ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - มะเดื่อ
หน้า: 1 [2] 3 4 5
41  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: รับทราบปัญหา สถานีไม่มีเสียงในวันนี้ 2 มิ.ย.55 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2012, 02:35:58 pm
ถึงว่า ช่วงเช้านี้ผมจะเปิดฟังรายการไม่ได้ เลยครับ
และเข้าเว็บไม่ค่อยได้ ขอบคุณมากครับ

  :c017:
42  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ขอให้แสดงความเห็นเรื่องไหว้พระหน้าคอมพิวเตอร์ เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2012, 01:05:56 pm
เห็นด้วยในระดับหนึ่งครับ ต้องดูผลโหวต ประกอบด้วยครับ เจตนาดีเป็นกุศล ดีทั้งนั้นครับ
 :25:
43  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ยังมีคนอีกมากมาย ที่ร่วมปิดทองหลังพระ อยากเชิญท่านทั้งหลายมาร่วมปิดทองหลังพระกัน เมื่อ: เมษายน 30, 2012, 09:13:06 am
 :25: :25: :25:
44  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญเข้าปฏิบัติธรรมวันเสาร์-อาทิตย์ที่๒๖-๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: เมษายน 17, 2012, 11:10:40 am


เครดิตภาพ คุณ ธรรมธวัช นะครับhttp://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6427.msg23867#msg23867
45  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญเข้าปฏิบัติธรรมวันเสาร์-อาทิตย์ที่๒๖-๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: เมษายน 17, 2012, 10:47:17 am
เชิญเข้าปฏิบัติธรรมวันเสาร์-อาทิตย์ที่๒๖-๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕
ที่คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม
โทร. ๐๘๔-๖๕๑-๗๐๒๓


    ข่าวสาร

เขียนโดย weera2548 เมื่อ อา, 15/04/2012 - 17:45

 

กำหนดการปฏิบัติธรรมเดือนพฤษภาคม 55

ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ รถเมล์

 สาย   40  56 57  159  ผ่าน ซ. อิสรภาพ 23 วัดราชสิทธาราม

  วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม   2555 ขึ้น 6  ค่ำ เดือน  7

     เวลา 09.30-10.15            ลงทะเบียน รับอาหารเช้า รับศีล ขึ้นกรรมฐาน 

     เวลา 10.15-11.00            รับประทานอาหารกลางวัน  ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย

     เวลา  13.00-14.00           ฟังธรรมบรรยาย ถามปัญหาธรรม พักดื่มน้ำปานะ

     เวลา 14.00-16.30            นั่งกรรมฐาน เดินจงกรม 

     เวลา 16.30-17.00            ทำวัตรเย็น  พักผ่อนตามอัธยาศัย 

    วันอาทิตย์ที่ 27  พฤษภาคม  2555  ขึ้น  7 ค่ำ เดือน  7

     เวลา 06.30- 07.00           ทำวัตรเช้า เจริญภาวนา   รับอาหารเช้า

     เวลา 11.00 – 13.00น.       รับประทานอาหารกลางวัน  ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย

     เวลา  13.00-14.00           ฟังธรรมบรรยาย ถามปัญหาธรรม พักดื่มน้ำปานะ

     เวลา 14.00-16.30            เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม   ทำธุระส่วนตัว

     เวลา 16.30-17.00            ทำวัตรเย็น  ลาศีลกลับบ้าน

     เวลา 16.30-17.00            ทำวัตรเย็น ลาศีลเดินทาง กลับบ้าน


----------------------------

46  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฮือฮา!!..กล้วยประหลาด..เครือเป็นใบคลุมผล (ชมภาพ) เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 08:24:02 am
ก็จัดว่าเป็น unseen อีกอันครับผมเองก็พึ่งเคยเห็นเ็ป็นครั้งแรก เหมือนกันครับ

 :c017:
47  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ตร.ปิดแยกราชประสงค์..เต้นโชว์!!.รณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 08:22:44 am
เห็นหรือไม่คะ ผู้หญิง เวลาทำอะไร ก็น่ารักนะคะ

  :c017: :25: :88: :58: :bedtime2:

ดูดีจริง ๆ ครับ น่ารักดี  :c017: :s_hi:
48  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: กระวนกระวาย วิตกกังวลมากคะ ทำอย่างไรจะทำกรรมฐานได้คะ เมื่อ: เมษายน 05, 2012, 09:32:03 am
ความกระวนกระวายใจ นั้นเกิดแต่ความกลัว มีวิตกเป็นเหตุ

   ดังนั้นเมื่อทราบต้นตอ คือ ความกลัว แล้ว ก็ต้องแก้ปัญหา ใหุ้ถูก ครับ

   ความกลัว ต้อ อาญชา ภัย ทุกข์ ตาย เจ็บ แก่  พรัดพราก ไม่สมหวัง สิ่งเหล่านี้ เป็นต้น ต้องทำใจครับ

   ความกลัว เพราะต้องคิดมาก เป็นเหตุคิดไปเอง เช่น คิดว่าสามีไปมีเมียน้อย ( คิดเอง ) อันนี้วิตกไปเอง ต้องมาฝึกจิตให้รู้เห็นตามความเป็นจริง ต้องตั้งสติเป็น

   ดังนั้น ความกลัวทั้งสองแบบ ก็ต้องภาวนาครับ

    ภาวนาง่าย ๆ ก็คือ พุทโธ พุทโธ พุืทโธ ไปเรื่อย ๆ เท่าที่ใจจะสงบ ถ้ายังไม่สงบ ก็เจริญ อภิณหปัจจเวกขณ ให้มาก ๆ ครับ คิดว่าโมหะน่าจะคลายไปได้พอสมควร

    ที่ดีที่สุดผมก็ใช้อยู่เสมอ ก็คือการกำหนดลมหายใจเข้า ลมหายใจออกครับ ก็น่าจะดีขึ้นนะครับ

  :s_hi: :25:
49  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน / Re: คำปริยายขึ้นธรรม ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เมื่อ: มีนาคม 27, 2012, 08:20:11 am
ดูเหมือนจะเป็น ประัเพณี ตอนที่ขี้นกรรมฐาน ประจำปีนะครับครั้งที่ เท่าไหร่แล้วที่สืบทอดกันมาในกรุงรัตนโกสิททร์ ปีนี้น่าจะเป็น ครั้งที่ 230 นะครับ

50  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.komcome.com มูลนิธิสุวรรณโคมคำ เมื่อ: มีนาคม 25, 2012, 10:05:31 am


http://www.komcome.com 
มูลนิธิสุวรรณโคมคำ


ใกล้ ๆ กับวัดราชสิทธาราม อยู่หน้าวัดพระพิเรนทร์ นะครับ ถนนอิสระภาพ

คือถ้าจะเรียนกสิณ ศาสตร์พยากรณ์ ก็เชิญที่นี่ ใกล้ ๆ ครับ สำหรับชาวกรรมฐานครับ

หลักสูตรอานุภาพกสิณ ครับ เชิญอ่านครับ

http://www.komcome.com/course4.php
51  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากทราบพื้นฐาน การนั่งกรรมฐาน ในการปฏิบัติด้วยตนเอง คะ เมื่อ: มีนาคม 24, 2012, 07:57:43 am
อยากทราบ เช่นกัน ครับ รบกวน พี่ ๆ ที่มีความรู้ ถ่ายทอดด้วยครับ


 :s_hi: :c017:
52  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เปลี่ยนความคิดถึงของท่าน มาร่วมสวดคาถา พญาไก่เถื่อน กันเถอะ 3 มี.ค.55 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 02:38:44 pm
ผมเองก็จะสวดเช่นกันครับ

 แต่ประคำนี้ ต้องหาก่อนพระอาจารย์ มีแจกหรือไม่ครับ

  :25: :25: :25:
53  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน / Re: หลวงปู่สุก "เข้าสมาบัติ ๗ วัน" ที่ถ้ำวัวแดง ชัยภูมิ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2012, 03:29:16 pm
อนุโมทนาสาธุ ครับ
 :25: :25: :25:
54  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ด่วน "ประกาศถึงสมาชิก ทุกท่าน เกี่ยวกับการใช้งานบอร์ด" โปรดอ่านกันด้วย เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2012, 11:45:20 am
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับผม

 :25:
55  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมสมทบทุนสร้างบุษบกประดิษฐานพระพุทธมัชฌิมามุนี ๓๐ นิ้ว และฉลอง 4 มิ.ย.55 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2012, 09:45:20 am
มูลนิธิ สถาบันปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ

มีปฏิบัติธรรม ตามแนวสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ทุกวัน
และกำหนดปฏิธรรมทุกเดือน ปี55 โทร.084-651-7023



ซื่อสัตย์ กตัญญู รู้ทันกิเลส ขยันขันแข็ง เสมอต้นเสมอปลาย ช่วยกันผดุงรักษา

weera2548@yahoo.co.th


ขอเชิญร่วมสมทบทุนสร้างบุษบกประดิษฐานพระพุทธมัชฌิมามุนี ๓๐ นิ้ว
และจะมีฉลองสมโภชองค์พระพุทธมัชฌิฯในวันที่ ๔ มิถุนายน55(วิสาขบูชา)

 อานิสงค์การสร้างบุษบกเป็น วิหารทาน

           วิหารทานคือการทำบุญถวายหรือร่วมสร้างเสนาสนะ ต่าง ๆ

           ถวายไว้เป็นสมบัติพระพุทธศาสนา เช่น การสร้างพระอุโบสถ (โบสถ์)

           กุฏิ ศาลา วิหาร บุษบก หอฉัน หอระฆังเป็นต้น
          องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

          ทรงตรัสไว้ว่าการถวายวิหารทานมีอานิสงส์มาก

          โดยมีพุทธดำรัสตรัสเอาไว้ว่า
          "แม้ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง

           ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว"
         "แม้การถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าการ

         ถวาย "วิหารทาน" ครั้งเดียว"
         การถวายวิหารทานยังมีอานิสงส์อีกมาก สุดจะพรรณา

         การสร้างบุษบกประดิษฐาน พระพุทธมัชฌิมามุนี

         สเหมือนหนึ่งสร้างถวายสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง

         จึงมีอานิสงค์มากมาย

        เชิญสมทบทุนบริจาคได้ที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ ๒๓

        แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023

        หรือ โอนเข้าบัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาโพธิ์สามต้น

        บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 067-2-83847-9 ในนามพระวีระ สุขมีทรัพย์

        จึงขออนุโมทนาในบุญกุศลในครั้งนี้ เจริญด้วยอายุ วรรณะ

       สุขะ พละ ธนสารสมบัติ จงทุกวันเทอญ

 พระประจำกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของวัดราชสิทธาราม

สร้างเพื่อถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระ สังฆราช(สุก ไก่เถื่อน)

เนื่องในวาระเผยแผ่ฟื้นฟูผดุงรักษา พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ

กำหนด การฉลองสมโภช พระพุทธมัชฌิมามุนี

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2555 (วันวิสาขบูชา)


ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ๋ กรุงเทพฯ10600

โทร.084-651-7023

หมายเหตุ    วันเสาร์-อาทิตย์ที่2-3 มิ.ย 55 มีปฏิบัติธรรม






http://www.somdechsuk.org/node/246/248
56  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระใบลานเปล่า กับเหี้ย ๖ รู บทสรุปของ "ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด" เมื่อ: มกราคม 28, 2012, 11:55:40 am
พระที่ปฏิบัติ ได้สำเร็จ ส่วนใหญ่ ก็จะไม่พูดว่า ปฏิบัติได้อยู่แล้วครับ เพราะสมัยนี้ วินัยข้อนี้ทางคณะสงฆ์ ปรับอาบัติร้ายแรง ครับ ถ้าหากพระสงฆื ปฏิบัติได้เป็น หลวงตา หลวงพี่ ที่พึ่งบวช อีกด้วย ละก็เรื่องไปกันใหญ่ อีก ดังนั้นผู้ปฏบัติ ได้ส่วนใหญ่จะเงียบ พวกเราต้องใช้ เวลานานพอสมควร กว่าจะรับทราบปฏิปทา ของท่านกัน ดีังนั้น

   พระโปฐิละอรหันต์ ท่านเป็นตัวอย่างของการลดตนเอง แต่กว่าจะลดตนเองได้ ก็ต้องถึงพระบรมศาสาด ตำหนิหรือเรียกอย่างนั้น ว่าแต่ สมัยนั้นมี การบันทึกคำสอนเป็น ใบลานแล้วหรือครับ ถ้าอย่างนั้นตำราคัมภีร์ของศาสนาพุทธ ก็ต้องมีมาก่อนพระไตรปิฏ อย่างแน่นอน นะครับ

  :s_hi: :49:

   
57  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ขอคำปรึกษาเรื่อสมาธิ ครับ เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 10:11:06 am
เนื่องจากมีเรื่องจะขอความอนุเคราะห์ผู้รู้ทุกท่านครับ  คือ เมื่อผมนั่งสมาธิแล้ว ผ่านไปประมาณ ๕๐ นาที จะรู้สึกปวดขามาก  หลังจากนั้นจะรู้สึกร้อนที่มือ จะหายใจแรงมากหลังจากนั้นจะผ่อนลง แล้วเนื้อตัวจะร้อนและสั่นไปหมด  จนผมทนไม่ได้ จึงลืมตา แล้วความร้อนกับอาการสั่นก็ค่อยๆหายไป

อยากทราบจะแก้อย่างไรครับ  หรือต้องปฎิบัติอย่างไร  ขอขอบคุณครับ


 :c017:
58  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมะเพื่อ ความโชคดี ในเทศกาล ตรุษจีน 2555 จาก ธัมมะวังโส ภิกขุ เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 11:01:05 am
อนุโมทนา สาธุ ครับ
ขอน้อมรับไว้ครับ

  :25:
59  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อะไร เป็นอารมณ์ กรรมฐาน คะ /และเป็นที่ตั้งแห่ง อารมณ์กรรมฐาน เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 11:00:27 am
ได้ฟังบรรยาย ตอบจากพระอาจารย์ รู้สึกจะเข้าใจมาก จริง ๆ ครับ
 :25: :25: :25:
60  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / มีปัญหา ค้างตอบ เยอะนะครับ ช่วยกันตอบดีหรือไม่ครับ ? เมื่อ: มกราคม 05, 2012, 07:05:25 pm
มีปัญหา ค้างตอบ เยอะนะครับ ช่วยกันตอบดีหรือไม่ครับ ?
  ผมเองก็ ติดตาม กระทู้มา 2 ปีแล้วครับ แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยตอบกระทู้ได้สักกระทู้เลยครับ เคยแต่โพสต์ถาม ครั้น 2 - 3 วันนี้เองได้เห็นพระอาจารย์ นำคำถามจากเมล มาโพสต์ เพื่อให้เราช่วยกันตอบบ้าง ก็กะจังหวะว่าจะช่วยตอบจะได้บุญ ต้นปีบ้าง แต่ครั้นพออ่านปัญหา แล้ว ก็คิดว่าตอบไม่ได้ครับ
 
  จึงพอเข้าใจ ถึงความลำบากของพระอาจารย์ ว่าทำไมไม่ตอบคำถามเสียที ผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ส่งคำถามทางเมลให้พระอาจารย์ ซึ่งก็ได้รับการอนุเคราะห์ จากพระอาจารย์ในการตอบบ้าง ไม่ตอบบ้างครับ

  พอได้รับคำตอบก็ดีใจ ครับ แต่พอไม่ได้ รับคำตอบ ก็รู้สึกว่า พระอาจารย์ไม่สนใจเราเลย แต่พอได้เห็น QA คำถามแบบตอบรวมได้จากจดหมาย ที่คัดมาให้พวกเราช่วยตอบแล้ว รู้สึกลำบากใจจรง ๆ ครับ

   1.ตอบไม่ได้
   2.คำถามแต่ละคำถาม ต้องใช้ความเพียร ในการตอบมากมาย อย่างมาก เมื่อก่อนผมก็คิดว่า ทำไม่พระอาจารย์ตอบสั้นจัง แบบถามคำตอบคำ จึงเข้าใจแล้วว่าเป็นงานหนักมากครับ สำหรับผูรับจดหมาย แล้วต้องตอบ
   3.คำถามทางธรรม ค่อนข้างเป็น ชั้นสูงครับ

   สรุปแล้ว เพื่อน ๆ มีความคิดเห็นว่าอย่างไรครับ >

   :s_hi: :25: :25: :25:
61  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สถิติ อุบัติเหตุ ในเทศกาลปีใหม่ ถึง วันที่ 2 ม.ค. 55 ( 05.30 น) เมื่อ: มกราคม 05, 2012, 06:46:12 pm
วันนี้ (5 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ประจำวันที่ 4 ม.ค. 

