ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การภาวนา ของ พระอริยะบุคคล นั้นสำคัญมาก จะทำให้บรรลุธรรมได้ไว  (อ่าน 7140 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 ask1

  ถ้าต้องการภาวนา ควรจะปฏบัติอย่างไร ? ถึงจะถึง พระนิพพานได้ไว ในชาตินี้

 ( คำถาม จาก คุณ nirvarna55 ,mongkol ,kobyamkala ,akira, vichai , pisalee , namo ,napa-1 ,tcarisa, saieaw , fasai , nimit , kosol , boonake , chatcahy , sirya , vongolex , axe , หมวจ้า  , รักหนอ , catwoman , sinjai , amorntip , loogkate, nithi , waterman , staporn  )


 ans1
  ก็เอามาตอบรวมในที่นี้ เลย นะจ๊ะ ถามส่วนตัว แต่เห็นเป็นคำถามรวมและตอบได้หลายคน ในครั้งเดียว

  สำหรับการภาวนา ที่จะถึงได้ ไว สิ่งที่ ต้องมี
  1.สติ คือ อันดับแรก เพื่อประคอง เป้าหมายการปฏิบัติ นั่นก็คือ อารมณ์ ที่เกิดใน นิพพิทา ( ความหน่ายต่อกิเลส )
  2.สัมปชัญญะ การตรวจเช็ค กิเลสตนเอง ว่าตนเอง มีสังโยชน์ เหลือ กี่ต้ว 
  3.ปฏิบัติให้ถูกตามระดับ อย่าข้ามระดับ ถึงแม้จะมีครูอาจารย์ เก่ง ขนาดไหน ? ก็ต้องไปตามลำดับ จะเร็ว หรือ ช้า ก็ต้องผ่านไปตามลำดับ

     เริ่มที่

     
     3.1 โครตรภู บุคคค อันนี้จัดเป็น กึ่งปฐมมรรค บุคคลที่เริ่มเข้ากระแสแห่งนิพพาน คือ มีนิพพิทา ขึ้นในสันดาน อันมีการปฏิบัติ สั่งสมมาหลายภพหลายชาติ เพียงแต่ พยายามอีกหน่อย ก็สามารถเข้าสู่กระแสแห่งนิพพานได้
       สำหรับระดับนี้ ปฏิบัติ ด้วยการพอกพู  ปัญญา  และ ศีล ( ไม่ใช่ สมาธิ ) สองฐานนี้เท่านั้น ในอริยะมรรคมีองค์ 8 จะเริ่มที่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
      บุคคลระดับนี้ ต้องพยายามทบทวน ธรรมะให้มาก และ รักษากาย วาจา ให้เรียบร้อย ไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น
     
     3.2 พระโสดาปัตติมรรค บุคคล คือ บุคคลเข้าสู่กระแสแห่งพระนิพพาน เริ่มละสังโยชน์ 3 ได้อย่างอ่อน ๆ นั้นต้องปฏิบัติ เพิ่มเติมนั้นก็คือ สัมมาวิริยะ และ สัมมาสติ โดยการเริ่มต้น ที่การดักจับ ผัสสะ
        โดยอาศัยธรรม สองอย่างคือ อายตนะภายนอก และ อายตนะภายใน เช่น
        ตา เห็น รูป ก็สักว่า นั่นคือ รูป
        คำว่า สักว่านั่น ต้องอาศัยเวลา จนกว่า ใจ จะมองเห็นเป็นสักว่า ถ้ามองเห็นเป็นสักว่า เต็็มเมื่อไร ก็จะได้ พระโสดาปัตติผล สำเร็จเป็นพระโสดาบัน
     
     3.3 พระสกทาคามิมรรค บุคคล คือ บุคคลที่ละสังโยชน์ ได้ 3 ประการอย่างเด็ดขาดแล้ว และกำลังเริ่ม กิเลส ประเภทละเอียด อันเป็นองค์ประกอบในสมาธิสำคัญ เป็น นิวรณ์ ทั้ง 5 อันที่จริงหลายคนเข้าใจว่า นิวรณ์ 5 เป็นของพวกปฏิบัตสมาบัติ เท่านั้น ก็จริงอยู่ เพราะคุณธรรมส่วนนี้อาศัย สมาธิ ระดับอุปจาระ ฌาน อันเป็นคุณสมบัติ ของผู้ได้ผลสมาบัติมาแล้ว นั่นก็คือ ผลสมาบัติของพระโสดาบัน นั่นเอง

