ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เป็นมนุษย์สุดนิยมที่ลมปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา  (อ่าน 1812 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 :25: :25: :25:

สูตรสำเร็จในชีวิต (12) : วาจาสุภาษิต

"อธิษฐานเอย มือหนึ่งถือพานกระดังงา เป็นมนุษย์สุดชั่วดีก็อยู่ที่วาจา พูดเพราะเหมาะค่าน่าเชื่อเพราะพูดคำจริง อธิษฐานวานไหว้พูดสิ่งใดประโยชน์ยิ่ง ทุกสิ่งสำเร็จเอย"

สูตรสำเร็จข้อต่อไปคือ วาจาสุภาษิต เขียนมา 9 สูตรแล้วได้อ่านหนังสือ “มงคลมาลัย” จาก “สมานสุมน อมรวิวัฒน์” อ่านแล้วชอบใจ จึงขอคัดเพลงอธิษฐานบทว่าด้วยวาจาสุภาษิต มาประหน้าธรรมาสน์

ขอกราบขอบพระคุณท่านศาสตราจารย์สุมน อมรวิวัฒน์ ราชบัณฑิต ที่กรุณามอบหนังสือเล่มเล็กๆ อันทรงคุณค่านี้ (ผมได้เอามาเขียนขายกินต่อ)

คำพูดที่คนใช้สื่อสารอยู่ในชีวิตประจำวันมีมากมาย ถ้าจะนับคงนับไม่ไหว แต่ถ้าจะสรุปก็คงได้สองประเภทคือ คำพูดดีเรียก สุภาษิต กับคำพูดเสียเรียก ทุพภาษิต

คำพูดที่เรียกสุภาษิตจะต้องครบองค์ประกอบทั้ง 5 ประการเหล่านี้ คือ

   1. พูดถูกกาละ (กาเลน ภาสิตา)
   2. พูดคำจริง (สจฺจา ภาสิตา)
   3. พูดสุภาพ (สณฺหา ภาสิตา)
   4. พูดมีประโยชน์ (อตฺถสญฺหิตา ภาสิตา)
   5. พูดด้วยเมตตา (เมตฺตจิตฺเตน ภาสิตา)

จะพูดดีขนาดไหน ถ้าพูดไม่ถูกกาล ไม่ใช่คำจริง ไม่สุภาพ ไม่มีประโยชน์ และพูดด้วยความมุ่งร้ายหมายขวัญ ไม่นับว่า “สุภาษิต”

อย่างไรเรียกว่าพูดถูกกาล พูดคำจริง พูดสุภาพ พูดมีประโยชน์ พูดด้วยเมตตา คงไม่จำต้องอธิบาย เพราะรู้กันดีอยู่แล้ว คนพูดดี รู้จักพูด ย่อมมีภาษีกว่าคนพูดไม่ดี ไม่รู้จักพูดเพราะ

@@@@@@

    “เป็นมนุษย์สุดนิยมที่ลมปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
     แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ”


ดูตัวอย่างต่อไปนี้..ลูกเศรษฐีสี่คนเห็นนายพรานบรรทุกเนื้อผ่านมา อยากได้เนื้อไปกินบ้าง จึงเอ่ยปากขอ คนแรกตะโกนว่า “เฮ้ย พราน ขอเนื้อข้าบ้างสิวะ” นายพรานพูด “จะขออะไรใครควรพูดให้เข้ารูหูชาวบ้านเขาหน่อย” ว่าแล้วก็เอาเนื้อพังผืดให้ สมกับคำพูดหยาบๆ ของเขา

คนที่สองพูดว่า “พี่ชายครับ ขอเนื้อผมบ้างเถอะครับ” นายพรานพูดว่า “พี่น้องเปรียบเสมือนแขนขา ท่านเรียกเราว่าพี่ชายจงเอาเนื้อขาไป” แล้วหยิบเนื้อขาให้

คนที่สามพูดว่า “พ่อครับ ขอเนื้อผมบ้าง” นายพรานพูดว่า “เวลาใครเรียกพ่อ ทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว คำพูดของท่านดุจดังหัวใจ เอาเนื้อหัวใจไปเถิด” แล้วตัดหัวใจให้เขาไป

คนสุดท้ายพูดว่า “สหาย ขอเนื้อเราบ้าง” นายพรานพูดว่า “บ้านใดไม่มีเพื่อน บ้านนั้นเป็นเสมือนป่า คนที่มีเพื่อนนับว่ามีทุกสิ่งอย่าง เพราะฉะนั้น เราจะมอบเนื้อทั้งหมดให้แก่ท่าน” ว่าแล้วก็มอบเนื้อให้ทั้งหมด และทั้งสองได้เป็นเพื่อนร่วมตายกันต่อมา

ครับ พูดสิ่งใดประโยชน์ยิ่ง ทุกสิ่งสำเร็จเอย



ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10-16 เมษายน 2563
คอลัมน์ : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ผู้เขียน : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ.2563
ขอบคุณ : https://www.matichonweekly.com/column/article_296427
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2020, 07:30:27 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