ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - sutthitum
หน้า: [1]
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน / สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน ทรงเป็นครั้งแรก ของกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2012, 05:47:53 pm


สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน ทรงเป็นครั้งแรก ของกรุงรัตนโกสินทร์ หลายอย่าง หลายประการ

๑.ทรง เป็นพระอาจารย์ พระองค์แรก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ ทรง อาราธนามากรุงเทพฯ

๒.ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นที่ พระญาณสังวรเถร พระองค์แรก ของกรุง รัตนโกสินทร์

๓.ทรงเป็น พระราชาคณะผู้ใหญ่ ที่ พระญาณสังวร พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๔.ทรงเป็นเจ้าอาวาส พระองค์แรก ของวัดราชสิทธาราม ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์

๕.ทรงเป็น สมเด็จพระราชาคณะ ที่สมเด็จพระญาณสังวร พระองค์แรกของกรุงรัตนโกสินทร์

๖.ทรง เป็นสมเด็จพระราชาคณะ พระองค์แรก ที่นั่งหน้า สมเด็จพระสังฆราช องค์แรกของกรุงรัตนโกสินทร์ เนื่องจากมีพรรษากาลมากกว่า

๗.ทรงเป็นสมเด็จ พระสังฆราชที่มาจาก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ พระองค์แรกของกรุงรัตนโกสินทร์

๘.ทรง เป็นองค์ประธานสังคายนาพระกรรมฐาน พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๙.ทรง เป็นพระสงฆ์ และสมเด็จพระสังฆราช พระองค์แรก ที่ได้รับพระราชทานพระโกศทองใหญ่

๑๐.ทรงได้รับพระราชทานพระโกศทองใหญ่ พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๑๑. ทรงเป็น พระองค์แรก ทีมีลูกศิษย์ เป็นพระสังฆราชถึง ๕ พระองค์

๑๒.ทรงเป็น พระองค์แรก ที่มีลูกศิษย์ เป็นสมเด็จราชาคณะ ถึง ๑๐ พระองค์

๑๓.พระเจ้าแผ่นดิน ทรงให้ช่างปั้นรูปเหมือนของพระองค์เป็น พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๑๔.ทรง เป็นสมเด็จพระสังฆราช ที่เป็นพระอริยบุคคลชั้นสูง พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๑๕.ทรงเป็นพระอาจารย์ของพระเจ้าแผ่นดินถึง ๔ พระองค์เป็น พระองค์แรกและองค์สุดท้าย ของกรุงรัตนโกสินทร์

๑๖.ทรงเป็น พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๑๗.ทรง เป็นสมเด็จพระสังฆราช ที่พระอัฏฐิธาตุ พระเกสาธาตุ พระอังคารธาตุแปรเป็นพระธาตุ พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๑๘.ทรง พระราชทานฉัตรเจ็ดชั้น เมื่อคราวออกพระเมรุ ณ ท้องสนามหลวง เป็น พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๑๙.ทรง ได้รับพระราชทาน พัดสองด้าม พัดแฉกใบสาเก ฝ่ายคันถธุระ๑ พัดงาสาน ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ๑ ครั้งเป็นสมเด็จราชาคณะ พระองค์แรกของกรุงรัตนโกสินทร์

๒๐.ทรง ได้รับพระราชทาน พัดสองด้าม พัดแฉกใบสาเก ฝ่ายคันถธุระ ๑ พัดงาสานฝ่ายวิปัสสนาธุระ ๑ครั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์แรกของกรุงรัตนโกสินทร์ จึงถือเป็นประเพณีสืบมา ทรงโปรดพระราช
ทานสมเด็จพระสังฆราช องค์ต่อมาด้วย มายกเลิกในรัชกาลที่๕

๒๑.ทรงพระราชทาน ผ้ารัดประคตพระอุระ (อก) หนามขนุนสีทองพระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์

๒๒.ทรง พระราชทานของที่ระลึก แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงสามพระองค์เป็น พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงถวายพระตระกรุตมหาจักรพรรคิ์ และสมเด็จพระอรหัง แด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑ ถวายสมเด็จพระอรหัง แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๒ รัชกาลที่ ๓

๒๓.ทรง เป็นพระสงฆ์ปาปมุต พ้นจากบาปทั้งปวง พระองค์แรก ของกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนองค์ที่ ๒ คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)
ฯลฯ