เกิดอุบัติเหตุ 237 ครั้ง

 เสียชีวิต 21 คน บาดเจ็บ 259คน


รวม 7 วัน (29 ธ.ค.54 – 4 ม.ค.55) 

เกิดอุบัติเหตุรวม 3,093 ครั้ง 
เสียชีวิต 335 คน
บาดเจ็บ 3,375 คน

 จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ทั้ง  7 วัน รวม 10 จังหวัด  ได้แก่
 จ.สตูล  นนทบุรี หนองคาย  อุดรธานี  ศรีสะเกษ  ยะลา  ตราด สุโขทัย ตาก และปัตตานี

 ส่วนจ.ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดจ.เชียงราย 115 ครั้ง บาดเจ็บสูงสุด 121  คน 

เสียชีวิตสูงสุดจังหวัด นครสวรรค์ และบุรีรัมย์ 18 คน  สาเหตุส่วนใหญ๋เมาสุราร้อยละ 37.28  ขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 20.63 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดรถจยย.ร้อยละ 81.47  รถปิกอัพร้อยละ 9.34 


ช่วงเวลาที่้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 16.01 -20.00 น. ถึงร้อยละ 28.87  ช่วงอายุส่วนใหญ่ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นกลุ่มแรงงาน  ร้อยละ 54.56   

ทั้งนี้ ศปถ.ได้กำชับจังหวัดมุ่งเน้นจัดตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลักควบคู่กับการสร้างความปลอดภัยบนถนนสายรองในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน

ทั้งนี้ในเวลา 11.00 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย จะเป็นประธานแถลงข่าวและจะกล่าวปิดศูนย์ฯ ด้วย สำหรับยอดอุบัติหตุปี 55 ลดลงจากปี 54 ที่มีอุบัติเหตุ 3,494 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 358 คน


สรุป 7 วันอันตราย ปี 55 เสียชีวิต 335 คน ลดลงจากปี 54 ถึง 23 คน นครสวรรค์-บุรีรัมย์แชมป์ตายด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนน 18คน "ยงยุทธ" เตรียมปิดศูนย์วันนี้

http://www.dailynews.co.th/thailand/6130
62  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ใครมีเคล็ดลับ นั่งสมาธิ ได้นาน ๆ ช่วยถ่ายทอดด้วยครับ เมื่อ: มกราคม 04, 2012, 10:04:28 am
คืออยากนั่ง สมาธิให้ได้นาน ๆ ครับ แต่นั่งทีไร ก็ได้แค่ 15 นาที ปวดขา เหมื่อยตัวเป็นอย่างมากครับ ทำอย่างไร จะนั่งสมาธิได้นาน ๆ ครับ ใครมีเคล็ดวิธีการนั่งที่นั่งได้นานกว่า 15 นาที โปรดชี้แนะด้วยครับ

  :'( :smiley_confused1: :c017:
63  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / รู้สึกว่า เวลาเพ่งจิต ไปที่กลางอก แล้ว เย็นวาบ ๆ ท้้งตัว เป็นเพราะอะไรครับ เมื่อ: มกราคม 03, 2012, 10:32:01 am
หลังจากผมได้ลองนั่งกรรมฐาน บ้างนะครับ ภาวนาแบบ พุท หายใจเข้า โธ หายใจออก นะครับทำไม่นานประมาณ 15 นาที แต่ทำมาหลายปีแล้ว จนกระทั่ง วันปีใหม่ หลังจากได้สวดมนต์ข้ามปี กับเขาเสร็จกลับมาบ้านแล้ว รู้สึกว่า นอนไม่หลับครับ ก็เลยเพ่งจิตไปที่กลางอก ในท่านอน

รู้สึกว่า เวลาเพ่งจิต ไปที่กลางอก แล้ว เย็นวาบ ๆ ท้้งตัว

เป็นเพราะอะไรครับ และสักพัก ก็นอนหลับครับ อาการอย่างนี้เป็นเพราะอะไรครับ


 :smiley_confused1: :s_hi:
64  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / ไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตา Zzzz ขอเป็นกำลังใจ แด่คุณ เมื่อ: มกราคม 03, 2012, 10:16:19 am
ไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตา
คุณจะรู้สึกอย่างไร หากทั้งชีวิตมีแต่เรื่องร้ายๆ หนักๆ ประดังประเดเข้ามา ตั้งแต่เกิดก็เกือบจมน้ำตาย โตขึ้นก็สูญเสียแม่  พ่อป่วยหนัก มีน้องๆ ต้องดูแลหลายคนทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ

ครั้นแต่งงานก็มีลูกพิการ สุดท้ายสามีก็ทิ้ง แล้วยังมาเจอ เนื้องอกที่มดลูกผ่าตัดลำไส้เหลือแค่ครึ่งเดียว

จากนั้นก็ถูกรถชน กระดูกคอหัก รอดตายแล้วก็ไปเจออุบัติเหตุรถยนต์อีก แขนหัก สองท่อน และตับแตก อายุไม่ถึง ๕๐ แต่กระดูกผุราวคน ๘๐ แล้วยังไม่รู้ว่าจะเจออุบัติเหตุอีกกี่ครั้ง เจอแบบนี้แล้ว

คุณยังคิดอยากอยู่อยากยิ้มให้กับชีวิตนี้อีกหรือ?

แต่สำหรับคุณเกษมสุข ภมรสถิตย์ ชีวิตนี้ไม่เคยเลวร้ายเกินทน
เธอยังยิ้มให้กับชีวิตได้เสมอ ไม่รู้สึกท้อแท้สิ้นหวังหรือหวั่นหวาด
อนาคตเพราะมั่นใจว่าพรุ่งนี้ย่อมดีกว่าวันนี้

พูดอย่างคนโบราณ ชีวิตของเธอเหมือนกับเกิดมาเพื่อรับกรรม
ลืมตาดูโลกได้ไม่ถึง ๒ เดือน พี่เลี้ยงก็ทำหลุดมือตกน้ำ เกือบจะหลุดเข้า
ไปใต้โป๊ะท่าน้ำ แต่เดชะบุญมีคนคว้าไว้ได้ทัน ทั้งน้ำและน้ำมันเข้าปาก

พออายุได้ ๘ ขวบก็จมน้ำอีก ผุดขึ้นมาครั้งที่ ๓ พ่อถึงเห็นและ
เกี่ยวขึ้นมาได้ทัน จมน้ำปางตาย ๒ ครั้งทำให้ร่างกายอ่อนแอ เจอแดด
ร้อนๆ ไม่ได้ มีอันต้องเป็นลม ร้องไห้ประเดี๋ยวเดียวก็เป็นลมสลบ
จนใครๆ หาว่าสำออย

เรียนมหาวิทยาลัยแค่ปี ๒ แม่ก็เสีย พ่อทำใจไม่ได้ ช็อคหัวใจวายกลายเป็นคนป่วยนับแต่นั้น บ้านก็ถูกยึดเพราะเป็นหนี้ อายุแค่ ๑๙ ปี เธอกลายเป็นกำลังหลักคนเดียวของครอบครัว ที่ต้องหาเงินมาเลี้ยงพ่อและน้องๆ ทั้ง ๕ คน ไม่ได้หดหู่ท้อใจใน ชะตากรรมเป็นความรู้สึกของเธอในตอนนั้น โดยหารู้ไม่ว่า
เคราะห์กรรมยังจะตามมาอีกมาก

