ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อลังการ.!! วิหาร อุโบสถ 250 ล้าน (มีคลิป)  (อ่าน 4374 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
อลังการ.!! วิหาร อุโบสถ 250 ล้าน (มีคลิป)
« เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2015, 08:44:45 am »
0




อลังการ.!! วิหาร อุโบสถ 250 ล้าน ตอน 1.

เด็ดข่าวเด่น - หากจะพูดถึง "คันทวย" หรือสิ่งที่ทำหน้าที่ค้ำยันชายคา ซึ่งมักจะเห็นได้ที่วัด ส่วนใหญ่จะเป็นไม้แกะสลัก หรือปูนปั้นลวดลายไทย แต่ที่เด็ดข่าวแปลกจะพามาชมวันนี้ไม่ธรรมดา แถมสถานที่ที่จะพาไปมูลค่าการก่อสร้างไม่ธรรมดาด้วย 250 ล้านบาท ทำไมต้องลงทุนขนาดนี้ ติดตามชมพร้อมกัน

นี่คือ คันทวย ในรูปแบบเดิมๆที่เราเห็นกันจนคุ้นตา แต่ถ้ามาที่วัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม 3 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ คุณจะได้เห็นคันทวยในรูปแบบนี้

             
วัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม 3 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ


คันทวยที่วิหารแห่งนี้ ถูกออกแบบเป็นรูปปั้นนักรบโบราณ ทั้งนักรบไทย จีน อินเดียแดง โรมัน ญี่ปุ่น รวมแล้วก็ 20 ชาติ สื่อความหมายถึงความแข็งแรงในการปกป้องสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเหตุที่มีหลายชาติรวมกัน เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ทั่วโลกรู้จัก และทุกคนสามารถร่วมกันรักษาไว้ได้
             
นอกจากความสวยงามแปลกตาของคันทวยโดยรอบวิหาร อีกหนึ่งความแปลกที่จะพามาชมกันต่ออยู่ที่พระอุโบสถซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน แค่เห็นด้านนอกก็ต้องบอกว่าอลังการแล้ว พอเข้ามาด้านใน ถึงกับต้องยกมือทาบอกร้องโอ้โหเลยทีเดียว ยิ่งเข้าไปดูใกล้ๆยิ่งเห็นถึงความสวยงาม เครื่องเบญจรงค์ที่สั่งพิเศษ ถูกนำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆก่อนนำมาประดับเรียงกัน รวมถึงหินสี และพลอยธรรมชาติที่ถูกนำมาจัดวางจากช่างฝีมือที่ละชิ้นๆ รับรองว่า ศิลปะภายในพระอุโบสถแห่งนี้ คุณผู้ชมไม่เคยเห็นที่ไหนแน่นอน







250 ล้านบาท คืองบประมาณในการเนรมิตรวิหาร และพระอุโบสถที่เห็นอยู่นี่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย เพราะต้องใช้เวลาถึง 20 ปี ตอนนี้ผ่านมาเพียง 7 ปีแต่ด้วยความตั้งใจที่จะให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาธรรมะผ่านศิลปะร่วมสมัย ท่านผู้ช่วยเจ้าอาวาสบอกว่า นี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สำหรับความสวยงามแปลกตาของวัดปริวาสพรุ่งนี้ติดตามกันต่อ เพราะเด็ดข่าวแปลกจะเป็นรายการแรกที่ได้นำภาพความสวยงามอลังการอีกหนึ่งอย่างมาฝากคุณผู้ชม


ขอบคุณ วิดีโอ ภาพและข่าวจาก
news.bugaboo.tv/watch/197946/เด็ดข่าวแปลก_-_วิหาร_อุโบสถ_250_ล้าน_ตอน1.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อลังการ.!! วิหาร อุโบสถ 250 ล้าน (มีคลิป)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2015, 08:57:00 am »
0

