ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"  (อ่าน 9070 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ปฐมบัญญัติมุสาวาท พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ครั้งแรกเมื่อใด

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒
ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๑
๑. มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ ๑
เรื่องพระหัตถกะศากยบุตร


     [๑๗๓] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันอารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น พระหัตถกะศากยบุตรเป็นคนพูดสับปรับ ท่านเจรจาอยู่กับพวกเดียรถีย์ กล่าวปฏิเสธแล้วรับ กล่าวรับแล้วปฏิเสธ เอาเรื่องอื่นกลบเกลื่อนเรื่องอื่น กล่าวเท็จทั้งๆ ที่รู้อยู่ พูดนัดหมายไว้แล้ว ทำให้คลาดเคลื่อน.
             
     พวกเดียรถีย์พากันเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉน พระหัตถกะศากยบุตร เจรจาอยู่กับพวกเรา จึงได้กล่าวปฏิเสธแล้วรับ กล่าวรับแล้วปฏิเสธ เอาเรื่องอื่นกลบเกลื่อนเรื่องอื่น กล่าวเท็จทั้งๆ ที่รู้อยู่ พูดนัดหมายไว้แล้วทำให้คลาดเคลื่อนเล่า?.

     ภิกษุทั้งหลายได้ยินเดียรถีย์พวกนั้น เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่ จึงเข้าไปหาพระหัตถกะศากยบุตรถึงสำนัก ครั้นแล้วได้ถามพระหัตถกะว่า อาวุโสหัตถกะ ข่าวว่า ท่านเจรจาอยู่กับพวกเดียรถีย์ กล่าวปฏิเสธแล้วรับ กล่าวรับแล้วปฏิเสธ เอาเรื่องอื่นกลบเกลื่อนเรื่องอื่น กล่าวเท็จทั้งๆ ที่รู้อยู่ พูดนัดหมายไว้แล้วทำให้คลาดเคลื่อน จริงหรือ?.
           
     พระหัตถกะศากยบุตรตอบว่า อาวุโสทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าพวกเดียรถีย์เหล่านี้ เราต้องเอาชนะด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เราไม่ควรให้ความชนะแก่เดียรถีย์พวกนั้น.

     บรรดาภิกษุผู้มักน้อย สันโดษ มีความละอาย มีความรังเกียจ ผู้ใคร่ต่อสิกขา ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน พระหัตถกะศากยบุตร เจรจาอยู่กับพวกเดียรถีย์ จึงได้กล่าวปฏิเสธแล้วรับ กล่าวรับแล้วปฏิเสธ เอาเรื่องอื่นกลบเกลื่อนเรื่องอื่น กล่าวเท็จทั้งๆ ที่รู้อยู่ พูดนัดหมายไว้แล้วทำให้คลาดเคลื่อนเล่า? แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.

ประชุมสงฆ์ทรงสอบถาม
      ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถาม พระหัตถกะศากยบุตรว่า จริงหรือหัตถกะ ข่าวว่า เธอเจรจาอยู่กับพวกเดียรถีย์ กล่าวปฏิเสธแล้วรับ กล่าวรับแล้วปฏิเสธ เอาเรื่องอื่นกลบเกลื่อนเรื่องอื่น กล่าวเท็จทั้งๆ ที่รู้อยู่ พูดนัดหมายไว้แล้วทำให้คลาดเคลื่อน?.
      พระหัตถกะศากยบุตรทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียน
      พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษ ไฉน เธอเจรจาอยู่กับพวกเดียรถีย์จึงได้กล่าวปฏิเสธแล้วรับ กล่าวรับแล้วปฏิเสธ เอาเรื่องอื่นกลบเกลื่อนเรื่องอื่น กล่าวเท็จทั้งๆที่รู้อยู่ พูดนัดหมายไว้แล้วทำให้คลาดเคลื่อนเล่า?
      การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว, โดยที่แท้การกระทำของเธอนั่น เป็นไปเพื่อความไม่เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส และเพื่อความเป็นอย่างอื่นของชนบางพวกที่เลื่อมใสแล้ว.


