ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - หมิว
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10
81  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปฏิบัติ กรรมฐาน เป็น วิปัสสนา หรือ สมถะ แยกอย่างไร ในการปฏิบัติครับ เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 10:31:51 am
กรรมฐาน มีอยู่ 2 อย่าง คือ

  สมถะ  ทำให้ใจสงบ
  วิปัสสนา ทำให้กิเลสหมด

  ถ้าเวลาใดทำให้ใจสงบ ก็เป็น สมถะ คะ
  ถ้าเวลาใดทำหใกิเลส สยบลง แม้ชั่วคราว ก็เป็นวิปัสสนา คะ

   :s_hi: :s_good:
82  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: กลอน "สาวกภูมิ" และ คำบรรยาย โดยย่อ ( ธัมมะวังโส ) เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 10:30:02 am
อ่านดีมากคะ พระอาจารย์ ใช้เวลา 25 ปี ถึงจะทำให้กลอนนี้จบได้ นะคะ
ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เลยนะคะ กับเวลาในการที่พระอาจารย์ปฏิบัติภาวนา ไม่ได้ใช้เวลาเพียง วันสองวัน คืนสองคืน พออ่านแล้ว เราเองจะมีบุญวาสนา บ้างหรือไม่ ? จะใช้เวลากี่ปีในการภาวนานะจ๊ะ

 สาธุ สาธุ สาธุ  ขอให้ข้าพเจ้าเข้าใจธรรม และ สำเร็จธรรมอย่างน้อยได้ดวงตาเห็นธรรม ก็ยังดีคะ จะได้พ้นจากอบายภูมิ

  :25: :25: :25:


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://wannakadee.com/
83  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เริ่ม ก.ย. นี้ แอร์พอร์ตลิงค์ 20 บาทตลอดสาย เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 11:10:22 am



เริ่ม ก.ย. นี้ แอร์พอร์ตลิงค์ 20 บาทตลอดสาย
วันที่ 24 ส.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินนโยบายค่ารถโดยสารไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในเส้นทางที่มีความพร้อมก่อน
ทั้งนี้โดยไม่ต้องรอโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ซึ่งตั้งเป้าภายในเดือน ก.ย.นี้ จะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารโครงการระบบขนส่งทางรถไฟ เชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ในอัตรา 20 บาทตลอดสาย เฉพาะช่วงเวลา 10.00-16.00 น.
ส่วนสาเหตุที่เก็บอัตราค่าโดยสารเฉพาะช่วงเวลา เนื่องจากต้องการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน ส่วนเวลาเร่งด่วนเวลา 06.00-09.00 น. พบว่าปริมาณผู้โดยสารสูงกว่าความจุของรถไฟฟ้าแล้ว โดยหากมีการเพิ่มขบวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ตามแผน 7 ขบวน อาจจะสามารถจัดเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายได้ทั้งวัน ซึ่งการเพิ่มขบวนรถไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้เวลาในการสั่ง และผลิตประมาณ 2 ปี
โดยที่ผ่านมา ได้ศึกษาและแก้ปัญหาด้านเทคนิคในการจัดเก็บค่าโดยสารเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าเมื่อจัดเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะทำให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 15% สำหรับอัตราค่าโดยสารปัจจุบันอยู่ที่ 15-45 บาท นายชัชชาติ กล่าว

84  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: อวดอุตริ! พระไพศาลชี้ 'สตีฟ จ็อบส์' ฉบับธรรมกาย เข้าข่ายอาบัติปาราชิก! เมื่อ: สิงหาคม 24, 2012, 10:53:43 am
การนั่งสมาธิดู ที่มาไปสตีฟของวัดธรรมกาย เป็นการยกตัวอย่างกฏแห่งกรรม ไม่ผิด...มีการโจมตีของพวกทำลายพุทธ แต่ไม่สะเทือน
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12552771/Y12552771.html

มาต่อกระทู้ให้คะ เพราะไม่อยากให้มีการวิจารณ์ ในเว็บนี้คะ

 :s_hi:
85  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฝนตกเบา ทดสอบความพร้อม ถ.แจ้งวัฒนะ น้ำท่วม เอาอยู่หรือไม่ ? ชมภาพ เมื่อ: สิงหาคม 22, 2012, 07:51:57 am
บรรยากาศช่วงเย็นบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ทั้งขาเข้าและขาออก หลังฝนตกเกิดน้ำท่วมเต็มฟุตบาท ส่งผลให้การจราจรติดขัดตลอดเส้นทาง ยามรถเคลื่อนตัวเกิดคลื่นน้ำทำให้ผู้ที่คอยรถประจำทางต้องขึ้นไปยืนบนที่นั่งแทน ในที่นี้อาจทำให้หลายคนหายใจไม่ทั่วท้อง ลุ้นเอาอยู่ไม่อยู่ อาจถึงขั้นต้องเตรียมปัดฝุ่นเรือกันเลยทีเดียว เพราะที่เห็นเจอเบาะๆ แค่หางพายุ
       
       ตามที่กรมอุตุแถลง พายุดีเปรสชัน “ไคตั๊ก” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณ ตอนบนสุดของประเทศลาว ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะมีกำลังอ่อนลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกในระยะนี้




ติดตามเนื้อหาและภาพอื่นๆ ได้จาก ที่นี่
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000101833
86  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / "ขณะที่คุณเกลียดชีวิตของคุณ มีบางคนฝันอยากที่จะมีชีวิตแบบคุณ" เมื่อ: สิงหาคม 21, 2012, 10:12:29 am


"You hate your life, while some people dream of having your life"

"ขณะที่คุณเกลียดชีวิตของคุณ มีบางคนฝันอยากที่จะมีชีวิตแบบคุณ"
87  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ผู้ปฏิบัติธรรม ควรจะนอน ตื่น เวลาเท่าไหร่ คะ ใครมีประสบการณ์ แชร์ด้วยคะ เมื่อ: สิงหาคม 20, 2012, 02:20:45 pm
ผู้ปฏิบัติธรรม ควรจะนอน ตื่น เวลาเท่าไหร่ คะ ใครมีประสบการณ์  แชร์ด้วยคะ
จริงหรือไม่คะ นักปฏิบัติจะนอนวันละ 4 ชั่วโมง คือนอน 23.00 ตื่น 03.00 น. แล้วเริ่มภาวนาไป ถ้าทำอย่างนี้แล้วนิวรณ์ จะครอบงำมากหรือไม่คะ

 ใครมีประสบการณ์ แชร์ ด้วยคะ

  :c017: :smiley_confused1:
88  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากทราบ เหตปัจจัยภายนอก เหตุปัจจัยภายใน ของกรรมฐานครับ เมื่อ: สิงหาคม 19, 2012, 02:40:33 pm
เคหสิตะ คือ ยังเนื่องด้วยด้วยกิเลส
เนกขัมมสิตะ คือ ออกจากกิเลส พ้นจากกิเลส

ทุกขเวทนามีอามิส    คือ การไม่ได้สิ่งน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าชอบใจ
                           เป็นที่รื่นรมย์แห่งใจ แบบทางโลก จึงเกิด “เคหสิตโทมนัสเวทนา” ขึ้น
                           (เช่น ทุกข์ที่ไม่ได้ของรัก ทุกข์ที่ไม่มีคนรัก)

สุขเวทนามีอามิส     คือ การได้สิ่งน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าชอบใจ
                          เป็นที่รื่นรมย์แห่งใจ แบบทางโลก จึงเกิด “ เคหสิตโสมนัสเวทนา” ขึ้น
                          (เช่น สุขที่ได้ของรัก สุขที่มีคนรัก)

อทุกขมสุขเวทนามีอามิส คือ การวางเฉย แต่ยังยึดมั่นถือมั่น เห็นว่า
                                 สิ่งทั้งหลายเที่ยง จึงเกิด “เคหสิตอุเบกขา” ขึ้น
                                 (เช่น วางเฉยต่อสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ใช่การวางเฉยด้วยปัญญา)

ทุกขเวทนาไม่มีอามิส    คือ การเห็นว่าสิ่งทั้งหลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
                               แล้วเข้าไปตั้งความปรารถนาในความหลุดพ้นจึงเกิด “เนกขัมมสิตโทมนัสเวทนา” ขึ้น
                               (เช่น ทุกข์จากการคร่ำ่เคร่งปฏิบัติธรรม มีวิตก วิจารในฌาน)

สุขเวทนาไม่มีอามิส     คือ การเห็นว่าสิ่งทั้งหลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์
                              มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา จึงเกิด  “เนกขัมมสิตโสมนัสเวทนา” ขึ้น
                               (เช่น สุขจากการปฏิบัติธรรม สุขในฌาน)

อทุกขมสุขเวทนาไม่มีอามิส คือ การวางเฉย เห็นว่าสิ่งทั้งหลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์
                                    มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา จึงเกิด   “เนกขัมมสิตอุเบกขาขึ้น”
                                   (เช่น ความวางเฉยที่ไม่มีกิเลส ความวางเฉยในฌาน ๔)                       


ผู้ปฏิบัติธรรมควรพิจารณาเวทนาในเวทนา (สติปัฏฐาน)
อาศัย  “เนกขัมมสิตโทมนัสเวทนา” เพื่อละ  “เคหสิตโทมนัสเวทนา” 
อาศัย  “เนกขัมมสิตโสมนัสเวทนา” เพื่อละ  “เคหสิตโสมนัสเวทนา” 
อาศัย  “เนกขัมมสิตอุเบกขา”         เพื่อละ  “เคหสิตอุเบกขา”                   
อาศัย  “เนกขัมมสิตโสมนัสเวทนา” เพื่อละ  “เนกขัมมสิตโทมนัสเวทนา”     
อาศัย  “เนกขัมมสิตอุเบกขา”         เพื่อละ  “เนกขัมมสิตโสมนัสเวทนา"
อาศัย  “ความเป็นผู้ไม่มีตัณหา”  (อรหัตผล)    เพื่อละ  “เนกขัมมสิตอุเบกขา”
89  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://wbi.dru.ac.th/buddha/RelicofLegeud.aspx มรภ.พระนคร เมื่อ: สิงหาคม 19, 2012, 02:33:47 pm


http://wbi.dru.ac.th/buddha/RelicofLegeud.aspx
ศูนย์ศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาตามแนวพระไตรปิฎก


ศูนย์ศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาตามแนวพระไตรปิฎก

วัตถุประสงค์


๑. เป็นกรอบและแนวทางในการดำเนินงานด้านพระพุทธศาสนาในส่วนของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครสถาบันอุดมศึกษา องค์การแห่งการเรียนรู้ในรูปแบบตามอัธยาศัยและการศึกษาตลอดชีวิต

๒. บูรราการมิติด้านพระพุทธศาสนาทั้งทางด้านการให้การศึกษา การเผยแพร่และการสืบทอดรักษาหลักธรรมคำสอนอย่างมีเหตุผลกับวิถีชีวิตปรกติของประชาคม ชุมชนท้องถิ่นภายในและภายนอกสถาบัน

๓. จัดเครือข่ายคาวมร่วมมือจากทุกองค์กรทั้งภายในและภายนอกสถาบันเพื่อการดำเนินงานด้านพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นมิติทางวัฒนธรรมชาติอย่างหนึ่ง

๔. เป็นเครื่องมือในการส่งเสริม และการบรูณาการด้านพระพุทธศาสนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาคมสู่สังคมปัญญาศรัทธา
90  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ตำนานการเกิดพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อ: สิงหาคม 19, 2012, 02:29:10 pm
พระบรมสารีริกธาตุ

          ตำนานการเกิดพระบรมสารีริกธาตุ

            เหตุที่เกิดพระบรมสารีริกธาตุจำนวนมากขึ้นนั้น พระโบราณาจารย์อธิบายว่า เกิดจากพุทธประสงค์ ก่อนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพพาน ดังต่อไปนี้
            โดยปกติที่พระพุทธเจ้าที่ทรงมีพระชนมายุยืนยาว สามารถประดิษฐานพระพุทธศาสนาให้มั่นคง จะมีพระบรมสารีริกธาตุที่มีลักษณะรวมกันเป็นแท่งเดียว ดุจทองแท่งธรรมชาติ ซึ่งมหาชนในสมัยนั้นไม่สามารถแบ่งปัน นำไปประดิษฐานตามที่ต่างๆได้ จึงจำต้องสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ในที่แห่งเดียว ซึ่งพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน (พระสมณโคดม) ทรงเล็งเห็นว่า พระองค์มีเวลาปฏิบัติพุทธกิจเพียง ๔๕ ปี นับว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ศาสนาของพระองค์ยังไม่แพร่หลาย และหมู่สัตว์ทั้งหลายเกิดมาไม่ทันสมัยพระองค์มีมากนัก หากได้อัฐิธาตุของพระองค์ไปอุปัฎฐากบูชา จะได้บุญกุศลเป็นอันมาก จึงทรงอธิษฐานให้พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ แตกย่อยลงเป็น ๓ สัณฐาน เว้นแต่ธาตุทั้ง ๗ ประการ คือ พระนลาฏ (กระดูกหน้าผาก)1 พระเขี้ยวแก้ว ๔ และพระรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้า)๒ นอกจากนั้นให้กระจายไปทั่วทิศานุทิศ เพื่อยังประโยชน์แก่หมู่สัตว์ทั่วไป
           ซึ่งความทั้งหมดพ้องกันจากตำราหลายๆ ตำรา ที่พระอาจารย์สมัยต่างๆได้รจนาไว้ ดังเช่น "คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี" "ปฐมสมโพธิกถา" ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส "ตำนานมูลศาสนา" "ชินกาลมาลีปกรณ์" และ "พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก" เป็นต้น

http://wbi.dru.ac.th/buddha/RelicofLegeud.aspx
91  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระบรมสารีริกธาตุ หมายถึงอัฐิของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อ: สิงหาคม 19, 2012, 02:22:05 pm
พระบรมสารีริกธาตุ หมายถึงอัฐิของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้วก็ถวายพระเพลิงกัน วันที่พระองค์จะปรินิพพานพระองค์ทรงอธิษฐานว่า ให้อัฐิของพระองค์ส่วนที่เป็นกระดูก จะเป็นฟัน หรือจะเป็นส่วนไหนก็ตาม ให้แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย 84000 ชิ้น ตามจำนวนข้อพระธรรมที่มีตรัสไว้ ซึ่งปรากฏต่อมาในพระไตรปิฎก 84000 ข้อ
 
