พิมพ์

[raponsan]

'วัดป่าภูก้อน' ศรัทธารักษ์ป่า

ถิ่นไทยงาม : 'วัดป่าภูก้อน' ศรัทธารักษ์ป่า

       ชื่อของวัดป่าภูก้อน ถูกบรรจุเข้าทำเนียบ " Drean Destination กาลครั้งหนึ่ง ... ต้องไป " ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อไม่นานมานี้ ททท. ด้วยความที่เป็นศาสนสถานที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธา และความสวยงามของสถาปัตยกรรมของวัดป่าภูก้อนแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาที่รายล้อมไปด้วยผืนป่าเขียวขจีกว่า 3,000 ไร่ ด้วยวัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูง และป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งขึดนี้เป็นรอยต่อของ 3 จังหวัด คืออุดรธานี, เลย และหนองคาย
 
       ที่มาของวัดนี้ก็เกิดจากความที่เห็นสภาพป่าต้นน้ำลำธารกำลังถูกทำลายไป จึงได้มีการทำหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาตินายูง-น้ำโสม เพื่อสร้างวัดในเนื้อที่ 15 ไร่ จากกรมป่าไม้ และเพื่อรักษาบริเวณวัดให้คงสภาพป่าอย่างสมบูรณ์ คณะศรัทธา โดยเฉพาะ ปิยะวรรณ วีรวรรณ ที่ถูกเรียกขานในนาม คุณแม่ปิยวรรณ จึงพยายามอย่างหนักที่จะขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่โดยรอบวัดด้วย จนที่สุดได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อจัดตั้งพุทธอุทยานมีเนื้อที่ 1,000 ไร่ และได้รับขนานนามว่า ‘พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน’ และต่อมากรมป่าไม้ยังได้เพิ่มพื้นที่ป่ามาให้วัดป่าภูก้อนดูแลเพิ่มเติมอีก รวมเป็นกว่า 3,000 ไร่ เพื่อรักษาป้องกันไฟป่าและการบุกรุกทำลายป่า ล่าสัตว์
 

      ทางขึ้นก่อนถึงวัด ค่อนข้างชัน แต่ก็รู้สึกได้ถึงความร่มรื่น ร่มเย็นของผืนป่า และต้นไม้ใหญ่ๆ ที่เห็นได้ในรายทาง เดี๋ยวนี้การเดินทางไปวัดป่าภูก้อนก็สะดวกสบายขึ้น รวมทั้งมีป้ายบอกทางไปสู่วัดอยู่ตลอดทาง ถ้าเดินทางกันโดยรถบัส ก็ต้องไปจอดเปลี่ยนรถกันที่ลานจอด ด้านหน้าพระมหาเจดีย์ ที่มีชื่อว่า “พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์”  แต่ถ้าเป็นรถเล็ก ก็สามารถขึ้นไปได้เลย
 
     ด้านบนของภูเขา ในพุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน สร้างเป็นวิหารหลังใหญ่ ตัววิหารและศาลาโดยรอบก็มีเอกลักษณ์ โดยยอดจั่วทุกมุมจะเป็นเลขเก้าไทย (๙ ) เพื่อถวายแด่ในหลวงนั่นเอง ภายในวิหารหลังใหญ่ประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์ที่มีความยาวกว่า 20 เมตร ที่สร้างจากหินอ่อน โดยเฉพาะในส่วนของเศียรพระเป็นหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี ซึ่งกว่าจะได้หินอ่อนส่วนนี้มา ก็ใช้เวลาเสาะหากันนาน รวมระยะเวลาในการก่อสร้างกว่า 6 ปี
 
     บริเวณวัดเป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม แต่ถ้าจะมองเห็นตัววิหารด้วย ต้องขึ้นไปมองมุมสูง ต้องติดต่อล่วงหน้าเพราะเส้นทางลูกรัง ไปตามแนวกันไฟ ต้องใช้ 4WD ขึ้นลงเขา 
 

     ภูก้อนมียอดสูงสุดที่ระดับ 928 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง  ด้านบนจะมีก้อนหินเรียงราย อันเป็นที่มาของชื่อเขาแห่งนี้  มีเรื่องเล่าว่าเมื่อก่อนจะสร้างวัด ชาวบ้านจะได้ยินเสียงฆ้องดังมาจากในป่า ซึ่งในช่วงสงกรานต์ชาวบ้านจะขึ้นมาส่งน้ำ ตามความเชื่อ แต่เส้นทางที่ชาวบ้านขึ้นจะเป็นอีกด้านกับแนวกันไฟที่ทำไว้และใช้เป็นทางรถด้วย ซึ่งแนวกันไฟนี้ปัจจุบันทำไว้เป็นแนวรอบนอกระยะทางทั้งหมด 13 กม. เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งมักจะเกิดไฟป่าขึ้น แต่ในช่วงฤดูอื่น จะเห็นผืนป่ากว้างเขียวขจี  ที่ทำให้เห็นว่า ศรัทธาก็รักษาผืนป่าไว้ได้
 
    "เชียงใหม่ มีวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ที่ใครไปเชียงใหม่ก็มักต้องไปที่วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ฉันก็อยากให้วัดป่าภูก้อนนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอุดรธานี ที่ใครไปใครมาก็ต้องมาที่วัดนี้ "  คุณแม่ปิยวรรณ บอกกันฉันในจังหวะดีที่ฉันขึ้นไปที่วัดนี้แล้วได้เจอกัน  ส่งผลให้ปัจจุบัน วัดนี้แม้จะอยู่ห่างไกลแต่ก็มีผู้ไปเยือนไม่ขาดสาย

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140608/186075.html