ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถาม อะไรคือ นิพพิทา ครับ เมื่อมี นิพพิทา แล้วควรทำอย่างไรครับ  (อ่าน 1153 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ถาม อะไรคือ นิพพิทา ครับ เมื่อมี นิพพิทา แล้วควรทำอย่างไรครับ ถ้าเบื่อแล้วไปบวชดีใช่หรือไม่ ครับ

ตอบ นิพพิทา แปลว่า ความหน่ายต่อวัฏฏะสงสาร และ ไม่ต้องการกลับมาเกิดอีกต่อไปในวัฏฏะสงสารนี้

นิพพิทา จะมีได้ต้องผ่าน ขั้นตอน วิปัสสนา จัดเป็นลำดับที่ 5 ในการเจริญวิปัสสนา เรียกว่า นิพพิทานุปัสสนาญาณ

ความเบื่อหน่าย ของปุถุชน ยังไม่ชื่อว่า นิพพิทา เช่น

ทำงานมามากเหนื่อย ก็เลย เบื่อไม่อยากทำ แล้วก็จะคิดต่อไปว่า ทำไมต้องมาทำงานให้เหนื่อย อย่างนี้ อย่างนี้ยังไม่ชื่อว่า นิพพิทา

หาเงินเท่าไหร่ ก็ไม่รวยสักที มองเห็นเขารวยเอา รวยเอา ทำงานซื่อสัตย์ถูกศีลธรรม ยากจนเข็ญใจ เห็นคนทำชั่ว รวยเอา รวยเอา เห็นแล้วอย่างนี้ นึกอนาถใจตน เบื่อหน่ายเหลือทน อยากออกไปจากสังคม อย่างนี้ ยังไม่ชื่อว่า นิพพิทา

อยู่มาตัวคนเดียว เปล่าเปลี่ยวเอกา หาเงินงกๆเงิ่น ๆ ก็อยู่คนเดียวไร้คนดูแล เงียบเหงาว้าเหว่ ไม่มีใครเหลียวแล นอนนั่งยืนเดิน ร้องไห้คนเดียว เบื่อชีวิตเหลือทน อย่างนี้ ยังไม่ชื่อว่า นิพพิทา

ความรับผิดชอบมีมาก รับผิดชอบหลายอย่าง พ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตรวงศ์ตระกูล ดูแลเหนื่อยยาก ลำบากตรากตรำ เหนื่อยมากทุกข์มาก เหนื่อยแล้วรำคาญ เบื่อแล้วไม่อยากเกิดอีก อย่างนี้ยังไม่ชื่อว่า นิพพิทา

ตัวอย่างที่ยกมานี้ มักจะลงเอย ตรงที่คนที่คิดว่า เบื่อ อยากออกจากโลก อยากไปนั่งนอนยืนเดินสงบ ๆ ในที่ ๆ ตนเองไม่ต้องรับผิดชอบ เรียกว่า การหนีโลก ดังนั้นเขาจึงคิดว่า การบวช เป็นการหนีจากเรือ่ง น่าเบื่อ ทั้งหมดนี้ไปได้ จึงไปแสวงการบวช กัน ทั้งหญิง และ ชาย แต่โลกของนักบวช มาจากชาวโลก กฏเกณฑ์ ก็ยังต้องอยู่กับชาวโลก จึงมีสิ่งที่เรียกว่า ระเบียบ วินัย กิจวัตร ให้ต้องกระทำ หลายคนที่มาแบบเบื่อ พอมาอยู่แบบ นักบวช ก็จะอยู่ได้ไม่นานแต่ละที่ เพราะต้องมาพบกับระเบียบ กิจวัตร ที่ต้องสัมพันธ์กับโลกเข้า ไป บางคน ไม่เคยนอนตื่นเช้า มาอยู่กับพระสายภาวนาตื่น แต่ 2.30 น. ตื่นแล้ว มาเดินจงกรม มานั่งกรรมฐาน สายออกบิณฑบาตร มีงานวัดให้ทำมากมาย ปัดกวาดเช็ดถูก่อสร้าง ถางป่า ทำความสะอาด อีกทั้งยังต้องไปเรียนตามระเบียบ ต้องช่วยงานการศาสนา พอเจออย่างนี้ ก็จะบอกว่า ไม่น่ามาบวช เลย

อยู่บ้าน ไม่เคยปัดกวาดเช็ดถู ปล่อยให้พ่อแม่ทำ เมียทำผัวทำ พอมาบวช ไม่ปัดกวาดเช็ดถูเสนาสนะ ก็โดน พระด้วยกัน ว่า ขี้เกียจ หนักเข้าลงประชุม ก็ถูกประนาม อยู่บ้านไม่ทำไม่มีใครว่า ทำที่บ้าน ก็สุขใจตนเอง อยู่วัดไม่ทำ ถูกประนาม แถมยังถูกโพทนา ว่า บวชสันหลังยาว ไม่ได้ความทำก็ไม่ได้เงิน ไม่ทำก็โดนด่าประนาม เจอสังคมอย่างนี้ คือสังคมนักบวช ที่มีระเบียบ วินัย กิจวัตร เป็นข้อบังคับ

ดังนั้น นิพพิทา ถ้าไม่ผ่านวิปัสสนา ก็ยังไม่ควรมาบวช เพราะมาบวช เพราะเบื่ออย่างชาวโลก นั้น บวชไม่ทน สู้ไม่ได้ บวชกินนอน รกศาสนา เปล่า ๆ อย่ามาเลย ถ้ามาแล้ว ต้องสู้ ต้องไม่ถอย ต้องเดินหน้า ไปสู่นิพพาน อย่างนี้สมควรมา มาแล้วต้องเลิกเสียใจ เลิกบ่น

ขอให้ท่านทั้งหลายตระหนักให้ดี ว่า ตนเองได้นิพพิทา จริง ๆ แล้วหรือ

ธัมมะวังโส ภาวนาได้คุณธรรม พื้นฐานก่อนบวช ไม่ใช่บวชมาแล้ว ภาวนาได้ เพราะรู้ดีว่า การบวชของภิกษุในปัจจุบัน ไม่เอื้ออำนวยการภาวนา อย่างสมัยก่อน เพราะพระสงฆ์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ ข้องกับทางโลก

เจริญพร
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