ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไหว้พระวัดชนะสงคราม อุปสรรค และศัตรูร้ายพ่ายแพ้  (อ่าน 8425 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ไหว้พระวัดชนะสงคราม อุปสรรค และศัตรูร้ายพ่ายแพ้

สัปดาห์ที่ผ่านมาทีมงานเดินทางไปไหว้พระที่ วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร กันมา ก็ไม่ได้จะไปรบกับใครที่ไหนหรอกนะค่ะ แต่ไปกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ด้วยเมื่อคิดทำสิ่งใดจะได้ปราศจากอุปสรรคนะค่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่คิดจะเดินทางไหว้พระ 9 วัดละก็ วัดชนะสงครามก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับสุดสัปดาห์หน้าก็เป็นวันพระใหญ่ และยังเป็นวันหยุดยาวอีกด้วย ทีมงานก็อยากแนะนำเพื่อนๆ ทุกท่านลองหาเวลาไปทำบุญกันนะค่ะ เลือกวัดใกล้ๆ บ้านก็ได้

กราบสักการะบูชาสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท


วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมอยู่กลางทุ่งนาจึงเรียกว่า "วัดกลางนา"  สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสถาปนาขึ้นใหม่ และรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ทหารรามัญในกองทัพของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ชาวบ้านนิยมเรียกว่า "วัดตองปุ" ให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา เพื่อเทิดเกียรติทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท

ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ เมื่อ พ.ศ. 2328 สงครามที่ท่าดินแดงและสามสบ เมื่อ พ.ศ. 2329 และสงครามที่นครลำปางป่าซาง เมื่อ พ.ศ. 2330 ต่อมาเมื่อมีชัยชนะต่อกองทหารข้าศึกจึงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดชนะสงคราม" เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย พระนามว่า "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดมบรมศาสดา อนาวรญาณ"


พระประธาน "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ"


กราบสักการะพระประธาน "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ" หรือ "หลวงพ่อปู่" เพื่อเป็นสิริมงคลชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง

พระประธานนามว่า "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ" เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตัก กว้าง ๒.๕๐ เมตร สูง ๓.๕๐ เมตร ประดิษฐานอยู่บนฐานสูง ๒ เมตร เดิมสูง ๑.๓๐ เมตร มีอัครสาวกยืนประนมมืออยู่ด้านหน้าพระประธาน ๒ องค์ เบื้องหลังพระประธานมีประภามณฑลโพธิพฤกษ์ และภาพจินตนาการ เบื้องบนมีฉัตรกั้น



มีเรื่องเล่ากันว่า เดิมองค์พระมีขนาดเล็ก เป็นปูนปั้นบุด้วยดีบุก ครั้นเมื่อสมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ เสด็จกลับจาก สงครามเก้าทัพ ได้หยุดพัก ณ วัดแห่งนี้ ทรงถอดฉลองพระองค์ลงยันต์ (เสื้อยันต์) คลุมองค์พระถวายเป็นพุทธบูชา ช่างได้โบกปูนทับทำให้องค์พระใหญ่ขึ้นดังปัจจุบัน

มีความเชื่อว่า หากได้มาสักการะพระประธานในพระอุโบสถ  และพระรูปของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทที่วัดชนะสงคราม  จะทำให้มีชัยชนะเหนือศัตรู และผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวงได้ รวมทั้งชีวิตนั้นจะประสบผลสำเร็จสมตามความมุ่งมาดปรารถนา 
    ไหว้พระประธานในพระอุโบสถ  ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม และดอกบัว 
    สำหรับสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท  ไหว้ด้วยธูป 5  ดอก เทียน 1 เล่ม พร้อมด้วยดอกบัว  1 ดอก



ทีมงานได้เข้ากราบสักการะสรีระสังขารของ  สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ซึ่งท่านได้ละสังขาร มรณภาพโดยสงบ เมื่อเวลา 01.05 น.ยังกุฎิ คณะ 1 ในวัดชนะสงคราม ด้วยโรคชรา สิริอายุรวม 88 ปี 1 เดือน

สำหรับประวัติ สมเด็จพระมหาธีราจารย์

มีนามเดิมว่า นิยม จันทนิทร เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2466 ณ บ้านท่าหิน ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา อายุ 22 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2487 ณ วัดพระญาติการาม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพระเทพวศาจารย์ วัดพนัญเชิง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ฐานิสสโร อันมีความหมายว่า ผู้มีฐานะอันยิ่งใหญ่

พ.ศ.2486 สามารถสอบนักธรรมเอก สำนักเรียนวัดราชบุรณะ และ พ.ศ.2498 จบเปรียญธรรม 9 ประโยคในสำนักเรียนวัดสระเกศ ถือเป็นศิษย์รุ่นพี่รุ่นน้องกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง) วัดปากน้ำภาษีเจริญ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2508 เป็นเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม และพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2529 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม พ.ศ.2539 เป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2535 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏที่สมเด็จพระมหาธีราจารย์ อันมีความหมายเป็นมงคลนามว่า ครูผู้เป็นมหาปราชญ์



สมเด็จพระมหาธีราจารย์ สร้างผลงานให้กับคณะสงฆ์อย่างมากมาย โดยเฉพาะด้านการปกครองของคณะสงฆ์หนกลางให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ด้านการศึกาษาพระปริยัติธรรมล้วนมีความโดดเด่น ด้วยมีการจัดตั้งศาลาทำเป็นห้องเรียนศึกษานักธรรม-บาลีอย่างเป็นระบบ ทำให้สำนักเรียนของ คมสมเด็จวัดชนะฯ มีชื่อเสียงโด่งดัง ปีหนึ่งมีพระภิกษุ-สามเณรสอบได้จำนวนมาก

ตามรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก นายอิสระ พจนี อายุ 55 ปี ในฐานะหลานท่าน กล่าวว่า  "มีเรื่องแปลกประหลาดว่า ท่านเขียนข้อความไว้ในกระดาษด้วยลายมือว่า เกิด พ.ศ. 2466 และเว้นวรรคไว้ ตามด้วยปี 2554 ขึ้น 7 ค่ำวันที่ 11 พร้อมลงลายเซ็นไว้ กระดาษนี้เก็บไว้ใต้หมอน เมื่อก่อนมรณภาพลูกศิษย์เล่าให้ฟังว่า เราหมดหน้าที่แล้ว"


ต้นโพธิ์อายุกว่า 200 ปี


วัดชนะสงครามตั้งอยู่ที่ ถนนจักรพงษ์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร  โทรศัพท์ (662) 281-8244 281-5056

รถประจำทาง: 3 6 9 15 30 32 33 43 64 65 123
รถปรับอากาศ: 38 82 506 (15 เดิม)

ท่าเรือ :
1. เรือด่วนเจ้าพระยา : ท่าพระอาทิตย์
2. เรือโดยสาร : ท่าป้อมพระสุเมรุ (คลองผดุงกรุงเกษม)

เวลาทำการ: บริเวณวัด: ทุกวัน 5.00-20.00 น. โบสถ์ ทุกวัน 6.00-18.00 น.


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://bangkoknoi25.blogspot.com/2011/07/blog-post_12.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