พระปลัดบุญเรือง ปุญฺญวโร ผู้ช่วยเจ้าวาสวัดปริวาสราชสงคราม

วิหารและอุโบสถของวัดปริวาสราชสงคราม กำลังก่อสร้าง



หลังคาอุโบสถ

ประตูทางเข้าอุโบสถ

ประวัติวัดปริวาส

วัดปริวาสราชสงคราม แต่เดิมนั้นอยู่ในการปกครองของตำบลบางโพงพาง อำเภอบ้านทวาย จังหวัดพระนคร เขื่อนขันธ์ เก่าก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นในเขตการปกครองปัจจุบัน แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร วัดปริวาสราชสงคราม ในปัจจุบัน(พ.ศ. 2548) มีพื้นที่ทั้งสิ้น 11 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา และมีที่ธรณีสงฆ์อีก 2 แปลง แปลงหนึ่งมีพื้นที่ 5 ไร่ 75 ตารางวา

ส่วนอีกแปลงหนึ่งมีพื้นที่ 2 ไร่ 2งาน วัดปริวาสฯนั้น ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งพระนครทิศเหนือ จรดถนนพระรามที่ 3 ทิศใต้ จรดแม่น้ำเจ้าพระยาทิศตะวันออก จรดที่ดินเอกชน คือ จตุจักรพระราม 3 ทิศตะวันตก จรดคลองปริวาส ที่ดินทางด้านทิศตะวันออกแบ่งเป็นเขตกรรมสิทธิ์โรงเรียนวัดปริวาส ด้วยเนื้อที่จำนวน 2 ไร่ 59 ตารางวา ดังนั้นด้านทิศตะวันออกจึงติดโรงเรียน วัดปริวาส สังกัดกรุงเทพมหานคร


ที่มา : http://www.watpariwas.com/
ขอบคุณ วิดีโอ ภาพและข่าวจาก
news.bugaboo.tv/watch/197946/เด็ดข่าวแปลก_-_วิหาร_อุโบสถ_250_ล้าน_ตอน1.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อลังการ.!! วิหาร อุโบสถ 250 ล้าน (มีคลิป)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2015, 09:04:15 am »
0





ภายในอุโบสถวัดปริวาสราชสงคราม ถ.พระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อลังการ.!! วิหาร อุโบสถ 250 ล้าน (มีคลิป)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2015, 09:06:45 am »
0






ภายในอุโบสถวัดปริวาสราชสงคราม ถ.พระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อลังการ.!! วิหาร อุโบสถ 250 ล้าน (มีคลิป)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2015, 09:26:54 am »
0


เด็ดข่าวเด่น - หลังจากเมื่อวานนี้ เด็ดข่าวแปลก ได้พาไปชมความสวยงาม อลังการของวิหาร และพระอุโบสถที่วัดปริวาสราชสงครามกันไปแล้ว วันนี้ยังมีอีกหนึ่งความน่าทึ่งมาให้ชมกันต่อ ทั้งประตูโบสถ์เงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หรือจะว่าไปก็ใหญ่ที่สุดในโลก และประตูอลูมิเนียมในรูปแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหน ติดตามชมค่ะ

จากวิหาร และพระอุโบสถราคากว่า 250 ล้านบาท ที่ทำเอาเราตะลึงในความสวย แปลกไม่เหมือนใครกันไปแล้ว ที่วัดปริวาสแห่งนี้ ยังมีอีกหนึ่งความน่าทึ่งให้ได้ชมกัน บอกไว้ก่อนนะคะว่า ในส่วนนี้ทางวัดยังไม่ได้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ถือเป็นโอกาสพิเศษสำหรับทีมงานเด็ดข่าวแปลกที่ได้เก็บภาพมาฝากคุณผู้ชม

             



และนี่คือ อีกหนึ่งความสวยงาม แปลกตา กับประตูโบสถ์ที่ทำขึ้นจากแผ่นเงินบริสุทธิ์ น้ำหนักกว่า 80 กิโลกรัม ใช้ศิลปะการดุน หรือตีเงินจากด้านหลังโดยช่างฝีมือถึง 3 คน ใช้เวลาเกือบ 3 ปี กว่าจะได้บานประตูโบสถ์ในรูปแบบ นาคแปลง - ครุฑแปลง

