พิมพ์

[raponsan]

'ท้าวเวสสุวรรณ-พญานาคราช' แก้อาถรรพณ์ เมรุทิศมรณะ

เจ้าอาวาสวัดพระแก้วเผย คณาจารย์แนะให้นำรูปปั้น “ท้าวเวสสุวรรณ-พญานาคราช” ตั้งแก้อาถรรพณ์”เมรุทิศมรณะ” เผยคำปริศนาโบราณประจำวัด

จากกรณีเกิดเรื่องอาถรรพณ์การสร้างเมรุของวัดพระแก้ว ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ และกุฎิของอดีตเจ้าอาวาส ที่ผิดหลักโหราศาสตร์ เนื่องจากสร้างในทิศมรณะจนทำให้อดีตเจ้าอาวาส ถูกฆาตกรรม และมีพระอีกหลายรูปพบกับเรื่องลี้ลับจนอยู่ไม่ได้ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันไม่กล้าไปอยู่กุฏิของอดีตเจ้าอาวาส ต้องเลี่ยงไปสร้างกุฏิหลังใหม่อยู่หลังอุโบสถ เพราะเกรงกลัวอาถรรพณ์ที่รุนแรงชนิด 2 แรงบวก

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 ต.ค. พระครูศรีพัชรบวร หรือพระอาจารย์ตี๋ เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว เปิดเผยว่า นอกจากประตูเมรุที่หันหน้าตรงกับบันไดและประตูทางขึ้นกุฏิเจ้าอาวาสแล้ว แต่เดิมนั้นบันไดด้านหน้าเมรุ ก็ตรงกันอีกด้วย เมื่ออาตมามาเป็นเจ้าอาวาสได้ราวปีเศษ จึงปรึกษากับญาติโยมว่าจะแก้อาถรรพณ์อย่างไรดี พร้อมกับปรึกษาพระคณาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ มีความเห็นตรงกันคือ ต้องทุบบันไดเมรุด้านหน้า แล้วก่ออิฐปิด โดยให้มีทางขึ้นลงเมรุเฉพาะด้านข้างซ้ายขวา ส่วนบริเวณตรงบันไดทางขึ้นกุฏิก็ทำเป็นบ่อน้ำ

โดยประกอบพิธีนำรูปปั้นพญานาคราช 9 เศียร 2 ตน มาวางในบ่อน้ำ แล้วนำรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งยักษ์ ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์เป็นที่ยำเกรงของภูตผีปีศาจ มาตั้งที่ด้านหลัง ขณะที่นอกผนังชั้น 2 ของกุฏิก็นำกระจกเงามาติดตั้ง เพื่อให้สะท้อนสิ่งไม่ดีกลับไป ซึ่งครูบาอาจารย์หลายรูปที่ไปปรึกษา ท่านบอกตรงกันว่า ที่ทำลงไปเช่นนี้จะช่วยได้แค่บรรเทาเท่านั้น ไม่ใช่จะแก้ได้หมด นอกจากจะย้ายเมรุไปตั้งในทิศทางที่เหมาะสม แล้วท่านก็แนะว่า เมื่อรู้ว่าไม่ดีเป็นที่ของเขา เราก็ไม่ไปอยู่ก็แค่นั้น อาตมาจึงไปปลูกกุฏิอยู่หลังโบสถ์ดังกล่าว

“ก็เป็นเรื่องแปลก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่เดิมที่ยังไม่ได้แก้อะไร ภายในวัดมีแต่ความวุ่นวาย ญาติโยมก็ไม่ค่อยมาทำบุญ ตอนนั้นยิ่งทำให้วัดเงียบเหงาดูวังเวง แต่พอแก้ตามความเชื่อ อะไรต่างๆ ก็ดีขึ้น คนก็เริ่มเข้ามาทำบุญ จนขณะนี้อุโบสถที่แต่เดิมไม่มีอะไรเลย ก็มีญาติโยมเข้าทำบุญร่วมสร้างจนโบสถ์แล้วเสร็จไปกว่า 70% ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่น อาทิ เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ก็เข้ามาทำกิจกรรม และช่วยดูแลสิ่งขาดเหลือต่างๆ” พระครูศรีพัชรบวร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับวัดพระแก้ว แห่งนี้ คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลางถึงปลาย แต่เดิมเคยเป็นวัดร้าง  และมี 3 วัด ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันคือ วัดพระสิงห์, วัดพระเสือ และวัดพระแก้ว เป็นวัดในตัวเมืองชั้นนอก และมีคำปริศนาโบราณประจำวัด กล่าวขานสืบทอดกันมาคือ “พระสิงห์อยู่เหนือ... พระเสืออยู่ใต้... พระแก้วอยู่กลาง... จระเข้โก่งหาง เอาคางทับไว้”

โดยคนรุ่นเก่าของเมืองเพชรบูรณ์ ต่างแสดงความเห็นไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเป็นปริศนาลายแทงบอกการซ่อนสมบัติมีค่า ถ้าใครตีแตกก็จะค้นพบ บ้างก็ว่าเป็นคำบอกทิศทางตั้งวัดให้คนรุ่นหลังได้รู้ เพราะไม่มีที่ใดสร้างวัดในพื้นที่เดียวกันถึง 3 แห่ง แม้จะมีผู้คนจากรุ่นสู่รุ่นพยายามตีปริศนาดังกล่าว แต่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดตีปริศนาได้เป็นที่เข้าใจอย่างแตกฉาน ยังคงเป็นที่สงสัยและขบคิดของคนเพชรบูรณ์ มาจนทุกวันนี้

ชมคลิปได้ที่
https://youtu.be/_ku1pRarfgM
https://youtu.be/kVEhhz43-Lo

ข่าวแนะนำ
เจ้าวัดผวา"อาถรรพณ์2แรงบวก" สร้างเมรุทิศมรณะ(คลิป)


ขอบคุณภาพและข่าวจาก : https://www.dailynews.co.th/regional/672342
เสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2561 เวลา 06.04 น.