พระประวัติ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน)
www.somdechsuk.org


http://www.somdechsuk.org/node/216#comment-78
2  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ปฏิบัติธรรมอย่างไร จึงจะทันสถานการณ์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2012, 11:32:08 am
จั่วห้วข้ออย่างนี้ เพื่อให้ เพื่อนๆ ได้พิจารณา กันครับว่า

   เมื่อเกิดเหตุการณ์ ที่กิเลส มันจู่โจม กันเข้าถล่มตัวเรา ขณะนั้น ความรู้ที่ได้เรียนได้ฟัง กันมาทุกวันได้เปิดออกมาใช้ทันกันหรือไม่

   สำหรับทางกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ แนวทางที่ทันสถานการณ์ นั้นควรทำอย่างไร ? จึงจะทันต่อกิเลส ที่เกิดในขณะนั้น

   เรียนถามเพื่อน ๆ สมาชิก ทุกท่านด้วยความเคารพครับ

   :)

 
3  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / ฝากวีดีโอ กิจกรรม วัดราชสิทธาราม คณะ 5 ให้ชมเพิ่มเติมกันนะครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2012, 11:23:13 am


อัปโหลดโดย bulldog24014 เมื่อ 9 ม.ค. 2012

ช่วยเหลือถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ ให้พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ) คณะ5
สืบสานกรรมฐานมัชฌิมา สมเด็จพระสังฆราชสุก (ไก่เถื่อน)
สวดมนต์ข้ามปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2555
วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ)
4  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / หมั่นตรอง เดินทางสู่จุดจบชีวิต เมื่อ: ธันวาคม 17, 2011, 12:17:03 pm
ธัมมะ พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม

คัดจากหนังสือพิมพ์บ้านเมือง หน้าปก และ หน้าที่ ๒ ฉบับวันจันทร์ที่ ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๒๙

หมั่นตรอง เดินทางสู่จุดจบชีวิต

ความจริงกับจิตใจเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในชีวิตของเราทุกคน ตราบใดที่ยังไม่สามารถสร้างอำนาจส่วนคุ้มครองบังคับจิตของเราอย่างสมบูรณ์ก็ไม่สามารถน้อมนำเอาสภาพความจริงทั้งหลายมาให้จิตใจเรายอมรับได้ ต้องตกเป็นทาสกิเลส ตัณหา อุปาทาน ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ไม่ยอมรับความเป็นจริง

สภาพชีวิตของสังคมเราทุกวันนี้ มีเงื่อนแง่ให้คิดระหว่างความจริง กับ จิตใจ อย่างมาก มีการประกาศยึดมั่นในความจริงเป็นสรณะกันมาก แต่จิตใจของผู้ประกาศไม่มีสิ่งคุ้มครองบังคับจิตใจให้ยอมรับความจริง จึงเพียงแต่พูดกันปาวๆ เท่านั้น พฤติกรรมหาเป็นไปด้วยไม่ “ธัมมะวันจันทร์บ้านเมือง” ที่ 8 กันยายน 2529 ใคร่ขอนำข้อธรรมของพระอาจารย์สมชาย  ฐิตวิริโย แห่งวัดเขาสุกิม อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ที่ท่านกล่าวถึงความเป็นจริง และจิตใจ เป็นเลิศ หากรับฟังและพิจารณาเพื่อนำมาปฏิบัติ

ท่านได้กล่าวในแง่ของธัมมะว่า การปฏิบัติธรรมนั้น สำคัญอยู่ที่ใจเราไม่ค่อยยอมรับสิ่งที่เรารู้ เพราะเรารู้โดยสัญญา อย่างอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สัญญาของบุคคล สอนกันอยู่นั่น ไม่เกินจากนี่ไปเลยว่า อนิจจังคืออะไร ทุกขังคืออะไร ทุกข์ทางไหนบ้าง กายหรือใจ อนัตตาคือไม่ใช่อาตมะตัวเขาตัวเราอะไรเลย เพียงแค่ธาตุโลกมาประชุมกันอยู่ เขาก็ต้องสลายไปตามธาตุโลก ลองคิดดู เราพูดได้ แต่ใจเรารับหรือไม่ต่อความเป็นจริง อย่างนี้นี่คือสิ่งสำคัญความจริงจิตใจ

