พิมพ์

[raponsan]

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕

มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

๒. มหาราหุโลวาทสูตร

ธาตุ ๕
  [๑๓๖] ดูกรราหุล ก็อาโปธาตุเป็นไฉน? อาโปธาตุเป็นภายในก็มี เป็นภายนอกก็มี.
   ก็อาโปธาตุที่เป็นภายในเป็นไฉน สิ่งใดเป็นภายใน อาศัยตน เป็นอาโป
 
   มีลักษณะเอิบอาบ อันกรรมและกิเลสเข้าไปยึดมั่น คือ ดี เสลดหนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมันน้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร

       หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างอื่นเป็นภายใน อาศัยตน เป็นอาโปมีลักษณะเอิบอาบ อันกรรมและกิเลสเข้าไปยึดมั่น นี้เราเรียกว่าอาโปธาตุเป็นภายใน.
       ก็อาโปธาตุเป็นภายในก็ดี เป็นภายนอกก็ดี อันใด อาโปธาตุนั้นเป็นอาโปธาตุเหมือนกัน.

      อาโปธาตุนั้นเธอพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตนของเรา ดังนี้

      เพราะบุคคลเห็นอาโปธาตุนั้น ด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้วย่อมเบื่อหน่ายในอาโปธาตุ จิตย่อมคลายกำหนัดในอาโปธาตุ.

ภาวนาเสมอด้วยธาตุ ๕
 [๑๔๑] ดูกรราหุล เธอจงเจริญภาวนาเสมอด้วยน้ำเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยน้ำอยู่
   ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจ ที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้.

   ดูกรราหุลเปรียบเหมือนคนทั้งหลายล้างของสะอาดบ้าง ของไม่สะอาดบ้าง คูถบ้าง มูตรบ้าง น้ำลายบ้าง
น้ำหนองบ้าง เลือดบ้าง ลงในน้ำ น้ำจะอึดอัดหรือระอา หรือเกลียดของนั้นก็หาไม่ ฉันใด

   เธอจงเจริญภาวนาเสมอด้วยน้ำ ฉันนั้นแล เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยน้ำอยู่ ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจ ที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้.

อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  บรรทัดที่ ๒๕๔๑ - ๒๖๘๑.  หน้าที่  ๑๑๑ - ๑๑๖.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=2541&Z=2681&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=133
ขอบคุณภาพจาก www.dhammajak.net,www.babyfancy.com

[raponsan]

เคยมีคนบอกผมว่าในหลวงท่านถอดจิตได้

   เคยมีคนบอกผมว่าในหลวงท่านถอดจิตได้ ถ้าหากไม่ติดพระราชกรณียกิจใด ๆ ท่านจะนั่งสมาธิตั้งแต่ 6 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้าทุกวัน ผมฟังทีแรกยังไม่อยากเชื่อเลย แต่ผมได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ได้พูดถึงในหลวงว่า ท่านมีสมาธิดีมาก ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตามธรรมดาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) แห่งวัดท่าซุง จะอัดเทปถวายในหลวง เพื่อนำไปเปิดขณะปฏิบัติธรรม เท่าที่กระผมทราบมา

   ท่านเอาเทปของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่อัดเสียงถวายแขวนคอแล้วเดินจงกรม ที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน บางครั้งท่านก็นั่งสมาธิโดยจับเสียงคลื่นเป็นอารมณ์กรรมฐาน

  ในหลวง ท่านทรงแนะนำให้บุคคลใกล้ชิดได้ปฏิบัติธรรมด้วย เช่น พระราชวงศ์ องคมนตรี องครักษ์ หรือแม้แต่บุคคลที่ใกล้ชิดกับท่าน นี่ก็เป็นหลักฐานว่าสิ่งที่ผมได้กล่าวมามีเค้ามูลแห่งความจริง มีพระหลายองค์ บอกว่า ในหลวงเป็นผู้ทรงฌาณคนหนึ่ง เวลาท่านไปที่ไหน พระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายองค์ขยับแล้วขยับอีก แต่ในหลวงท่านเพียงแค่กระพริบตาอย่างเดียว นั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเลยได้เป็นชั่วโมง ๆ

พลตำรวจเอก ที่เคยเป็นองครักษ์ของท่านคนหนึ่ง ก็เคยพูดไว้ว่า ในหลวงท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยนั่งสมาธิเห็นร่างกายของท่านเป็นเนื้อแดง ๆ ลอกออกจนเห็นกระดูกสีขาว ๆ

มีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ในหลวงท่านเคยถอดจิต (จะเรียกว่าถอดจิตก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะโอเลี้ยงหายไปครึ่งแก้ว) มาหาท่านหนึ่งที่มีบารมีมาก สามารถต่อรองกับพระยายมเพื่อนำคนที่ตกนรกไปแล้วขึ้นมาได้ ที่ในหลวงท่านถอดจิตมาหา ก็เพราะต้องการให้ช่วยอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่เป็นเชื้อพระวงศ์ขึ้น จากนรก แต่ท่านนี้ไม่ยอมช่วยเพราะเหตุไม่ถูกกับอดีตนายกฯท่านนั้น

   แต่ที่น่าแปลกก็คือ ถ้าในหลวงท่านถอดจิตมา (มาแค่จิตอย่างเดียว ร่างกายไม่ได้มาด้วย) โอเลี้ยงคงไม่หายไปครึ่งถ้วยหรอกครับ เพราะเจ้าของบ้านให้คนไปซื้อมาถวายในหลวง แต่นี่ที่หายไปครึ่งแล้ว แสดงว่า ในหลวงท่านหายตัวได้ครับ! ในหลวงท่านฝึกสมาธิจนถึงขั้นอภิญญา คือ แสดงฤทธิ์ได้ ซึ่งลูกศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำมีหลายคนทำได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร เพียงแต่ว่าเขาไม่ค่อยแสดงฤทธิ์กันเท่านั้นเอง

   แต่ถ้าท่านรู้มากกว่านี้ ก็คือ ในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ (พระโพธิสัตว์ คือ บุคคลที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต) และท่านก็มีบารมีมากพอที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแน่ ๆ แล้ว (ต่อจากหลวงปู่ทวด และสมเด็จโต) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะหายตัว ได้ !

ที่มา http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=770
http://board.palungjit.com/f126/เคยมีคนบอกผมว่าในหลวงท่านถอดจิตได้-156286.html
ขอบคุณภาพจาก www.oknation.net,www.thaimonarchy.com

[raponsan]

บุคลิกภาพของคนธาตุน้ำ…ที่เรายังไม่รู้!!

   เรามาติดตามกันต่อเรื่องของคนธาตุน้ำค่ะ ลักษณะของคนธาตุน้ำที่ภาษากรีกโบราณเรียกว่า “Phlegmatic” สังเกตได้ง่ายมากเพราะคนธาตุน้ำมีหุ่นที่แตกต่างจากคนธาตุอื่นชัดเจน ด้วยรูปร่างที่เจ้าเนื้อ เตี้ยล่ำ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยไขมันนัยน์ตาฉ่ำน้ำดูเอื่อยเฉื่อย ไม่ค่อยกระตือรือร้น ใบหน้าปราศจากอารมณ์ เก็บความรู้สึกได้ยอดเยี่ยม 

   แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการกินแล้วล่ะก็คนธาตุน้ำ จะเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยทีเดียว เพราะเขาจะกลายเป็นคนอารมณ์ดี เอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้าอย่างไม่สนใจใครถือได้ว่าเป็นนักชิมตัวยงและรักการกินเป็นชีวิตจิตใจเป็นคนติดบ้านมาก ไม่ชอบออกไปไหนชอบนอนสบายๆ อยู่กับบ้านมากกว่าด้วยบุคลิกที่เชื่องช้า ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาและการเคลื่อนไหวทำให้คนธาตุน้ำดูงุ่มง่ามในสายตาคนรอบข้าง

   เมื่อรวมกับลักษณะนิสัยที่เป็นคนตัดสินใจช้า ลังเล เรียนรู้ช้าและตามคนอื่นไม่ค่อยทัน ทำให้ตกเป็นเป้าโจมตีติฉินนินทาจากเพื่อนร่วมงานทั่วไปในเรื่องความเอื่อยเฉื่อยไม่กล้าตัดสิน และลอยตัวอยู่เหนือปัญหา

   แท้ที่จริงแล้ว คนธาตุน้ำเป็นคนรักสงบต้องการให้เกิดความปรองดองกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงต้องการเวลาในการพินิจพิจารณาเรื่องราวทุกแง่มุมอย่างละเอียดรอบคอบ นับเป็นคนที่มีขันติและความอดทนอดกลั้นสูงที่สุดในจำนวนคน 4 ธาตุคนธาตุน้ำเป็นคนอนุรักษ์นิยม ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงยึดติดกับรูปแบบเดิมและลังเลกับการทำสิ่งใหม่หรือสิ่งที่ไม่คุ้นชินทุกรูปแบบ