        ลักษณะของพระบรมสารีริกธาตุที่จะพอสังเกตเห็นได้ชัดๆ คือมีลักษณะคล้ายมุก

ส่วนที่ถามว่าทำไมจึงใสเหมือนมุก ก็บอกว่าเพราะธาตุของพระองค์ถูกกลั่นบริสุทธิ์แล้วจริงๆ เมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์ คือ ยังมีชีวิตอยู่ ธาตุที่ประกอบเป็นร่างกายก็บริสุทธิ์จนมีรัศมีแผ่ออกมารอบพระวรกายข้างละวา มีบันทึกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบางพระองค์ ในอดีต มีรัศมีแผ่ออกถึงข้างละ 1 โยชน์ คือประมาณ 16 กิโลเมตร บางพระองค์ข้างละ 10 วา บางที 20 วา ซึ่งก็แล้วแต่บารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นๆ เพราะว่าแต่ละพระองค์ทรงสร้างบารมีมาไม่เท่ากัน
 
        อย่างไรก็ตาม ถ้าธาตุภายในบริสุทธิ์ก็หมายความว่า แม้แต่กระดูกก็บริสุทธิ์ตาม ส่วนพวกเรานี่กิเลสยังหนาอยู่ มีโลภ โกรธ หลง อยู่อีกเยอะ กระดูกของเราเมื่อเผาแล้วเขาเอามากองรวมกับกระดูกแพะ บางทียังแยกความแตกต่างไม่ออก เพราะมันมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก

ส่วนพระธาตุ หมายถึงอัฐิของพระอริยสงฆ์ นับตั้งแต่อัฐิของพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ อัฐิของท่านเหล่านี้ก็ยังต่างจากอัฐิของพวกเราอีกนั่นแหละ คือหลังจากที่เขาประชุมเพลิงแล้ว อัฐิของท่านจะมีลักษณะกึ่งหินกึ่งกระดูก แต่ไม่ใช่ Fossil และอัฐิแต่ละชิ้นก็มีลักษณะเฉพาะๆ ของท่าน พระอรหันต์แต่ละท่าน ก็มีลักษณะพระธาตุต่างกัน เพราะสร้างบุญสร้างบารมีมาไม่เหมือนกัน

 ส่วนของพวกเราเนื่องจากทำบาปไว้เยอะ พอตายแล้วเขาเอากระดูกไปกองรวมกับกระดูกสัตว์เมื่อไร ก็แยกแทบไม่ออก แต่ว่าถ้าตั้งแต่วันนี้เป็นตันไป นั่งสมาธิให้ดี รักษาศีลไม่ให้ขาด กระดูกจะเริ่มเปลี่ยนสภาพตั้งแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่ พอตายแล้ว แม้อัฐิไม่ถึงกับเป็นพระธาตุอย่างพระอรหันต์ท่าน แต่ก็มีแวววับๆ เรื่องนี้เคยเจอมาแล้ว
 
พระภิกษุบางรูป แม่ชีบางท่านที่ตั้งใจรักษาศีลอย่างดีเยี่ยม นั่งสมาธิมาอย่างดีเยี่ยม เมื่อท่านตายแล้ว พอนำเอาร่างไปเผา อัฐิของท่านมีลักษณะคล้ายเป็นพระธาตุ แต่ยังไม่เต็มที่ อย่างนี้เคยเจอ ดังนั้นขอให้ตั้งใจนะ รักษาศีล 8 ให้ดี นั่งสมาธิมากๆ เมื่อตายแล้วอัฐิจะค่อยๆ เปลี่ยนสภาพไป ที่เปลี่ยนก็เพราะขันธ์ 5 ได้บริสุทธิ์ขึ้นมาตามลำดับไงล่ะ

จากคุณ    : หมูน้อยแฮม
92  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แปลงกระดูกคนรัก ให้เป็นเพชร เมื่อ: สิงหาคม 19, 2012, 02:11:18 pm
แปลงโฉม ‘ธุลี ’เป็น ‘อัญมณีวาว’
เชื่อไหมครับ!! เถ้ากระดูกของคนที่คุณรัก เปลี่ยนเป็นเพชรเม็ดงามประดับแหวน หรือจี้ห้อยคอได้

อาจไม่ใช่เรื่องใหม่แกะกล่องของโลกยุคนี้ แต่เป็นเรื่องล่าสุดกำลังจะเกิดขึ้นในบ้านเรา เริ่มจากใจที่คำนึงถึงใครบางคนที่จากไป และต้องการเก็บเขาไว้ระลึกถึงใกล้ๆ ตัว

แม้ว่าความแพร่หลายของการนำกระดูกบรรพบุรุษมาแปรสภาพเป็นเพชรไว้เพื่อระลึกถึง จะเกิดขึ้นแบบเงียบๆ มา 5 ปีแล้ว ทั้งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้เริ่มเทคโนโลยีนี้ หรือบางประเทศในทวีปยุโรป อเมริกา และประเทศในเอเชียอย่างจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ก็ยิ่งทำให้เกิดกระแสอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นตัวแทนออร์เดอร์ในแต่ละภูมิภาค

ณ ประเทศไทย โดย ดร.ยงยศ มนต์เสรีนุสรณ์ เจ้าของร้านเครื่องประดับเพชร เลอ โบ สยามพารากอน และลูกสาว ฐปนี มนต์เสรีนุสรณ์ ว่าที่ผู้สืบทอดกิจการ มาถ่ายทอดประเด็นดังกล่าว ที่ไม่ใช่เป็นเพียงเทรนด์แฟชั่นฉาบฉวย หากแต่เป็นคุณค่าทางใจที่อยู่ในชิ้นอัญมณี

"ตั้งแต่สมัยโบราณ เพชรหมายถึง ‘ความทรงจำชั่วนิรันดร์' และ ‘สัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรัก' ‘ความตาย' เป็นสิ่งที่จะมาเยี่ยมเยือนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเมื่อไรก็ได้ แต่การจะให้ยอมรับการแยกจากกันไปแบบตลอดกาล ซึ่งหมายถึงการสูญเสียชีวิตของคนผู้เป็นที่รักก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย จวบจนถึงปัจจุบันหลายต่อหลายท่านทำให้ตนเองรู้สึกสบายใจ โดยพยายามคิดว่าไม่เป็นไรหรอก "เพราะว่าเขาจะอยู่ในใจ และความทรงจำของพวกเราตลอดไป..." เพราะว่าเขาได้ไปอยู่ในที่ที่สบายแล้ว ‘เพราะว่าเขาคอยดูแลพวกเราอยู่ที่เมืองสวรรค์... '" เป็นต้น

ในเวลาเดียวกันก็มีหลายต่อหลายท่านที่รู้สึกว่า อยากให้บุคคลอันเป็นที่รักมาอยู่ใกล้ตัวเขาบ้างก็ดี แต่สภาวะความเป็นอยู่ที่เร่งรีบอยู่เสมอในปัจจุบัน ก็ทำให้การเข้าวัดบ่อยๆ ไม่สามารถปฏิบัติได้ดั่งที่ใจคิด ยิ่งกว่านั้น ถ้าวัดที่เก็บอัฐิของคนในครอบครัวอยู่ไกล ถึงอยากจะไปก็ไม่สามารถเดินทางไปได้ง่าย"

อัลกอร์แดนซา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นกลุ่มตัวแทนเทคโนโลยีการดึงคาร์บอนในกระดูกมาแปรสภาพเป็นเพชร โดยจำลองสภาพกระบวนการเดียวกันกับการเกิดเพชรในธรรมชาติ มีความคิดว่าอยากจะช่วยเยียวยารักษาบาดแผลในใจที่เกิดจากการสูญเสียคนที่คุณรัก และเก็บความทรงจำเกี่ยวกับพวกเขาไว้ในเพชรนั้น

เพชรแต่ละเม็ดที่ถูกผลิตขึ้นมาจากอัฐิ จะมีเพียงเม็ดเดียวเท่านั้นในโลก เพชรของอัลกอร์แดนซาผลิตขึ้นมาโดยใช้คาร์บอนที่ถูกสกัดออกจากอัฐิ 100% ส่วนประกอบทางเคมีที่มีอยู่ในอัฐิจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของผู้ที่ล่วงลับไปในขณะที่มีชีวิตอยู่ เป็นผลให้สีของเพชรแต่ละเม็ดจะแตกต่างกันเล็กน้อย ผู้ที่ล่วงลับไปในขณะที่เขามีชีวิตอยู่ สำหรับท่านแล้วเขาก็เป็นบุคคลที่พิเศษที่ไม่มีใครมาทดแทนได้ เพชรที่เกิดขึ้นมาใหม่ก็เป็นสิ่งเดียวเท่านั้นในโลก ไม่สามารถทดแทนด้วยสิ่งอื่นใดได้เช่นเดียวกัน

แปลงโฉมเดี๋ยวเดียวก็ได้เพชร
กระบวนการผลิตขั้นต้น-เมื่ออัฐิส่งถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้ว จะนำมาบรรจุลงในกล่องและติดหมายเลขควบคุมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันการสับเปลี่ยนและปะปนกัน พร้อมลงบันทึกในรายการแสดงการตรวจสอบ

ตรวจสอบทางเคมี
ใช้กรรมวิธีในการตรวจดูคาร์บอนโดยอาศัยการหักเหของแสง (Diffraction Spectroscopy) เพื่อตรวจดูปริมาณคาร์บอน จากนั้นสกัดคาร์บอน โดยใช้วิธีทางเคมีและความร้อนเพื่อขจัดสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ออกไป ทำให้อัตราส่วนคาร์บอนที่ผสมอยู่เพิ่มขึ้นมากกว่า 90%

ต่อมาเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนรูปเป็นแกรไฟต์ โดยผ่านกระบวนการที่มีความร้อนและความดันสูงจะทำให้โครงสร้างโมเลกุลของคาร์บอนเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นแกรไฟต์ และยิ่งกว่านั้นในขณะที่สกัด แกรไฟต์จะกำจัดก๊าซที่ปะปนอยู่ออกมา ได้เป็นแกรไฟต์ที่มีอัตราส่วนของคาร์บอนผสมอยู่มากกว่า 95% จากนั้นผู้เชี่ยวชาญจะผลิตเพชรสังเคราะห์ด้วยกระบวนการที่มีความร้อนและความดันสูง (HPHT) ก่อนเข้าสู่กระบวนการตัดและเจียระไนในท้ายสุด

การตรวจสอบคุณภาพและออกใบรับประกัน
เพชรถูกตรวจสอบคุณภาพ และออกหนังสือรับรองโดยสถาบันอัญมณีศาสตร์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อรับรองว่าเพชรที่ถูกส่งมาจากอัลกอร์แดนซา สวิตเซอร์แลนด์ เป็นเพชรที่ผลิตขึ้นมาจากคาร์บอนที่ถูกสกัดออกมาจากอัฐิที่รับมาเท่านั้น หลังจากนั้นคุณก็นำเพชรมาจัดทำเครื่องประดับได้ตามความต้องการ

หนึ่งเดียวในโลก
อัลกอร์แดนซาให้คำสัญญาในคุณภาพ จัดทำเพชรจากอัฐิของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น 100% ธาตุคาร์บอน (C) ในเพชรที่ผลิตเสร็จแล้วนั้นเป็นสิ่งที่ถูกสกัดออกมาจากอัฐิทั้งหมดของผู้ที่ล่วงลับไปที่ได้รับมาเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ใช้ธาตุคาร์บอนจากแหล่งอื่น เช่น ตะกั่วดำธรรมชาติเลย โดยทางต้นสังกัดจะแนบใบรับประกันเรื่องดังกล่าวข้างต้นมาพร้อมกันในเวลาจัดส่งเพชร