      แต่ ผิดจากพวกสมาบัติ ก็ตรงที่ว่า การเข้าสมาบัติเป็นการดับกิเลสอย่างชั่วคราว แต่ ของ พระสกทาคามี เป็นการดับกึ่งหนึ่ง อย่างถาวร คำว่า กึ่งหนึ่ง นั้น ก็หมายถึงมันมีอยู่ แต่ มีเพียงเล็กน้อย เรียกว่า โกรธ ก็เพียงแค่ขัดเคือง เกิดปั๊บหายปุ๊ป ประมาณนี้ หรือว่าหลงรักหลงชอบ สติก็รู้ทันเห็นแล้ว ก็จางไว เช่นเห็นผู้หญิงสวย เผลอแพ็บเดียวก็คลาย เพราะมันละได้กึ่งหนึ่ง
   
      จะเห็นว่า หากเป็นพระสกทาคามีแล้ว การปฏิบัติส่วนสมาบัติ จักทำได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการปฏิบัตเจริญ อุปสมานุสสติ จึงเหมาะแก่ พระสกทาคามี เพราะอาศัยอุปจาระสมาธิ ก็สามารถปฏิบัติละกิเลสได้อย่าง เร็ว
       
      3.3 พระอนาคามี บุคคคล คือ บุคคลที่ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ ( กิเลสเป็นเครื่องร้อยรัดให้อยู่ในโลก ) ได้ ดังนั้นพระอนาคามี จึงเป็นผู้ที่ได้ชื่อ ไม่หวนกลับคืนมายังโลก นี้ ( หากไม่มีเหตุอันสมควร อันที่จริงพระอนาคามี ลงมาช่วยมนุษย์ ที่เป็นพุทธ เยอะนะ ในสภาวะพรหม แม้ในระหว่างพุทธันดร และ ในระหว่างหว่างจาก พุทธศาสนา แต่อันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะว่า ท่านได้ฝึกอัปปมัญญาพรหมวิหาร เหมือนคนที่นิ่งไม่ได้ ถ้าช่วยได้ ) สำหรับธรรมปฏิบัติที่ พระอนาคามี นั้นปฏิบัติ ก็คือการละสังขาร เพราะการใช้สังขาร มันปรากฏมากใน อัปปมัญญา ด้วย บุคคลที่ฝึกอัปปมัญญา เริ่มที่ความรัก เผื่อแผ่ความรัก ชื่นชมคนดี วางเฉยคนชั่ว

    ดังนั้นพระอนคามี ท่านจึงต้องหยุดตัวแปรกิเลส คือ สังขาร ให้เป็นรูป เป็นธาตุ ก่อน เมื่อท่านหยุดบัญญัติได้มันก็เหลือเพียงระนาบเดียว คือ สิ่งที่เรียกว่า รูปธาตุ อรูปธาตุ ตรงนี้หลายท่านอธิบายผิด ( ฉันก็เลยเข้าใจผิดอธิบายผิดไปด้วยนานพอสมควร จนมาเข้าปฏิจจสมุปบาทกรรมฐาน ตามวิชา จึงเข้าใจ )