   เมื่อมีใครต่อว่าเรื่องความเฉื่อยชาคุณจะได้เห็นเพียงรอยยิ้มที่สุภาพและหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามหรือให้ความเห็นใด ๆนอกจากคำที่พูดติดปากอยู่บ่อยๆ ว่า “ก็ดี! ไม่มีอะไร”หรือ “ไม่รู้สิ” แต่เมื่อคุณตั้งใจทำให้โกรธหรือเสียใจเขาจะทุกข์ระทมอย่างที่สุดและไม่มีวันหันกลับมาคืนดีหรือพูดคุยกับคุณอีกต่อไป เขาจะกลับไปอยู่ในโลกส่วนตัวที่เขาคุ้นเคยและตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง

   ดังนั้น เพื่อสร้างเกราะกำบังตนเองคนธาตุน้ำจึงปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบไม่ยอมเผชิญหน้าหรือทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่หรือคนที่ไม่เคยคุ้นเคย  ใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมทุกวันขาดความมั่นใจในการนำเสนอและรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถ

   เราจึงไม่ค่อยเห็นคนธาตุน้ำเป็นผู้นำนอกจากคนที่มีธาตุเจ้าเรือนรองเป็นธาตุไฟซึ่งถือว่าเป็นคู่ธาตุที่เหมาะสมในการเป็นผู้นำที่ดีเยี่ยม เมื่อคุณต้องการงานที่ละเอียดรอบคอบวิเคราะห์เจาะลึกและได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือคนธาตุน้ำเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่คุณจะมอบหมายงานให้

   เพราะเขาเป็นคนที่ชอบทำงานประจำที่มีแบบแผนมีนิสัยเสมอต้นเสมอปลาย มั่นคงไม่ตื่นตกใจกับสถานการณ์ที่รุมเร้าและรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้รับมอบหมายสูงสุด เขามีทักษะในการฟังอย่างลึกซึ้งเข้าใจผู้อื่นอย่างแท้จริง และเขาคนนี้ล่ะค่ะที่เป็นที่ปรึกษาชั้นดีที่องค์กรไม่อาจมองข้าม

ที่มา http://www.oknation.net/blog/meaningful/2010/05/27/entry-1
ขอบคุณภาพจาก http://1.bp.blogspot.com,http://franokthaihomesbaan.com

[raponsan]

 

http://www.youtube.com/watch?v=YjciQMz_irU

 

http://www.youtube.com/watch?v=a0Xx0-Bgbzo

 

http://www.youtube.com/watch?v=DSdkr2eZ1Is

   เพื่อนๆครับ ผมลองนั่งหลับตาฟังเสียงคลื่น ปรากฏว่า รู้สึกผ่อนคลาย ได้สมาธิดีครับ (ไม่ใช้คำภาวนา)

   ในกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ฐานจิตที่ ๓ คือ พระโอกกันติกาปิติธรรมมเจ้า เป็นธาตุน้ำ หรืออาโปธาตุ

   จะมีลักษณะ ไม่มีรูปแบบ เป็นไปตามธาตุดิน มีรูปแบบตอนกระทบกับเตโชธาตุ และถูกประคองไว้ด้วยวาโยธาตุ

   มีพลัง คือ หยั่งลงสู่ ไหลลง น้อมลง สู่ดิน มีการสะท้อน และเย็น
   
   มีที่อาศัย คือ ปฐวีธาตุ และอากาศธาตุ เป็นธาตุสนันสนับของธาตุดิน

   หากใครภาวนาเข้าถึงพระลักษณะของฐานนี้ได้ จะเกิดความรู้สึก ๖ ประการ(ไม่ได้รับอนุญาตให้บอก)
     

   เพื่อนๆอยากรู้ไหมครับ การภาวนาเสมอดัวยธาตุน้ำ ต้องทำอย่างไร

[Ice]

เพื่อนๆอยากรู้ไหมครับ การภาวนาเสมอดัวยธาตุน้ำ ต้องทำอย่างไร

ต่อไปเลยคะ กว่าจะอ่านและดูจบก็ร่วม 2 ชม.กว่า ๆ นะคะ

มีความสนใจคะ

 

[fan]

หากใครภาวนาเข้าถึงพระลักษณะของฐานนี้ได้ จะเกิดความรู้สึก ๖ ประการ(ไม่ได้รับอนุญาตให้บอก)