ความใส (Clarity) เพชรแห่งความทรงจำนี้ จะรับประกันค่าความใสต่ำที่สุดที่คลาส ไอ (Class I) ตามวิธีการประเมินของเพชรธรรมชาติ แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดก็คือ มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนเพชรที่ผลิตได้โดยกระบวนการนี้ มีค่าความใสที่คลาส วีเอส (Class VS) ซึ่งมองขยาย 10 เท่า จะค้นพบสิ่งเจือปนได้ค่อนข้างยาก นั่นคืออยู่สูงกว่าระดับ คสาส ไอ ถึง 2 ขั้น

แบบฉบับสี เพชรสังเคราะห์โดยทั่วไปมีสีเหลือง แต่ที่อัลกอร์แดนซาด้วยวิธีการผลิตที่พิเศษ ทำให้เกิดเป็นเพชรสังเคราะห์ที่เป็นเพชรสีฟ้าที่หายากได้ สีฟ้านี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดจากการย้อมสี แต่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ จากอัตราส่วนทางเคมีที่มีอยู่เพียงน้อยนิดในเถ้าอัฐิ ทำให้เกิดสีที่สวยงามตั้งแต่สีใสจนถึงสีฟ้า

ให้ความเคารพต่อผู้ล่วงลับ
ถ้ากล่าวถึงการผลิตเพชรจากอัฐิของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนั้น ไม่เพียงแต่ปัญหาทางด้านเทคนิคอย่างเดียวเท่านั้น อัลกอร์แดนซาเข้าใจดีว่าจะต้องมีความรับผิดชอบทางด้านจริยธรรมและศีลธรรมอีกด้วย การดูแลอัฐิ และเพชรนั้นจะระมัดระวังอย่างเป็นพิเศษและให้ความเคารพนับถืออย่างสูงสุด บริษัท อัลกอร์แดนซา จะขึ้นตรงกับสมาคมผู้ประกอบพิธีศพแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Schweizerischen Verband der Bestattungsdienste SVB) ซึ่งถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ก็ได้นำหลักจริยธรรมและศีลธรรมชั้นสูงไปใช้ปฏิบัติในอัลกอร์แดนซาแห่งประเทศญี่ปุ่น และสำนักงานสาขาอีกด้วย

ใบสั่งซื้อทั้งหมดจะมีเลขที่สั่งซื้อโดยเฉพาะไม่ซ้ำกัน ซึ่งการสั่งผลิต การรับการสั่งซื้อ การผลิตจะถูกควบคุมด้วยหมายเลขนี้ทั้งหมด ฉะนั้นถ้ามีความต้องการทราบข้อมูล เราก็สามารถแจ้งให้ทราบได้ว่า ในขณะนี้อัฐิอยู่ในขั้นตอนใดของกระบวนการผลิต ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการบีบอัดเพื่อผลิตเป็นเพชร จะทำการวิเคราะห์ส่วนประกอบทางเคมีของอัฐิ ลงบันทึก และมีวิศวกรควบคุมดูแลในระหว่างกระบวนการบีบอัดตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดก็จะถูกบันทึกลงในใบรับประกันของเพชรที่ออกให้โดยอัลกอร์แดนซา เพื่อเป็นการรับประกันว่าเพชรแห่งความทรงจำของทุกท่านได้ถูกผลิตขึ้นมาจากอัฐิของคนที่คุณรักที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น

เพชรแห่งความทรงจำมีทั้งหมด 9 ขนาด คือ 0.25, 0.30, 0.40, 0.50, 0.60, 0.70, 0.80, 0.90 และ 1.00 กะรัต สามารถเลือกเจียระไนเหลี่ยมเพชรได้ 8 แบบ คือ กลม รูปไข่ หยดน้ำ หัวใจ เรเดียน อัสเชอร์ ทรงมรกต และปรินเซส

ส่วนสีของเพชรจริงๆ จะแตกต่างกันไปตั้งแต่ใส ไม่มีสี จนถึงสีฟ้า โดยเฉลี่ย 90% ผลลัพธ์จะออกมาเป็นสีฟ้าอ่อน

จากการประเมินราคาเหนาะๆ ของกระบวนการดังกล่าวตั้งแต่สั่งซื้อ เซ็นสัญญา กระทั่งออกมาเป็นเพชร คิดราคากะรัตละ 7 แสนบาท ...ไม่น่าตกใจ เพราะราคาไม่หนีจากตลาดเพชรที่เกิดจากใต้พิภพ และในวงการเพชรก็ถือว่า เพชรแห่งความทรงจำ (Memory Diamond) ก็คือเพชร เฉกเช่นเพชรในตลาด เกิดจากวัตถุดิบคาร์บอนเช่นกัน...หากแต่ต่างที่มา

ที่สำคัญมีความหมายมากกว่าอัญมณีชิ้นหนึ่ง เพราะเต็มเปี่ยมด้วยการระลึกและความทรงจำ


ความรู้เกี่ยวกับเพชร
ในทางวิทยาศาสตร์ เพชรเกิดจากธาตุคาร์บอน (C) เกือบบริสุทธิ์ คือประมาณ 99.95% ที่ถูกทับถมอยู่เป็นเวลานานใต้พื้นโลกด้วยแรงกดกว่า 3,000 ตัน อยู่ลึกประมาณ 80 กิโลเมตร ต่อมาหินคิมเบอร์ไลต์ (Kimberlite) ได้ดันเพชรขึ้นมาระดับพื้นผิวโลก แต่พบว่าจะพบเพียง 500-600 แหล่ง จากกว่า 5,000 แหล่งหินคิมเบอร์ไลต์ทั่วโลก นอกจากนี้ยังพบเพชรอยู่ในบริเวณลานแร่ (Alluvian) อยู่ประมาณ 90% ของเพชรที่พบทั้งหมด

เพชรเป็นแร่มีรูปร่างผลึก 8 เหลี่ยม หรือ 12 เหลี่ยม มีความโปร่งใส และกึ่งโปรงใส มีประกายแวววาว รอยตำหนิมีเหลี่ยมมุมถาวร ไม่เปลี่ยนแปลง

เพชรมีหลายสี ตั้งแต่ไม่มีสี จนกระทั่งถึงสีดำ ที่เรียกว่า คาร์โบนาโด (Carbonado) สีต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกิดจากมลทินในผลึก ส่วนใหญ่จะพบไนโตรเจน ซึ่งจะพบอยู่ถึงร้อยละ 0.2% นอกจากนี้ยังพบซิลิกอน แมกนีเซียม อะลูมิเนียม เหล็ก แคลเซียม และทองแดง ซึ่งมีอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก เพชรที่พบอยู่โดยทั่วไปจะมีสี เหลือง หรือน้ำตาลอ่อน เพชรที่ใสไม่มีสี จะมีราคาสูงที่สุดและเป็นที่นิยม แต่เพชรมีสีนั้นค่อนข้างหายาก เช่น สีชมพู หรือสีน้ำเงิน เช่น โฮป ไดมอนด์ เป็นเพชรที่มีสีฟ้า มีชื่อเสียงมาก และชนิดที่หายากที่สุดคือ เรด ไดมอนด์

เพชรแบ่งออกได้ 4 ชนิด คือ
ชนิด la มีไนโตรเจน ประมาณ 0.1% ได้แก่ เพชร ที่ขุดตามธรรมชาติ
ชนิด lb มีไนโตรเจน ประมาณ 0.2% ได้แก่ เพชรสังเคราะห์
ชนิด lla ไม่มีไนโตรเจน ชนิดนี้หายากมาก
ชนิด llb เป็นเพชรที่มีโบรอน (Boron) อยู่ในผลึกจะมีสีฟ้า หายากมาก



ที่มา
variety.thaiza.com/แปลงโฉม-‘ธุลี-’เป็น-‘อัญมณีวาว’/151334/

93  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ปาฏิหาริย์ พระบรมสารีริกธาตุเสด็จ กับ บุคคลสำคัญ เมื่อ: สิงหาคม 19, 2012, 02:00:09 pm
สำหรับคนที่ไม่เชื่อเรื่องพระธาตุนะครับ

จากอดีตถึงปัจจุบัน คงมีคนตายและถูกเผาไปรวมๆกันอย่างน้อยน่าจะมีซักพันล้านครั้งได้มั้ง
รวมทุกประเทศนะครับ ใครที่คิดว่าพระธาตุเกิดจาก "บางทีในกระบวนการเผา เกิดเหตุปัจจัยพอเหมาะ" ลองช่วยค้นข้อมูลได้มั้ยครับ ว่ามีกรณีใดบ้างที่มีการเผาแล้วเกิดกระดูกในลักษณะพระธาตุขึ้นมาบ้าง

ถ้าพระธาตุเกิดจากการเผาที่มีปัจจัยที่พอเหมาะ ปริมาณพันล้านครั้งน่าจะเพียงพอที่จะเกิดได้มั้งครับ เท่าที่ผมลอง search ดู ถ้าไม่นับพระธาตุจากพระอรหันต์ที่เราเห็นๆกันอยู่เนี่ย ไม่เคยเห็นมีบันทึกใดๆเลย ว่าปรากฏหลังจากการเผาศพคนธรรมดา หมา แมว อย่างที่คุณๆว่ากันเลย ช่วยยกตัวอย่างมาให้ดูหน่อยได้ไหมครับ

คำถามนะ

ทำไมจำเพาะเจาะจงที่การเกิดพระธาตุต้องบังเอิญเกิดในพระปฏิปทาในศาสนาพุทธครับ?
ทำไมจำเพาะเจาะจงเกิดกับพระที่เราเชื่อมั่นว่าเป็นพระอรหันต์ครับ?
พระสงฆ์ที่มรณะภาพมี่เยอะแยะไป ที่โรงพยาบาลสงฆ์มีทุกอาทิตย์ ทำไมเราไม่เคยเจอพระธาตุจากพระทั่วไปครับ?

ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องอิทธิปาฏิหารย์ ชาติ ภพ เท่าไหร่นักว่ามีจริง แต่จะเล่าประสบการณ์เรื่องพระธาตุให้ฟัง

เมื่อตอนน้ำท่วมที่ผ่านมา ผมหนีน้ำไปพักที่บ้านพ่อแม่ ที่ราชบุรี ระหว่างนั้นก็คุยกันเรื่องศาสนาแล้วก็พูดเรื่องพระธาตุ พ่อผมก็บอกว่า ท่านเองเคยได้พระธาตุมาจากน้องสาว(อาผมซึ่งเสีย) เมื่อเกือบยี่สิบปีมาแล้ว โดยอาผมบอกพ่อว่าได้มาจากตอนไปแถวอีสาน

อาผมให้พระธาตุแก่พ่อมาราวๆ 5-6 องค์ (เม็ด) ซึ่งพ่อผมก็เก็บไว้ในผอบวางไว้หน้าโต๊ะหมู่บูชา แล้วก็ไม่ได้แทบเปิดอีกเลย ผมได้ยินก็ดีใจ บอกพ่อว่าผมขอซักสามองค์(เม็ด)ได้มั้ย เพราะจะได้ห้อยคอเป็นที่บูชาถึงพระรัตนตรัย พ่อผมก็บอกว่าได้ให้ผมขึ้นไปเอาในผอบเอง

เชื่อมั้ยครับว่า ตอนผมเปิดผอบ มีเม็ดพระธาตุในนั้นร่วมๆ 30 องค์ได้ เลยหยิบผอบลงมาหาพ่อ แล้วแยกพระธาตุไว้ 3 องค์ ใส่รวมกับหลวงพ่อทวดที่ผมห้อยคอ

พ่อผมท่านเองยังแปลกใจว่าทำไมถึงมีเพิ่มขึ้นมาได้ และท่านยืนยันว่าได้รับมาจำนวนประมาณนั้น (5-6องค์) ตอนที่ท่านรับพระธาตุมาแม่ผมก็อยู่ด้วย ท่านยังยืนยันในสิ่งที่พ่อผมพูด ซึ่งพ่อผมไม่โกหกผมแน่ๆ

ถ้าเอาตามชาวพุทธที่เชื่อเรื่องนี้ เค้าบอกว่าพระธาตุท่านยินดีที่อยู่กับคนดีมีศีลธรรม และท่านจะสามารถแบ่งภาคเพิ่มขึ้นมาได้ ซึ่งบังเอิญพ่อแม่ผมถึงท่านจะไม่ได้ศึกษาศาสนามากมาย ตั้งใจรักษาศีลเคร่งครัดจริงจัง แต่ท่านก็ใช้ชีวิตสมถะ ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ไม่กินเหล้าเล่นการพนัน ไม่ค่อยได้ฆ่าสัตว์ยกเว้นพวกมดแมลง และตักบาตรเป็นประจำ


วิทยาศาสตร์อธิบายเรื่องนี้ว่าไงดีครับ กระดูกที่ถูกเผาแล้วแบ่งตัวสร้างเซลกระดูกขึ้นใหม่แล้วโคลนตัวเองจนเหมือนกระดูกชุดแรกเหรอครับ?