    สิ่งที่พระอนาคามี กระทำที่ สังขารก็คือ ไม่ว่าอะไรจะกระทบเข้ามา ก็จะหยุดปรุงแต่ง เห็นสิ่งที่กระทบเป็นเพียง รูปธาตุ อรูปธาตุ เท่านั้น ไม่ต้องพูดเรื่อง ความพอใจ หรือ ไม่พอใจ เพราะความพอใจ หรือ ไม่พอใจ เป็นคุณสมบัติของพระสกทาคามี สำหรับพระอนาคามี ท่านดับ ความพอใจ คือ กามราคะ และ ปฏิฆะ โดยตรงดังนั้นการดับสังโยชน์ 5 ประการนี้ เรียกว่า กึ่งพระอรหันต์ แล้ว พระอนาคามี ที่มีสมาบัติจึงผสานวิมุตติส่วนนี้เข้ากับ ฌานสมาบัติ เป็น นิโรธสมาบัติได้ สูงสุด 7 วัน เช่นกัน แต่ ไม่สามารถดับ เวทนา และ สัญญา ที่ยังจำไว้ว่า นี่คือ รูปธาตุ , อรูปธาตุ ,นี้คือเราดีกว่าเขา ด้อยกว่าเขา เสมอเขา, เราสร้างแต่กุศล , อริยสัจ กาล และเหตุปัจจัย ดังนั้น สัญญา และ เวทนา ในพระอนาคามี ยังมีอยู่เพราะเหตุนี้

    เมื่อใดบุคคลเจริญ ภาวนา กรรมฐานใด กรรมฐานหนึ่ง จนมีจิตเห็นด้วยปัญญาว่า นี่คือรูปธาตุ นี่คืออรูปธาตุ สิ่งที่เกิดขึ้นในสมาธิก็ตาม ในวิปัสสนาก็ตาม เป็นเพียง รูปธาตุ และ อรูปธาตุ นั่นแหละจิตจึงคลายจากรัก และ ความขัดเคือง อย่างถาวร

     
   3.4 พระอรหันตมรรค บุคคล คือ บุคคลที่ พยายามพากเพียร เพื่อละ รูปราคะ อรูปราคะ ( จะเห็นว่าไม่ใช่ ละรูป ละ อรูป  อันนี้สำคัญ ), ละมานะ ความถือดี , ละอุทธัจจะ ความยึดมั่นในกุศล ,ละอวิชชา ความไม่เข้าใจ สามส่วน คือ ความจริงของทุกข์ กาล และ เหตุปัจจัย ดังนั้น พระอรหันต์ ส่วนนี้

    ที่เป็นปัญญาวิมุตติ จึงอาศัย สติ เป็นหลัก อาศัย อุปจาระสมาธิ เป็นรอง ในการเจริญ วิปัสสนา เพื่อเข้าเรียนรู้ความจริง ของรูป อรูป มานานุสัย กุศล อวิชชานุสัย  ด้วยอำนาจของปัญญา เข้าไปเรียนรู้ความจริง กาล และเหตุปัจจัย

   ที่เป็นเจโตวิมุตติ จึงอาศัย นิมิต อุคคหนิมิต ปฏิภาคนิมิต ระดับอัปนาฌาน ซึ่งเป็น รูปสมาบัติ และอรูปสมาบัติ ทั้งสองอย่างเป็น จุดเริ่มต้น

    ส่วนวิธีการส่วนนี้ ขอสววนไว้ เพราะไม่อยากให้เป็นความจำมากไป เพราะในแนวทางกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ การขึ้นเจริญ ปฏิจจสมุปบาทธรรม นั้น เป็นธรรมสุดท้ายในระดับวิปัสสนา
    การเจริญ ปฏิจจสมุปบาทธรรม ชื่อวิชา นั้น ใช้ว่า ( นิรสังสารวัฏฏ์ ) ดังนั้นคำว่าออกจาก วัฏฏะสงสาร ครูอาจารย์ มักจะใช้มากกว่า คำว่า นิพพาน หรือ ดับกิเลส หรือเป็น พระอรหันต์  ผู้ที่เข้าถึง นิรสังสารวัฏฏ์ จัดเป็น เทพ อีกแบบหนึ่ง เรียกว่า วิสุทธิเทพ ( หมายถึงเป็นเทพที่บริสุทธิ์ จากความอาลัย จากทุกสิ่ง ไม่มีการเกิดอีกต่อไป ถึงถิ่นเริ่มต้นและจบอย่างถาวร )


   เจริญพร ตอบเท่านี้ก่อนมองไม่ค่อยเห็น พิมพ์ลำบากผิดถูกบ้างตามอักษร ก็ประกอบให้ตรงความหมายให้ด้วย


    ;)
 