ต้องสร้างอำนาจคุ้มครองบังคับจิต

ทำไมเราจึงต้องยอมรับความจริงด้วยจิตใจ ถ้าใจเรารับก็ถือเป็นอริยบุคคล หรือยอมรับสภาพเหล่านี้เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่ใช่อาตมะว่าเป็นจริงแท้แน่นอนเพียงแค่นี้ ความทะเยอทะยานเห่อเหิมจะหมดไป สิ่งที่เราเห็นมา คนเจ็บ คนแก่ คนตาย เราเห็นทั้งนั้น

แต่ทำไมใจเราแยกนั่นตายนั่นเป็น

ทำไมไม่เห็นเป็นอันเดียวกัน

ทำไมใจเราจะยอมรับว่า เราเดินกันอยู่ทุกวันนี้ล้วนไปสู่จุบจบของชีวิตกันทุกเวลานาที ถ้าเรายอมรับความจริงนี้ใจเราจะเศร้าสลด วางจากสิ่งฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม คลายจากความหลงที่เรากำลังหลงอยู่เวลานี้


เราจะทำอย่างไรถึงจะให้ใจของเราเป็นไปในแง่ของการรับความจริง มีอยู่วิธีเดียวคือ การบำเพ็ญเพียรภาวนาเท่านั้นเอง ถ้าเราทำได้เป็นการสร้างอำนาจส่วนที่คุ้มครองขึ้น สามารถบังคับจิตเราได้อย่างสมบูรณ์ให้อยู่ใต้ส่วนที่คุ้มครอง เราก็สามารถน้อมนำสภาพความจริงเหล่านั้น มาให้ใจเรายอมรับ แล้วจะรู้สิ่งที่ยังไม่รู้ต่อไป


และรู้ลึกลงไปอีก ส่วนหยาบรู้และเข้าใจดีแล้ว ส่วนกลางก็ย่อมรู้ตามจนกระทั่งส่วนละเอียดของกิเลสต่างๆ อันเป็นภพของจิตที่จะเชื่อมต่อกัน มีรูปลักษณะเช่นไร เราก็จะเข้าใจหมด เห็นสภาพสิ่งอื่นชัดเจนขึ้นมา


ให้เข้าใจคำว่า “พุทธะ” แล้วจะรักยิ่ง


แต่ถ้าเรายังไม่รู้และไม่อาจสร้างสิ่งคุ้มครองให้ได้โดยสมบูรณ์ไม่สามารถบังคับจิตเราให้อยู่ในส่วนที่คุ้มครองได้ แม้เราจะคุยว่ารู้ความจริงก็เพียงคุยได้แค่ปาก ใจยังไม่ยอมรับความจริงนั้น จึงเป็นเพียงแค่ปุถุชน ไม่ใช่อริยะบุคคล

จำต้องบำเพ็ญเพียรภาวนาให้เข้าถึงและยอมรับความเป็นจริงให้ได้ ถ้าเราเร่งความเพียรก็จะเห็น “พุทธะ” อย่างถูกต้อง ถ้าเราสามารถทำสมาธิให้เข้าใจคำว่าพุทธะอย่างถูกต้องแล้ว  เราจะรักศาสนาพุทธยิ่งกว่าชีวิต อุทิศทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพระพุทธศาสนาแน่นอน


น่าเสียดายชาวพุทธที่ประกาศตนเป็นพุทธมามกะ แต่ยังเข้าใจไม่ถึงพุทธะกัน ยังงมงายอยู่แต่รอบนอก ยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา เรื่องของพุทธะนี้พิสดารมาก  เป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก  ถ้าผู้ใดเข้าถึงแล้วจะรู้ว่า...อื้อ, คำว่าพุทธะนี้ช่างพิลึก  คำว่าพุทธะนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์  ใครเข้าถึงแล้วจะปลื้มใจที่สุดในชีวิตแล้วจะออกอุทานในทันทีว่า...เราไม่เสียชาติเกิด


อย่าเป็นคนหลงเงา วิ่งตามเงา


พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย แนะวิธีทำจิตใจให้ยอมรับความจริงว่า อยู่ที่การปฏิบัติธรรมภาวนาให้เกิดสมาธินั่นเอง เพื่อสร้างสิ่งคุ้มครองขึ้น  สามารถบังคับจิตเราได้อย่างสมบูรณ์ให้อยู่ใต้ส่วนที่คุ้มครอง จะทำให้ใจเราจำนนต่ออำนาจส่วนที่เราสร้างขึ้นมา


