ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กิน "มัง" แบบไหนถึงถูกวิธี? กินแล้วดียังไง? ไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับ "มังสวิรัติ"  (อ่าน 290 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28444
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



กิน "มัง" แบบไหนถึงถูกวิธี? กินแล้วดียังไง? ไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับ "มังสวิรัติ"

เทรนด์ที่กำลังมาแรงในโลกของโภชนาการและสุขภาพในช่วง 2-3 ปีมานี้ คงต้องหลบให้กระแสของ
Vegan/Vegetarian หรือการทานมังสวิรัติจริง ๆ จากที่นิยมภายในกลุ่มคนเล็ก ๆ ตอนนี้อาหารมังสวิรัติกลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ร้านอาหารหลาย ๆ เจ้าจะต้องมี หรือแม้แต่ร้านฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ เอง ก็เริ่มที่จะมีตัวเลือกเป็น Plant-Based Meat (เนื้อสัตว์สังเคราะห์ที่ทำจากพืช) เพิ่มเข้ามาแล้ว

พูดได้เต็มปากอยู่ว่าแนวโน้มของการทานมังสวิรัติจะเริ่มผันตัวจากเทรนด์เป็นวัฒนธรมอาหารแขนงหนึ่ง และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง World Vegetarian Day หรือวันมังสวิรัติโลก เราเลยอยากเขียนบทความนี้เพื่อไขข้องใจเกี่ยวกับการทานมังสวิรัติที่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยอยู่ กินแล้วดีจริงไหม กินแล้วชีวิตจะน่าเบื่อไปเลยหรือเปล่า คำตอบรออยู่ที่ด้านล่างนี้เลย!

“กินมัง หมายถึง กินแต่ผักและธัญพืชทั้งชีวิต.?”

เป็นคำถามที่มักจะเบรกความตั้งใจในการทานมังสวิรัติของหลาย ๆ คน เพราะเมื่อคิดว่าจะต้องล้มเลิกการทานอาหารหลาย ๆ อย่างเพื่อผักและธัญพืชอย่างเดียว ก็ทำให้รู้สึกลำบากใจอยู่เบา ๆ แต่ความจริงแล้ว การทานมังสวิรัติมีหลายแขนงมาก ๆ ซึ่งวิธีการกินและอาหารที่ต้องละเว้นในแต่ละรูปแบบก็ไม่เหมือนกัน เราขอเริ่มต้นจาก…

Vegan (วีแกน) VS. Vegetarian (เวเจเทเรียน)

ในภาษาอังกฤษจะมีสองคำหลัก ๆ ที่ใช้เรียกคนที่ทานมังสวิรติ ถ้ามีคนเดินมาบอกคุณว่า “I’m a vegan” ฉันเป็นวีแกน นั่นหมายถึงว่า คน ๆ นั้นไม่กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่ทำจากสัตว์ (อย่างเช่น นม, ไข่, ชีส, โยเกิร์ต รวมไปถึงการสวมใส่เสื้อขนสัตว์หรือโปรดักต์ทุกอย่างที่ได้มา จากการเบียดเบียนสัตว์ด้วย) เลย ซึ่งนั่นหมายความว่าการเป็น Vegan คือ การทานมังสวิรัติอย่างบริสุทธิ์ 100%



ในทางกลับกัน ถ้ามีคนเดินมาบอกคุณว่า ฉันน่ะเป็น Vegetarian นะ นั่นหมายความว่าคน ๆ นั้นอาจจะกินไม่กินเนื้อสัตว์ทั้งหมด แต่กินผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากสัตว์ก็ได้ หรือบางคนก็อาจจะไม่กินเนื้อสัตว์บางประเภท แต่ยังกินบางประเภทอยู่ ซึ่งวิธีปฏิบัติก็จะแยกย่อยออกไปตามชนิดต่าง ๆ ของ Vegetarian ดังนี้

