขึ้น
     พ.ศ. 2518 องค์พระธาตุพนมชำรุดล้มลง ทางราชการได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นใหม่ ให้คงสภาพเดิม
     พ.ศ. 2522 การบูรณะโดยภาครัฐและเอกชน

 

เมื่อปี พ.ศ. 2485 วัดพระธาตุพนมฯ ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร” ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.38 น. ด้วยเหตุที่มีฝนตกพายุพัดแรงติดต่อมาหลายวันและความเก่าแก่ขององค์พระธาตุ พระธาตุพนมจึงได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522

นอกจากจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระธาตุดั่งเดิมแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้นบรรจุและประดับไว้ในองค์พระธาตุอีกด้วย โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม

งานนมัสการพระธาตุพนม
ไม่ว่าเวลาจะเนิ่นนานเท่าใด แต่ความเชื่อว่าหากได้นมัสการ และได้ถวายเครื่องสักการะบูชาพระธาตุพนม จะทำให้จิตใจเกิดความสงบเยือกเย็น ถ้ายังไม่บรรลุนิพพานในชาตินี้ เมื่อตายแล้ววิญญาณก็จะได้ไปสู่สวรรค์ เนื่องจากองค์พระธาตุพนมไม่เพียงแต่จะเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงเสด็จมาประทับแรมอยู่หนึ่งราตรี

ที่ผ่านมาจึงได้มีประเพณีนมัสการพระธาตุพนม เพื่อสมโภชองค์พระธาตุพนมปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนไทย-ลาวสองฟากฝั่งโขง ในงานประกอบด้วยพิธีกรรม งานมหรสพสมโภชเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน สำหรับงานนมัสการพระธาตุพนมปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 8 กุมภาพันธ์ 2555 ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จังหวัดนครพนม

 

โดยในปีนี้จะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในวันเปิดงานวันที่ 31 มกราคม 2555 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จะมีพิธีอัญเชิญพระอุปคุตจากริมแม่น้ำโขงแห่ไปวัดพระธาตุพนม พิธีคารวะองค์พระธาตุพนม ถวายข้าวพืชภาค การแห่กองบุญ (ผ้าป่า) รอบองค์พระธาตุพนมจากนั้นจะนำไปถวายวัด การเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม นอกจากนั้นยังมีการรำบูชาพระธาตุพนม การละเล่นพื้นเมือง การแสดงมหรสพสมโภช การออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้านานาชนิด ผู้เข้าร่วมงานหลังนมัสการองค์พระธาตุพนมแล้ว สามารถเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

ที่สำคัญหากใครที่เกิดปีวอก หรือเกิดวันอาทิตย์ การได้ไหว้พระธาตุพนมจะยิ่งเป็นสิ่งมงคลแก่ชีวิต มีอานิสงส์ทำให้ผู้คนเคารพนับถือ เนื่องจากพระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีของผู้ที่เกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

http://www.youtube.com/watch?v=l1k2qlsOTCg

Uploaded on Mar 9, 2011 โดย Web Sanom

ขอบคุณบทความและภาพจาก
www.thatphanomriverviewhotel.com/663095/พระธาตุพนม-วันอาทิตย์-ประจำวันเกิดวันอาทิตย์

[raponsan]

http://www.youtube.com/watch?v=QsjQdSVDKKk

Published on Nov 7, 2012 by Weerapat Sumanart

พระธาตุพนม พระบรมธาตุสองแผ่นดิน วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม วีดีโอนี้ผมได้รับจากการร่วมทำบุญก่อสร้าง­พระธาตุพนมที่สหรัฐ ขออนุญาตนำมาอัพและเผยแพร่แก่ประชาชนทั่วไ­ปให้รับทราบเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของ­องค์พระธาตุพนม โดยลิขสิทธิ์วีดีโอเป็นของ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ขอบพระคุณครับ (นายวีรภัทร สุมนารถ ผู้อัพโหลด) หากต้องการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพระธาตุ­พนม สามารถติดตามได้ที่ http://www.thatphanom.com ครับ
____________________________
post by Weerapat Sumanart
-http://www.youtube.com/watch?v=QsjQdSVDKKk-

พระอุรังคธาตุบรรจุอยู่ในภาชนะหลายชั้น

พระอุรังคธาตุ ๘ องค์

พระอุรังคธาตุบรรจุในผอบแรก เป็นชั้นที่ ๑

ผอบที่ ๑ บรรจุในผอบที่ ๒ เป็นชั้นที่ ๒

ผอบที่ ๒ บรรจุในผอบที่ ๓ เป็นชั้นที่ ๓

ผอบที่ ๓ บรรจุในผอบที่ ๔ เป็นชั้นที่ ๔

ผอบที่ ๔ บรรจุในผอบที่ ๕ เป็นชั้นที่ ๕

ผอบที่ ๕ บรรจุในบุษบกทองคำ เป็นชั้นที่ ๖

บุษบกทองคำบรรจุในเจดีย์ศิลา

เจดีย์ศิลาถูกบรรจุในผอูบสำริด ผอูบสำริดนี้พบอยู่ในพระธาตุพนม(องค์เดิม)ชั้นที่สองส่วนบน

