ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ประเพณี 4 เป็งตานเรือสะเปาคำก่อกองไฟ 'คลายหนาวพระพุทธเจ้า' หนึ่งเดียวพะเยา  (อ่าน 239 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ประเพณี 4 เป็งตานเรือสะเปาคำก่อกองไฟ 'คลายหนาวพระพุทธเจ้า' หนึ่งเดียวพะเยา

วันที่ 17 ม.ค.65 ชาวพุทธศาสนิกชนทั่วจังหวัดพะเยา พากันเข้าวัดทำบุญ เนื่องในประเพณีเดือน 4 เป็งล้านนา ตานข้าวใหม่ ตานหลัวหิงไฟพระเจ้า ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาลในช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวใหม่ รวมทั้งการนำหลัว หรือฟืน ข้าวสารข้าวหลาม ข้าวเปลือก นำมาเข้าวัดทำบุญถวายพระหรือตานโดยเฉพาะการสุมฟืนก่อกองไฟ เพื่อเป็นการสุมไฟคลายหนาวให้พระพุทธเจ้าและเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้วตามความเชื่อของคนล้านนาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

พระครูประยุตสีลสุนทร เจ้าอาวาสวัดศรีบุญชุม อ.แม่ใจ จ.พะเยา พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนร่วมกัน จัดประเพณีเดือน 4 เป็งตานข้าวใหม่ก่อกองไฟผิงคลายหนาวให้พระเจ้าทองทิพย์ เช่นเดียวกันกับวัดแม่ใส ต.แม่ใส อ.เมือง จ.พะเยา จัดประเพณีล้านนา 4 เป็งได้ทำเป็นเรือสะเปาคำ ตานหลัวหิงไฟให้พระเจ้า ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานในช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวใหม่ รวมทั้งการนำหลัว หรือฟืน ตานเพื่อเป็นการสุมไฟคลายหนาวให้พระพุทธเจ้า เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ ญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้ว ตามความเชื่อของคนล้านนา

นายสาคร นาต๊ะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ใส กล่าวว่า ประเพณีเผาหลังผิงไฟให้พระพุทธเจ้าเป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณกาลล้านนาและจะจัดขึ้นในช่วงเดือน 4 เหนือ หรือประมาณเดือนธันวาคมถึงมกราคม ในวันขึ้น 15 ค่ำของเดือน เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ชาวล้านนามีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าหรือพระพุทธรูปในวิหารก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นเช่นเดียวกับคนเรา จึงร่วมกันหาไม้ฟืนมาจุดเผาไฟผิงให้ชึ่งในแต่ละที่ก็จะทำกันหลายรูปแบบแต่ทางบ้านแม่ใสได้ทำเป็นเรือสะเปาคำ ชึ่งไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครถือว่าเป็นหนึ่งเดียวในจังหวัดอีกด้วย




















ขอบคุณ ; https://www.naewna.com/likesara/629131
วันจันทร์ ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2565, 10.59 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