เธอแต่งงานก่อนวัยเบญจเพศ เมื่อคลอดลูกก็พบว่าลูกพิการ เพราะหมอใช้คีมคีบหัวออกมาอย่างไม่ถูกต้อง สมองจึงเติบโตได้ไม่เต็มที่ หมอทำนายว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมาก ๙ ปี แต่เธอก็เลี้ยงดู  เอาใจใส่จนลูกอายุ ๒๐ กว่าแล้ว

คลอดลูกมาได้ปีกว่า ก็พบว่าเป็นเนื้องอกที่มดลูก ปรากฏว่า หมอตัดส่วนที่ดีทิ้งไป จึงต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง คราวนี้มดลูก ที่เหลือถูกตัดทิ้งหมดรวมทั้งรังไข่ด้วย ทำให้ร่างกายขาดฮอร์โมน  ครั้นกินฮอร์โมนทดแทนก็แพ้ เลยเป็นโรคกระดูกผุนับแต่บัดนั้น

เท่านั้นยังไม่พอ ระหว่างผ่าตัด โรคกระเพาะเกิดกำเริบ จนตัวบวมเขียวหมอต้องเปิดท้องตัดลำไส้จนเหลือเพียงครึ่งเดียว 

อายุไม่ถึง ๒๖ เธอก็มีอวัยวะไม่ครบเหมือนคนปกติ แถมมีลูกพิการที่เสี่ยงต่อความตาย แม้เธอจะรักษาชีวิตของตนและของลูกได้

แต่แล้วก็ต้องสูญเสียสามี ชีวิตครอบครัวที่มีแต่ปัญหาทำให้เธอกับเขา
ตัดสินใจแยกทางกัน

เจออย่างนี้แล้ว เธอยังทำใจได้ ไม่คิดโทษใครหรือน้อยใจในชีวิต
เคราะห์กรรมยังซ้ำเติมไม่จบ ราวกับจะทดสอบจิตใจของเธอ

วันหนึ่งขณะที่รถติดไฟแดง ก็มีรถเมล์เบรกแตกวิ่งมาชนรถ
ของเธอ แรงกระแทกทำให้กระดูกคอของเธอซึ่งผุอยู่แล้วหักทันที
และไปทับเส้นประสาททำให้เป็นอัมพาต เดชะบุญที่สามารถรักษาให้
หายได้ หลังจากนอนแน่นิ่งในโรงพยาบาลเกือบ ๒ เดือน

หลังจากครั้งนั้นแล้ว ก็เจออุบัติเหตุอีก รถของเธอเลี้ยวโค้งแล้ว
ไปชนกับเสาไฟฟ้า กระดูกที่แขนของเธอหักออกจากกัน ห้อยร่องแร่ง
แถมยังถูกก้านเกียร์ทิ่มใต้ชายโครงขณะช่วยคนขับหักพวงมาลัยหลบ
คอสะพาน ผลก็คือตับแตก

เธอยังต้องเจออุบัติเหตุอีกหลายครั้ง แม้แต่วันที่ไปออกรายการ
“เจาะใจ” ก็ยังมีรถยนต์มาชนท้ายกระเทือนที่คอและหลัง แต่เธอก็ยัง
บอกว่าไม่เป็นไร ทนได้ ต่อเมื่อถ่ายทำรายการเสร็จแล้ว จึงไปให้หมอ
ตรวจและรักษาที่โรงพยาบาล

วันนี้เธออายุ ๕๒ และไม่รู้ว่าจะเจออะไรข้างหน้าอีก แต่เธอก็ยัง
มีขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต

คงมีไม่กี่คนในโลกนี้ที่เจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่หยุดหย่อน
อย่างคุณเกษมสุข ยกเว้นคนที่เจอภัยสงครามหรืออดอยากหิวโหย
ปางตายแล้วจะมีสักกี่คนที่ลำบากลำเค็ญเท่าเธอ

แต่แปลกไหมที่เธอไม่รู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนกับชีวิตที่
เต็มไปด้วยเคราะห์กรรมเลย ถ้าชะตากรรมมีจริง เธอเป็นคนหนึ่ง
ที่ย้ำเตือนว่าเราสามารถเอาชนะชะตากรรมได้ ไม่ได้ชนะที่ไหน
หาก “ชนะที่ใจ” นั่นเอง

ชีวิตของเธอบอกให้เรารู้ว่า คนเราจะทุกข์หรือไม่
ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรมากระทบกับเรา แต่อยู่ตรงที่เรารู้สึก
อย่างไรกับสิ่งนั้น หรือทำอย่างไรกับมันต่างหาก แม้จะมีเรื่อง
ร้ายๆ เกิดขึ้นกับเรา แต่ถ้าเราทำใจรับได้ ความทุกข์ก็เกิดขึ้นไม่ได้

ในทางตรงกันข้าม แม้มีเงินทองไหลมาเทมา แต่ถ้าเรา
คิดว่ามันน้อยเกินไป ทำให้รวยไม่พอหรือไม่เท่าคนอื่น เมื่อนั้นใจ
เราก็เป็นทุกข์ทันที

หลายครั้งที่ความเดือดร้อนของคุณเกษมสุขเกิดขึ้นจาก
ฝีมือคนอื่นแท้ๆ เช่น หมอที่ใช้คีมคีบหัวลูกแรงเกินไป ตัดมดลูก
ผิดข้าง แม้แต่รถจอดนิ่งอยู่ก็ยังมีรถคนอื่นมาชน ข้างหน้าบ้าง
ข้างหลังบ้าง แต่เธอไม่เคยเสียเวลาไปโทษคนอื่น เล่นงานเขา หรือ
ก่นด่าชะตากรรม หากคิดเพียงว่า จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
อย่างไร และรักษาใจให้เป็นปกติได้อย่างไร

ตอนที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเพราะกระดูกคอหัก
หมอเอาเหล็กแหลมเจาะเข้าไปในกระโหลกทั้ง ๒ ข้าง เพื่อป้องกัน
ไม่ให้คอเขยื้อนขยับ เธอเจ็บมาก แต่เห็นว่าถ้าตนใจเสีย หมอและ
น้องๆ ก็ใจเสียไปด้วย

เธอเลือกที่จะทำใจให้ปกติ ไม่ตีโพยตีพาย เพราะ “ถ้าต้นตอ
ไม่ตีโพยตีพายเสียก่อน คนรอบข้างก็อยู่ได้และกำลังใจนั้น
มันก็จะถูกส่งกลับมาที่เราอีกที”

ไปๆ มาๆ ปรากฏว่า คนป่วยกลับมีจิตใจสบายกว่า
คนมาเยี่ยมเสียอีก จนกลายเป็นที่ปรับทุกข์ให้แก่คนรอบข้าง

แต่เธอไม่ใช่พระอิฐพระปูน ฟังเรื่องพวกนี้มากๆ ก็ทุกข์
ได้ง่ายๆ ทางออกของเธอก็คือ “จับ(คนมาเยี่ยม) นั่งสมาธิเสียเลย
จะได้ไม่มีเวลาพูดเรื่องอะไรที่มันร้อนใจ” กลายเป็นว่าคนป่วยกลับ
เป็นที่พึ่งทางจิตใจให้แก่คนปกติ แทนที่จะตรงกันข้าม

สิ่งสำคัญที่ประคองใจไม่ให้ทุกข์ร้อนไปกับเหตุร้ายก็คือ
“สติ” สติอ่อนเมื่อไหร่ ใจก็จะโวยวายตีโพยตีพาย โทษคนโน้นคนนี้
จนลืมจัดการกับตนเอง ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่ต้องทำก่อนอื่นใด

น้องๆ คุณเกษมสุขเล่าว่า
ตอนเกิดอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้า คุณเกษมสุขโทรศัพท์
บอกที่บ้านอย่างเรียบๆ ธรรมดาว่า “ไม่เป็นไร แต่คิดว่าตับแตก”
สติเท่านั้นที่จะทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นเบา อย่างน้อยก็ไม่ทำให้
เลวร้ายลงไปอีก ทั้งยังช่วยให้เราแก้ไขสถานการณ์ด้วยปัญญาอย่าง
สอดคล้องกับความเป็นจริง