  รู้สึกว่า กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีความลึกลับ มากนะคะ อ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิด ทำไมบอกกันไม่ได้

 

[ธุลีธวัช (chai173)]

http://www.youtube.com/watch?v=i9tC9QhrGMs

http://www.youtube.com/watch?v=VzFeUe6V0P8

http://www.youtube.com/watch?v=tF8Ojn-6y-Y

ฟังเสียงคลื่นทะเลดูออกจะแรงไปครับ! ฟังเสียงน้ำไหลดีกว่าไหม หรือเสียงฝนก็ดีไม่ใช่น้อยนะครับ!   

[ธุลีธวัช (chai173)]

  รู้สึกว่า กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีความลึกลับ มากนะคะ อ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิด ทำไมบอกกันไม่ได้

ใจเย็นๆนะคุณน้อง "กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ" เป็นพระกรรมฐานในแนวปฏิบัติ มิใช่แนวปริยัติ ดังนั้น อย่าหมายจำ

นำไปกล่าว เพราะจะปรุงแต่งความคิดไม่เข้าใจ ให้ศึกษาภาวนานิ่งแน่นในฐานธาตุใดฐานธาตุหนึ่งก่อน จากนั้นเมื่อมี

โอกาสพบพระอาจารย์ฝึกภาวนาหยั่งฐานธาตุตามจริตก็จะสำฤทธิ์เข้าใจได้ง่าย ครับ!

[raponsan]

เพื่อนๆอยากรู้ไหมครับ การภาวนาเสมอดัวยธาตุน้ำ ต้องทำอย่างไร

ต่อไปเลยคะ กว่าจะอ่านและดูจบก็ร่วม 2 ชม.กว่า ๆ นะคะ

มีความสนใจคะ

 

การพิจารณาธาตุ บาลีเรียกว่า ธาตุมนสิการ หรือ ธาตุววัฏฐาน มีการอธิบายโดยพิสดารอยู่สองที่ด้วยกัน คือ

อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค "มหาสติปัฏฐานสูตร"
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10&i=273&p=2#ธาตุมนสิการบรรพ

คัมภีร์พระวิสุทธิมรรค เ่ล่ม ๒ สมาธินิเทศ (หน้า ๑๙-๒๐)
http://www.larnbuddhism.com/visut/2.19.html

ขอให้ไปศึกษาเอาเองก่อนนะครับ ว่างๆผมจะสรุปให้อ่านอีกที

หากจะถามถึงแนวกรรมฐานมัชฌิมาฯ ตัวผมเองยังเิ่พิ่งเริ่มฝึก และที่สำคัญยังไม่ได้รับอนุญาตให้บอก
ใครประสงค์จะฝึก ต้องอดทนพากเพียรเข้าหาครูบาอาจารย์ ต้องสั่งสมบารมีเอาเอง
คำว่า"บุญสัมพันธ์" มีจริง บังเอิญหรือฟลุ๊ค ไม่มี
 

หากใครภาวนาเข้าถึงพระลักษณะของฐานนี้ได้ จะเกิดความรู้สึก ๖ ประการ(ไม่ได้รับอนุญาตให้บอก)

  รู้สึกว่า กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีความลึกลับ มากนะคะ อ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิด ทำไมบอกกันไม่ได้

 

    ผมขอนำข้อความในหนังสือคู่มือสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของสมเด็จสุก
มาแสดง ดังนี้

    หน้า ๕๐ เรื่อง "ลักษณะ ปิติ ยุคล สุข"
          ๓.พระโอกกันติกาปิติ เกิดดังขี่เรือต้องระลอกคลื่น เกิดลมพัดไปทั่วกายก็มี

    รู้สึกหงุดหงิด เป็นสังโยชน์ข้อ ๕ เรียกว่า "ปฏิฆะ" อนาคามีผลขึ้นไป จะละได้
     

[raponsan]

"การภาวนาเสมอดัวยธาตุน้ำ" ผมสรุปไว้ให้ในลิงค์นี้ครับ
 
 การพิจารณา"ธาตุกรรมฐาน"
 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5260.msg19401;topicseen#new
 

[เสกสรรค์]

อนุโมทนา ด้วยครับ ติดตามพระธรรมยามเช้า
วันนี้อากาศ ดีมาก ๆ นั่งกรรมฐาน สักหน่อยจะดีมากครับ

 สาธุ สาธุ สาธู