ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - samathi
หน้า: [1] 2 3
1  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: “นุ่งโจง ห่มสไบ ร่วมแต่งไทย เที่ยวงานวัง” งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 2561 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2018, 05:34:57 pm
 like1 like1 like1
ยังไม่เห็นเล่าอะไรเลย รออ่านมาหลายวันแล้ว

 :49:
2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอความร่วมมือ สมาชิก เพื่อสำรวจสถานะ ของสมาชิก เพื่อ ธรรมวิจยะ ให้เหมาะสม เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2016, 12:34:43 pm
เคยพบพระอาจารย์ ที่โรงหล่อ ตอนไปกับคณะ คะ
ส่วนตัว ขึ้นกรรมฐาน ที่วัดพลับคะ แต่ชอบฟังในรายการ ที่พระอาจารย์สอนคะ ปฏิบัติตามได้เร็ว คะ เสียดายที่ฟังได้น้อยมีแค่ พระธรรมปีิติ คะ

   st11 st12 st12
3  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: รู้จักไล่อาคันตุกะ จิต กันบ้าง ( ไฟล์เสียง - ช่วงนี้ป่วย พิมพ์ไม่ไหว ) เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2016, 12:59:39 am
 st11 st12 st12

  คือมาที่เว็บนี้ก็เพราะเนื้อหา กรรมฐาน ที่ไม่มีที่อื่น คะ และไฟล์เสียง อาจารย์ หาฟังได้ยากคะ อยากให้ทำมาอีกคะ ชอบมากคะ

  :25: :25: :25:
4  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ทำไม พระอาจารย์ เปิดเสียงบรรยาย พอจ. กิตติวุฑโฒ บ่อย มากคะ เมื่อ: กันยายน 14, 2015, 10:33:06 am
ลงชื่อไว้ก่อน ไง ส่วนทำเมื่อไหร่
 ก็ค่อยว่ากัน ที่สำคัญ ส่วนตัว ก็อยากได้ ชุด อานาปานสติ 155 ตอน เคยฟังตอนที่ 70 - 85 เพราะสนใจมาก เป็นตอนที่พระอาจารย์ บรรยายเรื่อง ฌาน 1 2 3 4 และ 5 แต่ช่วงหลังมาหลายเดือนนี้ ไม่ได้ฟังอีกเลย ไม่รู้เพราะอะไร และรายการเปลี่ยนแปลง เป็น ประวัติหลวงปู่ เป็นส่วนใหญ่ ด้วย

  ถ้าได้ฟังครบ 155 ตอนนี้ น่าจะมีประโยชน์ในทางการภาวนา มาก คะ

   st11 st12 st12
5  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พิจารณาวิบากกรรม ของศิษย์แต่ละคน ( หรือผู้ที่เคยนับถือกัน ) เมื่อ: สิงหาคม 11, 2015, 12:46:37 am
OH my god !
Like  like1 like1 like1
6  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ กองผ้าป่า ช่วยเหลือ สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน ปี 2557 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2014, 03:32:40 am
 st11 st12
7  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หนังสือ ประพันธ์ บทความ อารมณ์ จะแจกเป็น PDF เนื่องด้วยเล่มนี้ ต้นทุนการพิมพสูง เมื่อ: กันยายน 29, 2014, 06:19:53 am
 st11 st12
8  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่ง พระธรรม อาจจะเปิดดาวน์โหลด เป็น PDF เมื่อ: กันยายน 27, 2014, 12:38:52 am
 st11 st12
9  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปณิธาน ในการภาวนา และการเผยแผ่ พระธรรม เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2014, 07:57:34 am
 st11 st12
10  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญร่วมสร้างพระวิหารหลวงวิหารพระพุทธเมตตา กว้าง 14 เมตร ยาว 25 เมตร เมื่อ: มกราคม 15, 2013, 01:51:50 am
 st11 st12 thk56 กับข่าวสารงานบุญ นะครับ

  แต่ว่า ผมว่า การเรี่ยไร บอกบุญของ ทางวัดนี้มีหลายงาน มากนะครับ ผมเอง ก็หาทุนทรัพย์ไม่ทันบริจาค ครับ ก็คงต้องเลือกเอาสักงาน นะครับ จะไปหล่อพระ หรือ จะไปสร้างวิหาร
 
  ไม่ใช่จะตำหนิ เรื่องการบอกบุญนะครับ แต่บรรดาเพื่อน ๆ ผมที่ไปบอกบุญ ก็ออกเสียงกันอย่างนี้เวลาผมไปชวนร่วมบุญ พอเห็นหน้าผม ก็จะหนี ๆ กันบ้างแล้วครับเพราะนำเรื่อง บุญของคณะ 5 ไปแจ้งบอก ก็บ่นกันมาว่า มีทุกเดือน เลย ส่วนนี้ก็อาจจะลำบากใจกันบ้างนะครับ สำหรับงานบุญ เวลาบอกกัน......