 ท่านสามารถอ่าน รายละเอียด วิชา กรรมฐาน เพิ่มเติมได้ที่นี่
 มัชฌิมา แบบลำดับ สำหรับศิษย์ สายตรง เท่านั้น ไม่เหมาะแก่บุคคลทั่วไป
 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=15680.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 25, 2015, 01:14:08 pm โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
แด่ ครู ผู้อภิบาล ข้า ฯ ให้ถึงความผ่องใส
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2015, 02:36:34 pm »
0


พอเห็นภาพ ที่ตนเองได้วาดแล้ว ก็จึงนึกได้ ว่า ยังมีศิษย์ ที่ยังคงจำภาพนี้ได้ นับว่าเป็นคนที่เก็บรายละเอียดไว้ได้ดีอีกผู้หนึ่ง เพราะภายภาคหน้า หลังจากนี้ไป ก็ถือได้ว่า มีคนสืบตำนานต่อ แม้จะเป็นส่วนหนึ่ง ก็ขออนุโมทนา ที่ทุกท่านยังจำได้ ในสิ่งที่เล่าไว้ให้ฟัง และชี้แจงบอกไว้ ถึงแม้ยังไม่มีข้อพิสูจน์ใด ๆ ที่ปรากฏชัด แต่ก็อาศัยศรัทธา และผลแห่ง ธาตุอริยะ นั้นเป้นหลัก เป็นฐาน ให้ท่านได้พอได้ สรณะ กัน

  เจริญพร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 24, 2015, 02:39:25 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
9 เคล็ดวิชากรรมฐาน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2015, 02:41:08 pm »
0


9 มงคลกรรมฐาน เคล็ดวิชา ขรัวปู่อาจารย์เฒ่า ( ได้รับอนุญาตแล้ว )
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=17702
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 24, 2015, 03:31:33 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
ส่วนหนึ่งของวิชา ที่เรียนกับท่าน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2015, 02:44:03 pm »
0


ความหมาย แห่ง อักขระ ยันต์ ที่สอนเรื่อง โลก ธรรม ทั้ง 8 พูดให้ถูก อธิบายให้เป็น
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=15437.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 24, 2015, 03:29:07 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
วิชาที่ฉันได้เรียน ในสายกรรมฐาน เรียนตอนเป็นสามเณร
  ชื่อวิชา ย่นฟ้าย่อพสุธา ก็คือ การใช้บทพุทธคุณ ถอยหลังภาวนา 108 คาบ

 จากสามเณรที่ไม่มีความศรัทธา เมื่อผ่านไป 1 เดือนกว่า ๆ ได้ทดลองวิชานี้ เดินทางด้วยเท้า ( ใส่รองเท้าแตะ ) เป็นระยะทาง 45 กม. ใช้เวลา 2 ชม. 30 นาที ไป 21 กม. กลับ 24 กม. ตอนนั้นที่ทำได้ ก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษใด ๆ แต่เป็นการพบ ครูอาจารย์ ครั้งแรก เนื่องด้วยตอนนั้นเป็นสามเณร เรียนธรรมสายสวนโมก จึงไม่ค่อยสนใจเรื่อง ศาสตร์ แห่ง ฤทธิ์ มากนัก ( แทบจะไม่สนเลย ) เพราะตั้งมั่นในธรรมะที่ใช้ปัญญามากกว่า


 

บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

    ขออนุโมทนาสาธุ ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เปิดโลกทรรศน์ ของผมเป็นอย่างมาก
  มีไฟล์เสียงบรรยายเรื่องนี้ หรือไม่ ครับ

  st11 st12 st12
บันทึกการเข้า

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12

   ยิ่งอ่านก็ยิ่งคิดว่า มีหลายเรื่องที่เราพลาด และไม่รู้จริง ๆ เป็นแต่ตามเขาว่า ไว้อย่างนั้น
 

   thk56 :25:
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12
 ขอบคุณทีตอบครับ คำถามนี้ผมถามไปนานมากแล้วครับ จนนึกว่า พระอาจารย์ไม่ตอบแล้วครับ

  thk56 :25:
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

chatchay

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 244
  • เกิดเป็นคนต้องมีดี บวชทั้งทีต้องสร้างดีให้กับตน
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12 thk56