ทรงบัญญัติสิกขาบท
      พระผู้มีพระภาคครั้นทรงติเตียนพระหัตถกะศากยบุตร โดยอเนกปริยายดังนี้แล้ว ตรัสโทษแห่งความเป็นคนเลี้ยงยาก ความเป็นคนบำรุงยาก ความเป็นคนมักมาก ความเป็นคนไม่สันโดษ ความคลุกคลี ความเกียจคร้าน ตรัสคุณแห่งความเป็นคนเลี้ยงง่าย ความเป็นคนบำรุงง่าย ความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียร โดยอเนกปริยาย, ทรงกระทำธรรมีกถาที่สมควรแก่เรื่องนั้นที่เหมาะสมแก่เรื่องนั้น แก่ภิกษุทั้งหลาย แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

      ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัยอำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ
      เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ ๑
      เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ ๑
      เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก ๑
      เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ๑
      เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิดในปัจจุบัน ๑
      เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑
      เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ๑
      เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ๑
      เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม ๑
      เพื่อถือตามพระวินัย ๑.

      ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ
             ๕๐. ๑. เป็นปาจิตตีย์ในเพราะสัมปชามุสาวาท.

            เรื่องพระหัตถกะศากยบุตร จบ.





สิกขาบทวิภังค์

     [๑๗๔] ที่ชื่อว่า สัมปชานมุสาวาท ได้แก่ วาจา เสียงที่เปล่ง ถ้อยคำเป็นแนวทาง การเปล่งวาจา เจตนาที่ให้เขาเข้าใจทางวาจา ของบุคคลผู้จงใจจะพูดให้คลาดจากความจริง ได้แก่ คำพูดของอนารยชน ๘ อย่าง คือ
    ไม่เห็น พูดว่าข้าพเจ้าเห็น ๑,
    ไม่ได้ยิน พูดว่าข้าพเจ้าได้ยิน ๑,
    ไม่ทราบ พูดว่าข้าพเจ้าทราบ ๑,
    ไม่รู้ พูดว่าข้าพเจ้ารู้ ๑,
    เห็น พูดว่าข้าพเจ้าไม่เห็น ๑,
    ได้ยิน พูดว่าข้าพเจ้าไม่ได้ยิน ๑,
    ทราบ พูดว่าข้าพเจ้าไม่ทราบ ๑,
    รู้ พูดว่าข้าพเจ้าไม่รู้ ๑.


      ฯลฯ...............ฯลฯ................ฯลฯ


อ้างอิง           
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒  บรรทัดที่ ๔๕๗๖ - ๔๙๐๕.  หน้าที่  ๑๙๑ - ๒๐๓.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=2&A=4576&Z=4905&pagebreak=0
ขอบคุณภาพจาก http://www.dmc.tv/,http://hilight.kapook.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

SAWWALUK

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 246
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 12:41:07 pm »
0
เยี่ยมคะอ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกกลัว บาป มากขึ้นเลยคะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

แก้ว

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 99
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 12:42:11 pm »
0
อนุโมทนา คะ วันนี้เป็นเรื่อง ดีมากเลยคะ

 สาธุ สาธุ สาธุ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

ดรุณี

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 96
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 12:43:46 pm »
0
รู้สึกว่า เคยได้ยินเรื่องนี้ใน มหาราหุโรวาทสูตร ด้วยใช่หรือไม่คะ

  อยากทราบกรรมที่ กระทำลงไปแล้วอย่างนี้ มีโทษกรรมอย่างไรบ้างคะ

   :s_hi:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความสุข และ ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 12:50:41 pm »
0

มุสาวาทสิขาบทที่ ๑

          บรรดาวรรค ๙ เหล่านั้น  (บรรดาขุททกสิกิขาบทเหล่านั้น)  พึงทราบวินิจฉัยในสิกขาบทที่ ๑   แห่งมุสาวาทวรรดูก่อน.

แก้อรรถปฐมบัญญัติเรื่องพระหัตถกะ

          คำว่า  หตฺถโก  เป็นชื่อของพระเถระนั้น.    บุตรของพวกเจ้าศากยะ ชื่อว่าศากยบุตร.  ได้ยินว่า  ในครั้งพุทธกาล  บุรุษแปดหมื่นคน  ได้ออกบวชจากศากยตระกูล.    ท่านพระหัตถกะนั้น      เป็นคนใดคนหนึ่ง     บรรดาบุรุษแปดหมื่นคนนั้น.
       