   เล่าไว้ เป็นกำลัง สำหรับท่านที่ชักชวนเพื่อน ๆ นะครับ
11  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปุจฉา จำเป็นต้องฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ หรือไม่ครับ ถ้าเราจะฝึก วิปัสสนา เมื่อ: มกราคม 15, 2013, 01:47:56 am
 ans1
 
   ไม่จำเป็นต้องฝึกกรรมฐาน ทั้งหมด ทุกกองก็ได้ครับ เพียงแต่ ภาวนาให้อยู่ในหลักของมหาสติปัฏฐาน ก็ใช้ได้แล้วครับ ถ้าเราไม่หลุดจากมหาสติปัฏฐาน ก็จะสามารถ ถึงมรรค ผล นิพพาน ญาณ 10 ได้เช่นกันครับ

  :49:
12  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปุจฉา ฆ่าอะไร ถึง จะมีความสุข คะ เมื่อ: มกราคม 15, 2013, 01:46:33 am
 ans1

   ฆ่า อะไร ถึงจะมีความสุข
     เบื้องต้นต้องตอบว่า ฆ่า ความเห็นแ่ก่ตัว แล้วจะมีความสุข ครับ
     เบื้องกลาง ต้องตอบว่า ฆ่า กามคุณ และ พยาบาท แล้วจะมีความสุขครับ
     เบื้องปลาย ต้องตอบว่า ฆ่า อวิชชา ถึงจะมีความสุข ครับ

   :s_hi:
13  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปุจฉา ในการใช้ท่วงท่า เช่น รำมวยจีน อย่างเช่น ไท้เก็ก จัดเป็นสมาธิได้หรือไม่คะ เมื่อ: มกราคม 15, 2013, 01:44:58 am
 ans1

  ผมว่า ในโลก มีคนฝึกวิชาไท้เก็ก มากกว่า คนฝึกสมาธิ นะครับ แต่ ไม่ใช่ฝีก ไท้เก็ก แล้วจะได้เป็น พระอริยะ คงเป็นได้แค่ เซียน นะครับ เพราะไท้เก็กนั้น เป็นวิชาของเต๋า ครับ จะจัดว่าวิชาเต๋า เข้าถึงแก่นธรรมของพระพุทธศาสนา และ บรรลุถึงนิพพานนั้นไม่ได้ ครับ เพราะในวิถีเต๋านั้น บำเพ็ญเพียงเสริมสร้างจิตแบบโพธิสัตว์ แต่ที่แน่ ๆ ในยุค พุทธันดร นี้ย่อมไม่มี พระพุทธเจ้า หลายองค์แน่ ๆ ขัดกับหลักคำสอน ว่า พุทธันดรหนึ่งนั้นมีพระพุทธเจ้า องค์เดียว เท่านั้นครับ ดังนั้น เชื่อได้เลยครับว่า หลักการ ไท้เก็ก นั้นไม่มี อริยสัจจะ 4 อย่างแน่นอนครับ และ ไม่อริยะมรรค มีองค์ 8 ด้วยเช่นกัน

  แต่หากว่าจะจัดเป็นสมาธิ แล้ว  ก็เป็นสมาธิในระดับหนึ่ง ซึ่งน่าจะถึงสมาธิระดับ อุปจาระสมาธิ ได้

  เพราะขั้นอัปปนาจิต นั้นไม่มีการเคลื่อนไหว นะครับ

   :welcome:
14  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: หลวงพ่อสด ศึกษาขึ้นกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ด้วยนะคะ เมื่อ: ตุลาคม 23, 2012, 01:08:32 am
พึ่งทราบ ว่าหลวงพ่อสด ก็ขึ้นกรรมฐาน ที่วัดราชสิทธาราม ด้วย

 :25: :c017:
15  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ความไม่เชื่อ เรื่อง สวรรค์ นรก แบบ ภพภูมิ เป็นอุปสรรค กับการภาวนาหรือไม่ครับ เมื่อ: มิถุนายน 16, 2012, 01:23:59 pm
ความไม่เชื่อ เรื่อง สวรรค์ นรก แบบ ภพภูมิ เป็นอุปสรรค กับการภาวนาหรือไม่ครับ

  คือ ส่วนตัวไม่เชื่อ เรื่อง นรก สวรรค์ ทีเป้นภพภูมิ แต่เชื่อ เรื่อง นรก สวรรค์ ที่เกิดสัมผัสจากอายตนะ ที่เป็นปัจจุบันในใจนี้มากกว่า ครับ

  ไม่ทราบว่าความคิด อย่างนี้จะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการปฏิบัติอย่างไรบ้างครับ

   :smiley_confused1: :c017:
16  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ทำอย่างไร ที่จะชนะความน้อยใจ แค้นใจ นี้ได้ เมื่อ: มีนาคม 18, 2012, 07:33:30 pm
ต้องมองเห็นความจริง ก่อนว่า

   เรามีความแก่ เป็นธรรมดา
   เรามีความเจ็บ เป็นธรรมดา
   เรามีความตาย เป็นธรรมดา
   เรามีความพรัดพราก เป็นธรรมดา
   เรามีความไม่สมหวัง เป็นธรรมดา
   เรามีความไม่ได้  เป็นธรรมดา
   เรามีกรรมเป็น กำเนิด เป็นเผ่าพันธ์ เป็นพวกพ้อง เป็นที่พึ่งพาอาศัย เป็นต้น

   ถ้าเห็นตรงนี้แล้ว ก็จะมีสติ ชนะความน้อยเนื้อต่ำใจ ได้ เพราะเห้นว่า เป็นธรรมดา นั่นเอง

  พระอาจารย์ ท่านจะพูดเสมอเรื่องการมองเห็น ความเป็นธรรมดา .... .ก็อย่างนี้ นี่เอง คะ