ใครที่คิดว่าตัวเองทุกข์หนักหนาสาหัสแล้ว ลองนึกถึงชีวิต
ของคุณเกษมสุข อาจจะได้คิดว่าตนนั้นยังโชคดีอยู่มากเมื่อเทียบ
กับเธอ แต่เท่านั้นยังไม่พอ น่าจะได้คิดต่อไปอีกด้วยว่า สุขทุกข์นั้น
แท้จริงอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเรา ถึงจนก็สุขได้
ถึงป่วยก็ยิ้มได้

แม้จะพลัดพรากสูญเสียแค่ไหน ก็ยังมีสิทธิแช่มชื่น
แจ่มใสได้แต่ถ้าทำใจไม่เป็นเสียแล้ว รวยแค่ไหน มีอำนาจมาก
เพียงใด ทรวดทรงงดงามเพียงใด ก็ยังทุกข์อยู่นั่นเอง
จะเจออะไรมาก็แล้วแต่ ข้อสำคัญประการสุดท้ายก็คือ
อย่ายอมแพ้ต่อชะตากรรม อย่าปล่อยใจไปกับความลำเค็ญ

ความล้มเหลว และความเศร้าโศกท้อแท้ ในยามร้ายไม่มีอะไรดีกว่า
การปลุกใจให้อดทน เข้มแข็ง สดชื่น และเปี่ยมด้วย
ความหวังว่าพรุ่งนี้ย่อมดีกว่าวันนี้

จากคุณ    : nuch_tre

65  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ปีใหม่ นี้ เพื่อน ๆ สมาชิก อยากทำอะไรกันบ้างครับ ? เมื่อ: ธันวาคม 13, 2011, 09:10:11 am
ปีใหม่ นี้ เพื่อน ๆ สมาชิก อยากทำอะไรกันบ้างครับ ?

  ถามแบบไปมาหาสู่ นะครับ ว่า เพื่อน ๆ อยากทำอะไรกันครับ
 
  แซวกันได้ นะครับ ตามอารมณ์ ของเพื่อน ๆ ทุกท่านนะครับ

 

  สำหรับผม ก็อยากไปเที่ยว ครับ

 

  อยากไปนั่งรถไฟ สายนี้ สักรอบ ครับ

   :hee20hee20hee: :hee20hee20hee: :hee20hee20hee:
66  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ร่วมอวยพร ส่งความสุข ด้วยการ์ด ดิจิตอล ต้อนรับปี 2555 / 2012 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2011, 11:18:00 am
67  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญร่วมงานพุทธาภิเษก พระพุทธมัชฌิมา พระสังกัจจายน์ พระอุปคุต 14 ธ.ค.54 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2011, 09:28:47 am
อนุโมทนา ครับ
68  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: สถานี RDN วันนี้ไม่ทำงาน นะครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2011, 08:16:50 am
ตั้งแต่ เป็น bom5 มารู้สึกว่า สัญญาณ มีปัญหา บ่อยมากนะครับ เห็นนิ่งมาประมาณ 3 เดือนช่วงพรรษา

นึกว่าดีแล้ว นะครับ ช่วงนี้เป็นทุกวันเลยครับ เลยไม่ค่อยได้ฟังแบบเมื่อก่อน เปลี่ยนคลื่นเป็น เพลง บ้างครับ

 :25:
69  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญบริจาคช่วยน้ำท่วม ทั่วประเทศ ร่วมกับ วัดราชสิทธาราม คณะ 5 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2011, 09:19:55 am
อนุโมทนา ครับ
 :25:
70  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ในยุคเรา มีพระที่พิสูจน์ อิทธิฤทธิ์ ด้วยการให้หวยแม่นที่สุด มีหรือไม่ ? เมื่อ: กันยายน 24, 2011, 09:35:11 am
ถ้าเรื่องหวย ผมก็นึกได้องค์แรก ก็ หลวงปู่โต นี่ละครับ

 :13:
71  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับผู้บริจาค เน็ตบุ๊ค ให้กับงาน สำันักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน เมื่อ: กันยายน 21, 2011, 10:59:18 am
สาธุ สาธุ สาูธุ
อนุโมทนา ด้วยครับ จะได้รับฟัง รายการต่อไปครับ

 :25: :25: :25:
72  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เขื่อน พระราม 6 อำเภอท่าเรือ ต้องระบายน้ำที่ล้นทะลักลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อ: กันยายน 13, 2011, 08:39:23 am
เขื่อน พระราม 6 อำเภอท่าเรือ ต้องระบายน้ำที่ล้นทะลักลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ท้ายเขื่อนมีน้ำท่วมสูงกว่า 3 ม.ส่งผลให้วัดสะตือแหล่งทอ่งเทียวสำคัญจ่อจมน้ำ ส่วนหมู่บ้านตีมีดอรัญญิกต้องปิดหมู่บ้านเก็บของหนีน้ำ

แม่น้ำ ป่าสักยังคงวิกฤตอย่างหนักในขณะนี้ พบว่าเขื่อนพระราม 6 ตั้งอยู่ในอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กั้นแม้น้ำป่าสัก ที่รับน้ำมาจากคลองชัยนาท - ป่าสัก และเหนือเขื่อน ยังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนจำนวนมากล้นบานประตู จึงต้องยกบานประตูระบายน้ำทั้งหมด 6 บาน ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาทางวัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังเปิดระบายออกไปทางประตูระบายน้ำพระนารายณ์ ที่อยู่เหนือเขื่อนออกทะเลทางคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ

จาก ปริมาณน้ำที่มีอยู่จำนวนมากระบายลงมาท้ายเขื่อนมาตามแม่น้ำป่าสักได้ทะลัก เข้าท่วมวัดสะตือ โบราณสถานและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูงกว่าริมตลิ่งเดิมเกือบ 4 เมตร น้ำจ่อเข้ามาถึงบนลานวัดใกล้จะถึงองค์หลวงพ่อโตที่ชาวบ้านเคารพกราบไหว้

น้ำ ยังไหลล้นเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่้ท้ายเขื่อนทั้งหมด ชาวบ้านตื่นนอนแต่เช้าถึงกับตกใจที่น้ำเอ่อเข้ามาท่วมถึงใต้ถุนอย่างรวดเร็ว ต้องช่วยเหลือตัวเองเร่งเก็บของหนีน้ำให้ทันกับระดับน้ำที่กำลังเอ่อสูงขึ้น เรื่อยๆ

ส่วน ตลาดสดเทศบาลตำบลท่าเรือ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ต้องอยู่ในสภาพจมใต้น้ำ ตัวสำนักงานเทศบาลตำบลท่าเรือ ยังเอาตัวไม่รอดถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ต้องปิดตัวเองย้ายที่ทำการไปอยุ่ด้านบนเป็นการชั่วคราว

ปริมาณ น้ำของแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ยังได้ไหลผ่านอำเภอนครหลวง อำเภอพระนครศรีอยุธยา ทำให้บ้านสองฝากฝั่งริมแม่น้ำป่าสักถูกน้าท่วมได้รับความเดือดร้อนขยายเป็น วงกว้างอย่างไม่สิ้นสุด

เช่น เดียวกันกับหมุ่บ้านตีมีดอรัญญิก อำเภอนครหลวง แหล่งตีมีดทีี่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพระ นครศรีอยุธยา ได้ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ชาวบ้านในหมู่บ้านตีมีดอรัญญิกต้องเร่งรีบเก็บของหนีน้ำที่กำลังสูงขึ้น เรื่อยๆ

ผล จากแม่น้ำป่าสักที่สูงขึ้นยังได้ส่งผลกระทบไปถึงแม่น้ำลพบุรีทำให้มีระดับ สูงตามขึ้นไปด้วย ทางการต้องเตือนชาวบ้านสองฝากฝั่งแม้น้ำลพบุรี ตั้งแต่อำเภอบ้านแพรก มหาราชและอำเภอบางปะหัน ให้เตรียมรับมือไว้ด้วยเพื่อความไม่ประมาท















http://www.krobkruakao.com/ข่าว/44312











http://www.krobkruakao.com/store/news/44312/3.jpg
73  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฤาษีพุทธจรัล ฤาษีลอยตัว เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 10:43:07 am