แล้วเราจะใช้โอปนยกะธรรมน้อมธรรมะหรือสิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราได้ยินได้ฟังเหล่านั้นเข้ามาสอนใจเรา ให้ใจเรายอมรับต่อสภาพความจริงเหล่านั้นได้ เราอย่าหลงเงา อย่าวิ่งตามเงาเป็นอันขาด


จงเข้าหาสมาธิที่แท้จริง จะได้เป็นอิสระ เป็นไทกันจริงๆ ไม่ตกเป็นทาสสิ่งหนึ่งสิ่งใดทั้งปวง การทำสมาธิก็ใช้วิธีง่ายๆ ไม่ต้องไปเคร่งครัดอะไรมาก นั่งลงวางเท้าซ้ายก่อน แล้ววางเท้าขวาทับบนในท่าขัดสมาธิ ถ้าผู้ใดไม่สะดวกในการนั่งสมาธิ จะนั่งพับเพียบก็ได้ หงายมือซ้ายวางบนตัก หลายมือขวาวางซ้อนลงไป ไม่จำเป็นต้องให้หัวแม่มือชนกัน หรือหัวแม่มือชนกับปลายนิ้วชี้ วางมือหงายในท่าสบายๆ ตามถนัด ถ้านั่งหลังตรงไม่ได้ไม่สบาย ก็หย่อนให้กายเขาอยู่ในท่าสบายที่สุด


การนั่งกรรมฐานไม่ใช่เรื่องยาก


เมื่อนั่งในท่าสบายๆ ดีแล้ว ก็ใช้วิธีกำหนดลมหายใจเข้าออก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด กำหนดจุดรับรู้เข้าออกของลมหายใจไว้ตรงปลายจมูกคือรูทั้งสองข้าง เวลาหายใจเข้าก็บริกรรมคำว่า

“พุท” จิตอยู่ตรงลมผ่านเข้าที่ปลายจมูก ไม่ต้องส่งจิตตามลมเข้าไปให้ยุ่งยาก เพียงแค่กำหนดรู้ตรงรูปลายจมูกเท่านั้นว่าลมได้ผ่านเข้าแล้ว


พอหายใจออกให้ภาวนาบริกรรมคำว่า “โธ” กำหนดจิตให้รู้การสัมผัสของลมที่ปลายจมูกเช่นเดียวกับหายใจเข้า ไม่ต้องตามลมออกไป


การบริกรรมระหว่างนั่งภาวนา ไม่ต้องออกเสียง เพียงนึกในใจ “พุท-โธ” เท่านั้นปล่อยลมหายใจให้เป็นไปตามสบาย ไม่ต้องเครียดต้องเกร็ง หลวมๆ

อย่ากำหนดต้องรู้ต้องเห็นอะไรระหว่างนั่นบริกรรมพุทโธ ปล่อยใจให้สบายตามปกติ


แต่ถ้าเกิดวิปริตขึ้นมาระหว่างนั่งกรรมฐาน ก็ต้องปล่อยอย่าไปหลงยึดหลงติด เพราะความวิปริตนั้นหมายถึงการผิดปกติธรรมดา ไม่ใช่เรื่องของความวิเศษใดๆ


การนั่งแล้วไม่มีสิ่งวิปริต จิตว่างสงบนิ่งดีเป็นปกตินี่คือการนั่งที่ถูกต้อง ถ้านั่งแล้วรู้สึกตัวพองใหญ่ขึ้นจนคับห้อง อย่างนี้ไม่ใช่ปกติธรรมดา เป็นอาการวิปริตต้องถอนจิตออกจากสมาธิให้ความวิปริตนั้นหายไป จะเห็นได้ว่าการนั่งปฏิบัติธรรมกรรมฐานนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ทำตัวทำใจให้สบายๆ แล้วจิตจะเป็นสมาธิเอง


