พิมพ์

[patra]

ประกาศเรื่องการนำบทความ จากเว็บอื่น มาใช้ในบอร์ด
เนื่องด้วยเว็บ มัชฌิมา นั้นเป็นเว็บที่ไม่มีผลกำไร อะไรนอกจากแจกความรู้ แจกธรรม ตามที่เจ้าของบทความได้ส่งข้อความมายังเว็บมาสเตอร์ และ ผู้ดูแลระบบเว็บกันนั้น เป็นที่เข้าใจว่า โดยมารยาทแล้ว บทความนั้นถ้าเป็นบทความธรรมะ ที่มีประโยชน์ เมื่อนำมาโพสต์ ช่วยวางลิงก์กลับไปยังผู้เป็นเจ้าของบทความด้วย รวมถึงสื่อภาพต่าง ๆด้วยนะครับ

  ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด คืิอการให้ลิงก์ กลับท้ายบทความ หรือ ภาพด้วยครับ

  ทั้งนี้บทความของทางเว็บมัชฌิมาสระบุรี โออาร์จี นี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ใด ๆ ถ้าหากเป็น ลิงก์ในบอร์ดให้ช่วยเครดิต ผู้โพสต์ ด้วยครับ หากท่านนำไปเผยแพร่ ที่เว็บอื่น เราก็อยากให้ทุกท่าน ช่วยลิงก์กลับมาด้วยเช่นกันครับ

  ขอบคุณทุกท่านที่ปฏิบัติตาม

   

 ทั้งนี้ท่านสามารถแจ้งปัญหา ได้ email teamsaraburi@madchima.org โดยตรงได้เลยนะครับ
 
 

[inlove]

คิดว่า ธรรมะเป็นสิ่งที่ชะโลมใจยามทุกข์ คะ inlove เองเคยทุกข์มาแล้วได้มาอ่านข้อความในบอร์ดนี้อย่างบังเอิญและได้เปลี่ยนให้เป็นคนชอบ พระธรรม ขึ้นมา

  ดังนั้นแม้บทความจะเป็นมาจากที่อื่น ๆ แต่ถ้าผู้เขียนบทความเหล่านั้นเล็งผล คือความสุขของผู้รับธรรม น่าจะเข้าใจคะ แต่ถ้าเล็งผลเป็นชื่อเสียง แล้ว ก็คิดว่าไม่ใช่ผู้ภาวนาธรรมจริง ๆ คะ

  มีพระคุณเจ้า พระอรหันต์ ผู้เสียสละมากมายที่ได้ทำการเผยแผ่พระธรรมโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทน แม้ตายก็ไม่ได้รับคำขอบคุณท่านทั้งหลาย เหล่านั้นต่างก็ทำงานเพื่อให้ความสุขสันติ แต่เพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายกัน ให้มีความสุข และคิดว่า น่าจะเป็นอย่างนี้

   ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยกับการสงวนลิขสิทธิ์พระธรรม อันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า คะ

   

[RDNpromote]

ถึงจะเป็นบทความธรรมะ ต่าง ๆ ในปัจจุบันบางอย่างก็ถูกสงวนสิทธิ์ไว้ ก็ต้องใช้ปัญญาประกอบกันไปด้วย อย่างไรเสียก็อยู่ได้ด้วยกติกาหลัก ไม่งั้นเกิดความวุ่นวาย เพราะทุกคนก็จะทำตามใจตนเองกัน

 

[raponsan]

คิดว่า ธรรมะเป็นสิ่งที่ชะโลมใจยามทุกข์ คะ inlove เองเคยทุกข์มาแล้วได้มาอ่านข้อความในบอร์ดนี้อย่างบังเอิญและได้เปลี่ยนให้เป็นคนชอบ พระธรรม ขึ้นมา

  ดังนั้นแม้บทความจะเป็นมาจากที่อื่น ๆ แต่ถ้าผู้เขียนบทความเหล่านั้นเล็งผล คือความสุขของผู้รับธรรม น่าจะเข้าใจคะ แต่ถ้าเล็งผลเป็นชื่อเสียง แล้ว ก็คิดว่าไม่ใช่ผู้ภาวนาธรรมจริง ๆ คะ

  มีพระคุณเจ้า พระอรหันต์ ผู้เสียสละมากมายที่ได้ทำการเผยแผ่พระธรรมโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทน แม้ตายก็ไม่ได้รับคำขอบคุณท่านทั้งหลาย เหล่านั้นต่างก็ทำงานเพื่อให้ความสุขสันติ แต่เพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายกัน ให้มีความสุข และคิดว่า น่าจะเป็นอย่างนี้

   ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยกับการสงวนลิขสิทธิ์พระธรรม อันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า คะ

   

    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้ "อริยสัจ ๔" เหมือนกัน
     ปรมัตถ์ธรรมสูงสุด คือ การรู้แจ้งอริยสัจ หรือ แทงทะลุอวิชชา
     แน่นอนครับ พระพุทธเจ้าไม่เคยสงวนสิทธิ์"ธรรมวินัย"ของท่าน แต่ท่านก็เลือกที่จะสอนเฉพาะคนที่มีบารมีอยู่ระดับหนึ่ง ท่านจะเล็งเอาประโยชน์ทีได้เป็นหลัก หากตรัสสอนไปแล้วไม่เกิดผลอะไร จะเสียเวลาเปล่า
     
     ในปัจจุบันมีคนรู้ปริยัติมากมายที่เป็นปุถุชน คนเหล่านี้บางส่วนจะสงวนสิทธิ์บทความด้วยเหตุผลต่างๆ เหตุผลส่วนตัวของคนเหล่านั้น เราไม่อาจไปก้าวล่วงหรืออุทธรณ์ได้ เพราะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องส่วนตัว และบางกรณีก็มีกฏหมายคุ้มครองอยู่
      การแจ้งที่มาของบทความต่างๆให้ชัดเจน จะเป็นการให้เกียรติ์เจ้าของบทความนั้นๆ
      ถึงแม้บางครั้งบทความจะถูกสงวนสิทธิ์ระดับหนึ่ง แต่หากเราแจ้งที่มาอย่างชัดเจน
      จะเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่มีเจตนาจะนำบทความนั้นมาเป็นของตนเอง

      ประการสำคัญที่อยากจะให้เข้าใจ คือ การที่บุคคลใดไม่ประสงค์บอกข้อธรรมต่างๆให้บุคคลอื่นรู้ บางกรณีก็ไม่ใช่เพราะหวงวิชา แต่เป็นเพราะ เล็งเห็นแล้วว่า บอกไปแล้วจะเป็นโทษมากกว่า
     การที่จะเข้าใจหรือปฏิบัติตามข้อธรรมต่างๆได้นั้น จะต้องเป็นไปโดยลำดับ ข้ามขั้นตอนไม่ได้
     การรู้ข้อธรรมต่างๆล่วงหน้า จะมีผลเสียมากกว่าผลดี
     ขอให้เข้าใจตามนี้ครับ