ที่บอกนี่ไม่ได้บอกว่าจะต้องยกพระธาตุเป็นเรื่องปาฏิหารย์อะไรมากมาย แต่ขอเหอะ อย่าดูถูกอย่าลบหลู่แบบไม่สมควร เหมือนอีตารถกระป๋องที่บอกเป็นลัทธิกระดูกแก้ว เหยียดคนอื่นว่าบูชาขี้เยี่ยวพระ

หลายสิ่งหลายอย่างวิทยาศาสตร์เองก็ไม่ก้าวหน้าพอที่จะพิสูจน์ เอาง่ายๆแค่ สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาได้อย่างไรและพิสูจน์ให้ได้ตามนั้น ก็ยังทำไม่ได้เลย

จากคุณ    : cantona_z
94  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / "ปอศ.”จับ 91 องค์กรธุรกิจใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อ: สิงหาคม 18, 2012, 10:15:34 am

วันนี้(15ส.ค.) ที่โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท  กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ( บก.ปอศ.) จัดแถลงข่าว การดำเนินงานปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 โดยมี นางกุลณี อิศดิศัย รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการและโฆษก บก.ปอศ. และนายสมพร มณีรัตนะกูล นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย(เอทีเอสไอ) ร่วมงานแถลงข่าว


   พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการและโฆษก บก.ปอศ. กล่าวว่า ครึ่งปีที่ผ่านมาได้เข้าตรวจค้นดำเนินคดีกับองค์กรธุรกิจที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์จำนวน 91 แห่ง ซึ่งได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายลงเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีจำนวน 1,434 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 174 ล้านบาท โดยองค์กรธุรกิจที่ละเมิดลิขสิทธิ์ 69%  เป็นบริษัทที่ถือหุ้นโดยคนไทย ส่วนอีก 18% เป็นบริษัทที่ไทยและต่างชาติถือหุ้นร่วมกัน และอีก 3 % เป็นบริษัทที่ต่างชาติถือหุ้น 100% ส่วนอีก 1 % ไม่ทราบสัญชาติ ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิต อาทิ อะไหล่รถยนต์ เครื่องประดับ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ รองลงมาคือ อุตสาหกรรมก่อสร้าง ตกแต่งภายใน  ออกแบบสื่อโฆษณาและแอนิเมชั่น ซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ที่พบส่วนใหญ่ คือ ไมโครซอฟท์ ออโต้เดสก์ และไทยซอฟต์แวร์เอ็นเตอร์ไพรส์
 

“ในช่วงครึ่งปีหลังมีเป้าหมายโรงงานที่จะเข้าตรวจค้นอีก 1,300 แห่ง และบริษัทส่งออก 600 แห่ง ตั้งเป้าหมายลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์พีซีให้เหลือ 70% ในสิ้นปีนี้จากปัจจุบันอยู่ที่ 72%  โดยขณะนี้ไทยมีอัตราละเมิดลิขสิทธิ์อยู่อันดับที่ 7 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่หากดูในส่วนของการปราบปรามเพื่อลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ไทยอยู่อันดับที่ 2 เป็นรองเพียงฮ่องกงเท่านั้น”


พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าวต่อว่า การเข้าตรวจค้นทางเจ้าหน้าที่จะมีการขอหมายค้นจากศาลทุกครั้ง หากผู้ประกอบการพบเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโดยไม่แสดงหมายค้นขอให้ถ่ายรูปและวิดีโอไว้ แล้วแจ้งมาทาง ปอศ.เพื่อจะได้ทำการตรวจสอบและเป็นการป้องกันการประพฤติมิชอบของทางเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามในส่วนของร้านค้าขายคอมพิวเตอร์และประชาชนทั่วไปจะเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงโทษและความเสี่ยงจากใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งการเร่งปราบปราบเนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนจากต่างชาติ และให้ไทยหลุดจากสถานะประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ(PWL) และเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ในปี 2558


นางกุลณี อิศดิศัย รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ต่อเนื่อง โดยรณรงค์ให้ความรู้กับผู้ประกอบการเพื่อตะหนักเรื่องนี้ และทางกรมฯให้ความสำหรับกับทั้งซอฟต์แวร์ไทยและต่างประเทศ ส่วนการหลุดจากประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ สหรัฐฯจะพิจาณาจากหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่การปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างเดียว
95  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุไคตั๊ก 17-19 ส.ค.นี้ เมื่อ: สิงหาคม 18, 2012, 10:05:32 am


เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (17 ส.ค.55) พายุไต้ฝุ่น “ไคตั๊ก” (KAI-TAK) มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 20.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.3 องศาตะวันออกมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเหนือเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในช่วงเช้าวันนี้ (17 ส.ค.55) ซึ่งจะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 17-19 ส.ค. 2555 ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย

 

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน และตาก  อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ  และอุบลราชธานี  อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

 

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี  อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

 

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด  อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส  ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 

 

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช  อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 

 

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา  อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส  ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 

 

กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส

เนื้อหาข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/thailand/149900
96  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและนักเรียนจากจังหวัดพิจิตรชนท้ายกระบะจนเสียหลักพลิกคว่ำ เมื่อ: สิงหาคม 16, 2012, 11:41:20 am
เชียงใหม่ - รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและนักเรียนจากจังหวัดพิจิตรชนท้ายกระบะจนเสียหลักพลิกคว่ำกลางดอยเขตติดต่อเชียงใหม่-เชียงราย เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน สันนิษฐานคนขับรถไม่ชำนาญเส้นทาง ประกอบกับเป็นทางโค้งลาดชัน และมีฝนตกทำให้ถนนลื่น
       
       ช่วงเย็นวันนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนจากจังหวัดพิจิตรชนท้ายรถกระบะ แล้วเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทางบริเวณช่วงทางโค้งบ้านปางแฟน ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานงานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยเข้าให้ความช่วยเหลือ
       
       โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางโค้งบ้านปางแฟน ขาเข้าเมืองเชียงใหม่ เยื้องร้านขาหมูภูเก็ต พบรถบัสปรับอากาศสองชั้นของบริษัทสุภาทัวร์ หมายเลขทะเบียน 30-0291 นครสวรรค์ พลิกคว่ำตกไหล่ทางในสภาพตะแคงขวา เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตกระเด็นออกมานอกตัวรถจำนวน 2 ราย เป็นเด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขณะที่รถกระบะที่ถูกชนท้าย ทราบชื่อคนขับคือ นางบงกช ใจปิน ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาลดอยสะเก็ด แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
       
       จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถบัสที่ประสบอุบัติเหตุเป็น 1 ใน 2 รถบัสของคณะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ (ม.) 2, ม.3, ม.5 และ ม.6 ที่เดินทางมาจากโรงเรียนเทศบาล 2 อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร รวมทั้งครู และเจ้าหน้าที่จำนวน 108 คน เพื่อทัศนศึกษาในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ โดยขณะเกิดเหตุกำลังเดินทางจากจังหวัดเชียงรายเข้าที่พักในจังหวัดเชียงใหม่
       
       กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นทางโค้ง ประกอบกับฝนตกทำให้ถนนลื่นและคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง จึงพุ่งชนรถกระบะที่อยู่ข้างหน้าและเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง ส่วนรถบัสอีกคันไม่เกิดอุบัติเหตุและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด 54 คน และโรงพยาบาลต่างๆ อีกประมาณ 10 กว่าคน
       
       สำหรับบริเวณที่เกิดเหตุในครั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่าเป็นจุดที่มักจะเกิดอุบัติเหตุจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นประจำ เนื่องจากเป็นช่วงทางโค้งขึ้นลงภูเขา ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดเดียวกับที่รถบัสของคณะครูอาจารย์จากจังหวัดจันทบุรีประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 50 ระหว่างเดินทางมาศึกษาดูงานที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย โดยอุบัติเหตุครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 21 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก


http://www.manager.co.th/local/viewnews.aspx?NewsID=9550000100609
97  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / อบรมการดูแลจิตใจผู้ป่วยเรื้อรังและระยะสุดท้าย วันที่ 18 สิงหาคม 2555 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2012, 10:52:38 am
เครือข่ายพุทธิกา ขอเชิญบุคคลทั่วไปและอาสาสมัคร
อบรมการดูแลจิตใจผู้ป่วยเรื้อรังและระยะสุดท้าย
วันที่ 18 สิงหาคม 2555 
กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งเรื้อรัง หรือผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคระยะสุดท้ายทั้งในโรงพยาบาลหรือที่บ้าน ไม่ได้ต้องการการรักษาทางกายจากแพทย์เท่านั้น หากยังต้องยังต้องการกำลังใจ การรับฟังและความเข้าใจ หากคนใกล้ชิดมีความเข้าใจและดูแลได้อย่างเหมาะสม ก็สามารถทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ทั้งทางกาย ใจ และจิตวิญญาณ อันจะไปสู่การใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายอย่างสงบผ่อนคลาย ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายพุทธิกาและองค์กรภาคี  จึงอยากเชิญชวนผู้สนใจ ผู้ดูแลผู้ป่วย อาสาสมัคร เข้าฟังการบรรยายเพื่อทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานและทักษะการดูแลทางด้านจิตใจผู้ป่วยเรื้อรังและระยะสุดท้าย 
เนื้อหาการอบรม
1.      ความเข้าใจการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังและระยะสุดท้าย คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร
2.      หลักการพื้นฐานและทักษะการดูแลทางด้านจิตใจผู้ป่วยเรื้อรังและระยะสุดท้าย
3.      บทบาทในการช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจผู้ป่วยเรื้อรังและระยะสุดท้าย
4.      ทักษะการรับฟังอย่างลึกซึ้ง
 
จัดโดย
โครงการเผชิญความตายอย่างสงบ เครือข่ายพุทธิกา ร่วมกับ
ชมรมบริบาลผู้ป่วยระยะท้ายแห่งประเทศไทย
และหน่วยการุณรักษ์ (Palliative Care Unit) รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น
 
วันที่
เสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2555 เวลา 08.30-17.00 น.
 
สถานที่
ห้องประชุมใหญ่ ตึกภปรชั้น 18 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
 
วิทยากร
พญ.ศรีเวียง ไพโรจน์กุล วรรณา จารุสมบูรณ์ และเพ็รชลดา ซึ้งจิตสิริโรจน์
 
เหมาะสำหรับ
คนที่มีผู้ป่วยอยู่ในบ้าน ผู้ดูแลผู้ป่วย อาสาสมัครดูแลผู้ป่วย และผู้สนใจทั่วไป
 
วิธีสมัคร
โทรศัพท์เพื่อสำรองที่นั่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
 
สำรองที่นั่ง
เครือข่ายพุทธิกา เนตรประวีณ์ อัมรนันทน์  โทร. 02-882-4387 085-242-1096
 
หมายเหตุ
การอบรมไม่มีอาหารว่างและอาหารกลางวัน
98  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ฟังเรื่อง กฏแห่งกรรม ในรายการ RDN เรื่องหนึ่งเกิดความสงสัยว่า ..... เมื่อ: สิงหาคม 13, 2012, 08:55:18 am
วันก่อนฟังเรื่อง กฏแห่งกรรม ในรายการ RDN เรื่องหนึ่งเกิดความสงสัยว่า .....
 
