ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝึกกำหนดหนอ อยู่ ครับ ถ้าฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา ด้วยจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ครับ  (อ่าน 6060 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

wayu

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 162
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ฝึกกำหนดหนอ อยู่ ครับ ถ้าฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา ด้วยจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ครับ

  คือตอนนี้ฝึกกำหนด หนอ อยู่ที่คณะ5 วัดมหาธาตุ ครับ

  ถ้าผมมาฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา ร่วมด้วย จะเป็นอุปสรรคหรือไม่ครับ เพราะไม่อยากทิ้งการฝึกหนอที่ฝึกมาหลายปีครับ ไม่ทราบควรทำอย่างไร ดีครับในตอนภาวนา หรือ ควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งครับ โปรดแนะนำด้วยครับ


   :c017:

 
บันทึกการเข้า

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ดิฉันเองก็ฝึกกำหนดหนอ ๆๆๆๆ อยู่ที่ คณะ 5 วัดมหาธาตุคะ ยังไม่ได้เปลี่ยนวิธีการ นะคะไม่ทราบวิธีการกำหนด หนอ ๆ นี้มีอุปสรรคใดๆ คะ ครูอาจารย์แนะนำว่า ให้ฝึกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ คะ อย่าได้เปลี่ยนคะเพราะมาถูกทางแล้วคะ ก็เชื่ออยู่นะคะจึงยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับตามคะ

  คิดว่า ถ้าฝึกสองอย่างแล้วน่าจะเป็นอุปสรรคมากกว่า นะคะ

   :s_hi:
บันทึกการเข้า

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จงกรม ผม ใช้ ย่างหนอ ครับ ตามแบบ วัดมหาธาตุครับ

สมาธิ ผมใช้ พุทโธ กับลมหายเข้า และออก ตามแบบวัดธรรมมงคล ครับ

 ก็ไม่เห็นจะขัดอะไรกัน เลยนะครับ จะหนอ ก็เป็น สติ จะ พุทโธ ก็เป็นสมาธิ สนับสนุนซึ่งกันและกันครับ

 
  :s_hi: :67:
บันทึกการเข้า

nonestop

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 87
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จงกรม ผม ใช้ ย่างหนอ ครับ ตามแบบ วัดมหาธาตุครับ

สมาธิ ผมใช้ พุทโธ กับลมหายเข้า และออก ตามแบบวัดธรรมมงคล ครับ

 ก็ไม่เห็นจะขัดอะไรกัน เลยนะครับ จะหนอ ก็เป็น สติ จะ พุทโธ ก็เป็นสมาธิ สนับสนุนซึ่งกันและกันครับ

 
  :s_hi: :67:


 เช่นเดียวกัน ครับ ผมเองก็ใช้กรรมฐาน มากกว่านั้น อีกบางวันก็มานั่งกำหนด หนอ ๆ ที่วัดมหาธาตุ บางอาทิตย์ก็หลบไปฝึก กสิณที่วัดยานนาวา มีประชุมอบรมกรรมฐานที่วัดธรรมมงคล ก็ไปไม่ขาดนะครับ บางทีก็แหลมไปนั่งกรรมฐานอยู่ที่ วัดปากน้ำอีก เพื่อน ๆ ช่วยกันไปที่วัดอินทรวิหาร ก็เป็นหนอ ๆ ด้วย ยังมีอีกทีที่ำกำลังคิดว่าจะไปสักหน่อย ก็คือ วัดราชสิทธาราม

  กรรมฐานที่ผมใช้นั้น มากกว่า 2 อย่างครับ เข้าวัดแล้ว มีปัจเวกขณ อาหาร สวดมนต์ มีแผ่เมตตา นั่งภาวนาพุทโธ กำหนดเดินด้วยอิริยปถบรรพ โต้รุ่งด้วยการการถือธุดงควัตร เนสัชชิก อันนี้กล่าวแบบว่าเรียกน้ำย่อยนะครับ แท้ที่จริงถามว่า ปฏิบัติแล้วได้อะไรไหม ถ้าตอบว่าไม่ได้น่าจะไม่ใช่ เพราะอุปนิสัยผมเปลี่ยนน่ามือเป็นหลังมือ สำหรับพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่เอาแต่เรื่องโลก

    เชื่อหรือไม่ครับ ? อย่างบอลยูโร ยูฟ่า นี่ผมไม่เคยขาดชมเลยนะครับ แต่ปัจจุบันได้ยินก็ไม่กระดิกไม่เคยดูเลยครับ นั่งกรรมฐาน เสร็จนอนตื่นไปทำงาน ว่าง ๆ มีเวลาก็เข้าอ่านธรรมะตามบอร์ด ที่ไหนมีการภาวนา ก็ลางานบ้าง อาศัยวันหยุดบ้างไปนอนเล่นอยู่ที่วัด ต่าง ๆ ครับ