ฮือฮา! หนุ่มเมืองเบียร์ ลอยตัว-ใช้มือเดียวแตะผนัง (มติชนออนไลน์)

          การแสดงยืนกลางอากาศท้าแรงโนมถ่วงของ นายโยฮัน ลอร์เบียร์ กำลัง เป็นที่ฮือฮาในกรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยมือเพียง 1 มือของโยฮัน หนุ่มชาวเยอรมัน แตะไปบนผนังเท่านั้น ส่วนตัวลอยอยู่เหนือพื้น 10 ฟุต

          ในการแสดงแต่ละครั้ง โยฮันต้องลอยตัวอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ท่ามกลางสายตาสงสัยของผู้คนว่า เขาทำได้อย่างไร จึงสามารถลอยตัวอยู่ได้นานขนาดนั้น ทั้งยังต้องนิ่งเหมือนกับหุ่น

          โยฮันเริ่มอาชีพการแสดงกลางถนนมากว่า 30 ปี และเห็นว่างานของเขาเป็นการผสมผสานระหว่างการแสดงและงานประติมากรรม ส่วนการแสดงลอยตัวนี้เป็นการสร้างภาพลวงตา และมือที่แตะผนังนั้นเป็นมือปลอม


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

74  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฤาษีพุทธจรัล ฤาษีลอยตัว เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 10:40:56 am
ตกลง เป็นนั่งสปริง ตัวขึ้นนะครับ ไม่ใช่ลอยได้เอง

ฝรั่งเขามีแข่งขันการสปริงตัวแบบนี้ด้วยนะครับ

 :hee20hee20hee: :hee20hee20hee:
75  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: พึงสดับ อะไรบ่อย เพื่อการแทงตลอด เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 09:22:22 am
อนุโมทนา ครับ ติดตามอ่านอยู่ ครับ

 :25: :25: :25:
76  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: พระปิงคิยะ ผู้ภาวนา พุทธานุสสติกรรมฐาน คาถาที่ 1 เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 09:41:35 am
 :c017: ขอบคุณกับธรรมะ ยามเช้า ครับ

 :25:
77  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ฝึกกรรมฐาน ไม่ต้องขึ้นกรรมฐาน ก็ได้ เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 08:37:09 am
ผมเองก็ยังไม่ไ้ด้ขึ้นกรรมฐาน เลยครับ แต่ได้อ่านข้อมูล เรื่องกรรมฐาน
และฟังจาก รายการ RDN แล้วก็รู้สึกว่า พอไปได้ครับ คือ ลองทำตามดู ก็พอจะเข้าใจครับ

ดังนั้น ส่วนตัวคิดไว้ว่า ถ้ามีโอกาสก็จะขึ้นกรรมฐาน เช่นกันครับ

  :25:
78  ธรรมะสาระ / บทสวดมนต์ มนต์พิธี / หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ต้นฉบับเดิม เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 10:07:50 am
หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ต้นฉบับเดิม
เปิดกรุ ได้ที่เมืองสวรรคโลก มีคำกล่าวในหนังสือนำว่า ผู้ใดมีไว้ประจำบ้านเรือนมีอานิสงส์ยิ่งกว่าได้สร้างเจดีย์ทองคำสูงเทียม เทวโลก และป้องกันภยันตรายต่างๆ ทำมาหากินเจริญ ฯ

ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
ผู้ ใดได้สร้างยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้เป็นธรรมทาน และไว้สดมนต์สักการบูชา ผลานิสงส์สุดจะพรรณาให้ทั่วถึงได้ เป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ จะมีความสุขสิริสวัสดิ์เจริญต่อไปทั้งปัจจุบันกาลและอนาคตภายภาคหน้าตลอด บุตรหลานสืบไป ด้วยอำนาจของความเคารพในพระคาถานี้

ประวัติกล่าวไว้ในต้นฉบับเดิมว่า
หนังสือ ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ มีคำกล่าวไว้ในหนังสือนำว่า เป็นพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผู้ใดได้สวดมนต์ภาวนาทุกค่ำเช้าแล้ว เป็นการบูชารำลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้นั้นจะไม่ไปตกอบายภูมิ แม้ได้บูชาไว้กับบ้านเรือนก็ป้องกันอันตรายต่างๆ จะภาวนาพระคาถาอื่นๆสัก 100 ปี อานิสงส์ก็ไม่สูงเท่าภาวนาพระคาถานี้ ครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่า อินทร์ พรหม ยมยักษ์ ที่มีอิทธิฤทธ์ จะเนรมิตแผ่นอิฐเป็นทองคำ ก่อเป็นพระเจดีย์ ตั้งแต่มนุษยโลกสูงขึ้นไปจนถึงพรหมโลก อานิสงส์ก็ยังไม่เท่า ภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ และมีคำอธิบายคุณความดีไว้ในต้นฉบับเดิมนั้น อีกนานัปการฯ
ต้นฉบับเดิมเปิดกรุได้ที่เมืองสวรรคโลก จารเป็นอักษรขอมจารึกไว้ในใบลาน โบราณาจารย์จึงได้แปลเป็นอักษรไทย หลวงธรรมาธิกรณ์(พระภิกษุแสง) ได้มาแต่แท่นศิลาอาสน์มณฑลพิษณุโลก
ยอดพระ กัณฑ์ไตรปิฎกนี้ ถ้าผู้ใดบริจาคทรัพย์สร้างถวายพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ญาติ มิตรสหาย หรือสวดจนครบ 7 วัน ครบอายุปัจจุบันของตน จะบังเกิดโชคลาภทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองจะพ้นเคราะห์ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยและภัยพิบัติทั้งปวง
ผู้ใดตั้งจิตเจริญภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกวันละ 3 จบ จะไม่มีบาปกรรม ทำสิ่งใดจะได้สมความปรารถนา สวดวันละ 7 จบกระดูกลอยน้ำได้

พิธีไหว้พระและสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
ก่อน เข้าห้องบูชาพระ ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดและนุ่งห่มให้เรียบร้อย เข้านั่งที่ด้วยความสำรวมกายใจ ตั้งจิตให้แน่วแน่เพ่งตรงยังพระพุทธรูป ระลึกถึงพระรัตนตรัย ค่อยกราบ ๓ หน แล้วสงบจิตระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา ซึ่งเป็นพระอรหันต์ของบุตร จากนั้นจึงจุดเทียนบูชา ให้จุดเล่มด้านขวาของพระพุทธรูปก่อน แล้วจุดเล่มด้านซ้ายต่อไป จุดธูป ๓ ดอก เมื่อจุดเทียนธูปที่เครื่องสักการบูชาเสร็จแล้วเอาจิต (นึกเห็น) พระพุทธองค์มาเป็นประธาน พึงนั่ง ชายพึงนั่งคุกเข่า หญิงนั่งท่าเทพนม ประนมมือ ตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย นมัสการพระรัตนตรัย นมัสการพระพุทธเจ้า ไตรสรณคมน์และนมัสการพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วจึงเจริญภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก จะเพิ่มความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น จะเกิดพลังจิตและมีความมั่นคงในชีวิต พึงทราบด้วยว่า การเจริญภาวนาทุกครั้งต้องอยู่ในสถานที่อันสมควร ขอให้ทำจิตตั้งมั่นในบทสวดมนต์ จะมีเทพยดาอารักษ์ทั้งหลายร่วมอนุโมทนาสาธุการขออย่าได้ทำเล่น จะเกิดโทษแก่ตนเอง

ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนั้นว่าไว้ดังนี้
๑.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู วัจจะโส ภะคะวา
๒.
อะระหัง ตัง สะระณัง คัจฉามิ
อะระหัง ตัง สิระสา นะมามิ
สัมมาสัมพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
สัมมาสัมพุทธัง สิระสา นะมามิ
วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสา นะมามิ
สุคะตัง สะระณัง คัจฉามิ
สุคะตัง สิระสา นะมามิ
โลกะวิทัง สะระณัง คัจฉามิ
โลกะวิทัง สิระสา นะมามิ
๓.
อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา ปุริสะธัมมะสาระถิ วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ วัจจะโส ภะคะวา
๔.
อะนุตตะรัง สะระณัง คัจฉามิ
อะนุตตะรัง สิระสา นะมามิ
ปุริสะทัมมะสาระถิ สะระณัง คัจฉามิ
ปุริสะทัมมะสาระถิ สิระสา นะมามิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง สะระณัง คัจฉามิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง สิระสา นะมามิ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
พุทธัง สิระสา นะมามิ
๕.
อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
๖.
อิติปิ โส ภะคะวา ปะถะวีจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา เตโชจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา วาโยจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อาโปจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อากาสะจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
๗.
อิติปิ โส ภะคะวา ยามาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ตุสิตาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา นิมมานะระติธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา กามาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
๘.
อิติปิ โส ภะคะวา รูปาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะมะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ทุติยะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ตะติยะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา จะตุตถะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ปัญจะมาฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
๙.
อิติปิ โส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะเนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะอะรูปาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณัญจายะตะนะ เนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะอะรูปาวะ จะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะ เนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะ อะรูปาวะ จะระธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
๑๐.
อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปะฏิมัคคะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
๑๑.
อิติปิ โส ภะคะวา โสตาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
๑๒.
กุสะลา ธัมมา
อิติปิ โส ภะคะวา
อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ชมภูทีปัญจะอิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นะโม พุทธายะ
นะโม ธัมมายะ
นะโม สังฆายะ
ปัญจะ พุทธา นะมามิหัง
อา ปา มะ จุ ปะ
ที มะ สัง อัง ขุ
สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ
อุ ปะ สะ ชะ สุ เห ปา สา ยะ
โส โส สะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ
เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ
อิ สวา สุ สุ สวา อิ
กุสะลา ธัมมา
จิตติวิอัตถิ
๑๓.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง
อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
สา โพธิ ปัญจะ อิสาะโร ธัมมา
๑๔.
กุสะลา ธัมมา
นันทะวิวังโก
อิติ สัมมาพุทโธ
สุ คะ ลา โน ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
จาตุมะหาราชิกา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
อิติ วิชชาจะระณะสัมปันโน
อุ อุ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตาวะติงสา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นันทะ ปัญจะ สุคะโต โลกะวิทู
มะหาเอโอ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ยามา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
พรหมมาสัททะ
ปัญจะ สัตตะ
สัตตาปาระมี
อะนุตตะโร
ยะมะกะขะ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
๑๕.
ตุสิตา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
ปุ ยะ ปะ กะ
ปุริสะทัมมะสาระถิ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
๑๖.
นิมมานะระติ อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
เหตุโปวะ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง
ตะถา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
๑๗.
ปะระนิมมิตะ อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
สังขาระขันโธ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
รูปะขันโธ พุทธะปะผะ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
๑๘.
พรหมมา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นัจจิปัจจะยา วินะปัญจะ ภะคะวะตา ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
นะโม พุทธัสสะ
นะโม ธัมมัสสะ
นะโม สังฆัสสะ
พุทธิลา โลกะลา กะระกะนา
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ ฯ
๑๙.
นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ
วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ
อัตติ อัตติ มะยะสุ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ
๒๐.
อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง
พรหมะสาวัง มะหาพรหมะสาวัง
จักกะวัตติสาวัง มะหาจักกะวัตติสาวัง
เทวาสาวัง มะหาเทวาสาวัง
อิสิสาวัง มะหาอิสิสาวัง
มุนีสาวัง มะหามุนีสาวัง
สัปปุริสาวัง มะหาสัปปุริสาวัง
พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง
อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิทธิวิชชาธะรานังสาวัง สัพพะโลกา
อิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
๒๑.
สาวัง คุณัง วะชะพะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิกัมมัง นิพพานัง
โมกขัง คุยหะกัง
ถานัง สีลัง ปัญญานิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ตัปปัง สุขัง
สิริรูปัง จะตุวีสะติเสนัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ
๒๒.
นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม อิติปิโส ภะคะวา
๒๓.
นะโม พุทธัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
๒๔.
นะโม ธัมมัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
๒๕.
นะโม ธัมมัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
๒๖.
นะโม สังฆัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ
สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ วาหะปะริตตัง
๒๗.
นะโม พุทธายะ
มะอะอุ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
ยาวะ ตัสสะ หาโย
นะโม อุอะมะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
อุ อะมะ อาวันทา
นะโม พุทธายะ
นะ อะ กะ ติ นิ สะ ระ นะ
อา ระ ปะ ขุ ธัง มะ อะ อุ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
79  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ต้นไม้พูดได้ .......... เชื่อ หรือ ไม่ ? เมื่อ: สิงหาคม 10, 2011, 09:13:31 am

ต้นไม้ในวัดชลประทานฯ มีคติธรรมติดอยู่เกือบทุกต้น มีต้นหนึ่งเขียนว่า "คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อ"

ผมอ่านแล้วก็คิดสงสัยว่าการมี "สติ" คืออะไร แล้วก็ตอบตัวเองว่าคือการที่เรา "เห็นตัวเอง" นั่นคือเมื่อใดที่เรากำลังเห็นความรู้สึก ความคิด พฤติกรรมของเราที่กำลังเกิดขึ้นหรือกำลังแสดงออก เมื่อนั้นเราก็มีสติ เช่น เห็นว่าตัวเรากำลังพูดแทรกคนอื่นที่กำลังพูดอยู่ กำลังออกนอกเรื่อง เห็นตัวเราว่ากำลังใจลอยไม่ได้อยู่กับเรื่องราวของคู่ สนทนา เห็นตัวเราว่ากำลังรู้สึกโกรธ กำลังจะแสดงความโกรธออกไป เห็นตัวเราว่ากำลังกลัว ฯลฯ

ประสบการณ์การฝึกสติของผมในระหว่างการ ดำเนินชีวิตประจำวัน ที่กำลังพยายาม "อยู่กับเนื้อกับตัว" ให้ได้ไม่ว่ากำลังทำอะไร ทำให้ผมได้เข้าใจขึ้นว่า ขณะที่เราสามารถมีสติเห็นตัวเองในขณะที่อยู่ท่ามกลางผู้อื่นนั้น ทำให้เราสามารถเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น และพบว่า ยิ่งเราเข้าใจตัวเองได้มากขึ้นเท่าไร เราก็จะสามารถเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้นเท่านั้น จากนั้นเราจึงจะสามารถทำสิ่งที่เรียกว่า "เอาใจเขาใส่ใจเรา" ได้ตรงกับที่ใจเขาต้องการอย่างแท้จริงได้มากขึ้น ตอบสนองคนรอบข้างรอบกายอย่างที่เขาต้องการจริงๆ ได้ตรงขึ้น ขณะที่เราเองก็(มีสติ)ไม่หลงลืม "ใจเรา" ว่าต้องการอะไรด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่า เมื่อใดก็ตามที่เรากำลังรู้สึกว่าไม่เข้าใจใคร เรายิ่งต้องเอาใจใส่ตัวเอง พยายามทำความเข้าใจตัวเองให้มากขึ้น

ส่วน คำ "เจริญ" ในความหมายทั่วไปก็คงเป็นเรื่องเศรษฐกิจ-สังคมทั่วๆ ไป แต่เมื่อใส่คำว่า "ทุกเมื่อ" ลงไปด้วย เป็น "เจริญทุกเมื่อ" และคิดในความหมายที่ลึกขึ้น ก็น่าจะหมายถึงการที่ผู้มีสติ(อยู่กับเนื้อกับตัวได้ทุกเมื่อ)จะสามารถเข้า ถึงความเป็นมนุษย์ สามารถใช้ศักยภาพของความเป็นมนุษย์อย่างเต็มที่มากขึ้น เรียกว่า ไม่เสียชาติ(ที่)เกิด(เป็นมนุษย์)ที่มีสมองพิเศษจากสัตว์ทั้งปวง ศักยภาพที่ว่านี้ก็คือ ความสามารถใช้ปัญญาในการเข้าถึงธรรม(ความจริง ความดี ความงาม ทั้งปวง) อันเป็นความสามารถที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่แต่เรายังไม่ได้นำออกมาใข้ อย่างเต็มที่.