1. Lacto Vegetarian (แลกโต เวเจเทเรียน) คือ ไม่ทานเนื้อสัตว์ ไม่ทานไข่ แต่ดื่มนมและทานผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนม
2. Ovo vegetarian (โอโว เวเจเทเรียน) คือไม่ทานเนื้อสัตว์ ไม่ดื่มนมและทานผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนม แต่ทานไข่
3. Lacto-Ovo Vegetarian (แลกโต โอโว เวเจเทเรียน) คือไม่ทานเนื้อสัตว์ แต่ดื่มนมทานผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมและไข่ได้
4. Pescetarian (เพสเคเทเรียน) คือไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่ แต่ทานปลาอย่างเดียว
5. Pollotarian (พอลโลเทเรียน) คือไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่ แต่ทานสัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ห่าน
6. Flexitarian (เฟลกซิเทเรียน) คือทานเนื้อสัตว์ใหญ่และปลาบ้างตามโอกาส แต่ไม่ซื้อไม่ทำเอง และประเภทสุดท้าย
7. Part-time Vegetarian (พาร์ทไทม์ เวเจเทเรียน) คล้าย ๆ กับเฟลกซิเทเรียน แต่มีระยะเวลากำหนดที่แน่นอนมากกว่า เช่น ยกเว้นตัวเองให้ทานเนื้อสัตว์ได้สามวัน แล้วกลับมาทานมังสวิรัติแบบอื่น ๆ ต่อ

เพราะฉะนั้นการทานมังสวิรัติไม่ได้หมายถึง การล้มเลิกการทานเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต แต่เราสามารถเลือกประเภทของ “มังสวิรัติ” ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และความตั้งใจของตัวเองได้



“กินมังมีกฎที่เข้มงวด.?”

ทั้งใช่และไม่ใช่ ข้อปฏิบัติที่เข้มงวดส่วนใหญ่จะอยู่ที่กลุ่ม Vegan ซึ่งนอกจากการละเว้นเนื้อสัตว์ทั้งหมดแล้ว บางคนยังมีกฎที่เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย อย่างเช่น “Whole Foods, Plant-based Vegan” เป็นประเภทที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ทุกชนิดและไม่ทานอาหารที่ผ่านการแปรรูปหรือสภาพ

อย่างเช่น อาหารสำเร็จรูป สารให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือแม้กระทั่งข้าวขัดสี, “Raw Vegan” หรือกลุ่มคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์และไม่ทานอาหารที่ปรุงด้วยความร้อนกว่า 45 องศาเซลเซียส และ“Fruitarian” แขนงของมังสวิรัติที่จะทานผักและผลไม้ที่ตกมาจากต้นเท่านั้น

“กินมังแล้วไม่มีโปรตีน ขาดสารอาหาร”

เนื้อสัตว์ไม่ได้เป็นแหล่งโปรตีนเดียวเสมอไป ในชาร์ตโภชนาการยังคงมีพืชตระกูลถั่ว ธัญพืช เมล็ด เจีย ไข่ และผลิตภัณฑ์จำพวกนมที่มีโปรตีนสูงไม่แพ้กัน

"การขาดโปรตีนไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลสำหรับคนที่ทานอาหารมังสวิรัติ ตราบใดที่เขาคนนั้นไม่ได้กินแค่ข้าวขาวกับแตงกวา" ด็อกเตอร์วินสตัน เคร็ก ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมิชิแกนกล่าว

สิ่งที่เขาแนะนำคือการทานโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวัน โปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม พยายามเลือกทานอาหารที่หลากหลายและเน้นจานที่มีถั่วเยอะ ๆ โดยเฉพาะถั่วเหลืองที่ให้กรดอะมิโนสูง แค่นี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว






แหล่งที่มา :-
1. https://www.everydayhealth.com/diet-nutrition/diet/vegetarian-diet-myths-debunked/
2. https://thehappypear.ie/the-difference-between-whole-food-plant-based-and-vegan/
3. https://blog.bluebasket.market/2018/11/26/vegetarian-2/
4. https://scrubbing.in/confused-about-vegetarian-diets-we-got-you-covered/
5. https://blackdoctor.org/521773/vegan-vegetarian-fruitarian-whats-the-difference/
6. https://brendadegroot.com/en/types-vegans/
7. https://brendadegroot.com/en/fruitarian/
8. http://www.eatingwell.com/article/17214/can-i-get-enough-protein-if-i-eat-a-vegetarian-diet/

Thank to : https://today.line.me/th/v2/article/LwwaEG
เผยแพร่ 01 พ.ย. 2563 เวลา 00.00 น. • @mint.nisara
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