   ถ้าจะตอบว่าไม่ได้ อะไร เลยนั้น น่าจะไม่ใช่ เพราะผมรู้ตัวของผม ครับ

   :25:
บันทึกการเข้า
nonestop  หยุดทำ้ร้าย หยุดเบียดเบียน หยุดการกลับมาเกิด กันเถิดครับ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การฝึกกรรมฐาน อื่น ๆ โดยเฉพาะ การฝึกกำหนด "หนอ" ในแนวทาง สติปัฏฐาน 4 แล้ว ไม่ขัดต่อกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เพราะกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เป็น ทั้ง สมถะ และ วิปัสสนาเช่นกัน ดังนั้นผู้ฝึกปฏิบัติ สามารถุฝึก สลับร่วมกันได้ เพียงแต่จะมีอุปสรรค เกิดในเรื่องของ วิตก บางครั้งอาจจะสับสนได้ เพราะเดี๋ยวจะกำหนด หนอ ปนเปกันกับ คำภาวนาอื่น ๆ อาตมาเองก็เคยฝึกในสาย วิปัสสนาญาณโสภณ วัดมหาธาตุ หลวงพ่อเจ้าคุณโชดก เป็นที่เคารพมาตั้งแต่ครั้งเป็นสามเณร เลยนะจ๊ะ หนังสือวิปัสสนาญาณโสภณในขณะนั้นชอบอ่านมาก ๆ เพราะมีหลักธรรมให้อ่านได้ความรู้มาก แต่บารมีอาจจะไม่พอกลับการดำเนินสติอย่างเดียว จึงมาหยุดและหันกลับมาฝึก กรรมฐาน มัชฌิมา ในแนวทางเดียวเลย ใช้เวลาเพียง 2 ปีก็สามารถ ผ่านมาถึงห้องที่สี่ ได้ ต้องขอขอบคุณครูอาจารย์ที่ให้ความรู้ถ่ายทอดกรรมฐานให้ภาวนา จนกระทั่งสละเวลาสอนศิษย์ก็คาดหวังในลูกศิษย์ที่เอาจริงเอาจัง จะภาวนาให้ได้ภายในสองปี เช่นกัน แต่ทุกอย่างอยู่ที่วาสนา และบารมีที่สั่งสมด้วย สำคัญที่การปฏิบัติตามขั้นตอนของกรรมฐานกันหรือไม่  ดังนั้นการฝึกกรรมฐาน นั้นจะฝึกสองอย่างควบคู่กัน อย่างไรเสียก็ต้องมีกรรมฐาน ใด กรรมฐาน หนึ่ง ที่ต้องมีการฝึกบ่อยมากกว่า ดังนั้นท่านต้องการฝึกอย่างได้ผลก็เลือกไปสักอย่างก็จะดี แต่ถ้ารักจะฝึกทั้งสอง หรือ หลาย ๆ กรรมฐานนั้น อาจจะต้องใช้เวลามาก แต่ถ้าจะให้ดีปฏิบัติให้ได้ห้องที่ สี่ ของกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ท่านจะฝึกกสิณก็ทำได้ง่าย ฝึกอสุภก็ได้ ฝึกอนุสสติ ที่เหลือก็ได้ กรรมฐาน อื่น ๆ อีกก็สำเร็จได้ง่าย นะจ๊ะ

 เจริญพร / เจริญธรรม
 ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 21, 2012, 08:10:44 pm โดย DANAPOL »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