           บทว่า  วาทกฺขิตฺโต   มีความว่า   ถูกคำพูดที่ตนกำหนดไว้อย่างนี้ว่า เราจักกระทำวาทะ  (ทำการโต้วาทะกัน)  ซัดไป  คือ  ผลักไป  อธิบายว่า  ดันไป คือ  ส่งไปสู่สำนักของพวกปรวาที.  อีกอย่างหนึ่ง  ท่านพระหัตถกะนั้น  ถูกจิต ของตนซัดไปในวาทะ.     ย่อมปรากฏในสถานที่ซึ่งมีการโต้วาทะกันทุกครั้งไป.
แม้เพราะเหตุนั้น  ท่านจึงชื่อว่าถูกซัดไปในวาทะ   (เป็นคนพูดสับปลับ).

           ข้อว่า  อวชานิตฺวา   ปฏิชานาติ    มีความว่า    พระหัตถกะนั้น กำหนดโทษบางอย่างในคำพูดของตนได้  ถลากไถลไปว่า  นี้ไม่ใช่คำพูดของเรา เมื่อพูดไป  ๆ  สังเกตได้ว่าไม่มีโทษ   แล้วยอมรับว่า  นี้   เป็นคำพูดของเราละ.

           ข้อว่า ปฏิชานิตฺวา  อวชานาติ  มีความว่า  ท่านเมื่อกำหนดอานิสงส์ ในคำพูดบางอย่างได้   ก็ยอมรับว่า    นี้    เป็นคำพูดของเรา    เมื่อพูดต่อไปอีก กำหนดโทษในถ้อยคำนั้นได้  ก็ถลากไถลไปว่า  นี้  ไม่ใช่คำพูดของเรา  ดังนี้.

           ข้อว่า  อญฺเญนญฺ?ํ  ปฏิจรติ   มีความว่า   ย่อมกลบเกลื่อน   คือ ย่อมปกปิด   ได้แก่   ทับถมเหตุอย่างหนึ่ง  ด้วยเหตุอย่างหนึ่ง  คือ  กล่าวเหตุว่า รูปไม่เที่ยง    เพราะเป็นของพึงรู้ได้     แล้วกลับกล่าวเหตุเป็นต้นว่า    เพราะมีความเกิดเป็นธรรมดา.

          แต่ในกุรุนที   ท่านกล่าวว่า   ย่อมพูดเรื่องอื่นเป็นอันมาก    เพราะเหตุ ที่จะปกปิดปฏิญญาและความถลากไถลนั่น.

           ในคำว่า   เอตสฺส     เป็นต้นนั้น    มีอธิบายดังต่อไปนี้ว่า    เธอย่อม กล่าวคำเป็นอันมากมีอาทิอย่างนี้ว่า ใครกล่าว ?  กล่าวว่าอย่างไร ?  กล่าวที่ไหน ? ดังนี้   เพื่อปกปิดคำปฏิญญาและคำถลากไถลนั้น.
           ในมหาอรรถกถา   ท่านกล่าวไว้อีกว่า   ถลากไถลแล้วปฏิญาณ   และปฏิญาณแล้วถลากไถล   นั่นแหละ  ชื่อว่า   กลบเกลื่อนเรื่องอื่นด้วยเรื่องอื่น.


           สองบทว่า   สมฺปชานมุสา  ภาสติ  ได้แก่   กล่าวเท็จทั้งที่รู้อยู่.
           หลายบทว่า  สงฺเกตํ กตฺวา วิสํวาเทติ  มีความว่า  ทำการนัดหมายว่า การโต้วาทะ  จงมีในประเทศชื่อโน้น    ในบรรดากาลมีปุเรภัตเป็นต้น   ชื่อโน้น ดังนี้   แล้วไปก่อน  หรือหลังจากเวลาที่ตนนัดหมายไวแล้วกล่าวว่า  จงดูเอาเถิด ผู้เจริญ !   พวกเดียรถีย์   ไม่มาแล้ว   แพ้แล้ว   ดังนี้   หลีกไปเสีย.     