ไม่มีลัทธิใดจะประเสริฐเท่าพุทธ


พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย แห่งวัดเขาสุกิม จันทบุรี เปรียบเทียบลัทธิอื่นกับพระพุทธศาสนาว่า จากประสบการณ์ของชีวิตท่านซึ่งไม่ใช่ชาวพุทธมาก่อน ถือลัทธิอื่นตามต้นตระกูลที่เป็นหัวหน้าลัทธิหนึ่ง แต่พอเติบใหญ่ท่านสนใจในทางพุทธศาสนามาก ยอมถูกตีถูกทำโทษรุนแรงที่แอบมาศึกษาทางพุทธ กระทั่งหัวหน้าลัทธิถึงแก่ชีวิตจึงมีอิสระออกมาชวชเมื่ออายุได้ 19 ปี เป็นเณรก่อน 2 ปี จึงเป็นพระกระทั่งปัจจุบัน


“พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่สุดกว่าลัทธิใดๆ ปฏิบัติให้ถึงพุทธจริงๆ จะภูมิใจที่สุดว่าได้เกิดเป็นชาวพุทธ ไม่เสียทีที่เกิดเป็นมนุษย์แล้วได้พบได้ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา


ลัทธิอื่นถือพิธีกรรมภายนอกเป็นแก่นศาสนา แต่พุทธศาสนาเราถือการปฏิบัติจิตภายในเป็นแก่น ใครปฏิบัติได้ถึงจะอุทานได้เต็มปากว่าไม่เสียชาติเกิดจริงๆ จงปฏิบัติกันเถิดจะบังเกิดผลเป็นอัศจรรย์”
---------------------------------------------------------------------------
บังเอิญไปเจอ นสพ.ฉบับนี้ จึงตั้งใจนำมาพิมพ์เผยแพร่เป็น ธรรมะทาน

อนุโมทนากับทุกท่าน ที่น้อมใจอ่านกระทู้นี้ สาธุ


จากคุณ    : ญัติสมมุติ
5  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / หลวงพ่อก๋องคำ เผาไม่ไหม้ เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2011, 09:50:30 pm
หลวงพ่อก๋องคำ เผาไม่ไหม้ clip1


หลวงพ่อก๋องคำ เผาไม่ไหม้ clip2


หลวงพ่อก๋องคำ เผาไม่ไหม้ clip3
6  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / หลวงปู่ใหญ่ สร้างความอัศจรรย์ ประหลาดใจ สังขารไม่เน่าเปื่อย เมื่อ: สิงหาคม 28, 2011, 06:44:19 pm
หลวงปู่ใหญ่ สร้างความอัศจรรย์ ประหลาดใจ สังขารไม่เน่าเปื่อย
ท่านเป็นคนสระบุรี

7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ถ้ำน้ำบ่อผี แม่ฮ่องสอน เมื่อ: สิงหาคม 28, 2011, 06:19:28 pm


ถ้ำน้ำบ่อผี แม่ฮ่องสอน
8  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ขอถามเืพื่อนสมาชิก มีความเห็นอย่างไร กับการที่พระต้องทำวัตถุมงคล จำหน่ายครับ เมื่อ: สิงหาคม 27, 2011, 06:03:09 pm
ขอถามเืพื่อนสมาชิก มีความเห็นอย่างไร กับการที่พระต้องทำวัตถุมงคล จำหน่ายครับ
คือเห็น ด้วยหรือไม่ว่า ควรให้พระทำอย่างนั้น หรือ ควรสนับสนุนให้พระทำอย่างนี้



ปลุกเสก - นักประดาน้ำกองทัพเรือ สวมหน้ากากให้พระครูสิลิฐสรคุณ หรืออาจารย์จิ้ม เกจิดังเมืองระยอง ก่อนจะดำลงไปปลุกเสกตะกรุดนานกว่า 1 ชั่วโมง จนเป็นที่ฮือฮาของผู้ร่วมพิธี ที่ชายหาดสอ สัตหีบ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.
 