   :25: :88:
17  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: คึกคักสุดๆ กับ “วาเลนไทน์อีฟ” พาไปดู Black Magic กุหลาบดำ แพงระยับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2012, 08:08:37 am


ชอบกำลังคึกคักกันอยู่ในวันนี้

  วันนี้ดูเป็นวันสุข ( วันพุธ )

  :25:
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: วิจารณญาณ กับ ภาพที่ปรากฏ นะครับ ( เบา ๆ สมองนะครับ ไม่ชอบขำ ห้ามคลิี๊กอ่าน ) เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2012, 08:07:42 am


แต่ให้ดีบรรยาย ใต้ภาพ ซะหน่อยก็จะดีมากนะจ๊ะ

 :c017: :c017: :c017:
19  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: QA "ต้องการทราบความหมาย ของคำว่า สุญญตา" เมื่อ: มกราคม 09, 2012, 06:38:40 am
อนุโมทนา สาธุ ที่พระอาจารย์ มาตอบมีหลายลิงก์ เลยคะ ตามอ่านแล้วหลายตอนทีเดียวเลยคะ

 :25: :25: :25:
20  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ร่วมอวยพร ส่งความสุข ด้วยการ์ด ดิจิตอล ต้อนรับปี 2555 / 2012 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2011, 05:37:59 pm


ขอให้ท่าน มีสุข ทุกสถาน
ขอให้ท่าน ได้สม อารมณ์หมาย
ขอให้ท่าน ได้สุขกาย สบายใจ
ขอให้ท่าน มั่งมี มากเงินทอง
ขอให้ใจ ท่านเย็น เช่นดังน้ำ
ขอให้จิต ของท่าน ได้แจ่มใส
ขอให้ธรรม งดงาม ที่กลางใจ
ขอให้้ใจ ได้เข้าสู่ พระนิิพพาน
                samathi
21  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อาการที่จิต เป็นสมาธิ นั้นเป็นอย่างนี้ใช่หรือป่าวคะ เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2011, 09:32:25 pm
เคยฟัง พอจ.คึกฤทธิ์ ท่านบอกว่า อาการอย่างนี้ เป็นอาการของจิต เข้า ฌานแล้วนะคะ

 คือ ถ้าจิตเป็น ปีติ ก็เป็น ฌานหนึ่ง
     ถ้าจิตเป็น สุข ก็เป็น ฌาน 2
     ถ้าจิตเป็น มีอารมณ์เดียวว่าง ก็เป็น ฌานที่ 3
     นิ่งว่าง อยู่อย่างนั้น ก็เป็น ฌาน ที่ 4


 
22  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พระธรรม เป็นของให้ฟรี สำหรับ ผู้ที่ต้องการไปสู่ คำว่า ฟรีด้อม ( freedom ) เมื่อ: ตุลาคม 15, 2011, 07:33:52 am
อ้างถึง
อยากถามว่า ท่านทีเป็น ศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ท่านได้เรียนอะไรจากครูอาจารย์ของท่าน

เรียนกรรมฐาน จ้า

อ้างถึง
จึงทำให้ท่านทั้งหลายเดินอ้อม หรือ เดินห่างจากพระธรรมกันหรือป่าว ถ้าเป็นดังนั้นการภาวนาของท่านจึงไม่มีความก้าวหน้า ไปสู่วิถี แห่ง สุญญตา กัน

ไม่รู้สิว่าทางนี้อ้อม หรือ ตรง แต่รู้ว่าเป็นทางที่ชอบเดิน และ มีความหวัง จ้า
เพราะประกอบด้วย องค์ 8 สมบูรณ์ ในตอนภาวนา สินะจ๊ะ

 :25:
23  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ระดับน้ำ ที่สระบุรี สูงเกินปีที่แล้ว นะครับ เมื่อ: ตุลาคม 09, 2011, 08:56:49 pm
เรียน ถาม ทีมมัชฌิมา ทุกท่าน คะ
ระดับน้ำที่สระบุรี เป็นอย่างไรบ้างคะ


  :25: :25: :25:

อยากทราบด้วยคน เพราะเห็นช่วงนี้ เว็บเงียบ ๆ ไป สมาชิกแต่ละท่านเป็นอย่างไรเล่าสถานการณ์ให้ฟังกันบ้าง

 :s_hi: :49:
24  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ถ้าหากมีกล่าวว่า พระอภิธรรม ไม่ใช่พุทธวจนะ ไม่ควรเชื่อ เมื่อ: กันยายน 29, 2011, 09:19:06 am
ดิฉัน ว่า ปล่อยเขาไปเถอะคะ ถ้ายังมัวแต่ยึดหลัก พระพุทธวจนะ อย่างเดียว ก็เคยเจอคะ เพียงอ้างไว้เพียงสนทนากัน บางครั้งเอาเป็นการตัดสินถูกหรือผิด

  อันที่จริง การเป็น พระโสดาบัน ต้องมีความเคารพ พระรัตนตรัย สามประการ นะคะ

  ดังนั้น ไม่ใช่แต่ต้องฟัง พระพุทธวจนะ ต้องฟัง พระธรรม และ พระสงฆ์ ด้วยคะ

  พระไตรปิฏก ที่มีอยู่จนถึงปัจจุบัน ก็เกิดจากพระอรหันต์ ท่านรวมกำลังกันบันทึก ข้อความ ที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเป็นส่วนน้อยนิด เองนะคะ พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสว่า ที่แสดงแก่มหาชนในขณะนั้น เพียงใบไม้กำำมือเดียว คะ