           บทว่า  สมฺปชานมุสาวาเท  ได้แก่   ในเพราะการพูดเท็จทั้งที่รู้ตัวแล้ว และกำลังรู้.
           บทว่า   วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส   ได้แก่   ผู้พูดทำจิตที่คิดจะพูดให้คลาดเคลื่อนไว้เป็นเบื้องหน้า.
           เจตนายังคำพูดอันนับเนื่องในมิจฉาวาจาให้ตั้งขึ้น ชื่อว่า   วาจา.
           ท่านแสดงเสียงอันตั้งขึ้นด้วยเจตนานั้น   ด้วยคำว่า   คิรา.
           ทางแห่งถ้อยคำ  ชื่อว่า  พยบถ.   ก็วาจานั่นแล   ท่านเรียกว่า  พยบถ เพราะเป็นแนวทางแม้ของชนเหล่าอื่น   ผู้ถึงทิฏฐานุคติ.
           การเปล่งวาจาที่มีความเข้าใจกันว่าคำพูด  ชื่อว่า วจีเภท. วาจามี ชนิดต่าง ๆ กันนั่นเอง   ท่านเรียกอย่างนี้   (ว่าวจีเภท).


           วจีวิญญัตติ  ชื่อว่า วิญญัตติที่เป็นไปทางวาจา.  ด้วยอาการอย่างนั้น ผู้ศึกษาพึงทราบว่า   ด้วยบทแรก   ท่านพระอุบาลีกล่าวเพียงเจตนาล้วน,   ด้วย ๓   บทท่ามกลาง  กล่าวเจตนาที่ประกอบด้วยเสียงซึ่งตั้งขึ้นด้วยเจตนานั้น.   ด้วยบทเดียวสุดท้าย  กล่าวเจตนาที่ประกอบด้วยวิญญัตติ.

          โวหาร  (คำพูด)  ของเหล่าชนผู้ไม่ใช่พระอริยเจ้า  คือเหล่าพาลปุถุชน ชื่อว่า  อนริยโวหาร.
          ฯลฯ...............ฯลฯ................ฯลฯ


ที่มา http://palungjit.com/tripitaka/default.php?cat=400006
ขอบคุณภาพจาก http://www.dmc.tv/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 12:59:33 pm »
0
อนุโมทนา สาธุ คะ เป็นเรื่องที่เหมาะสมมากคะ ในวันนี้

และน่าจะยังโพสต์ไม่หมดใช่หรือไม่คะ ยังขาดโทษของการทำกรรมอย่างนี้ด้วยคะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

pichai

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 99
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 01:03:21 pm »
0
อนุโมทนา ครับ

 :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 01:15:15 pm »
0


การทำบาปทางวาจา เรียกว่า วจีทุจริต ๔ ได้แก่

     ๑. การพูดเท็จ  การพูดที่โกหกหลอกลวง เป็นการพูดที่ไม่ตรงกับความจริง
     ๒. การพูดส่อเสียด  เป็นการพูดยุแหย่ทำให้คนที่เขารักกันเข้าใจผิด โกรธกัน เลิกรักกันไป
     ๓. การพูดคำหยาบ  การด่าทอกัน เป็นการพูดที่ไม่สุภาพ
     ๔. การพูดเพ้อเจ้อ  เป็นการพูดที่ไร้สาระ 




๑. องค์ประกอบการพูดเท็จ 
       ๑.๑. พูดเรื่องที่ไม่จริง 
       ๑.๒. คิดจะพูดเรื่องไม่จริง 
       ๑.๓. พยายามพูดเรื่องไม่จริง 

 
๒. องค์ประกอบการพูดส่อเสียด 
       ๒.๑. มีผู้ถูกทำให้แตกแยก 
       ๒.๒. คิดที่จะพูดให้เขาแตกแยก 
       ๒.๓. พยายามพูดให้แตกกัน
 
๓. องค์ประกอบการพูดคำหยาบ 
       ๓.๑. มีความโกรธ 
       ๓.๒. มีผู้ถูกด่า 
       ๓.๓. พูดด่าหรือแช่ง

 
๔. องค์ประกอบการพูดเพ้อเจ้อ
       ๔.๑. คิดจะพูดในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์
       ๔.๒. พูดออกมาในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์