ศิลปะบนบานประตูโบสถ์ในลักษณะนี้ไม่สามารถหาชมจากที่ไหนได้อีกแล้ว เพราะช่างดุนเงินที่รับทำงานนี้ให้ บอกว่า จากนี้จะไม่รับทำอีก ไม่ใช่กลัวจะซ้ำ หรือทำได้ไม่ดี แต่เพราะทำไม่ไหว เนื่องจากช่างแต่ละคนอายุมากกว่า 60 ปี ถ้ารับงานมากลัวว่า จะทำงานได้ไม่สำเร็จ





ประตูหลังของโบสถ์ 2 คู่ ทำเสร็จแล้ว 1 คู่คือ ง่าวมังกร ยังเหลือ ทวนเสือขาว คาดว่าใช้เวลาไม่เกินครึ่งปี ใช้ศิลปะการดุนเหมือนประตูเงิน แต่เป็นการดุนลงบนแผ่นอลูมิเนียมซึ่งทำได้ง่ายกว่า เพราะการดุนแผ่นอลูมิเนียม 1 จุด ตีเพียง 5 ครั้ง แต่บนแผ่นเงิน 1 จุดต้องตีถึง 15-30 ครั้ง มากกว่ากันเป็นเท่าตัว ใครที่อยากจะชมประตูโบสถ์สวยๆแบบนี้อดใจรอไปก่อน เพราะต้องรอให้โบสถ์แล้วเสร็จจึงจะนำไปติดตั้ง

ปิดท้ายปริศนาธรรมบนศาลาการเปรียญ ที่นำเอาใบหน้าของบุคคลที่มีชื่อเสียงมาปั้นเพื่อช่วยค้ำชูพุทธศาสนา ฮือฮาก็ต้องเป็นคนนี้ นักฟุตบอลชื่อดัง เดวิด แบคแฮม ดูนะคะว่า เขาหันหน้าไปทางไหน หันไปทางขุมนรกนั่นเอง สื่อให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร หากทำบาปก็ต้องรับโทษ ตกนรกเหมือนกัน

และสุดท้าย 2 ท่านนี้ ดูออกไหมคะว่าเป็นใคร แล้วทำไมต้องมาขี่คอกันแบบนี้ด้วย ถ้าอยากรู้ หาคำตอบได้ที่วัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม 3 นะคะ



ประตูบานนี้ชื่อว่า "ง่าวมังกร"


ขอบคุณ วิดีโอ ภาพและข่าวจาก
news.bugaboo.tv/watch/198186/เด็ดข่าวแปลก_วิหาร_อุโบสถ_250_ล้าน_ตอน2.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 28, 2015, 09:28:45 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อลังการ.!! วิหาร อุโบสถ 250 ล้าน (มีคลิป)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2015, 09:47:53 am »
0
ขอบคุณภาพจาก https://sites.google.com/

ประวัติวัดปริวาสราชสงคราม

วัดปริวาสราชสงคราม แต่เดิมนั้นอยู่ในการปกครองของตำบลบางโพงพาง อำเภอบ้านทวาย จังหวัดพระนครเขื่อนขันธ์ เก่าก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นในเขตการปกครองปัจจุบัน แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร วัดปริวาสราชสงคราม  ในปัจจุบัน(พ.ศ. 2548) มีพื้นที่ทั้งสิ้น 11 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา และมีที่ธรณีสงฆ์อีก 2 แปลง แปลงหนึ่งมีพื้นที่ 5 ไร่ 75 ตารางวา ส่วนอีกแปลงหนึ่งมีพื้นที่ 2 ไร่ 2งาน

วัดปริวาสฯนั้น ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งพระนครทิศเหนือ จรดถนนพระรามที่ 3 ทิศใต้ จรดแม่น้ำเจ้าพระยาทิศตะวันออก จรดที่ดินเอกชน คือ จตุจักรพระราม 3 ทิศตะวันตก จรดคลองปริวาส ที่ดินทางด้านทิศตะวันออกแบ่งเป็นเขตกรรมสิทธิ์โรงเรียนวัดปริวาส ด้วยเนื้อที่จำนวน 2 ไร่ 59 ตารางวา ดังนั้นด้านทิศตะวันออกจึงติดโรงเรียน วัดปริวาส สังกัดกรุงเทพมหานคร