  ดังนั้น ดิฉันเชื่อว่า เกิดจาก รัตนครัย ประการก็จัดว่าเป็น พระพุทธพจน์ ทั้งหมด

  ส่วนการไม่ฟัง พระสาวก อันนี้ อาจจะเห็นผิดได้คะ เพราะพระสาวกแสดงธรรม พระพุทธเจ้า รับรองไว้ก็มีมากมาย เช่นพระสารีบุตร พระพุทธเจ้ายกย่องเป็นเอตทัคคะ เฉกเช่นเดียวกับพระองค์แสดงธรรมเอง

  ดังนั้น ด้วยความเคารพในพระสารีบุตร ที่ได้ฟังจากพระพุุทธเจ้า โดยตรง และพระพุทธเจ้า ก็ยังทรงตรัสแดงกับพระอุปัฏฐาก อีกโดยตรง คำพูดของพพระอานนท์ ก็รับรองด้วยเอตทัคคะ คือ พหูสูตร ด้วยเช่นกัน

  พระสงฆ์ในยุคปัจจุบันนี้ ได้เรียน ได้แปล ได้ศึกษา ก็เพราะได้อาศัย พระอริยะสาวก ทั้งหลายเหล่านี้เป็นผู้แสดงไว้ในปัจจุบัน ดังนั้นหลักธรรมที่ควรใส่ใจ ก็คือ หลักธรรมขจัดกิเลส เป็นไปเพื่อการกำจัดทุกข์ สมบูรณ์ด้วยอริยมรรค มีองค์ 8 ประการล้วนแล้ว ก็คือ พระพุทธวจนะ ทั้งนั้น สำหรับดิฉัน คะ


   :25: :25: :25:

 
25  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ฝึกสมาธิ แล้ว กลัวเป็นบ้า !!!!! เมื่อ: กันยายน 28, 2011, 09:32:36 am
ฝึกกรรมฐาน ใน 40 กองกรรมฐาน นั้นไม่บ้า จ้า

แต่ที่บ้า เพราะฝึก ฤทธิ์ คะ ที่จะบ้ากัน

ดังนั้นเวลาฝึก กรรมฐาน ให้อธิษฐาน การภาวนานี้ แด่ พระพุทธเจ้า เป็นพุทธบูชา คะ

   ครูอาจารย์ รับรองแล้วคะ ว่า ไม่บ้าคะ

  :25: :25: :25:
26  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การสวดพระมาลัย จำเป็นต้องมีในงานศพ ทุกครั้งหรือป่าว เมื่อ: กันยายน 27, 2011, 08:57:54 am
อนุโมทนา กับเรื่องที่นำเสนอครับ วันพระยามเช้าครับ

 :25: :25: :25:
27  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระอรหันต์ โวยวาย ใส่อารมณ์ ทำลายข้าวของ มีหรือไม่ ในครั้งพุทธกาล เมื่อ: กันยายน 24, 2011, 08:18:16 am
พระอรหันต์ โกหก ได้หรือ ไม่ ? ครับ

 ลองถามคำถามนี้ ดูสิครับ

 พระอรหันต์ ไม่สร้างความลำบากใจแก่ผู้อื่น นะครับ

    สมโณ โหติ ปะรัง วิเหทะยันโต

    ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย

 
28  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระพุทธเจ้า ไปโปรด พระพุทธมารดา นั้นเป็นเรื่องจริง หรือ เรื่องแต่ง เมื่อ: กันยายน 24, 2011, 08:16:18 am
เป็นที่ถกเถียงกันในกลุ่มผู้ภาวนาด้วยกัน คือ บางคนก็เชื่อ นรก สวรรค์ ที่มีแต่กายแตก

แต่บางคนก็เชื่อว่า มีแต่เพียงในใจ แท้ที่จริง พระพุทธศาสนา สอนให้ดูในปัจจุบันเท่านั้นหรือ

ถ้าดูในปัจจุบัน แล้วสอนให้คนทำเสบียงบุญไว้เพื่ออะไร หรือเพื่อ ดัดนิสัย ให้รู้จักให้ บ้างเท่านั้น

ดูเหมือนถ้ามีปัญญา เข้าไปพิจารณาแล้ว เหตุ ผล ไม่ค่อยจะสมดุลย์กัน จนในหมู่เพื่อนที่ภาวนาด้วยกัน

ก้ยังพูดขึ้นว่า พระพุทธเจ้าโปรดพุทธมารดา นั้นก็เป็นเพียงพระพุทธเจ้า เสด็จขึ้นไปบนยอดเขาที่สูงลูกหนึ่ง

บนนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่พระพุทธเจ้า เคารพดุจมารดา ( อธิบายกันไปได้ขนาดนี้ )

 ถ้าเป็นอย่างนี้ พระพุทธศาสนา ก็เป็นศาสนาที่หลอกลวงคนให้เชื่อ ทั้ง ๆ ที่มีหลัก กาลามสูตร อยู่นี่นะ

จึงอยากทราบความเห็นของเพื่อนสมาชิกว่า

  พระพุทธเจ้า โปรดพระพุทธมารดานั้นเป็นเรื่องจริง หรือ เรืี่องแต่ง มีอะไรเป็นข้อพิสูจน์