 
เกจิดัง เมืองระยองดำน้ำทะเลนานกว่า 1 ชั่วโมง ปลุกเสกตะกรุดลูกปืน 100 ปี 5,999 ดอก ให้ทหาร-ตำรวจไว้ป้องกันตัวยิงไม่เข้ายิงไม่ออก เผยใช้ศาสตร์ปิดทวารทั้ง 9 โดยมีนักประดาน้ำสวมหน้ากากให้พร้อมดำเป็นเพื่อนนาน 1 ชั่วโมง 9 นาที เป็นที่ฮือฮาเมื่อพระอาทิตย์ทรงกลด ระหว่างพิธีปลุกเสกเบิกเนตรวัตถุมงคล ครบรอบ 100 ปี กรมสรรพาวุธทหารเรือ

เมื่อเวลา 13.09 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่อุโบสถวัดสามัคคีบรรพต บางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กรมสรรพาวุธทหารเรือประกอบพิธีปลุกเสกเบิกเนตร พระพุทธศตวรรษมหามงคลและเหรียญโลหะ ด้านหน้าเป็นพระพุทธศตวรรษมหามงคล ด้านหลังเป็นพระรูปกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ โดยมีพล.ร.ต.ณรงค์พล ณ บางช้าง เจ้ากรมสรรพาวุธทหารเรือ เป็นประธาน ในการจัดสร้างในวาระครบรอบ 100 ปี กรมสรรพาวุธทหารเรือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโอกาสเดียวกัน กรมสรรพาวุธทหารเรือนำปลอกลูกปืนเก่า 100 ปี ขนาด 5.56 มิลลิเมตร และขนาด .38 มาประกบเข้าด้วยกันทำเป็นตะกรุด 5,999 ดอก พร้อมกับนิมนต์พระครูสิลิฐสรคุณ หรือพระอาจารย์จิ้ม เจ้าอาวาสวัดศรีวโนภาสสถิตย์พร อ.เมือง จ.ระยอง เกจิอาจารย์ชื่อดังในภาคตะวันออก ลูกศิษย์ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อบุญเย็น วัดป่าทรง ธรรม หลวงพ่อเล็ก วัดถ้ำพรหมจรรย์ จนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเวทมนต์คาถา การสร้างวัตถุมงคล และที่มีชื่อเสียงในขณะนี้คือ ปลุกเสกเดี่ยวตะกรุดใต้ทะเล ให้กับทหารตำรวจ จนมีประสบ การณ์ยิงไม่ออกยิงไม่เข้า ถูกของมีคมไม่ระคายผิวหนังมาแล้ว

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พระอาจารย์จิ้มเดินลงไปในทะเล ท้องฟ้าก็ยังไม่ปรากฏสิ่งแปลก ต่อเมื่ออาจารย์ได้ทำพิธีบวงสรวงถวายหมาก พลู ดอกไม้ และขอขมาพระแม่คงคา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วดำน้ำลงไป บนท้องฟ้าได้เกิดปาฏิหาริย์ พระ อาทิตย์ทรงกลด แต่แสงแดดอ่อนไม่ร้อนจนเกินไป จนเป็นที่ฮือฮาอย่างมากสำหรับผู้ที่เข้าร่วมพิธีทั้งบนบก นอกจากนี้ในระหว่างที่มีการปลุกเสก นักประดาน้ำจากกองทัพเรือยังได้นำหน้ากากประดาน้ำสวมให้กับพระอาจารย์จิ้ม และคอยอำนวยความสะดวกอยู่ในทะเล และดำน้ำลงไปพร้อมกับพระอาจารย์จิ้ม เพื่อทำพิธีปลุกเสกนานถึง 1 ชั่วโมง 9 นาที

ด้านพระครูสิลิฐสรคุณ กล่าวว่า สำหรับพิธีปลุกเสกด้วยการดำน้ำลงไปใต้ทะเล เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ปลุกเสกในเรื่องของคงกระพันชาตรี หนังเหนียว ศาตราวุธทำอะไรไม่ได้ แต่ต้องอยู่ในศีลในธรรมด้วย การปลุกเสกใต้ทะเลเป็นการปิดทวารทั้ง 9 ได้วิธีเดียวเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการอวดวิเศษ หรืออวดอุตริแต่อย่างใด และอาตมาจะทำ ให้เฉพาะทหาร ตำรวจ ที่ออกไปปฏิบัติภารกิจที่เสี่ยงภัยต่อชีวิต และเสียสละเพื่อแผ่นดินเท่านั้น ไม่ได้ปลุกเสกให้พร่ำเพรื่อ


ที่มาจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด
http://new.goosiam.com/news1/html/0010495.html
9  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ปฏิบัติกรรมฐาน เพียงเพื่อปล่อยวาง ใช่หรือไม่ เมื่อ: สิงหาคม 15, 2011, 10:47:52 am
ปฏิบัติกรรมฐาน เพียงเพื่อปล่อยวาง ใช่หรือไม่ ?