ภายในศาลาการเปรียญ

จากคำบอกเล่าของผู้ที่อาศัยอยู่ที่ตำบลบางโพงพางมานาน ที่มีข้อมูลของวัดตรงกันว่า วัดปริวาส เดิมนั้นน่าจะชื่อว่า วัดปริวาส ซึ่งแต่ก่อนนั้นอาจจะเป็นเพียงสำนักสงฆ์หรือวัดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนและต้นไม้มากมาย ซึ่งเศรษฐีสมัยก่อนที่มีค่านิยมในการสร้างวัดไว้ โดยคาดว่าสร้างราวปลายกรุงศรีอยุธยถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งวัดหรือสำนักสงฆ์นี้เมื่อผู้สร้างได้เสียชีวิตลง หรือมีการโยกย้ายถิ่นฐาน จึงไม่มีผู้ที่ทำนุบำรุงต่อไป จึงทำให้วัดตกอยู่ในสภาพทรุดโทรมลงตามกาลเวลา

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2-3 ได้มีหลักฐานจากวัดข้างเคียงในละแวกเดียวกันว่า กรมหมื่นศักดิ์พลเสนา ได้สร้างวัดขึ้นที่ริมคลองลัดหลวงฝั่งทิศตะวันตก โดยมีพระยาเพชรพิชัย (เกษ) ซึ่งจากหลักฐานปรากฏว่า ต้นตระกูลท่านเป็นนายช่างที่สืบทอดต่อกันมา เป็นรุ่นต่อรุ่นและยังเป็นพี่เลี้ยงของพระองค์ท่าน โดยเป็นถึงแม่กองงานที่ได้รับมอบหมาย พระยาเพชรพิชัยนั้นเป็นผู้มีความรู้ความสามารถโดยเป็นแม่งานในการสร้างพระนครเขื่อนขันธ์(พระประแดง)และวัดขึ้นที่นั้นจนเป็นที่รู้จัก และวัดนั้นเมื่อสร้างเสร็จได้รับพระราชทานามว่า "วัดไพชยนต์พลเสพย์"(วังหน้า)


ภายในศาลาการเปรียญ

พระยาเพชรพิชัยเป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็นอย่างมาก อยากสร้างวัดไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์จึงได้ทูลขออนุญาตสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่ง อยู่ตรงข้าม วัดไพชยนต์ โดยได้รับพระราชทาน ชื่อว่า "วัดโปรดเกศเชษฐาราม"(วังหลวง) โดยวัดทั้งสองนี้เป็นวัดหลวง ในการสร้างวัดทั้งสองวัดนี้ มีนายกองที่สำคัญอีกท่านหนึ่ง คือ พระยาราชสงคราม (ทัต) เป็นอีกท่านหนึ่งที่มีความสามารถในทางการก่อสร้างและออกแบบวัดวัง และมีความศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างมากอีกด้วย เมื่อท่านทั้งสอง (พระยาเพชรพิชัย (เกษ) และพระยาราชสงคราม(ทัต) ได้ทำงานร่วมกันสร้าง วัดไพชยนต์พลเสพย์ และวัดโปรดเกศเชณฐราม ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเห็นว่า มีวัดอีกวัดหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับวัดโปรดเกศเชษฐาราม ซึ่งอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก จึงได้มาทำการบูรณะใหม่จนสวยงามแล้วตั้งชื่อว่า วัดปริวาสราชสงคราม ตามบรรดาศักดิ์ของท่านลงท้ายชื่อวัดนี้ด้วย