  เรื่องเล่าว่า มีชายคนหนึ่ง ได้ตัดลิ้นควาย ที่เข้าไปกินต้นข้าวที่ตนเองปลูกไว้ ด้วยความแค้นที่ควายเข้าไปกินต้นข้าว ก็เลยตัดลิ้นควาย ในที่สุดควายตนนั้นก็ตาย

   ผลกรรมที่เขาทำไว้ ปรากฏว่า ลูกชาย ลูกสาว 3 คนเกิดมากลายเป็นเด็กที่พูดไม่ได้ ไม่มีลิ้น ทั้งสามคน ในที่สุดแกก็ถูกมีดที่เก็บไว้ข้างฝาตกใส่ปากตายในท่านอน

   ผลกรรมนี้ทำให้เกิดความสงสัยว่า คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำไมต้องไปรับกรรมที่ คนอื่นทำด้วย อย่างกรณีนี้ถ้าเป็นคนทำได้รับกรรม ก็คิดว่าเหมาะสม แต่ทำไมต้องให้เด็กทั้งสามที่ไม่ได้สร้างกรรมไว้ รับกรรมด้วยคะ

  ที่สงสัยก็ตรงนี้ คะ

 


99  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: คนที่ต้องการภาวนาจริง ๆ จำเป็นต้องศึกษาคัมภีร์ต่าง ๆ มากด้วยหรือไม่ครับ ? เมื่อ: สิงหาคม 12, 2012, 09:40:41 am
น่าจะมีความจำเป็นในการภาวนา คือเรียนตรงที่ภาวนา คะ แต่ส่วนที่เป็นส่วนเกินจากการภาวนานั้น ก็ต้องเพลา ๆ ลงบ้างคะ มิฉะนั้นเมื่อปัญญามากกว่า ก็จะทำให้เสียการภาวนาได้คะ เป็นวิปัสสนูกิเลสที่เรียกว่า ญาณัง คะ

  :s_hi: :49:
100  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน / Re: "สังฆราชสุก" องค์ไหนที่เป็นพระอาจารย์ "สมเด็จโต" องค์ที่ ๒ หรือ ๔..?? เมื่อ: สิงหาคม 11, 2012, 01:48:45 pm
เรื่อง ของ สมเด็จพุฒาจารย์โต เป็น ศิษย์ พระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน ด้วยหรือไม่นั้น ไม่ได้กังขาเพราะการไปเป็นศิษย์ในระหว่างที่ท่านพำนักศึกษาเล่าเรียน กรรมฐาน ต้องไปเข้าศึกษาที่ศูนย์กลางกรรมฐานในสมัยนั้นไม่ใช่ วัดมหาธาตุ แต่เป็นวัดพลับที่สอนกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

   ดังนั้นการเป็นศิษย์ นั้นไม่ได้เป็นตอนที่ หลวงปู่สุก เป็นพระสังฆราช แต่เป็นตอนที่เป็นเจ้าอาวาสวัดพลับและเป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่สอนกรรมฐาน ที่ดีที่สุดในยุค กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย กรุงธนบุรี และ กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นดังนั้นกิติศัพท์ของหลวงปู่ ไม่ได้มีตอนเป็นพระสังฆราชเพียง สองปี อย่างที่กล่าวแสดงไว้

   การบวชเรียนในสมัยนั้น แม้เป็นอุปัชฌาย์ ก็ไม่ได้มีหน้าที่สอนบาลีนะจ๊ะ แต่หน้าที่สอนเป็นหน้าที่ของครูอาจารย์ที่ได้รับมอบหมาย ด้วยพรรษาของพระอาจารย์สุก ( หลวงปู่สุก ) ผู้มีความชำนาญในเรื่องการแปล ดังที่มีการทำสังคายนาพระไตรปิฏก ฉบับทองคำขึ้นทูลเกล้าเป็นพระอาจารย์สุก รูปไหนเป็นผู้ดูแลในการนั้น

   ต้องลองถอดรหัสนี้ ดูก่อนนะจ๊ะ อย่าพึ่งสรุปว่าไม่ใช่ หรือ ใช่

   ส่วนเรื่องพระอรหัง นั้นต้องไปศึกษาตำนานพระอรหังที่สร้าง ไม่ใช่หลวงปู่สุกมาทำ หรือสร้างตอนเป็นสังฆราช อย่าลืมว่าในหลวงทรงผนวช สร้างตำหนักที่วัดพลับ พ.ศ.ไหน ท่านเผยแผ่พระกรรมฐาน ตั้งแต่เริ่มเข้าไปอยู่วัดพลับซึ่งเป็นวัดร้าง

   ถ้าไปเอาแต่พรรษาที่ท่านเป็นสังฆราช 2 ปี มาวัดนั้นไม่เพียงพอ เพราะผลงานที่หลวงปู่ได้ทำไว้ก่อนเป็นสังฆราช การสอบ แต่งตั้งครูกรรมฐาน มีการแต่งตั้งและสอนออกไปตามหัวเมือง พ.ศ.ไหน อ่านได้จากประวัติหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน วัดพลับครูอาจารย์ที่เป็นครูสำคัญของ หลวงพ่อโตอีกรูป คือ ขรัวตาแสง โปรดเทียบประวัติด้วย ขรัวตาแสงท่านเป็นศิษย์ เมื่อครูอาจารย์ส่งมอบศิษย์ให้ไปศึกษาธรรมบาลี กรรมฐาน จะส่งไปหาใคร การบวชอุปสมบถเป็นพระ ที่ชื่อว่านาคหลวง มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้อุปถัมภ์ อุปัชชฌาย์แน่นอนก็ต้องเหมาะสม ดังนั้นส่วนของอุปัชฌาย์ ไม่น่าผิดพลาด แต่ส่วนของครูกรรมฐาน อาจารย์ผู้สอนบาลี หลักธรรม คือใคร อันนี้ขอแย้งไว้ให้ท่านผู้อื่น ไต่ตรองวิจารณญาณให้ดี บันทึกครูผู้สอนกรรมฐาน มีกล่าวไว้ในเรื่องนี้

    สรุป ใครเป็นครูอาจารย์ ผู้สอนกรรมฐาน ให้กับ หลวงปู่โต
    รูไหม ? ว่าสมเด็จโตทำไมจึงยอมไปอยู่ วัดระฆัง ....
    วัดระฆัง กับ วัดพลับ .... ห่างกันเท่าใด เพราะอะไร ?

  ไม่เก่งประวัติศาสตร์ แต่ลองวิเคราะห์ดูขอ้ผิดพลาด ที่ผู้เขียนสรุปไว้คลาดเคลื่อน

  อันที่จริงอยากทราบ ความเห็นของ จขกท. ว่ามีความเห็นอย่างไร ด้วยคะ

   :88:
 

101  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: 12 สิงหาคม 2555 วันแม่แห่งชาติ สดุดีมหาราชินี่ ( ทีมงามมัชฌิมา ) เมื่อ: สิงหาคม 06, 2012, 11:01:05 am
MVแม่ของคนไทย


ผยแพร่เมื่อ 17 ก.ค. 2012 โดย tv5internet

เพลง "แม่ของคนไทย"
บทเพลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕
102  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับผู้สนับสนุน notebook ให้แก่ สนง.ส่งเสริมกรรมฐาน 15 ก.ค.55 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2012, 10:12:34 am
อนุโมทนา กับ คุณ nongyao ด้วย คะ

 :25: :25: :25:
103  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เหตุผลใด ที่เราต้องการมาปฏิบัติธรรม กันครับ ??????????? เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2012, 08:11:09 am
^ ^
เพราะมีเกิดจึงมีตาย เพราะไม่มีเกิด จึงไม่มีตาย

พระอรหันต์หลีกพ้นภัยมรณาได้ ตลอดกาล แต่มารซึ่งเรียกว่า  มัจจุ  หรือ  มัจจุมาร  เป็นผู้ทำลายเบญจขันธ์ไปโดยธรรมดาธรรมชาติ  มารทำลายเบญจขันธ์ของพระอรหันต์ได้เพราะเป็นขันธ์ในโลก  แต่จะติดตามกำกับบงการให้โลกุตตรจิตหรือโลกุตตรวิญญาณของพระอรหันต์ที่อยู่เหนือโลกพ้นโลกพ้นกรรมแล้วนั้นให้ไปเกิดในภพหนึ่งภพใดตามกรรมอีกไม่ได้  เพราะไม่มีกรรมเป็นปัจจัยที่จะชักนำให้ไปเกิดอีกแล้ว ดังพุทธพจน์ที่ว่า

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เธอทั้งหลายมองเห็นกลุ่ม
หมอกกลุ่มควันลอยไปทางทิศทั้งหลายอยู่หรือไม่
นั่นแหละคือมาร (มัจจุมาร) หยาบช้าค้นหาวิญญาณ
ของวักกลิกุลบุตร  ด้วยคิดว่าวิญญาณของวักกลิกุลบุตร
ตั้งอยู่ ณ ที่แห่งไหนหนอ  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  วักกลิ
กุลบุตรมีวิญญาณไม่ได้ตั้งอยู่  ปรินิพพานแล้ว”

แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 12:29:45

จากคุณ    : กอบัวสวรรค์
104  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เอาไก่ เป็นครู สิคะ เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 08:35:58 am


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://farm4.static.flickr.com

อาจารย์ไก่

    ถ้าคนเรา เปรียบกับไก่ ดูให้ดี
    มันไม่มี นอนไม่หลับ ไม่ปวดหัว
    ไม่มีโรค ประสาท ประจำตัว
    โรคจิตไม่ มากลั้ว กับไก่น้อย
    คนในโลก กินยา เป็นตันๆ
    พวกไก่มัน ไม่ต้องกิน สักเท่าก้อย
    หลับสนิท จิตสบาย ร้อยทั้งร้อย
    รู้สึกน้อย แห่งน้ำใจ อายไก่เวย
    ได้เป็นคน หรือจึงได้ นอนไม่หลับ
    ควรจะนับ ว่าเป็นบาป หรือบุญเหวย
    มีธรรมะ กันเสียนะ อย่าละเลย
    อยู่เสบย ไม่ละอาย แก่ไก่มัน


ที่มา FWD
105  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 'หมอดูอีที' บุกไทย ทำนายน้ำไม่ท่วม.! เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 08:27:39 am
หมดดู มีอยู่ คู่กับหมอเดา
  ถ้าเป็น หมอญาณวิเศษอันนี้ ต้องใช้วิจารณญาณสูง ส่วนตัวเชื่อหมอที่มีการเรียนวิชาไตรเพท คะ มีการวาง ลึตนา ประมาณนี้เชื่อถือได้มากกว่า เคยทดสอบแล้ว

    :s_hi: :88: :c017:
106  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วิธีใช้หนี้พ่อแม่ : ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 08:24:47 am

    วิธีใช้หนี้พ่อแม่ : ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
1.จงสร้างความดีให้กับตัวเอง

และนี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก
 
2. ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว
ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุด ทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ

3. ผู้ใดก็ตาม
ที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษฯ

4. ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน
อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือ ถอนคำพูด ไปขอสมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ ฯ

5. บางคนลืมพ่อลืมแม่
อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่ ฯ ท่านยกตัวอย่าง (เรื่องจริงนะจ๊ะ)
ตัวอย่าง ที่ 1
บ้านหนึ่งพ่อมีเมีย ๔ คน เมียหลวงบอกลูกว่าพ่อเจ้าไม่ดี ลูกก็ไปด่าพ่อว่าพ่อ
แล้วมาบวชวัดนี้ บวชแล้วเดี๋ยวเป็นโน่นเป็นนี่ จนจะกลายเป็นโรคประสาท
นี่แหละบวชก็ไม่ได้ผล หลวงพ่อก็ให้ไปถอนคำพูด และขอสมาลาโทษกับพ่อเขาก่อน แล้วกลับมานั่งกรรมฐานจึงได้ผล
(กรณีนี้ หลวงพ่อจะเตือนผู้เป็นลูกบ่อยๆไม่ให้ว่าพ่อ) แต่ให้เป็นเรื่องของแม่ที่จะแก้ปัญหานี้ ซึ่งหลวงพ่อสอนไว้แล้ว
ตัวอย่าง ที่ 2
เมื่อเร็วๆนี้ลูกฆ่าพ่อ แม่สงสารพามาเจริญกรรมฐานพอเข้าวัดมันร้อนไปหมด ปวดหัวเข้าไม่ได้นี่เวรกรรมตามสนอง ปิตุฆาต มาตุฆาต ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ทำกรรมฐานไม่ได้แน่นอน ต้องหันรถกลับ นี่เรื่องจริงในวัดนี้ ฯ

6. คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้
คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปี ก็ไม่ได้อะไร ? ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ฯขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่  คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ๆน้องๆ
จะไม่เอาอีกแล้ว  เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส
อันว่าโทษทัณฑ์ใด   ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย
คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้า ฯ
นี่แหละ ท่านทั้งหลายเอ๋ย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย ยังจะไปทวงนาทวงไร่ ทวงตึก มาเป็นของเราอีกหรือ  ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้ เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ไปทวงหนี้พ่อแม่ พ่อแม่ให้แล้ว   (ให้ชีวิต ให้…ให้… ให้….ฯลฯ ) เรียนสำเร็จแล้ว ยังช่วยตัวเองไม่ได้ มีหนี้ติดค้าง รับรองทำมาหากินไม่ขึ้น ฯ
หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณ นั่นคือหนี้บุญคุณของบิดา มารดา
ตัวอย่าง ที่ 3
"หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงใครไปกลึง"
เด็กประถม ๔ พ่อเมาเหล้า เมากัญชาเล่นการพนัน แม่เล่นหวย ปัจจุบันเป็นดอกเตอร์อยู่อเมริกา หลวงพ่อสอนครั้งเดียวจำได้
บอกวันเกิด หนูซื้อขนม ๒ ห่อ เรียกพ่อแม่มานั่งคู่กัน แล้วกราบนะลูกนะ
แล้วก็บอกพ่อแม่ว่า ความผิดอันใดที่ลูกพลั้งเผลอ ด้วยกาย วาจา ใจ ที่คิดไม่ดีต่อคุณพ่อคุณแม่
ขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้ แล้วล้างเท้าให้พ่อแม่ ลูกไม่มีสตางค์ ลูกซื้อขนมมา ๒ ห่อ
ให้แม่ก่อน ๑ ห่อ เพราะอุ้มท้องมา แล้วจึงให้พ่ออีก ๑ ห่อ ลูกขอปฏิญาณตนว่า ลูกขอเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ แล้วจะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง...
พ่อฟังแล้วน้ำตาร่วงสร่างเมา ส่วนแม่ก็ร้องไห้เลย พ่อแม่ก็ให้สัญญากับลูกเลิกอบายมุขทั้งหมด

7. ลูกหลานโปรดจำไว้
เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่  ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่
ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล

8. ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนาม
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าทำดีได้ดี