  :25:
29  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: คนชอบพูดธรรมะ จัดเป็นคนฟุ้งซ่าน ได้หรือไม่ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 01:46:48 pm
อนุโมทนา กับคุณ raninmain ด้วยครับ ที่นำเนื้อหาในเมล มาให้อ่านครับ
ช่วงนี้ไม่เห็นพระอาจารย์ ตอบจดหมาย หรือ กระทู้เลยครับ เงียบไปเป็นอาทิตย์ แล้วนะครับ
ได้อ่้าน คำอธิบาย พอหายคิดถึง ครับ

 :25: :25: :25:
30  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เวลาภาวนา พุทโธ ควรทำจิตอย่างไร ดีครับ เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2011, 11:26:04 pm
อยู่ใกล้ ๆ สะดวก ก็เชิญที่ คณะ 5 วัดราชสิทธาราม เลยก็ได้ครับ

ใกล้ ๆ วัดระฆัง วัดสังขจาย วัดกัลยาณมิตร นะครับ


 :25:
31  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อยากทราบว่า พระนั่งมอร์เตอร์ไซค์รับจ้างมาบิณฑบาตร ผิดวินัยหรือไม่คะ เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2011, 11:24:21 pm

-----------------------------------------

มีพระที่บิณฑบาตร โดยไม่ใช้ พาหนะ อยู่มากมาย มากกว่า พระที่ใช้ พาหนะ นะจ๊ะ

คิดว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทำบุญได้

เจริญธรรม

 ;)



เห็นด้วยครับ พระที่ไม่ได้ใช้พาหนะ ไปบิณฑบาตร ก็ยังมีอีกมาก ครับ

 :25:
32  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เพราะเหตุไร จึงกล่าวว่า สตรี เป็นสาเหตุและอันตรายต่อพรหมจรรย์ เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2011, 03:00:39 am
สตรี ( มาตุคาม ) เป็นข้าศึก ต่อ พรหมจรรย์

  แม้ บุรุษ ( คฤหัสถ์ ) ก็เป็นข้าศึก ต่อ พรหมจรรย์ เช่นเดียวกันครับ

     พรหมจรรย์ นี้อยู่จบแล้ว ชาติือื่น ไม่มีอีกแล้ว กิจอื่นยิ่งกว่านี้ มิได้มีอีกแล้ว ภพได้ดับลงแล้ว


   ประโยค เหล่านี้มักจะได้เห็นท้าย ๆ พระสูตรใหญ่ ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ครับ


  ดังนั้น พรหมจรรย์ ก็คือ นิพพาน หรือ กิจในการภาวนา

   พรหมจรรย์ ก็คือ อริยมรรค อริยผล

   :welcome:
33  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ผมคิดว่า ชาวพุทธ ที่เป็นพวกชั้นปัญญา น่าจะเชื่อแต่เรื่องสภาวะ เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2011, 02:56:56 am
ชาวพุทธ ที่ออกไปทางแนวปัญญา ล้วนไม่เชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ แบบ ภพ ชาติ ครับ

แต่จะเชื่อ ตามสภาวะ ภพ ชาิติ ทางจิต และ ปัจจุบันมากกว่า

บางครั้งก็ปฏิเสธ นรก สวรรค์ ไปเลยก็มี

ยิ่งเรื่องการฝึก สมาธิ แล้วจะเห็นว่าเป้นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็น ด้วยครับ

ดูจากคนรอบข้าง ที่ผมคุ้นเคยกันในสาย นะครับ.... :014: :035:

ส่วนมากนิยม ชอบพูดให้คนอื่นฟัง มากกว่า ที่นั่งฟัง คนอื่นพูด และ ก็ชอบอ่านครับ

การภาวนาเท่่าที่ผมเห็น จากพวกหลวงพี่ หลวงพ่อกันก่อนนะครับ กลางวันหลับ กลางคืน นั่งดูทีวีครับ

ปล่อยชีวิตให้หมดไปวัน ๆ ครับ ตอนแรก ผมก็ปฏิบัติตามอย่างนี้

พอได้มาฝึกสมาธิ แล้วจึงรู้ว่า ไม่ใช่แนวทางแล้วครับ แบบนั้นรู้สึกว่า ไม่ถูกครับ


อริยมรรคมีองค์ 8 ครับ

 :67:
34  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ปฏิบัติธรรมวันอาสาฬหบูชา 15-16-17 ก.ค. 54 วัดราชสิทธาราม คณะ 5 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2011, 09:52:22 pm
อนุโมทนา ด้วยครับ น่าจะเป็นวันขึ้นกรรมฐานใหญ่ ด้วยนะครับ
อีกอย่างเป็นช่วงเข้าพรรษา ไม่รู้จะไปกันได้หรือไม่ครับ

 :25: :25: :25:
35  ธรรมะสาระ / บทสวดมนต์ มนต์พิธี / Re: บทสวดภาณยักษ์ เมื่อ: มิถุนายน 20, 2011, 08:15:59 pm
อ่านแล้วได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ท้าวจาตุมหาราชทั้งสี่ ผู้พิทักษ์ พระพุทธศาสนา

เมื่อไหร่พระอาจารย์ จะจัดสร้าง ท้าวจาตุมหาราช บ้างครับ

 :13: :25:

สนใจเหมือนกันครับ พระอาจารย์จัดสร้าง สักรุ่นได้หรือไม่ครับ ขนาด 5 นิ้ว
อยากได้ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำััดับ ปลุกเสกครับ