  รู้สึกว่าวิชากรรมฐาน เริ่มลึกซึ้ง เพิ่มเป็นหนักขึ้นและลึกลับมากขึ้น จนมีความรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ขึ้นกรรมฐานแล้วไม่มีทางได้เรียนจากครูท่านนี้เลยครับ
   
   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
โทษอันใดที่ข้าพเจ้าล่วงเกินแล้วต่อพระรัตนตรัย ด้วย กาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ขอพระรัตนตรัย โปรดจงงดซึ่งโทษล่วงเกินนั้นแก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

สถาพร

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 220
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12
 เคยฟังไปในรายการครั้งหนึ่งแต่ ก็ช่วงกลาง ๆ รู้สึกว่า มืดแปดด้านพยายามทำความเข้าใจ จึงอยากให้พระอาจารย์ อธิบายให้ชัดเจน หรือ ขอไฟล์เสียงได้หรือไม่ ครับ

  :25: thk56
บันทึกการเข้า
ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


ว่าด้วยหลักการที่พระพุทธเจ้า ตรัสแสดงในเรื่องการภาวนา วิชา นิรสังสารวัฏฏ์
การเข้าไปกำหนด ถ้าดูจากภาพ จะง่ายกว่า ตามระดับชั้น ตามภูมิธรรม ของแต่ละบุคคล ถ้าไม่กระโดดข้ามขั้นก็จะเป็นไปตามลำดับ อย่างนี้ หลายท่านที่ปฏิบัติผิดเพราะไปปฏิบัตในหลักของพระอริยะบุคคลขั้นสุงเลย ซึ่งมีความเป็นไปได้ในการสำเร็จเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ( นั่นหมายถึงบารมีธรรมของผู้ภาวนา ต้องมีการสั่งสมไว้มาหลายภพหลายชาติ เป็นอย่างดี )

   แต่ถ้าเราปฏิบัติถูกตามกรอบ ตามระดับ ที่ควร การปฏิบัติ ย่อมสามารถลุเข้าไปถึงคุณธรรมขั้นสูง ได้

   พระอริยะพุทธชิโนรสราหุลมหาเถระเจ้า พระองค์ท่านได้ทรงเก็บรวบรวมวิชา แห่งพุทธบุตร ไปตามลำดับ ถึงแม้นท่านจะมีโอกาสเป็นพระอริยะบุคคลตั้งแต่ อายุ 7 ขวบ แต่ท่านก็ปฏิบัติหน้าที่ ของ เอตทัคคะที่ ทรงอธิษฐาน ความเป็นผู้คงแก่การเรียน ท่านจึงมาสำเร็จธรรม ที่อายุ 29 พรรษา ใช้เวลา 22 ปีในการปฏิบัติตามครูอาจารย์ เรีียนรู้วิธีการในการภาวนาของแต่ละรูป แต่ละองค์ ด้วยความเป็นสามเณรน้อย พระพุทธชิโนรส ก็ได้รับความเอ็นดูจาก พระอริยะ หลายรูปในการชี้นำและสอน โดยเฉพาะ พระอุปัชฌาย์ อย่าง พระอริยะสารีบุตรอัครสาวก ด้วยแล้ว จึงทำให้ พระอริยะพุทธชิโนรสราหุลมหาเถระเจ้า พระองค์ท่าน แตกฉาณ ในสรรพวิชาในแนวปฏิบัติทางกรรมฐาน และประมวลรวมไว้ดีที่สุด ตามแบบแผนสุดท้าย คือ มหาราหุโลวาทสูตร

    ดังนั้น ลำดับ หลักวิชา จึงเข้าไปมีขั้นตอน เริ่มจาก
     
      การทัศนา พุทธคุณ
      ธาตุ 5
      ความเสมอด้วย ธาตุ
      ธาตุ ภายใน
      ธาตุ ภายนอก
      การละมานานุสัย
      การละราคานุสัย
      การปฏิบัติอานาปานสติ



 
     
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

      ขออนุโมทนาสาธุ ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ อ่านเข้าใจง่าย ขึ้นมากคะ

  :49: thk56 :25:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

ratree

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า