จาก สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์

80  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระเณรทำนา อันซีนที่ "วัดเชิงผา" เมื่อ: สิงหาคม 07, 2011, 08:12:18 am
พระเณรทำนา อันซีนที่ "วัดเชิงผา"

 

"ภาพพระเณรขี่ม้าออกไปบิณฑบาต" ที่วัดถ้ำป่าอาชาทอง ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่ครูบาเหนือชัย เจ้าอาวาสวัดนำพระเณรขี่ม้าบิณฑบาต ซึ่งหมู่บ้านที่ไกลที่สุดอยู่หางจากวัดประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นภาพที่คนไทยไม่ได้พบเห็นบ่อยนัก

 

นอกจากนี้แล้ว ยังมีภาพอีกภาพหนึ่งที่คนไทยไม่ได้พบเห็นบ่อยนัก คือ “ภาพพระเณรดำนาเหลืองอร่ามเต็มทุ่งนา" ของวัดเชิงผา ต.กลางดง อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย โดยการนำของ พระปลัดปราโมช อธิปญฺโญ หรือพระอาจารย์ปราโมช เจ้าอาวาสวัด ซึ่งมีเรื่องราวน่าสนใจไม่แพ้กัน

 

พระอาจารย์ปราโมช บอกว่า แนวคิดนำพระเณรทำนาเป็นความบังเอิญที่วัดมีที่นาอยู่ 10 ไร่ โดยตั้งใจซื้อมาเพื่อสร้างเป็นศูนย์พัฒนาคุณธรรมนำชีวิต ในระหว่างที่รอการพัฒนา มองเห็นมุมหนึ่งหนึ่งว่าเป็นที่นา พร้อมที่จะพัฒนาให้เป็นประโยชน์ จึงมีโครงการชวนชาวบ้านทำนาเพื่อนำผลิตผลมาเป็นของกลาง โดยเริ่มเมื่อ พ.ศ.2546 เริ่มจากที่ดิน 10 ไร่ ปัจจุบันเหลือ 6 ไร่

 

 

 

 

พระปลัดปราโมช อธิปญฺโญ

อดีตเจ้าอาวาสวัดสันติธรรม รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา

ปีนี้น่าจะได้รางวัลพระทำนา เอ๊ย พระพัฒนาดีเด่น

 

ครั้งแรกของการคิดนำพระเณรทำนาก็เกรงว่าชาวบ้านไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ พระเณรทำนา เพราะสวนกระแสวิถีชีวิตพระเณร เพราะอย่างไรชาวบ้านอาจคิดว่าอย่างนี้ก็เลี้ยงพระเณรได้โดยไม่ปล่อยให้อดแน่ แต่เมื่อชี้แจงให้ชาวบ้านว่า ที่ดินถ้าปล่อยให้รกร้างว่างเปล่ามันจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ที่สำคัญ คือ สิ่งที่พระนำชาวบ้านทำนาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ผลผลิตก็จะนำไปเป็นประโยชน์ เช่น อาหารกลางวัยเด็ก พระ เณร รวมทั้งเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงคนที่เข้ามาอบรมในค่าย โดยจะได้ผลผลิตประมาณ 80 กระสอบปุ๋ย หรือ 2 ตัน ซึ่งมากพอที่จะหุงเลี้ยงพระเณรและผู้มาปฏิบัติธรรมได้ตลอดทั้งปี บางปีผลผลิตได้มากญาติโยมยืมไปขยายพันธุ์โดยไม่คิดค่าดอกผล ในขณะเดียวกันการบิณฑบาตก็เป็นกิจวัตรที่ยังคงปฏิบัติอยู่ตลอดทั้งปี”

 

การนำพระเณรทำนา ทำให้ได้รู้วิถีชีวิตของไทยแบบเดิม ทุกกระบวนการของการทำนา กิจกรรมที่พระเณรมีส่วนร่วมในการทำ คือ ไถ่นาเตรียมเพาะกล้า ดูแลวัชพืช ใส่ปุ๋ยอีเอ็ม ถอนกล้า ดำนา เกี่ยวข้าว เก็บฟางทำเชื้อเห็ด ทำปุ๋ย ทำให้พระและเณรเห็นภาพของความยากลำบากของการได้ข้าวที่จะมาฉันแต่ละเม็ด ต้องใช้แรง ใช้ทุน และระยะเวลา มีความสำนึกในการใช้ของอย่างมีคุณค่า อย่างเห็นประโยชน์ที่แท้จริง เข้าใจความทุกข์ของคนอื่นมากขึ้น

 

เมื่อถามถึงความเหมาะสมและความเป็นกิจของสงฆ์หรือไม่ อาจารย์ปราโมช พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “กิจของสงฆ์ หรือ ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ต้องใช้พระธรรมวินัยเป็นข้อกำหนด มิใช่ใช้ความรู้สึกนึกคิดของพระสงฆ์และชาวบ้านเป็นข้อพิจารณา เมื่อได้อ่านพระไตรปิฎก หมวดพระวินัย ก็จะได้พบว่าโดยแท้จริงแล้วกิจของสงฆ์นั้นถูกกำหนดไว้แล้วตามนโยบายของพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงส่งพระอรหันต์ 60 องค์แรกไปประกาศพระพุทธศาสนา ความตอนหนึ่งว่า จรถ  ภิกฺขเว  จริกํ  พหุชนหิตาย  พหุชน สุขาย  โลกานุกมฺปาย  มีใจความเป็นภาษาไทยว่า ภิกษุทั้งหลาย  เธอจงเที่ยวไป เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่มวลมนุษย์"

 

 

ศูนย์การเรียนรู้คุณธรรมนำชีวิต
 

ศูนย์การเรียนรู้คุณธรรมนำชีวิต ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วัดเชิงผาได้ก่อกำเนิดเกิดขึ้นโดย พระอาจารย์ปราโมช อธิปญฺโญ เมื่อ พ.ศ.2543 เมื่อได้กลับมาเยี่ยมเมืองไทย ความคิดที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเมืองไทย ท่านต้องการที่จะมีสถานที่ปฏิบัติขัดเกลาใจ ศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อประกาศพระธรรมของพระองค์ให้แก่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วกัน ที่สุดท่านก็ได้เล็งเห็นสถานที่ตรงนี้ ซึ่งแต่เดิมเป็นสถานที่ทำกินของชาวบ้านเป็นที่รกร้างยากแก่การสัญจรเข้าออก ใคร่สนใจในสถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การพัฒนาให้เป็นสถานธรรมเพื่อการฝึกฝนขัดเกลาตน และเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาสืบไป

 

ประมาณเดือนกรกฎาคม 2544 ขณะที่จำพรรษาที่สหรัฐอเมริกา ท่านได้มอบปัจจัยจำนวนหนึ่งให้แก่คณะกรรมการวัดเชิงผา เป็นธุระติดต่อขอซื้อที่ดินแห่งนี้ ต่อมาท่านจึงสละตำแหน่งเจ้าอาวาสและหน้าที่ที่รับผิดชอบในประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางกลับสู่เมืองไทย ทันทีที่กลับถึงยังสถานที่แห่งนี้ท่านได้ประชุมกับคณะกรรมการเพื่อขอความคิดเห็นในการพัฒนาสถานธรรมแห่งนี้ วันที่  27  ธันวาคม 2544  ต่อมาจึงตั้งชื่อสถานธรรมแห่งนี้ว่า "ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดเชิงผา”

 

ทางศูนย์ปฏิบัติธรรมได้กำหนดกิจกรรมขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสุข ความสามัคคี ความร่วมมือระหว่าง วัด บ้าน โรงเรียน ในภาพจะแสดงถึงความสัมพันธ์กันได้อย่างชัดเจน ทั้งช่วงกลางเดือนสิงหาคม ทางวัดได้นำพระเณรดำนาร่วมกับชาวบ้าน จากนั้นตลอดระยะ 3 เดือน พระเณรก็จะดูแลต้นข้าวจนกว่าจะเก็บเกี่ยวประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนต่อเนื่องต้นเดือนธันวาคม

 

 

ข่าว : คมชัดลึก
6 สิงหาคม 2554
หน้า: 1 [2] 3 4 5