และจากบันทึกถ้อยคำบอกเล่าของปู่เสงี่ยม เถื่อนอิ่ม ที่มีอายุ 91 ปี (พ.ศ. 2548) โดยเล่าว่า ตนเองเคยบวชที่วัดปริวาสนี้เมื่อ พ.ศ. 2478 ได้เล่าให้ฟังว่า ท่านเห็นป้ายวัดปริวาสราชสงครามติดอยู่ที่ด้านหน้าของวัดติดอยู่ที่ศาลาริมน้ำอยู่แล้ว ซึ่งสมัยก่อนวัดหันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากผู้คนในสมัยก่อนนั้นจะใช้การติดต่อทางน้ำเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่มีถนนพระราม 3 เหมือนในปัจจุบัน ตั้งแต่วัดได้มีชื่อเต็มๆ ว่า วัดปริวาสราชสงคราม ผู้คนที่มาเที่ยวงานประจำปีแต่ละครั้ง จะมีแต่เรื่องทะเลาะวิวาทเป็นประจำ หลวงพ่อวงษ์ จึงตัดชื่อท้าย "ราชสงคราม" ออกเหลือแต่คำว่า "วัดปริวาส" ซึ่งเป็นเรื่องแปลก หลังจากที่ตัดคำว่า ราชสงครามออกแล้ว การมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันลดลงจนแทบไม่มี ปัจจุบันป้ายวัดปริวาสฯ เดิมได้รับการบูรณะและติดอยู่ริมแม่น้ำ และมีป้ายชื่อวัดปริวาสอีกป้ายติดอยู่ที่ซุ้มวัด ด้านถนนพระราม 3 ซอย 30 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพ


ภายในศาลาการเปรียญ

ก่อนที่พระยาราชสงคราม จะมาบูรณะซ่อมแซมศาสนสถานต่างๆ ของวัดปริวาสฯ นั้นจากคำบอกเล่าและหลักฐานพอจะสันนิษฐานว่า วิหารเดิมเก่าของวัดน่าจะเป็นการสร้างพระอุโบสถมาก่อนเนื่องจากในการสร้างพระอุโบสถในสมัยอยุธยาตอนปลายหรือรัตนโกสินทร์ตอนต้น การสร้างพระอุโบสถจะต้องมีบ่อน้ำไว้ทางทิศตะวันออก ของโบสถ์ซึ่งสมัยก่อนมักจะใช้เป็นบ่อน้ำมนต์และพระประธานในวิหารก็เป็นศิลปะแบบเดียวกัน และการบูรณะของพระยาราชสงครามนั้นไม่น่าจะเป็นการนำวัสดุที่เหลือจากการสร้างวัดโปรดเกศฯมา๋ซ่อมแซม เนื่องด้วยการสร้างพระอุโบสถนั้นจะมีการนำกระเบื้องเคลือบมาประดับหน้าบันพระอุโบสถตามศิลปะสมัยนิยมในรัชกาลที่ 3 แต่ไม่มากนัก จะมีบันไดสี่ด้านและแต่ละด้านจะมีสิงโตจีนด้านละหนึ่งคู่ทั้งหมดสี่คู่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงหนึ่งคู่ ตั้งอยู่ที่กุฏิพระครูพิศาลพัฒนพิธาน(เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน)และมีแผ่นหินอับเฉาเรือ สมัยโบราณขนาดประมาณหนึ่งเมตรและสองเมตรฝังอยู่บริเวณลานวัดจำนวนมาก

และจากหลักฐานข้อมูลบรรณานุกรม ของหอสมุดแห่งชาติ ได้กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ช่วงที่พระองค์ขึ้นครองราชย์นั้น พระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองมาก เนื่องจากพระองค์ท่านมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก พระองค์ท่านได้เก็บรวบรวมอัญเชิญพระพุทธรูปจากวัดต่างๆ ที่ถูกเผาสมัยสงครามเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่าพระองค์ท่านได้นำพระพุทธรูปไปประดิษฐานตามวัดที่ท่านโปรดสร้างขึ้น หรือวัดที่นายกองได้บรูณะซ่อมแซมไว้ เนื่องจากพระประธานในพระอุโบสถของวัดปริวาสเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย ซึ่งไม่ปรากฏในวัดต่างๆ ในเขตยานนาวา และเมื่อพระองค์ได้ครองราชย์ถึงปี พ.ศ. 2393 พระองค์ท่านทรงพระประชวรเป็นอย่างมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าบุตรี เชิญออกมาให้พระยาราชสุภาวดี เมื่อวันศุกร์ เดือน 3 แรม 5 ค่ำ เวลาเข้า 4 โมงเศษ (ตรงกับวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2393)