 :25:
36  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เวทนาเกิดระหว่าง ภาวนา ควรทำอย่างไร ถึงจะถูกต้องในการภาวนา เมื่อ: มิถุนายน 19, 2011, 05:35:39 am
รู้สึกว่า จะ้ต้องใช้การกำหนดเวลา ร่วมในครั้งแรก เหมือนกับการฝึกกาย ไปด้วยครับ

คือ เรากำหนดไว้ที่ 10 นาที 15 นาที 20 นาที ไม่ต้องหักโหมครับ เอาจิตกำหนด บริกรรม ให้ได้ตามเวลา

( ไม่รู้ว่าตอบกวนใจ หรือ ไม่ )

 :58:  :hee20hee20hee:
37  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากถามว่าอาการอย่างนี้ ใช่ แยกกาย แยกใจ ได้ใช่หรือไม่คะ เมื่อ: มิถุนายน 19, 2011, 05:33:32 am
การแยกกาย กับ การแยกใจ

จัดเป็น ปัจจยปริคหญาณ เป็น ญาณที่ 2

รู้เหตุปัจจัย ของ กาย และ ใจ

แต่ก่อน จะรู้ ญาณที่ 2 ต้องย้อนกลับไปดู ญาณที่ 1 นามรูปปริจเฉทญาณ

คือ ญาณกำหนดรู้ว่าอะไรคือ รูป ( กาย ) อะไร คือ นาม ( ใจ )

ดังนั้น 2 ญาณนี้จะคล้าย ๆ กัน และ ต่อเนื่องกัน

 :smiley_confused1:

38  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: 30 กว่าปีกับการฝึกกรรมฐาน อานาปานสติ และ กายคตาสติ เมื่อ: มิถุนายน 19, 2011, 05:29:12 am
ขอให้ตั้งใจ ภาวนาต่อไปครับ อย่าท้อถอยครับ
ถึงจะต้องปฏิบัติจนตาย ผมก็ว่ายังเป็นกุศล อยู่เลยครับ

สะสมบารมี ไปเรื่อย ๆ ครับ

 :25: :25: :25:
39  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เกี่ยวกับ ฌาน เมื่อ: มิถุนายน 16, 2011, 04:38:49 am
คำว่า "ฌาน" แปลว่า "การเพ่ง" ตามปกติแล้วก็มีความหมายใน 2 ระดับ
ระดับ แรก เป็นส่วนเหตุ เรียกว่า "อารัมมณูปนิชฌาน" คือ  การเพ่งดูอารมณ์ที่เป็นเครื่องตั้งสติกำหนดระลึก เช่น ดูลมหายใจเข้าออก ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ฯลฯ  จนจิตของบุคคลผู้นั้น ตั้งมั่นเป็นสมาธิไม่หวั่นไหว ที่เรียกว่า "อัปปนาสมาธิ"  ในชั้นนี้กว่าจะเข้าถึงฌานอันเป็นส่วนผลที่เรียกว่า "รูปฌาน"   ซึ่งเป็นการแสดงถึงความประณีตของจิตที่เกิดขึ้นจากการเจริญสมถกรรมฐานโดย ลำดับนั้นเอง

1.ปฐมฌาน มีองค์ 5 คือ
  วิตก ความตรึกที่เป็นกุศล
  วิจาร ได้แก่ความตรอง กุศลธรรมที่ตนตรึกนั้น  มีความสงบประณีตสูงขึ้นกว่าความตรึกตรองของสามัญชน เพราะว่าความตรึกตรองของท่านเหล่านั้นไม่ประกอบด้วยกิเลสและอกุศลธรรม
  ปิติ ความเอิบอิ่มใจที่เกิดขึ้น แสดงออกมาในลักษณะต่างๆ
 สุข ความสบายกายสบายใจ  อันเกิดจากจิตที่มีความสงบมีลักษณะโปร่งเบาบังเกิดขึ้นทั้งกายและจิต
 เอกัคคตา  จิตที่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ  ไม่ถูกโยกคลอนให้หวั่นไหว  ด้วยการเหนี่ยวนึกของตนเอง และแรงกระทบมาจากภายนอก ในกรณีที่สิ่งกระทบนั้นไม่แรงเกินไป

2.ทุติยฌาน มีองค์ 3 ซึ่งเป็นพัฒนาการทางจิตที่ก้าวไกลขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ดังนั้นในทุติฌาน จึงไม่มีวิตก คือความตรึก ไม่มีวิจาร คือความตรอง แต่มีปิติ คือความเอิบอิ่มใจ
                สุข  คือความสบายกายสบายใจที่ประณีตยิ่งนัก ความสุขในชั้นทุติฌานนั้น  ท่านเรียกว่าเป็นความสุขที่หวานใจยิ่งนัก  เป็นความเอิบอิ่มเป็นความซาบซึ้งตรึงตรา   ซึ่งจิตธรรมดาของบุคคลไม่สามารถสัมผัส ความสุขในชั้นนี้ได้และเอกัคคตา คือจิตตั้งมั่นเป็นอันเดียว  มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้นกว่าในปฐมฌาน

3.ตติย ฌาน มีองค์ 2 คือ ความสุขและเอกัคคตา เพราะปิติสงบระงับไปจากจิตของบุคคลนั้น  ความสุขจึงมีความเกี่ยวข้องกับความสงบ  จิตของผู้ปฏิบัติก็จะเยือกเย็นและสงบมากยิ่งขึ้น