  ถ้าหากใจเราปล่อยวางได้ ก็ไม่ต้อง ปฏิบัติกรรมฐาน ใช่หรือไม่ ?

 การปล่อยวาง กับ การหนีปัญหา เหมือนกันหรือไม่ ?

  สมมุติ นะครับ ว่าเขา มาด่าเรา ยืนด่าเรา ชี้หน้าด่าเรา และทำร้ายเรา

   เราเิดินหนีไป อย่างนี้จัดว่าเป็นการปล่อยวางได้หรือไม่ครับ

  :smiley_confused1: :c017:


10  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ใครมี อารมณ์ อย่างนี้บ้าง คือ เห็นและปล่อยชีวิตไปวัน ๆ ครับ เมื่อ: สิงหาคม 05, 2011, 11:17:30 am
คือปฏิบัติ มาก็นานแล้ว ทุกวันนี้พอถึงเวลา ก็มักจะปล่อยเวลาไปเฉย ๆ โดยที่ไม่รู้จะทำอะไรในการภาวนา
ดังนั้น ที่ผมสงสัยคือ ผู้ฝึกภาวนาควร นั่ง ยืน เดิน นอน เพืี่อภาวนากรรมฐาน ตลอดเวลาเลยหรือไม่ครับ
แท้ที่จริงการภาวนานั้น เป็นการฝึก แล้ว เราต้องฝึกตลอดเวลาหรือไม่ หรือว่า การภาวนาไม่ใช่การฝึก

 ผมอาจจะให้ความหมายในการภาวนา ผิด ก็คงเป็นไปได้ครับ จึงมีอารมณ์อย่างนี้ ไม่ทราบว่าเพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องการภาวนา หรือ ไม่ภาวนาปล่อยชีวิตไปวัน ๆ ครับ

  :s_hi: :13:
11  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / พระนิพพานตั้งอยู่ ทางไปถึงก็มีอยู่ ( ทำไมมัวแต่รออะไร ๆ ) เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 01:47:27 pm

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.ezytrip.com

พระนิพพานตั้งอยู่ ทางไปถึงก็มีอยู่
...ฯ...พราหมณ์ ! ฉันใดก็ฉันนั้น,
ที่พระนิพพาน ก็ยังตั้งอยู่,
ทางเป็นเครื่องถึงพระนิพพาน ก็ยังตั้งอยู่,
เราผู้ชักชวน ก็ยังตั้งอยู่,
แต่สาวกของเรา แม้เรากล่าวสอน พร่ำสอนอยู่อย่างนี้ น้อยพวกได้บรรลุนิพพาน
อันเป็นผลสำเร็จถึงที่สุดอย่างยิ่ง, บางพวกไม่ได้บรรลุ.

พราหมณ์ ! ในเรื่องนี้เราจักทำอย่างไรได้เล่า, เพราะเราเป็นเพียงผู้บอกทางเท่านั้น
อุปริ. ม. ๑๔/๘๕/๑๐๑
12  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ความยากที่จะได้เป็นมนุษย์... ( ก่อนที่จะเสียโอกาส ) เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 01:44:06 pm



ความยากที่จะได้เป็นมนุษย์...
ภิกษุ ท. ! ถ้าสมมติว่า มหาปฐพีอันใหญ่หลวงนี้มีน้ำท่วมถึงเป็นอันเดียวกันทั้งหมด
บุรุษคนหนึ่ง ทิ้งแอก(ไม้ไผ่ ?) ซึ่งมีรูเจาะได้เพียงรูเดียว ลงไปในน้ำนั้น
ลมตะวันออกพัดให้ลอยไปทางทิศตะวันตก, ลมตะวันตกพัดให้ลอยไปทางทิศตะวันออก,
ลมทิศเหนือพัดให้ลอยไปทางทิศใต้, ลมทิศใต้พัดให้ลอยไปทางทิศเหนือ, อยู่ดังนี้
ในน้ำนั้น มีเต่าตัวหนึ่ง ตาบอด ล่วงไปร้อย ๆ ปี มันจะผุดขึ้นมาครั้งหนึ่ง ๆ

ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
จะเป็นไปได้ไหม ที่เต่าตาบอด ร้อยปีจึงจะผุดขึ้นสักครั้งหนึ่ง
จะพึงยื่นคอเข้าไปในรูซึ่งมีอยู่เพียงรูเดียวในแอกนั้น ?