South

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 6
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมมีคำถามอยู่ว่า การที่คุณปฏิบัติกรรมฐานตามแบบพม่า ที่วัดมหาธาตุนำมาเผยแพร่นั้น ถูกกับจริตและท่านพึงพอใจกับผลการปฏิบัติหรือไม่อย่างไร หากว่าดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องมาปฏิบัติทั้งสองแนวหรอกครับ จะทำให้ไม่ได้ดีซักอย่าง อีกทั้งผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นของผู้แสดงความคิดเห็นบางท่านที่บอกว่า กรรมฐานสายพม่าที่วัดมหาธาตุสอนอยู่นั้นถูกทาง เนื่องจากหากท่านจะนำหลวงพ่อจรัญมาเป็นองค์ในการพิจารณาหรือเป็นตัวอย่าง ผมขอเสนอว่าท่านควรไปศึกษาประวัติของหลวงพ่อท่านก่อนว่า ก่อนที่ท่านจะมาปฏิบ้ติตามแนวพม่านี้ท่านได้เป็นศิษย์กรรมฐานหรือเป็นลูกศิษย์ พระอาจารย์องค์ไหนบ้าง ถ้าจำไม่ผิด ที่สำคัญ ๆ คือ หลวงพ่อจรัญท่านฝึกตามสายวัดปากน้ำอยู่ระยะหนึ่ง และเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ด้วย ที่ผมนำให้เห็นถึงเรื่องนี้เพื่อจะชี้ให้ท่านเห็นว่า หลวงพ่อจรัญท่านเป็นพระที่มีสมถกรรมฐานกล้าแข็งแล้วหรือไม่ก่อนที่จะไปฝึกสมาธิแนวพม่า ดังนั้น จะบอกว่า กรรมฐานแนวพม่านั้นเป็นแนวที่ถูกต้องฝึกแล้วหลุดพ้นหรือตรงที่สุดแล้วก็คงไม่ได้ และอาจสรุปได้ว่า สมาธิแบบพม่านั้นต้องอาศัยสมถกรรมฐานเป็นพื้นจึงจะมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ พระป่าทางภาคอีสานที่มีกระดูกเป็นพระธาตุก็ใช้คำบริกรรมว่า "พุทธ โธ" ใช่หรือไม่ครับ ดังนั้น ขอเถอะอย่าแสดงความคิดเห็นว่าสิ่งใดถูกทางหรือผิดทางเลย เพราะทุกอย่างล้วนมาจากคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น อาจจะแสดงความคิดเห็นที่รุนแรงไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยแล้วกันครับ
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

  ผมเคยเข้าคอร์สที่วัดอินทร์ บางขุนพรหม ฝึกหลักสูตรของคุณแม่สิริ กรินชัย ๗ วัน
  คุณแม่เป็นศิษย์ของท่านโชดก อาจารย์ใหญ่ของวัดมหาธาตุนั่นแหละครับ
  ฝึกแนวสติปัฏฐาน จงกรมขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ
  การเข้าคอร์สครั้งนี้ จุดประสงค์ก็คือ อยากรู้เรื่องวิปัสสนา
  แต่ผลที่ได้ ไม่เป็นไปตามคาด เพราะคอร์สนี้เน้นเดินจงกรมเป็นส่วนใหญ่ และให้นั่งสมาธิเพียง ๒๐ นาที
  วิธีสอนของผู้ฝึก ไม่ถูกจริต คำพูดบางอย่าง มันค้านกับทิฏฐิที่มีในขณะนั้น


  หากถามว่า ผมได้อะไรมาบ้าง
  ตอบว่า ต้องใช้คำว่า 'Explore my world' วิสัยและมุมมองต่างๆของผมเริ่มเปลี่ยน
  ผมเริ่มค้นคว้าสิ่งต่างๆที่ผมสงสัยด้วยตัวเอง ผมอ่านหนังสือธรรมะมากขึ้น
  "ธรรมฉันทะ" เริ่มเกิดตั้งแต่นั้นมา


  ผมคิดว่า ไม่ว่าใครจะปฏิบัติแนวไหน หากกระทำด้วยความเพียรและอดทน คุณต้องได้อะไรสักอย่างแน่นอน
  ขอคุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ

   :25:
 
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จากการอ่านคำตอบของพระอาจารย์แล้ว ผมว่า พระอาจารย์คงต้องการตอบว่า ให้เืลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง นะครับ แต่ท่านตอบให้แบบเกรงใจคนที่ปฏิบัติในสายหนออยู่ ก็เลยตอบให้กำลังใจ เพราะที่ท่านตอบเองก็ชัดเจนว่า ท่านเลือกมาฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา จนก้าวหน้า นะครับ

  สาูธุ ถ้าอ่านให้ดีแล้ว อะไร ขาด อะไร เกิน ก็น่าจะใคร่ครวญเห็นกันได้นะครับ

  ส่วนตัวผมเองนั้น ผมขอชื่นชมนะครับว่า การเดินจงกรมที่พระอาจารย์ได้ถ่ายทอดไว้ในเว็บนี้นับว่าเป็นกรรมฐานที่ผมฝึกได้ดีกว่า การกำหนดซ้ายย่างหนอ ขวาย่างหนอ

   ถ้าตามลำดับการเรียนรู้ธรรม คือ การเข้าถึงธาตุ ก่อน แล้วละก็ ผมคิดว่ามาถูกทางแล้วครับ