4.จตุตถฌาน มีองค์ 2 คือแม้ความสุขก็จะหายไป  ใจจะปรากฏเป็นอุเบกขาที่เรียกว่า เป็นอุเบกขาฌาน อันเป็นอาการของปัญญาปรากฏขึ้นภายในจิตพร้อมกับเอกัคคตา คือจิตที่ตั้งมั่นเป็นสมาธิไม่หวั่นไหว

ฌานทั้ง  4 ประการนี้ ท่านเรียกว่า "รูปฌาน" บางทีก็เรียกว่า  รูปสมาบัติ  ทั้งนี้เพราะว่ามีรูปธรรมเป็นอารมณ์ให้บังเกิดขึ้น   เมื่อกล่าวในชั้นของจิตแสดงว่าระดับจิตขึ้นสู่รูปาวาจรภูมิ คือชั้นที่มีรูปเป็นอารมณ์ ท่านเหล่านี้เมื่อทำลายกาลกิริยาตายไป  ถ้าฌานท่านไม่เสื่อม   ก็จะบังเกิดเป็นพรหมในพรหมโลกตามกำลังของฌานที่ท่านเหล่านั้นได้บรรลุเป็นผล ต่อเนื่อง  จากการเจริญสมถกรรมฐานนั้น มุ่งสงบนิวรณ์ทั้ง 5 ประการ  ซึ่งเป็นสนิมใจ เป็นเครื่องกั้นใจคนไว้ไม่ให้บรรลุความดี

"ผู้ใดที่ปฏิบัติได้ฌาณ ขอความกรุณาบอกอาการของฌาณที่เกิดขึ้นแต่ละขั้นด้วยครับ "....

การที่จิตมีฌาณเกิดขึ้น..หมายถึงจิตเรา..ไม่มีสภาวะของนิวรณ์ ๕ อยู่ในจิต...
สภาวะดังกล่าวเกิดขึ้น ๑ ขณะก็คือการได้ ฌาณ ๑ ขณะ...ส่วนลำดับของฌานนั้น ก็ จะมี
๑. จิตเรา..ไม่มีสภาวะของนิวรณ์ ๕ อยู่ในจิต...โดยที่เรายังมีวิตก มีวิจาร มีปิติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่
๒.จิต เรา..ไม่มีสภาวะของนิวรณ์ ๕ อยู่ในจิต...โดยที่เรา...มีความผ่องใสแห่งจิตในภายในเป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปิติและสุขเกิด
๓.จิตเรา..ไม่มีสภาวะของนิวรณ์ ๕ อยู่ในจิต...โดยที่เรา...มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกายเพราะปิติสิ้นไป
๔.จิต เรา..ไม่มีสภาวะของนิวรณ์ ๕ อยู่ในจิต...โดยที่เรา....ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่

ซึ่งจะไม่เกี่ยวอะไร กับ...นิมิต.....ตัวโครง...ตัวลอย....ไม่เจ็บ...ไม่ปวด...ไม่รู้สึก อะไร..เห็นหรือไม่เห็นลมหายใจ..เห็นเทวดา..เห็นนรก..เห็นแสง..อะไรอะไรอีก มากมาย
สภาวะธรรมที่เกี่ยวข้องมีแค่ตามที่ได้กล่าวข้างต้นครับ....

หมายเหตุ...นิวรณ์ ๕ มีดังนี้
๑.กามฉันทะ คือความยินดี พอใจ เพลิดเพลินในกามคุณอารมณ์ ได้แก่ ความยินดี พอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ(สิ่งสัมผัสทางกาย) 
๒.พยาปาทะ คือ ความโกรธ ความพยาบาท ความไม่พอใจ ขัดเคืองใจ
๓.ถีนมิทธะ แยกเป็นถีนะคือความหดหู่ท้อถอย และมิทธะคือความง่วงเหงาหาวนอน
๔.อุทธัจจกุกกุจจะ แยกเป็นอุทธัจจะคือความฟุ้งซ่านของจิต และกุกกุจจะคือความรำคาญใจ
อุทธัจจะนั้นคือการที่จิตไม่สามารถยึดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เป็นเวลานาน จึงเกิดอาการฟุ้งซ่าน เลื่อนลอยไปเรื่องนั้นที เรื่องนี้ที
ส่วนกุกกุจจะนั้นเกิดจากความกังวลใจ หรือไม่สบายใจถึงอกุศลที่ได้ทำไปแล้วในอดีต ว่าไม่น่าทำไปอย่างนั้นเลย หรือบุญกุศลต่างๆ ที่ควรทำแต่ยังไม่ได้ทำ ว่าน่าจะได้ทำอย่างนั้นอย่างนี้
๕.วิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัย ไม่แน่ใจ หรือไม่ปักใจเชื่อว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด หรือควรทำแบบไหนดี

40  พระไตรปิฏก / พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ / 6.ติปัลลัตถมิคชาดก แม่เนื้อเจ้าปัญญา เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2011, 07:07:50 pm
ติปัลลัตถมิคชาดก 1/2 เล่ห์กลลวงพราน