9. ของดี ของ ปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย
ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนองทองจะไหลมา.........
พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มา ก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดีอย่าเอาไปทิ้งขว้าง ฯ
                                                                                                            10. ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย
คนเรามี ๒ ก้าว จะก้าวขึ้นหรือก้าวลงดำน้ำไม่โผล่ ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ
นี่บอกสอนลูกหลาน ต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล
ตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนตร์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้เดี๋ยวมีคนรับ  บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไปพวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว
 
 
 
ถ้าส่งต่อก็จะเป็นบุญแก่ตัวเองนะ
 
ไม่ได้บังคับ
107  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ว่อนเนต!! ไอ้โล้นมารศาสนา ตั้งวงซดเบียร์ เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 08:18:33 am


MThai News : กลายเป็นกระแสในอินเตอร์เนตที่ถูกส่งต่อกันอย่างมาก หลังเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “สำนักข่าวคันหู” ได้เผยภาพถ่ายชายกลุ่มหนึ่งล้อมวงดื่มกินอาหารและเบียร์ที่วางอยู่เต็มโต๊ะ
โดยชาย 2 คนในกลุ่ม มีลักษณะศีรษะโล้น แต่งกายคล้ายพระ และยังมีย่ามของพระสงฆ์แขวนอยู่ที่ผนังห้องด้วย
หลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเนตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม อีกทั้งบางคนยังตั้งข้อสังเกตุว่าน่าจะเป็นพระปลอม และอยากให้ตำรวจเข้ามาสอบสวนกรณีนี้ เนื่องจากเห็นหน้าตาชัดเจน

108  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คลิปออกมาให้ดูครึ่ง ๆ กลาง ๆ จนเป็นที่สับสน จริง หรือ เท็จ ในที่สุดก็เฉลยแล้ว เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 08:16:20 am
เฉลย! เด็กมัธยม คลอดลูกคาห้องเรียน



 เผยแพร่เมื่อ 15 ก.ค. 2012 โดย Somsee orawan

นศ.มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาโฆษณา osp10

จัดทำคลิปชุดนี้ขึ้นมาเพื่อโปรโมทงาน B.A.D Student Workshop 2012 ซึ่งจะมีการรับโจทย์ในวันที่ 31 กค. 55 ณ หอศิลป์ กรุงเทพ เวลา 13.30 น.

ทางเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เนื่องด้วยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่มีเนื้อหาเสียดสีสังคม ทางคณะผู้จัดทำมีจุดประสงค์เพื่อการโปรโมทงาน พร้อมหวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจของใครหลายคน

จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอทุกท่านโปรดเข้าใจ
คณะผู้จัดทำ
MThai News: หลังจากหลายสัปดาห์ก่อน สื่อออนไลน์ได้เผยแพร่ข่าว คลิปนักเรียนมัธยม คลอดลูกในห้องเรียน จนเกิดเป็นข้อถกเถียงกัน ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทั้งยังมีการแสดงความเห็นถึงความเสื่อมโทรมของสังคม

ล่าสุดมีผู้จัดทำคลิปเพื่อเฉลยความจริงที่ว่า คลิปนักเรียนมัธยมคอลดลูกในห้องเรียน แท้จริงเป็นโฆษณาเพื่อโปรโมตงาน B.A.D Student Workshop 2012 ของนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาโฆษณา osp10 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งจะมีการรับโจทย์ในวันที่ 31 กค. 55 ณ หอศิลป์ กรุงเทพ เวลา 13.30 น. โดยผู้จัดทำได้ระบุเนื้อหาไว้ด้วยว่า

ทางเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เนื่องด้วยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่มีเนื้อหาเสียดสีสังคม ทางคณะผู้จัดทำมีจุดประสงค์เพื่อการโปรโมทงาน พร้อมหวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจของใครหลายคน

จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอทุกท่านโปรดเข้าใจ
คณะผู้จัดทำ

Mthai News
109  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / แพร่ทั่วโลก!! คลิปเด็กไทยใช้เก้าอี้ฟาดหญิงสูงวัย ริมถนน กทม.( ปัญหาสังคมไทย) เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 08:12:53 am
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ StreetFightingChannel สมาชิกเว็บไซต์ liveleak.com

เว็บรวมคลิปชื่อดังอย่าง "LiveLeak" ได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ของเด็กนักเรียนไทยใช้เก้าอี้ฟาดใส่หน้าหญิงสูงอายุริมถนน ในกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ในคลิปดังกล่าว ได้บันทึกภาพของเด็กวัยรุ่นชาย 2 คน กำลังมีปากเสียงกับผู้หญิงสูงอายุที่แต่งกายคล้ายชุดทำความสะอาดตามบริษัท ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ก่อนที่เด็กคนหนึ่งจะใช้เก้าอี้พลาสติกที่วางอยู่ใกล้ ๆ ขึ้นมาเงื้อจะฟาดเข้าที่ใบหน้าของหญิงคนดังกล่าว ขณะที่หญิงคนนั้นยกมือไหว้ขอร้อง แต่ก็ไม่เป็นผล จากนั้นชายวัยรุ่นคนดังกล่าว ก็ได้ตะโกนว่า "ป้าจะโกหกทำไมถามแค่นี้" ก่อนที่จะเอาเก้าอี้ฟาดเข้าที่หน้าอย่างจัง จนทำให้หญิงคนนั้นล้มลงไปหน้าคว่ำกับพื้น ท่ามกลางไทยมุงที่ไม่ได้เข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในคลิปดังกล่าว คาดว่าเป็นการบันทึกเหตุการณ์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ผ่านมาเห็น แต่ก็ไม่ได้ระบุว่า ที่แห่งนั้น คือสถานที่ใด ในกรุงเทพมหานคร
110  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ถ้ำยิปซั่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต้องดำน้ำลงไปนะคะ หาดูได้ยากคะต้องแลกกับความกล้า เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2012, 09:30:08 am
ถ้ำยิปซั่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Ordinskaya Cave หรือเรียกสั้นๆ ว่า ถ้ำออร์ด้า (Orda Cave) ถ้ำยิปซั่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกค้นพบมานานหลายปี แต่เนื่องจากยังไม่มีการสำรวจอย่างจริงจัง จึงยังไม่เป็นที่รู้จ้กแพร่หลาย ถ้ำยิปซั่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก แห่งนี้อยู่ใกล้กับแม่น้ำกังเกอร์ ในเขตหมู่บ้านออร์ด้า ดินแดน Perm ในเขตสหพันธ์วอลกา ประเทศ รัสเซีย
ถ้ำยิปซั่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Ordinskaya Cave ถ้ำยิปซั่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็น ถ้ำ ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในรัสเซีย และมีความยาวเป็นอันดับ 2 ในทวีปยูเรเชีย ถือเป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งสำคัญในการศึกษาระบบ ถ้ำ ใต้น้ำในรัสเซีย Ordinskaya Cave ตั้งอยู่ลึกลงไปของเทือกเขา Kazakovskaya โดยปากถ้ำตั้งอยู่บนที่ลาดชันทางทิศใต้ของหุบเขา มีความกว้างประมาณ 5 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร ความยาวของถ้ำซึ่งวัดจากทั้งส่วนพื้นดินและส่วนที่เป็นทะเลสาบ คือ 4,400 เมตร โดย 4,000 เมตร นั้นเป็นส่วนที่อยู่ใต้น้ำ ส่วนความสูงตามแนวตั้งอยู่ที่ 43 เมตร น้ำใน ถ้ำยิปซั่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความใสมาก จนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ใต้น้ำชัดเจนถึงระยะ 50 เมตร











ขอบคุณภาพจาก
http://travel.mthai.com/wp-conten
111  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 12 ทัศนะคติ ของคนไทยที่เราหลบไม่ได้ สักที เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2012, 08:42:48 am
ทัศนคติของคนต่างชาติมองการทำงานของคนไทย....
 
เรา คว้าตัวฝรั่งมาทั้งหมด 12 คน ซึ่งแต่ละคนโชกโชนกับการทำงานในแวดวงคนไทยไม่ต่ำกว่า 10 ปี  เมื่อถามว่าพวกเค้ามีความเห็นอย่างไรกับการทำงานแบบไทย ๆ เราก็ได้คำตอบว่า:
 
1. ทัศนคติต่อการเปลี่ยนแปลง คนไทยมักจะยึดติดกับความเคยชินแบบเดิม ๆ เคยทำมาอย่างไรก็จะทำอยู่อย่างนั้น
ไม่ ค่อยมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลง และถ้าฝรั่งเอาวิธีใหม่ ๆ เข้ามาทำให้พวกเขาต้องทำอะไรที่ต่างไปจากเดิม ก็จะถูกมองว่าเป็นการสร้างความรำคาญให้พวกเขา มักจะไม่ค่อยได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่หรือไม่ก็ถึงกับถูกต่อต้านก็มี
- เจฟฟรีย์ บาร์น
 
2. การโต้แย้ง
เมื่อ มีการเจรจา คนไทยจะไม่กล้าโต้แย้งทั้ง ๆ ที่ตัวเองกำลังเสียเปรียบ ส่วนใหญ่มักจะปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนคุมเกม  บางคนบอกว่ามีนิสัยอย่างนี้เรียกว่า "ขี้เกรงใจ" แต่สำหรับฝรั่งแล้ว นิสัยนี้จะทำให้คนไทยไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร
- ทานากะ โรบิน (จูเนียร์) ฟูจฮาระ
 
3. ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด
เอกลักษณ์ อีกอย่างหนึ่งของคนไทยคือ มักจะไม่ค่อยกล้าบอกความคิดของตัวเองออกมา ทั้ง ๆ ที่คนไทยก็มีความคิดดีไม่ไม่แพ้ฝรั่งเลย แต่มักจะเก็บความสามารถไว้ ไม่บอกออกมาให้เจ้านนายได้รู้ และจะไม่กล้าตั้งคำถาม  บางทีฝรั่งก็คิดว่าคนไทยรู้แล้วเลยไม่บอกเพราะเห็นว่าไม่ถามอะไร ทำให้ทำงานกันไปคนละเป้าหมาย หรือทำงานไม่สำเร็จ เพราะคนที่รับคำสั่งไม่รู้ว่าถูกสั่งให้ทำอะไร
- ไมเคิล วิดฟิล์ค
 
4. ความรับผิดชอบ
1. ฝรั่งมองว่าคนไทยเรามักทำไม่ค่อยกำหนดระยะเวลาในการทำงานไว้ล่วงหน้า  ทั้ง ๆ ที่งานบางชิ้นต้องทำให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดยิ่งงานไหนให้เวลาในการทำ งานนานก็จะยิ่งทิ้งไว้ทำตอนใกล้ ๆ จะถึงกำหนดส่ง เลยทำงานออกมาแบบรีบ ๆ ไม่ได้ผลงานดีเท่าที่ควร
2. ไม่ค่อยยอมผูกพันและรับผิดชอบเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าให้เซ็นชื่อรับผิดชอบงานที่ทำคนไทยจะกลัวขึ้นมาทันที เหมือนกับกลัวจะทำไม่ได้ หรือกลัวจะถูกหลอก
- สเตฟานี จอห์นสัน
 
5. วิธีแก้ไขปัญหา
คน ไทยไม่ค่อยมีแผนการรองรับเวลาเกิดปัญหา แต่จะรอให้เกิดก่อนแล้วค่อยหาทางแก้ไปแบบเฉพาะหน้า  หลายครั้งที่ฝรั่งพบว่าคนไทยไม่รู้จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ต้องรอให้เจ้านายสั่งลงมาก่อนแล้วค่อยทำตาม ถ้านายเจ้านายไม่อยู่ทุกคนก็จะประสาทเสียไปหมด
- ดร.มาเรีย โรเซนเบิร์ก
 
6. บอกแต่ข่าวดีคนไทยมีความเคยชินในการแจ้งข่าวที่แปลกมาก คือ
1. จะไม่กล้าบอกผู้บังคับบัญชาชาวต่างชาติเมื่อเกิดปัญหาขึ้น จนกระทั่งบานปลายไปเกินแก้ไขได้จึงค่อยเข้ามาปรึกษา
2. จะเลือกบอกแต่สิ่งที่คิดว่าเจ้านายจะชอบ เช่น บอกแต่ข่าวดี ๆ แทนที่จะเล่าไปตามความจริง  หรือถ้าหากเจ้านายถามว่าจะทำงานเสร็จทันเวลาไหม ก็จะบอกว่าทัน (เพราะรู้ว่านายอยากได้ยินแบบนี้) แต่ก็ไม่เคยทำทันตามเวลาที่รับปากเลย
- โจนาธาน ธอมพ์สัน
 
7. คำว่า "ไม่เป็นไร"
เป็น คำพูดที่ติดปากคนไทยทุกคน ทำให้เวลามีปัญหาก็จะไม่มีใครรับผิดชอบ และจะไม่ค่อยหาตัวคนทำผิดด้วยเพราะเกรงใจกัน  แต่จะใช้คำว่า "ไม่เป็นไร" มาแก้ปัญหาแทน
- เจนิส อิกนาโรห์
 