________________________________________________
ที่มาของภาพด้านบน : เป็นภาพ snatshot ถ่ายจากวิดีโอด้านบน

   

ผอูบสำริดพระธาตุพนม

เป็นผอูบสำริดบรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า โดยสร้างจากทองสำริด หนักประมาณ 1,300 กิโลกรัม เพื่อใช้เป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุพระพุทธเจ้า โดยเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก แห่งนครเวียงจันทร์ที่ได้บูรณะองค์พระธาตุพนม เมื่อ พ.ศ.2233-2235 พบที่พระธาตุองค์เดิม พ.ศ.2518 ต้นศตวรรษที่ 3 ปัจจุบันเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบรารวัตถุ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมรัตนโมลีศรีโคตรบูร วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีที่สำคัญนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะองค์พระธาตุพนมเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
_________________________________________________________________________
ภาพและข้อมูลจาก m-culture.in.th/moc_new/album/134316/ผอูบสำริดพระธาตุพนม/#ns-thumbnail-pg

[raponsan]

ฮือฮา.! ความศักดิ์สิทธิ์ "พระธาตุพนม"

พุทธศาสนิกชนแห่บนขอลูก เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เผย ตั้งแต่ปี 2547 พบผู้มาแก้บนเพราะสมหวังขอลูกกว่า 4,000 คน พบ "พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว" รมว.พม.ก็เป็นลูกพระธาตุพนม

พระครูพนมปรีชากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และเลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า พระธาตุพนม เป็นพระธาตุที่มีความเก่าแก่ และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.8 โดยเชื่อกันว่าภายในพระธาตุเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งองค์พระธาตุจะเคยถล่มมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 11ส.ค. 2518 และมีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อพ.ศ.2519 พร้อมทั้งมีการสร้างยอดฉัตรเป็นทองคำน้ำหนักรวม 16 กิโลกรัม ใช้งบประมาณในการบูรณะทั้งสิ้นประมาณ19 ล้านบาท

ซึ่งทุกปีทางวัดจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุในช่วงวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 8 ค่ำเดือน 3 แต่ละปีจะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวลาวมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระธาตุพนม โดยสำหรับความเชื่อเกี่ยวกับองค์พระธาตุพนมนั้นมีตั้งแต่ เป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดปีวอก หากใครได้มาสักการะพระธาตุพนม 7 ครั้ง จะถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมไปถึงการมาขอลูกกับองค์พระธาตุด้วย

เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องการมาขอลูกกับองค์พระธาตุนั้น เป็นที่น่าประหลาดใจว่าผู้ที่มาบนกับองค์พระธาตุ เพื่อขอลูกส่วนใหญ่มักจะสมหวังกลับไป โดยหลังจากที่ทางวัดเริ่มมีการบันทึกสถิติเกี่ยวกับผู้ที่มาแก้บนขอลูกที่พระธาตุพนมตั้งแต่พ.ศ.2547 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน พบว่า
     มีผู้ที่มาแก้บนเพราะสมหวังกับการมาขอลูกกับองค์พระธาตุพนมมากกว่า 4,000 รายแล้ว โดยจะมีการเรียกผู้ที่เกิดมาจากการบนขอลูกจากองค์พระธาตุพนมว่า ลูกพระธาตุ และทุกปีในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ทางวัดจะส่ง ส.ค.ส.ไปให้แก่ผู้ที่เป็นลูกพระธาตุทุกคนเป็นประจำทุกปีด้วย
     ทั้งนี้ เท่าที่ทราบ นายพนม ศรศิลป์ รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ก็เป็นลูกพระธาตุด้วย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังนายพนม ซึ่งได้รับการยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง และทางวัดพระธาตุพนมได้ส่ง ส.ค.ส.มาให้ตนทุกปีด้วย โดยช่วงพ.ศ.2501 พ่อแม่ของตนอยากมีลูก จึงไปบนต่อองค์พระธาตุพนม และถัดจากนั้นในพ.ศ.2502 ตนก็เกิดขึ้นมา ทั้งนี้ การบนขอลูกต่อองค์พระธาตุพนมนั้น เป็นความเชื่อของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่แถบภาคอีสานที่มีความศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนม.

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2557 เวลา 15:00 น.
ขอบคุณข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/270257

[PRAMOTE(aaaa)]

 
         เมื่อได้เห็น...พระบรมสารีริกธาตุแล้วใจนั้นฮึกเหิม บอกตามตรง


              ขออนุโมทนาสาธุ ในบารมีพระพุทธองค์


            เมื่อนำมาระลึกแล้วรู้สึก...ไม่กลัวความจริง

[suchin_tum]

ได้ไปกราบมาครั้งหนึ่งแล้วค่ะ