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อยากให้ทุกๆ ท่านทำการศึกษาหาข้อมูล(ผู้ที่ทราบดีแล้วไม่ต้อง) ดูว่า มันทำให้กิเลสเราลดลงไม๊ (ต้องศึกษาต่อนะจ๊ะ ว่า กิเลส  มันมีอะไรบ้าง) ในการปฏิบัติ สอดคร้องกับพระสูตรต่างๆ ที่มีมาในพระไตรปิฏกไม๊ อีกอย่างที่สำคัญสำหรับเราๆ  เขาตอบคำถาม  ที่เราถามได้หมดไม๊  หรือบางที่ก็ว่า  ต้องเริ่มแบบนี้ตามเขาว่าก่อนถึงจะได้ คือยื้อเราให้อยู่กับเขาห้ามไปไหน  หรือบ้างที่ก็ว่า  ก็เพราะคุณคิดแบบนี้คุณก็เลยทำไม่ได้ คือต้องทำตามแบบเขาเท่านั้นแบบคนอื่นก็ไม่ได้  อย่างนั้นจะไม่สำเร็จ  หรืออมความรู้ไม่ยอมบอก ยื้อให้เราอยู่กับเขาต่อ  หรือว่าไม่รู้ ก็เลยเฉไฉไป  หรือตอบไม่ตรงประเดน ทำให้เรายังคาใจอยู่

         ท่านมีประสบการณ์เหล่านี้ไม๊?

     หลังจากผู้เขียนเองได้มีโอกาส  ได้เรียน  ได้รู้  ในกรรมฐาน  มัชฌิมา แบบลำดับ  ก็ไม่เคยมีปัญหาดังกล่าวอีกเลย  ถือว่าสุดยอดเลย  ไม่ว่าอยากจะถาม  อยากจะเรียนรู้อะไร  พระอาจารย์ก็บอกหมด  มีแต่เราไม่มีปัญญาที่จะเรียน(อย่างว่า ก็ต้องเป็นไปตามลำดับขั้น)

  สรุปถึงเวลาคุณก็จะรู้ได้ด้วยตัวเอง (ถ้าบ้างคน มีเวลาชีวิตมากพอ ที่จะ ไล่เรียน ทั้ง 40 กอง กรรมฐานนะ)
แต่คือ แนะนำให้รู้ว่า กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีทั้ง 40 กอง อยู่แล้ว พอถึงเวลานั้นๆ ก็จะรู้ได้เองเหมือนกัน  แต่ต่างกันอยู่ตรงที่ว่า กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ  ถ้าว่ากันทั้ง 40 กองแล้ว ใช้เวลาสั้นกว่า กรรมฐานสันโดด(กรรมฐานสันโดด คือ การปฏิบัติ กรรมฐานใดกรรมฐานหนึ่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น)   จึงเป็นที่น่าคิด สำหรับเราๆ ที่มีชีวิตไม่ได้นานมากมาย  ที่จะไปไล่ปฏิบัติ กรรมฐานที่ละกอง  เพียงเท่านี้ ก็เห็นประโยนช์ที่จะเรียนกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ แล้ว  แถมยังเมื่อถึงเวลาปฏิบัติไป ก็ได้ปฏิบัติกรรมฐานอื่นๆ้ด้วย

  สุดท้าย ขอย้อนกลับไป  ที่เริ่มมา    ให้ดูว่ากิเลสของเรามันลดลงไม๊  กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ  ผู้ปฏิบัติจะเห็นได้ด้วยตัวเองชัดเจน  ในทันที  ในการปฏิบัติ  เพราะจักต้องรักษา นิมิตทั้งสาม  ให้คงอยู่ตลอดตามพระไตรปิฏก  และห้ามมิให้นิวรณ์เกิดขึ้นก็ตามพระไตรปิฏกเช่นกัน   :72:
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าปณิธานเพื่อ มรรคผล ไม่ต้องการกลับมาเวียนเกิดดับ
       อย่างน้อย ต้องมีสมาธิตั้งมั่น ถึงระดับอุปจารสมาธิ จึงจะสามรถแตกผลไตรลักษณ์ แบบสุขวิปัสสก คือ ปัญญาวิมุติ
        แต่ถ้าขึ้นปฐมฌาณ ได้รูป ก็เป็นแบบเจโตวิมุติ
               แล้วเราจะไปกําหนดพม่า หรือกําหนดหนอ หรือปัจเวกธาตุ ก็อาจจะพอใช้ได้
                       อันนี้พูดถึงพื้นฐานสมาธิที่สามารถเกิดผลได้เท่านั้น
          แต่ถ้าสมาธิตํากว่านี้ กําลังจิตไม่พอแตก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
                 แต่ถ้าฝึกเรียน ปีติ ยุคคล สุข มาแบบ กรรมฐาน มัชฌิมา มาถึงระดับดังกล่าว คงไม่ไปไหน
         ก็เชิญวิจาร กันตามอัธยาสัย
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าว่าไป โดยประวัติ หลวงพ่อจริญ ท่านไปศึกษากรรมฐาน กับหลวงพ่อเดิม นะครับในครั้แรก
 :coffee2:

บันทึกการเข้า