         
      เมื่อได้ทำบาปทางวาจา คือ การพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ ตามองค์ประกอบ ข้างต้นนี้ ชื่อว่าเป็นบาปที่มีกำลังแรง เป็นชนกกรรมนำเกิดในอบายภูมิ ๔ แน่นอน




ผลของการพูดเท็จ ๘ ประการ
     ๑. เกิดมาพูดไม่ชัด
     ๒. ฟันไม่เรียบ
     ๓. มีกลิ่นปาก
     ๔. มีไอตัวร้อน
     ๕. ตาส่อน
     ๖. พูดด้วยปลายลิ้นปลายปาก
     ๗. บุคลิกไม่ดี
     ๘. ดูคล้ายคนวิกลจริต

 
ผลของการพูดส่อเสียด ๔ ประการ
     ๑. ชอบตำหนิตนเอง
     ๒. มักเป็นผู้ถูกใส่ความ 
     ๓. ถูกผู้ใหญ่ติเตียนเสมอ 
     ๔. มักแตกแยกกับมิตรสหาย

 
ผลของการพูดคำหยาบ ๔ ประการ
     ๑. ทรัพย์สินสูญหาย
     ๒. ได้ยินแต่เสียงที่ทำให้รำคาญ 
     ๓. มีกายวาจาหยาบ 
     ๔. หลงตาย 

 
ผลของการพูดเพ้อเจ้อ ๔ ประการ
     ๑. เป็นบุคคลที่ชอบพูดพร่ำ
     ๒. ไม่มีคนเชื่อถือในคำพูด
     ๓. เป็นผู้ไม่มีอำนาจ
     ๔. ทำให้วิกลจริต


อ้างอิง
บทเรียนอภิธรรม หลักสูตรเรียนทางอินเตอร์เน็ต เรื่อง อบายภูมิ เรียบเรียงโดย นายทวี สุขสมโภชน์
อภิธรรมโชติกวิทยาลัย มหาวิทยาลัย มหาจุฬลงกรณราชวิทยาลัย
http://www.buddhism-online.org/Section06A_06.htm
ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 08:49:37 pm »
0
เป็นเรื่องที่ควร ทำให้แจ้งในใจเลยครับ เรื่องนี้ อนุโมทนาด้วยครับ

  :25:
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

meditation

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 127
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2012, 12:15:05 am »
0
สาธุ อนุโมทนา ด้วยคะ เป็นเรื่องที่ควรอ่านเป็นอย่างยิ่งคะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ข้าพเจ้าปรียบเหมือนนกที่กำลังหัดเดิน มีสิ่งใดที่ล่วงเกินใคร ก็ขอกราบอภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ภาวนากรรมฐาน เพื่อใคร เพื่ออะไร ทำไม ? หาคำตอบจากใจเราก่อนนะคะ

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2012, 12:35:18 am »
0
เป็นเรื่องที่อ่านมีสาระมากครับ ตั้งแต่ตามอ่านมา จึงเข้าใจแล้วว่า ทำไมเวลาปฏิบัติธรรม ควรปิดวาจา เพราะถ้าสติมันรั่ว คุมกิเลสไม่ได้ ก็มักจะใช้วาจา พูด ขยายตัวตนของตนเอง ให้ผู้อื่นรับทราบครับ

  อ่านกว่าจะจบเป็นชั่วโมง เลยนะครับ คนโพสต์ อย่าพึ่งเหนื่อยนะครับ ติดตามอ่านทุกวันอยู่นะครับ

  อนุโมทนา ด้วยครับ กับการแบ่งธรรมให้ทราบครับ

   :s_hi: :s_hi: :s_hi:
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

ส้ม

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 184
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว"
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2012, 01:32:18 pm »
0
ได้อ่านเรื่องนี้ประกอบแล้ว รุ้สึกต้องระวัง วาจาด้วยเหมือนกันคะ

สาธุ สาธุ กับผู้นำเสนอเรื่องนี้ให้ได้อ่านคะ

  :25: :c017:
บันทึกการเข้า
เส้นทางแสนเปรี้ยว จะมีสุขจริงบ้างหรือไม่ ?