รูปปั้นเดวิด เบ็คแคม ภายในศาลาการเปรียญ

พระราชทรัพย์ในท้องพระคลังมอบให้ไวยาวัจกร กัปปิยการกสำเร็จ จตุปัจจัยถวายพระภิาษุและสามเณรในพระอารามหลวงในกรุงและนอกกรุงและหัวเมือง ซึ่งขึ้นแก่กรุงเทพมหานคร ซึ่งในการทำสังฆทานบารมีนี้ มีวัดที่ได้เข้ารับสังฆทาน ในวันพุธที่ 3 แรม 10 ค่ำตรงกับวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2393 พร้อมกันคือ วัดโปรดเกษ 24 รูป วัดไพรชน 34 รูป (วัดไพชยนต์) วัดปริวาส 9 รูป วัดรวก 10 รูป วัดจำปา 12 รูป วัดภคนีนาฎ 21 รูป วัดคหบดี 46 รูป โดยมีหมื่นสรรเพชรเป็นผู้แจกพระสงฆ์ 156 รูป เป็นเงิน 39 ชั่ง (ข้อมูลประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 4 กรุงเทพฯ กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร 2542, จดหมายเหตุพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต หน้า 147)

ซึ่งตามแผนภูมิประวัติของสกุุลนี้ สืบตั้งแต่พระยาเพ็ชรพิไชย หงส์ ในรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา ถึงสามรุ่นนี้ เป็นบรรพบุรุษต้นสกุล "หงสกุล" ล้วนเคยรับราชการมีตำแหน่งเป็นนายงานทำกรก่อสร้างต่างๆ เป็นต้นว่า สร้างพระมหาปราสาทราชมณเฑียร สร้างพระอาราม และป้อมปราการต่างๆ ตลอดจนการปลูกสร้างพระเมรุมาทุกชั้น ได้ฝึกหัดวิชา ช่างก่อสร้างสืบต่อลงมาเป็นนิติในสกุล


รูปปั้นนักการเมือง ภายในศาลาการเปรียญ

มาในบี พ.ศ. 2523 หลวงพ่อวงษ์ อนุญาตให้ พระสมชาย (พระครูพิศาลพัฒนพิธาน) เป็นผู้บูรณะซ่อมแซมเจดีย์ ในปีนั้น ซึ่งการบูรณะครั้งนั้นได้พบแผ่นจารึก ชื่อเป็นช่วงคอระฆังของเจดีย์หน้าวิหารสลักชื่อ "ยายเมือง" คาดว่ายายเมืองเป็นผู้สร้างเจดีย์องค์นี้ ส่วนเจดีย์องค์หน้าพระอุโบสถ ไม่ปรากฏผู้สร้างแต่เป็นศิลปกรรมสมัยเดียวกัน คือ เป็นแบบย่อมุมไม้ 12 เจดีย์หน้าวิหารแต่เดิมนั้นเป็นโพรงมี ทางเดินไปด้านในได้ แต่ในปัจจุบันได้บรูณะและโบกปูนปิดทับไว้

ข้อมูลน่าสนใจ
ชื่อ : วัดปริวาสราชสงคราม
ที่อยู่ :  วัดปริวาส ถนนพระราม ๓ ซอย ๓๐ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จังหวัดกรุงเทพฯ 10120
เบอร์โทร : ๐๒-๒๙๔-๗๗๑๑



ที่มา https://sites.google.com/site/allthaitemple/wad-pri-was
ขอบคุณภาพจาก
news.bugaboo.tv/watch/198186/เด็ดข่าวแปลก_วิหาร_อุโบสถ_250_ล้าน_ตอน2.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 28, 2015, 09:54:11 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