“ข้อนี้ยากที่จะเป็นไปได้ พระเจ้าข้า ! ที่เต่าตาบอดนั้น ร้อยปี
ผุดขึ้นเพียงครั้งเดียว จะพึงยื่นคอเข้าไปในรูซึ่งมีอยู่เพียงรูเดียวในแอกนั้น”

ภิกษุ ท. ! ยากที่จะเป็นไปได้ ฉันเดียวกัน
ที่ใคร ๆ จะพึงได้ความเป็นมนุษย์
ที่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ จะเกิดขึ้นในโลก
ที่ธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองไปทั่วโลก

ภิกษุ ท. ! แต่ว่า บัดนี้ ความเป็นมนุษย์ ก็ได้แล้ว;
ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะก็บังเกิดขึ้นในโลกแล้ว;
และธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว ก็รุ่งเรืองไปทั่วโลกแล้ว

ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึงกระทำโยคกรรม เพื่อให้รู้ว่า
นี้ ทุกข์
นี้ เหตุให้เกิดทุกข์
นี้ ความดับแห่งทุกข์
นี้ หนทางให้ถึงความดับแห่งทุกข์ ดังนี้ เถิด
มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๖๘/๑๗๔๔
13  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / กินททสูตรที่ ๒ ให้อะไร ชื่อว่า อะไร พระสูตรนี้มีคำตอบครับ เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2011, 03:46:24 pm
 [๑๓๗] เทวดาทูลถามว่า
        บุคคลให้สิ่งอะไรชื่อว่าให้กำลัง ให้สิ่งอะไรชื่อว่าให้วรรณะ
 ให้สิ่งอะไรชื่อว่าให้ความสุข ให้สิ่งอะไรชื่อว่าให้จักษุ
 และบุคคลเช่นไรชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าพระองค์ทูลถาม
 พระองค์ ขอพระองค์ตรัสบอกแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด ฯ
     [๑๓๘] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
 บุคคลให้อาหารชื่อว่าให้กำลัง ให้ผ้าชื่อว่าให้วรรณะ ให้ยาน
พาหนะชื่อว่าให้ความสุข ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่าให้จักษุและ
ผู้ที่ให้ที่พักพาอาศัยชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ส่วนผู้ที่พร่ำสอน
 ธรรมชื่อว่าให้อมฤตธรรม ฯ




14  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ทำไมต้องฝึก พระพุทธานุสสติ ถ้าเราสามารถฝึกอานาปานสติได้ เลยครับ เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2011, 12:06:59 pm
ความสำคัญของพระพุทธานุสสติ นั้น เพียงระลึกในพระพุทธคุณ 9 เพียงพอหรือไม่

เราดำเนินจิตตาม อานาปานสติ เลยไม่ได้หรือครับ

 :c017:
15  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมบริจาคสร้างหุ่นขี้ผึ้ง วิชากรรมฐาน ( การเดินจิต ) 4 รูป เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2011, 11:29:19 am
ปี พ.ศ. 2554 สร้างหุ่นขี้ผึ้งเดินจิตกรรมฐานอีก 4 รูป
เข้าพิพิธภัณฑ์กรรมฐาน สมเด็จพระสังฆราช(สุกไก่เถื่อน)
1. รูปหุ่นขี้ผึ้ง          การเข้าสะกดกรรมฐาน (โยคะวัชระ)

2.รูปหุ่นขี้ผึ้ง          การเข้าวัด ออกวัด ปีติ5

3.รูปหุ่นขี้ผึ้ง          การเข้าวัด ออกวัด ยุคล 6

4.รูปหุ่นขี้ผึ้ง          การเข้าวัดออกวัดสุขสมาธิธรรมเจ้า

รูปขี้ผึ้งเดินจิตกรรมฐาน อีก 4 รูป



ร่วมบริจาคโดย
โอนเงินผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขาโพธิสามต้น
บัญชีเลขที่ 067-2-83847-9
ในนามพระวีระ สุขมีทรัพย์(พระครูสิทธิสังวร)


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.somdechsuk.org/node/155
หน้า: [1]