8. ทักษะในการทำงาน
1. ไม่สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ ถ้าทำงานเป็นทีมมักมีปัญหาเรื่องการกินแรงกันบางคนขยันแต่บางคนไม่ทำอะไรเลย
บางทีก็มีการขัดแย้งกันเองในทีม หรือเกี่ยงงานกันจนผลงานไม่คืบหน้า
2. ไม่ค่อยมีทักษะในการทำงาน แม้จะผ่านการศึกษาในระดับสูงมาแล้ว และไม่ค่อยใช้ความพยายามอย่างเต็มทีเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด
3. พนักงานชาวไทยที่รู้จัก ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้สึกกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เรื่องราวความเคลื่อนไหวของ โลกเท่าไรนัก แล้วไม่ค่อยชอบหาความรู้เพิ่มเติมแม้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานก็ตาม
- เดวิด กิลเบิร์ก
 
9. ความซื่อสัตย์
พนักงาน คนไทยควรจะมีความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมามากกว่านี้ หลายครั้งที่ชอบโกหกในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น มาสาย ขาดงานโดยอ้างว่าป่วย ออกไปข้างนอกในเวลางาน
- เฮเบิร์ก โอ ลิสส์
 
10. ระบบพวกพ้อง
คน ไทยมักจะนำเพื่อนฝูงมาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเสมอ ผมไม่เคยชอบวิธีนี้เลย ตัวอย่างเช่น การจัดซื้อข้าวของภายในสำนักงาน  พวกเขามักจะแนะนำเพื่อน ๆ มาก่อนโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่บริษัทควรจะได้รับ นี่เป็นประสบการณ์จริงที่ประสบมา  การให้ความช่วยเหลือเพื่อนไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทเลยเป็นอะไรที่แย่มาก  และเมื่อพบว่าเพื่อนพนักงานด้วยกันทุจริต คนไทยก็จะช่วยกันปกป้อง และทำให้ไม่รู้ไม่เห็นจนกว่าผู้บริหารจะตรวจสอบได้เอง
- มาร์ค โอเนล ฮิวจ์
 
11. แยกไม่ออกระหว่างเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว
คน ไทยมักจะไม่รู้ว่าอะไรว่าอะไรคือเรื่องงาน และอะไรที่เรียกว่าเรื่องส่วนตัว  พวกเขาชอบเอาทั้งสองอย่างนี้มาปนกันจนทำให้ระบบการทำงานเสียไปหมด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งขององค์กร
1. ชอบสอดรู้สอดเห็น โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน
2. มักจะคุยกันเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับงานมากเกินไป บางครั้งทำให้บานปลายและนำไปสู่ข่าวลือ และการนินทากันภายในสำนักงาน
3. มักจะลาออกจากบริษัทโดยไม่ยอมแจ้งล่วงหน้าตามข้อตกลง แต่กลับคาดหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์เต็มที
4. ไม่ยอมรับความผิดชอบที่มีมากขึ้นในช่วงวิกฤติ
5. ต้องการเงินมากขึ้นแต่กลับไม่ค่อยสร้างคุณค่างานอะไรเพิ่มขึ้นเลย
- วิลเลี่ยม แมคคินสัน
 
12. นับถือระบบอาวุโส
คน ไทยให้เกียรติคนที่อายุมากกว่ามากเกินไป จนไม่กล้าทำอะไรที่เรียกว่าเป็นการข้ามหน้าข้ามตา  บางครั้งคนที่อายุน้อยกว่าอาจจะมีความคิดความสามารถมากกว่า แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกเพราะเกรงใจคนที่อายุมาก เป็นการทำลายโอกาสของตัวเอง และโอกาสของบริษัท
- เนลสัน ฟอร์ด — with Raweewan Weerapan and Moddang Nak.

บางทีความจริงมันเจ็บปวด แต่มันก็เป็นยาขมที่รักษาไข้ได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณทุกความจริง ที่จะทำให้พวกเราคนไทยทำงานดีขึ้น
112  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ผบช.น.แถลงยายฆ่าหลาน ม.1 พบเคยต้องคดีฆ่าสามี เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 08:26:17 am
ผบช.น.แถลงยายฆ่าหลาน ม.1 พบเคยต้องคดีฆ่าสามี
 
พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมยาย อายุ 55 ปี หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น้องเบิร์ด อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นหลานชายแท้ ๆ จนเสียชีวิต และนำศพไปทิ้งเพื่ออำพรางไว้ บริเวณบันไดหนีไฟภายในคอนโด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนผู้เป็นยาย รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายน้องเบิร์ดจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ประมาณ 1 ปี หลายชายมีพฤติกรรมก้าวร้าวและทำร้ายร่างกายตนเองบ่อยครั้ง แม้ตนเองจะพยายามว่ากล่าวตักเตือน แต่หลานชายไม่เชื่อฟัง จนกระทั่งวันเกิดเหตุมีปากเสียงกัน เพราะหลานมีเรื่องชกต่อย จนถูกเรียกผู้ปกครองไปอบรมด้วยความโมโห ประกอบกับหลานชายได้ขอเงินเพื่อไปเที่ยว แต่ตนบ่ายเบี่ยงจึงถูกหลานชายขู่จะทำร้าย ตนจึงใช้ไม้ตีท้ายทอยของน้องเบิร์ดขณะนอนดูโทรทัศน์จนเสียชีวิต จากนั้นนำหลักฐานใส่ถุงพลาสติกไปทิ้งคลอง ก่อนจะกลับมาลากศพของน้องเบิร์ด ไปทิ้งบริเวณบันไดหนีไฟ พร้อมกันนี้ปฏิเสธไม่ทราบว่าหลานชายพัวพันเรื่องยาเสพติดหรือไม่
นอกจากนี้ จากประวัติของ ยายน้องเบิร์ด ปี 2536 มีประวัติยิงสามีตนเองตาย พื้นที่ สน.บางนา และสู้คดีจนหลุดคดี
 
คำสารภาพ "หักมุม" คุณยาย ฆ่า หลานชาย



อันนนี้เป็นเจตนาฆ่า เลยนะคะ ไม่ใช่ป้องกันตัว นะคะ
113  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รวบ บ.ก.ข่าวเคเบิ้ลสมุทรปราการ แอบติดกล้องถ่ายสาวๆในห้องน้ำ ( มีประโยชน์มีโทษ ) เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2012, 08:07:54 am

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)

 รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (16 ก.ค.) น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้ประกาศข่าวบริษัทเคเบิ้ลทีวีชื่อดังย่าน จ.สมุทรปราการ น.ส.ซี น.ส.ดี และน.ส.เอฟ (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของบริษัทเคเบิ้ลดังกล่าว ได้นำหลักฐานซึ่งเป็น คลิป วีดีโอ ที่แอบถ่ายในห้องน้ำจำนวนมาก เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมภพ สุภาพร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ให้จับกุม นายธีรรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี บรรณาธิการข่าว บริษัทเคเบิ้ลชื่อดังย่าน จ.สมุทรปราการ ที่ลักลอบนำกล้องถ่ายวีดีโอลับแบบรีโมต เข้าไปติดตั้งในห้องน้ำฝ่ายข่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังที่ตั้งของบริษัทเคเบิ้ลเพื่อเชิญตัวนายธีรรัตน์มาสอบปากคำ ภายในห้องทำงานพบของกลางเป็น กล้องแอบถ่ายแบบรีโมตคอนโทรล 3 ตัว กล้องวีดีโอแบบแท่ง 1 ตัว เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คจำนวน 1 เครื่อง พร้อมด้วยฮาร์ทดิสแบบพกพา ขนาด 1 เทเลอร์ไบร์ 2 ตัว จากการตรวจสอบข้อมูลทั้งในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คและฮาร์ทดิสแบบพกพาทั้งหมดพบมีคลิปแอบหญิงสาวที่เข้าไปภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำอยู่จำนวน 46 คลิป ซึ่งเห็นใบหน้าและอวัยวะทุกส่วนของผู้เสียหาย จำนวน 9 คน และยังพบภาพนายธีระรัตน์ขณะติดตั้งกล้องด้วย
โดยนายเอ (นามสมมุติ) พนักงานฝ่ายข่าว เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ ขณะที่ตนเข้าห้องน้ำของชั้น 3 พบวัตถุบางอย่างตกลงมาจากใต้อ่างล้างหน้า จึงสำรวจไปทั่วห้องน้ำ พบว่าใต้อ่างล้างหน้ามีกระดาษกาว 2 หน้าติดอยู่ใต้อ่างและมีผ้ากาวสีขาวซึ่งเป็นสีเดียวกันอ่างล้างหน้าติดอยู่ และใต้ที่ใส่กระดาษชำระยังมีกล้องแอบถ่ายแบบเดียวกันติดอยู่อีก 1 ตัว ในอ่างชักโครกด้านหน้าอีก 1 ตัว บนฝ่าเพดานอีก 1 ตัวรวม 4 ตัว ตนจึงได้นำกล้องที่ตกลงมาไปติดตั้งไว้ที่เก่าก่อนที่จะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปกล้องที่ติดตั้งตามจุดต่าง ๆ เอาไว้ทั้งหมด ก่อนที่จะนำเรื่องมาแจ้งให้ผู้จัดการบริษัททราบ และร่วมกันวางแผนหาตัวผู้ที่นำกล้องแอบถ่ายดังกล่าวเข้าไปติดตั้งเอาไว้ในห้องน้ำ
ก่อนจะพบว่านายธีรรัตน์ได้นำวัตถุดังกล่าวเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คสักครู่แล้วดึงออก ก่อนเดิรออกจากห้องทำงาน โดยที่ไม่ได้ปิดคอมพิวเตอร์ ตนจึงได้เข้าไปเปิดข้อมูลพบภาพแอบถ่ายและคลิปของผู้เสียหาย ตนจึงได้โอนถ่ายข้อมูลบางส่วนใส่ฮาร์ทดิสแบบพกพาของตนก่อนที่จะนำมาให้ผู้จัดการดูพร้อมด้วยผู้เสียหาย ผู้จัดการจึงพาผู้เสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวนนายธีรรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ติดตั้งกล้องแอบถ่ายจริง โดยอ้างว่าเก็บไว้ดูเอง ไม่ได้นำไปเผยแพร่แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา กระทำการให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือก่อให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น ก่อนควบคุมตัวเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
114  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สีแดงก็ไม่ไช่ สีเหลืองก็ไม่เชิง สีนั้นคือ..' สี เล นะ สุ คะ ติง ยัน ติ ' เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2012, 11:25:29 am
อนุโมทนา สาธุ สำหรับเรื่องศีล นี้นับว่าเป็นพื้นฐาน จริง ๆ ของการภาวนาเลยคะ

  :25: :25: :25:
115  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แม่เด็กชาย วัย 14 ร้องกองปราบ หลังลูกถูกครูใหญ่ตบหน้า ขู่จะแก้ผ้าประจานหน้าเสาธง เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2012, 10:25:46 am



ขอบคุณภาพจาก http://hilight.kapook.com
แม่เด็กชาย วัย 14 ร้องกองปราบ หลังลูกถูกครูใหญ่ตบหน้า ขู่จะแก้ผ้าประจานหน้าเสาธง หากไม่เลิกเป็นตุ๊ด

วันนี้ (6 กรกฎาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพรทิพา สุพัฒนุกูล อายุ 40 ปี ชาวอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาครเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสบโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการสอบสวนกองปราบปราม โดยร้องเรียนว่า เด็กชายน้ำ (นามสมมุติ) ลูกชาย วัย 14 ปี ถูกครูใหญ่และคุณครูประจำชั้นของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เรียกไปตำหนิและตบหน้าต่อหน้าเพื่อน บอกให้เลิกทำตัวตุ้งติ้ง โดยบอกว่าลูกชายไม่ปกติและยังขู่ว่า ถ้ายังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จะประจานด้วยการจับถอดเสื้อผ้าโชว์หน้าเสาธง

นางพรทิพา กล่าวว่า ลูกชายของตนมีอาการตุ้งติ้งตั้งแต่เด็ก แต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะยอมรับได้ แต่ลูกชอบมาบ่นว่า ถูกครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม ต่อว่า ว่าชอบทำตัวตุ้งติ้ง ซึ่งโดนว่าแบบนี้มาประมาณ 3 ปี จนทำให้ลูกชายเครียดจัด จนคิดสั้น กินยาฆ่าตัวตาย โดยตนทราบข่าวจากแม่บ้านว่า ลูกชายกินยาพาราเซตามอล จำนวน 1 กำมือ จนเกิดอาการช็อก มือหงิก น้ำลายฟูมปาก แต่โชคดีพาส่งโรงพยาบาลวิชัยเวช ได้ทัน ทำการล้างท้องจนพ้นขีดอันตรายแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันจะเอาเรื่องครูให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับลูกคนอื่นอีก
116  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เผยพิธีศพแปลก ปลุกศพให้เดินได้ในอินโดนีเซีย ( ใครมีข้อมูลมาเติมให้ด้วยคะ ) เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2012, 10:22:42 am


