ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน" ทำให้เกิดมาเป็นคู่กันทุกชาติ ได้อย่างไร.?  (อ่าน 14872 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


บุพเพสันนิวาส.!! หายคาใจ "พระอาจารย์สุชาติ" ศิษย์หลวงปู่มั่น เฉลยให้ฟัง "ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน" ทำให้เกิดมาเป็นคู่กันทุกชาติ ได้อย่างไร

เป็นกระแสอย่างมาก สำหรับละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ที่ออกอากาศทางช่อง ๓ เรียกได้ว่าเป็นละครที่มีอิทธิพลต่อสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก มีแฟนๆเฝ้าติดตามละครกันอย่างคับคั่ง ด้วยเนื้อเรื่องและตัวละคร นอกจากนี้ยังให้ความรู้เกี่ยวประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี โดยเนื้อเรื่องเป็นเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ในยุคปัจจุบันและได้หลงเข้าไปในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้พบรักกับหมื่นสุนทรเทวา ซึ่งเป็นพระเอก เรียกได้ว่าเป็นบุพเพสันนิวาส เหมือนชื่อละครสุดๆ

จากเรื่องของบุพเพสันนิวาสนี้เอง พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต ได้ตอบคำถามถึงเรื่องของบุพเพสันนิวาส โดยบอกเล่าเรื่องราวครั้งสมัยพุทธกาล เรื่องของเจ้าชายสิทธัตถะและเจ้าหญิงยโสธรา เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล โดยระบุข้อความว่า

ถาม : ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน เป็นความเชื่อหรือความจริง ที่ให้เกิดมาเป็นคู่กันทุกภพทุกชาติ
พระอาจารย์ : เจ้าชายสิทธัตถะ ก่อนที่จะเป็นพระพุทธเจ้า เจ้าชายสิทธัตถะก็ได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงยโสธรา เจ้าชายสิทธัตถะกับเจ้าหญิงยโสธรา ซึ่งเป็นพระมเหสี เคยทำบุญร่วมกันมา ก็เลยมาเจอกันทุกภพทุกชาติ เป็นเรื่องที่มียืนยันในประวัติของพระพุทธเจ้า ถ้าหมั่นทำบุญร่วมกัน รักษาศีลเสมอกัน ก็อาจได้มาเจอกันอยู่เรื่อยๆ

        สนทนาธรรม ช่วงคำถามชาวบ้าน
        พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
        ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน
        วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี
        วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑



ทั้งนี้ พระพุทธองค์ตรัสไว้ในเรื่องของความรักและบุพเพสันนิวาสดังนี้ (ธัมมปทัฏฐกถาภาคที่๒สามาวดี) ว่า
   "ปุพฺเพ สนฺนิวาเสน..ปจฺจุปนฺนหิเตน วา, เอวนฺตํ ชายเต เปมํ..อุปลํว ยโถ ทเก ฯ"
    (อ่านว่า ปุพเพวะ สันนิวาเสนะ ปัจจุปปันนะหิเตนะ วา เอวันตัง ชายะเต เปมัง อุปปะลังวะ ยะโถทะเก)

    แปลว่า ความรักนั้น เกิดขึ้นด้วยเหตุ ๒ ประการนี้ คือ
    ๑. ด้วยเคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน
    ๒. ด้วยช่วยเหลือเกื้อกูลกันในปัจจุบัน

@@@@@@@

การมาพบเจอะเจอกันหลายคนบอกว่า มันเป็นบุพเพสันนิวาส

บุพเพสันนิวาส คือ การได้เคยอยู่ร่วมกันในอดีตชาติ จนส่งผลให้ได้มาเป็นคู่ครองกันในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดว่าเคยอยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยาเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วบุพเพสันนิวาสหมายถึง การที่อาจจะได้อยู่ร่วมอันในฐานะอื่นก็ได้ เช่น พี่กับน้อง พ่อกับลูก แม่กับลูก เพื่อนครูกับศิษย์ นายกับบ่าว เป็นต้น การที่มีบุพเพสันนิวาสร่วมกันนี้เมื่อเกิดมาร่วมกัน ก็มักจะสร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันมา ทำอะไรตามกัน ก็มีความเห็นสอดคล้องกัน ทำให้อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข

    - เนื้อคู่ คือ ชายและหญิงที่เคยอยู่ร่วมกันมาในหลายภพ หลายชาติที่ผ่านมา
    - คู่ครอง คือ เนื้อคู่ที่ในชาตินี้ได้มาอยู่ร่วมกันอีก แม้ว่าจะเป็นลำดับที่เท่าไรก็ตามขึ้นอยู่กับกรรมจัดสรร
    - คู่กรรม คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมอันเป็นสามีภรรยา แต่มักไม่มีความสุขและอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกัน ชาตินี้เพื่อมาชดใช้กรรม เนื่องจากการมาอยู่ร่วมกันนั้นเกิดจากวิบากของกรรมที่ทำรวมกันหรือวิบากกรรมที่มีต่อกันมาส่งผล เช่น อาจเคยทำบาปร่วมกัน หรือเคยเป็นศัตรูกันมาก่อน เป็นต้น
    - คู่บารมี คือ เนื้อคู่ที่ได้ติดตามกันมา ส่งเสริมกันและกันในทางที่ดี ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยาร่วมกันนับชาติไม่ถ้วน เป็นคู่ที่เกิดมาเพื่อกันและกันโดยแท้เพื่อสร้างสมบุญบารมีร่วมกัน และจะติดตามกันต่อไปจนกว่าจะสามารถหลุดพ้นจากวัฎสงสารได้ มักใช้คำนี้กับพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีกับเนื้อคู่ลำดับ ๑ ที่จะได้เป็นคู่ครองกันในชาติสุดท้าย

@@@@@@@

ในอดีตกาลพระนางพิมพายโสธราพระมเหสีของเจ้าชายสิทธัตถะ ก่อนที่พระองค์จะเสด็จออกผนวชและตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระนางพิมพาและพระโพธิสัตว์ได้ทรงเกิดมาเป็นคู่รักและหรือเป็นคู่ครองกันมานับอเนกอนันต์ชาติ หลายภพหลายชาติ ความรักระหว่างพระโพธิสัตว์กับพระนางพิมพาที่ได้เกิดมาเป็นคู่รัก และหรือเป็นคู่ครองกันมานับได้เป็นเอนกอนันต์ชาติจนถึงการเกิดชาติสุดท้ายของคนรักทั้งสองนั้น ถือได้ว่าเป็นความรักที่เกิดขึ้นด้วย “บุพเพสันนิวาส” โดยแท้

ในทางพุทธศาสนาของเรานั้น เนื้อคู่ของเรานั้นมีเป็นแสนเป็นล้านคน หลายคนคงสงสัยว่าทำไมถึงกล่าวเช่นนี้ เหตุที่เป็นเช่นนี้ก้เพราะว่าเรานั้นผ่านการเวียนว่าย ตายเกิด มานับไม่ถ้วนในแต่ละชาติภพนั้นก็มีคู่ครองมาแล้วทั้งสิ้น เมื่อเกิดชาติใหม่ก็มีอีก มีอีกไม่จบสิ้น ดังนั้นในชาติปัจจุบันเราอาจจะเจอเนื้อคู่หลายคน ที่เคยเป็นคู่ครองต่างภพชาติกัน แต่ที่จะได้อยู่ร่วมเคียงหมอนนั้นอาจจะเป็นคนที่ร้อย คนที่พันตามลำดับของเนื้อคู่ของกรรมที่จัดสรรแล้ว

@@@@@@@

ในบางชาติเราอาจจะไม่ได้พบคู่แท้หรือเนื้อคู่ลำดับต้นเลยก็ได้ ประเภทที่ว่า บุญมีแต่กรรมมันมาบัง ถึงจะเคยสร้างบุญกุศลร่วมกันมาในภพก่อน แต่ก็ใช้จะได้พบพานกันได้ ถ้ามีวิบากกรรมนั้นมาขัดขวางบังไว้ และกรรมในปัจจุบันที่ไม่ส่งเสริมให้มีบุญมาพบกันอีก อาจจะต้องพลัดพรากไม่เจอกัน จนกว่าแรงบุญที่ทำนั้นมีแรงส่งมากพอให้มาเจอกันอีก

ในหลายคู่มาพบเจอกันด้วยแรงบุญ แรงอธิษฐานที่ยิ่งใหญ่ของแต่ละฝ่าย ในชาติปัจจุบันก็กลายเป็นคู่บารมีที่ช่วยกันเร่งสร้างบุญกุศลเพื่อมาพบเจอกัน ที่บอกว่าเราสามารถเลือกเนื้อคู่ได้ก้เพราะว่าวันหนึ่งเมื่อบุญบรรจบก็จะได้เจอกัน และสามารถเลือกได้อีกด้วยเพราะในหลายภพหลายชาติเรามีคู่กันมานับไม่ถ้วน เป็นเพราะว่าเราสามารถใช้ผลบุญกุศลนั้น เป็นตัวนำเลือกเนื้อคู่ลำดับต้นให้ได้เนื้อคู่ที่เป็นคนที่ร่วมบุญ ร่วมกุศลที่ดีที่สุดได้ ขึ้นอยู่ว่าเรานั้นมีบุญมากเพียงใดและแรงอธิษฐานของเรานั้นได้ผลเพียงใด




ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ วัดป่า ดอทคอม
เพจ สำนักพิมพ์เสบียงบุญ เพื่อธรรมทาน
ขอบคุณภาพจาก : ละคร บุพเพสันนิวาส ช่อง 3
เรียบเรียงโดย เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ
http://www.tnews.co.th/contents/429567
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 20, 2018, 07:33:32 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