ติปัลลัตถมิคชาดก 2/2 แผนแกล้งตาย


ติปัลลัตถมิคชาดก
เล่ห์กลลวงนายพราน

 **************
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดพทิรการาม เมืองโกสัมพี ทรงปรารภพระราหุลเถระ ผู้ใคร่ต่อการศึกษา เรื่องมีอยู่ว่า สมัยนั้น พระพุทธองค์ได้เสด็จไปประทับอยู่ในอัคคาฬวเจดีย์ เมืองอาฬวี มีอุบาสกอุบาสิกา ภิกษุและภิกษุณีจำนวนมาก ไปฟังธรรมทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อฟังธรรมเสร็จสิ้นแล้ว ภิกษุที่เป็นพระเถระก็พากันไปยังที่พักของตน ส่วนภิกษุหนุ่มและอุบาสกพากันนอนที่โรงฉัน พอเข้าสู่ความหลับมีภิกษุบางรูปนอนกรน บางรูปนอนกัดฟัน ก่อความรำคาญให้แก่พวกอุบาสก พวกเขาพากันนอนครู่เดียวจึงลุกขึ้นหนีไป

วันต่อมา พวกอุบาสกกราบทูลเรื่องนี้แด่พระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงได้ทรงบัญญัติสิกขาบทว่า " ก็ภิกษุใด นอนร่วมกับอนุปสัมบัน ภิกษุนั้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ " แล้วเสด็จไปยังเมืองโกสัมพี ก่อนมีสิกขาบทนี้ สามเณรราหุล มักจะได้รับการสงเคราะห์จากภิกษุให้พักร่วมกุฏิเสมอ เมื่อพระพุทธองค์ทรงบัญญัติสิกขาบทนี้แล้ว จึงไม่มีภิกษุรูปใดอนุเคราะห์แก่เธอ สร้างความเดือดร้อนแก่สามเณรราหุล ท่านจึงเลือกไปอาศัยที่เวจกุฎี (ส้วม) ของพระพุทธองค์เป็นที่อยู่อาศัยแทน

 ครั้นรุ่งเช้า พระพุทธองค์ เสด็จมาถึงเวจกุฎีแล้วไอขึ้น สามเณรราหุลก็ไอขึ้นเช่นกัน พระพุทธองค์จึงทรงทราบความเดือดร้อนเพราะการบัญญัติสิกขาบทนี้ ทรงดำริถึงคราวต่อไปเมื่อสามเณรมีมากขึ้น จะให้ภิกษุปฏิบัติเช่นใด จึงตรัสเรียกประชุมสงฆ์แต่เช้าตรู่ แล้วทรงทำอนุบัญญัติสิกขาบทนี้ว่า " ตั้งแต่นี้ไป ท่านทั้งหลาย จงให้อนุปสัมบันอยู่ในที่พักของตนได้สองวัน ในวันที่สามให้อยู่ภายนอกเถิด "

 ต่อมาเย็นวันหนึ่ง พวกภิกษุสนทนากันถึงเรื่องสามเณรราหุลเป็นผู้ตั้งอยู่ในโอวาท เป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษา พระพุทธองค์จึงได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า
 
             กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเนื้อสองพี่น้องคู่หนึ่ง มีบริวารแวดล้อมมาก อยู่ในป่า ใกล้เมืองราชคฤห์ วันหนึ่ง เนื้อผู้น้องสาวนำเนื้อลูกชายมาฝากให้ศึกษามารยาทของเนื้อกับพี่ชาย เนื้อผู้หลานชาย ได้ศึกษามารยาทของเนื้อกับลุงจนหมดสิ้น วันหนึ่ง ออกหากินในป่าติดบ่วงนายพราน จึงร้องบอกหมู่เนื้อให้หนีไปบอกมารดา ส่วนมารดารีบไปบอกพี่ชายด้วยความห่วงใย พี่ชายจึงพูดปลอบใจว่า
     " น้องหญิง พี่ให้เนื้อหลานชาย ผู้มีกีบเท้า ๘ กีบ เรียนท่านอน ๓ ท่า
       เรียนมีเล่ห์กลมารยาหลายอย่าง และการดื่มกินน้ำในเวลาเที่ยงคืน
       เนื้อนั้น เมื่อหายใจทางจมูกข้างที่แนบติดอยู่กับพื้นดิน ก็จะลวง
       นายพรานได้ด้วยอุบาย ๖ ประการ "

     เล่ห์กลลวงนายพรานด้วยอุบาย ๖ ประการ คือ
          ๑. นอนตะแคงเหยียดเท้าทั้ง ๔
          ๒. ใช้กีบเท้าตะกุยหญ้าและดินร่วน
          ๓. ทำลิ้นห้อยออกมา
          ๔. ทำให้ท้องพองขึ้น
          ๕. ถ่ายอุจจาระและปัสสาวะออกมา
          ๖. กลั้นลมหายใจไว้

ฝ่ายเนื้อผู้หลานชาย ได้แสดงอาการทำทีเป็นตายแล้ว มีแมลงวันหัวเขียวบินตอมตัวว่อน นายพรานพอเห็นอาการเช่นนั้นเข้าใจว่าเนื้อตายแล้ว เลยแก้เชือกผูกเนื้อออก หวังจะแล่เนื้อในที่นั้น เดินหักใบไม้ไปมา ฝ่ายเนื้อได้โอกาสจึงลุกขึ้นวิ่งหนีกลับมาได้ ด้วยความปลอดภัย

ขอขอบคุณ   http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt105.php

หน้า: [1] 2 3