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก odditycentral.com http://hilight.kapook.com
ในทุก ๆ พื้นที่ทั่วโลก ล้วนมีพิธีกรรมทำศพที่แตกต่างกันไปตามความเชื่อแต่ละพื้นที่ แต่หากใครได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับพิธีกรรมทำศพของชาวบ้านในหมู่บ้านสองแห่งของอินโดนีเซียที่เรานำมาฝากกันวันนี้ รับรองว่าต้องขนลุกซู่ เพราะพิธีกรรมที่ว่านี้ ว่ากันว่าเป็นการปลุกศพขึ้นมาให้เดินได้เลยล่ะ

พิธีกรรมศพดังกล่าว เป็นของหมู่บ้านทานาโทราจาและหมู่บ้านมามาซา ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนบทห่างไกลในอินโดนีเซีย ผู้คนที่นี่ เมื่อไรที่มีการตายเกิดขึ้น ว่ากันว่าจะมีการทำพิธีลี้ลับปลุกศพให้ลุกขึ้นมาเดินกลับบ้านเองได้ ด้วยความเชื่อที่ว่า ศพจะต้องเดินกลับมาเพื่อรับการฝังในบ้านเกิดของตัวเอง ในสภาพที่เหมือนกับมีลมหายใจทุกอย่าง เพื่อได้พบกับญาติพี่น้องอีกครั้ง

ในกรณีที่มีคนเสียชีวิตในที่ที่ห่างไกลบ้านมาก บางครั้งจะมีการฝังศพเอาไว้ก่อน เมื่อผ่านไปอีกหลายปีก็จะมีการขุดศพขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่อง คล้ายกับชุบชีวิตศพ จากนั้น ก็จะมีการทำพิธีปลุกศพลุกขึ้นมาให้ค่อย ๆ เดินกลับบ้านช้า ๆ โดยไม่มีการคลุมใบหน้าศพเลยแม้แต่น้อย ซึ่งไม่ว่าที่ที่ศพเสียชีวิตจะเป็นที่ไหน ห่างไกลบ้านเท่าไรก็ตาม ก็จะต้องมีการทำพิธีพาศพเดินกลับบ้านอย่างนี้ หากใครก็ตามที่อุ้มศพขึ้นโดยตรง เชื่อกันว่าจะทำให้คนคนนั้นล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุระหว่างทาง และไม่สามารถแห่ศพกลับบ้านได้ต่อไป

นอกจากนี้ บรรดาญาติพี่น้องและผู้นำในการทำพิธีที่กำลังพาศพกลับบ้าน จะมีการเตือนผู้คนที่เดินสวนไปมาระหว่างทางด้วยว่า ห้ามให้พวกเขาพูดกับศพ แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบแน่ชัด ดังนั้น ผู้คนที่ทำพิธีพาศพเดินกลับบ้านจึงมักจะเลือกทางเดินที่เงียบปราศจากผู้คนที่สุด เป็นเส้นทางให้ศพได้เดินกลับบ้าน

และนอกจากพิธีกรรมศพดังกล่าวจะทำกับศพคนแล้ว ยังทำกับสัตว์ที่ตายด้วย โดยเฉพาะเมื่อควายของชาวบ้านคนใดถูกนำไปทำพิธีบูชายันต์ด้วยการปาดคอควายทั้งยืน ควายตัวนั้นก็จะถูกประคองกลับบ้านในสภาพคอขาดอย่างนั้นนานกว่า 10 นาที ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นภาพที่น่าสลดอย่างไร แต่สำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านทานาโทราจาและหมู่บ้านมามาซา ก็คงจะได้เห็นกันจนชินตาไปเสียแล้ว

อย่างไรก็ดี แม้จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพิธีกรรมนี้ว่าสามารถปลุกศพให้ลุกขึ้นมาเดินเองได้ โดยอาศัยญาติช่วยประคองให้ศพเดินเองเท่านั้น แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากที่จะเชื่อ เพราะยังไม่มีคนนอกพิสูจน์ให้เห็นว่าจริงเท็จแต่อย่างใด ขณะที่คนส่วนใหญ่ ที่ได้รับรู้เรื่องพิธีการทำศพดังกล่าว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ศพอาจจะไม่ได้เดินกลับบ้านเองได้ แต่เป็นเพราะญาติประคองศพได้ค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปในท่ายืนต่างหาก
117  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เด็ก ม.ต้น จะวางมวยกับ ครู เนื่องด้วยโดนด่าในห้องเรียน 10 ก.ค.55 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2012, 10:16:27 am


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://hilight.kapook.com

สื่อเผยคลิปบันทึกภาพเหตุการณ์ครูกับนักเรียนเถียงกันในห้อง ครูขึ้นมึง ตำหนิเด็กโง่ ด้านนักเรียนชาย ตอบกลับ ครูก็โง่เหมือนกันนั่นแหละ

วันนี้ (10 กรกฎาคม) เว็บไซต์มติชนออนไลน์ และข่าวสด ได้เปิดเผยคลิปการโต้เถียงกันในห้องเรียนระหว่างอาจารย์ผู้สอน และนักเรียน โดยพาดหัวข่าวว่า "คลิปอ้างบันทึกภาพเหตุการณ์ครูกับนักเรียนม.ต้น เถียงกันในห้องรุนแรง หวิดวางมวย !!" โดยเหตุการณ์ภายในคลิป ปรากฏภาพครูผู้ชายกำลังตำหนินักเรียนชายคนหนึ่ง ซึ่งจากการแต่งกายทำให้ทราบว่า เป็นนักเรียนชั้น ม.ต้น

ทั้งนี้ ระหว่างการโต้เถียง ฝ่ายคุณครูได้ตำหนินักเรียนชายคนดังกล่าวเรื่องแบบฝึกหัด พร้อมกล่าวว่า "มึงโง่เอง" ด้านฝ่ายนักเรียน ก็ตอบกลับว่า "ครูก็โง่เหมือนกันนั่นแหละ" ทำให้ฝ่ายคุณครูไม่พอใจปรี่เข้าหานักเรียน ซึ่งทางฝั่งของนักเรียนก็ไม่ยอม จะเข้าผลักคุณครู เพื่อน ๆ ในห้องจึงบอกให้ใจเย็น ๆ และเข้าห้าม ก่อนที่ภาพจะตัดไป

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และที่โรงเรียนอะไร

คลิป อาจารย์และเด็กมอต้นมีปากเสียงกัน โพสต์โดย คุณ LeKOH AHOLIC
118  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เด็กชายอินเดียวัย 6 ขวบแสนยากจนรายหนึ่ง ที่ต้องดูดนมสุนัขเมื่อยามหิวโหย เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2012, 10:13:02 am
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://hilight.kapook.com

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะซันของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวสุดน่าสลดของเด็กชายอินเดียวัย 6 ขวบแสนยากจนรายหนึ่ง ที่ต้องดูดนมสุนัขเมื่อยามหิวโหยเพื่อประทังชีวิต





รายงานระบุว่า เด็กชายรายนี้ชื่อว่า โชตู กูมาร์ วัย 6 ขวบ จากรัฐฌาร์ขัณฑ์ของอินเดีย อาศัยอยู่ในบ้านโคลนเล็ก ๆ สภาพซอมซ่อกับแม่ ยาย และพี่น้องอีก 2 คน ส่วนพ่อนั้นเสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีก่อน และหลังจากนั้นมาครอบครัวของเขาก็เริ่มขัดสน ทำให้พี่ชายคนโตต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และได้เงินมาใช้จ่ายเพียงเดือนละ 1,000 บาทเท่านั้น ขณะที่แม่และยายก็เข้าป่าทุกวันเพื่อเก็บฟืน และหาอาหารจากในป่า ซึ่งแน่นอนว่า บางครั้งมันก็พอบ้างไม่พอบ้าง ทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กที่ค่อนข้างอดอยาก แถมยังไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนเด็กในวัยเดียวกัน และไม่มีเพื่อนด้วย จะมีก็แต่เจ้าสุนัขในละแวกบ้านที่พอจะเป็นเพื่อนเล่นให้เขาได้บ้าง และที่น่าตกตะลึงไปกว่านั้น คือเมื่อไรที่เขารู้สึกหิวโหย เขาก็ถึงขั้นดูดนมสุนัขเลยทีเดียว





จากพฤติกรรมการดูดนมสุนัขดังกล่าว นางจานีชารีกล่าวว่า "ตอนที่โชตูเล่นกับสุนัขอยู่นอกบ้าน ฉันเห็นเขาดูดนมพวกมันด้วย ฉันรู้สึกช็อกมาก เลยวิ่งไปดึงเขาออกจากใต้ท้องสุนัข แต่หลังจากนั้น เมื่อเขาหิวอีก เขาก็ไปดูดนมสุนัขอีก ฉันเลยทำได้แค่ปล่อยให้เขาดูดนมสุนัขอย่างนั้น เพราะรู้ว่าเขาหิวมากแค่ไหน ส่วนเจ้าสุนัขก็เป็นเพื่อนที่ดีของเขามาก มันไม่เคยทำร้ายเขาเลย และเขาก็สามารถขี่หลังมันได้อย่างสบายด้วย คราวนี้พอมีคนในหมู่บ้านมาเห็นเข้า หลายคนก็บอกฉันตลอดว่า การที่โชตูดูดนมจากสุนัขอย่างนั้นอาจจะทำให้เขาติดโรคจากสุนัขได้ และที่น่ากลัวไปกว่านั้น คือเมื่อเขาติดเชื้อโรคจากสุนัขมาแล้ว ก็อาจจะแพร่ระบาดไปยังเด็ก ๆ ในหมู่บ้านอีกหลายคน"



ส่วนทางด้านโชตู หนูน้อยผู้ดูดนมสุนัข ได้เล่าให้ฟังอย่างไร้เดียงสาว่า "ผมดูดนมสุนัขวันละ 3 ครั้ง มันหวานเหมือนน้ำตาลเลย ใครหลาย ๆ คนในหมู่บ้านไม่ชอบที่ผมเป็นเพื่อนกับสุนัข แต่ผมมีความสุข เมื่อไรที่ผมไม่เห็นมันอยู่ใกล้ ๆ บ้านผม ผมก็จะออกตามหามันจนได้ และมันก็ดูมีความสุขเวลาที่เจอผม แล้วก็ยอมให้ผมดูดนมมันแต่โดยดี"

อย่างไรก็ดี ล่าสุด ทางการอินเดียได้เข้าให้ความช่วยเหลือครอบครัวของโชตูแล้ว และให้โอกาสโชตูได้เรียนหนังสือ ซึ่งเขาก็จะได้ทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนฟรี ๆ พร้อมทั้งยังให้สิทธิครอบครัวของโชตูได้ทานอาหารที่โรงเรียนฟรีเช่นเดียวกัน แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เจ้าสุนัขเพศเมียคู่หูของโชตูก็ยังวนเวียนมาหาเขาอยู่บ่อย ๆ แถมยังทำท่าเหมือนอยากจะให้นมเขาอีกด้วย

119  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เปิดจองตั๋วไปดาวอังคารแล้ว ใครจะไป ก็ไปจองได้คะอีก 11 ปีเดินทาง เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2012, 10:09:25 am
ขายแล้ว!! ตั๋วเดินทาง ไปตั้งรกรากที่ดาวอังคาร
หากใครที่กำลังเบื่อโลกมนุษย์ ต้องการหลีกหนีไปให้ไกล โอกาสนี้มาถึงแล้วเมื่อสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าของบริษัท มาร์ วัน มีการเปิดขายตั๋วเดินทางไปตั้งรกรากที่ดาวอังคารในอีก 11 ปีข้างหน้า โดยจะมีการส่งนักบินอวกาศจำนวน 4 คนไปบุกเบิก แล้วทยอยส่งไปเรื่อยๆครั้งละ 4 คนในทุกๆ 2 ปี
ทั้งนี้แผนระยะยาว มีการเตรียมส่งดาวเทียมสื่อสาร และแคปซูลที่พักไปยังอวกาศในปี 2559 จากนั้นอีก 2 ปีจะมีการส่งยานอวกาศไปที่ดาวอังคารเพื่อหาสถานที่ที่เหมาะสมในการตั้งรกราก พักอาศัย
และในปี 2563 จะมีการส่งโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีการสื่อสารขึ้นไปในดาวอังคาร หากมีการติดตั้งสำเร็จ ก็จะเริ่มส่งคนไปอยู่อาศัย ซึ่งล่าสุดมีผู้สนใจในเทคโนโลยีอวกาศหลายร้อยคน แต่มีข้อแม้ว่า หากใครต้องการเดินทางไปยังดาวอังคารต้องมีความแน่วแน่ว่าจะไปอยู่จริงๆ หากรู้สึกคิดถึงโลก หรือเบื่อดาวอังคาร ต้องหาทางกลับเอง เพราะตั๋วใบนี้เป็นเพียงตั๋วไป ไม่มีตั๋วกลับ


120  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / Re: ชี้โพรงให้กระรอก กับ ipad teblet ทำอะไรได้บ้าง เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2012, 09:57:03 am
โพรงนี้ครึกครืนดีคะ
 :c017: :58:
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10