ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระสมเด็จอรหัง พิมพ์สังฆาฏิ ชั้นครูสร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ  (อ่าน 212 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0





พระสมเด็จอรหัง พิมพ์สังฆาฏิ ชั้นครูสร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

นับถอยหลังสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ในเดือนนี้ก็จะได้เห็นหน้าตาชัดขึ้นว่าจะเป็นใคร ตอนนี้ก็มีแต่ข่าวดีลลับดีลไม่ลับให้เอาไปพูดต่อแทบทุกวงสนทนา ที่แต่ละคนก็ต่างรู้ดีไปหมด

    ระหว่างรอการเมืองเขาตกลงโอเคโนเคกัน ชาวพระอย่างเราก็เข้าสนามตามปกติทุกวันอาทิตย์ ซึ่งวันนี้องค์ที่นำขบวนคือ พระสมเด็จอรหัง (แดง) พิมพ์สังฆาฏิ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ต้นแบบการสร้าง “พระสมเด็จ” สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) เป็นชาวกรุงเก่า ประสูติเมื่อปี พ.ศ.๒๒๗๖ ในสมัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยา และในสมัยกรุงธนบุรี ได้เป็นพระอธิการอยู่วัดท่าหอย มีพุทธาคมแก่กล้า ด้านเมตตามหานิยม ว่าเลี้ยงไก่ป่าให้เชื่องได้

ความทราบถึง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงเลื่อมใส อาราธนาท่านมาครองตำแหน่งเจ้าอาวาส “วัดพลับ” ใกล้พระราชวัง แต่งตั้งเป็น “พระญาณสังวร” และได้ขยายพื้นที่เพิ่ม โดยรวม วัดพลับ เป็นวัดราชสิทธาราม ท่านเป็นพระอาจารย์ของพระราชโอรส คือ รัชกาลที่ ๒ ซึ่งเมื่อขึ้นครองราชย์ เป็น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ก็สถาปนาท่านเป็น สมเด็จพระอริย วงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) สมเด็จพระสังฆราชพระ องค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโก สินทร์ สถิต ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ อยู่ในตำแหน่ง ๓ พรรษา ก็สิ้นพระชนม์ เมื่อ พ.ศ.๒๓๖๕ พระชนมายุ ๙๐ พรรษา




เมื่อปี พ.ศ.๒๓๖๓ ท่านได้นำพระพิมพ์ เนื้อผงพุทธคุณผสมปูนเปลือกหอยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหลังมีรอยจารลายมือ อักขระคำ “อรหัง” ที่สร้างไว้ มามอบผู้ร่วมพิธี และบรรจุสืบอายุพระพุทธศาสนา เมื่อค้นพบพระในองค์พระเจดีย์ วัดมหาธาตุ และออกเผยแพร่ จึงได้รับความนิยมเรียกเป็น “พระสมเด็จฯอรหัง” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นตำรับการสร้าง พระสมเด็จ ที่ศิษย์คือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สืบต่อ เมื่อราคาพระสมเด็จฯแพงขึ้นสิบๆล้าน ทำให้พระเครื่องที่มีประวัติความเกี่ยวข้องกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯโต ทั้ง “พระชั้นศิษย์” และ “พระชั้นครู” ได้รับความนิยมมากขึ้น รวมทั้ง “พระสมเด็จฯอรหัง” ๓ พิมพ์ คือ
    ๑. พิมพ์เกศอุณาโลม
    ๒. พิมพ์ฐานคู่ (เข่าโค้ง)
    ๓ .พิมพ์สังฆาฏิ (เข่าตรง) พิมพ์เปลวเพลิงพิมพ์ (เล็ก) กับที่เป็นตราปั๊มคำว่า อรหัง จมลึกเข้าเนื้อ ซึ่งมีพบเฉพาะพระที่กรุวัดสร้อยทอง ที่เป็นชนิดเนื้อแดง อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยเนตร มรดกไทย ที่ปัจจุบันนิยมมาก ด้วยเชื่อในอานุภาพ “พระชั้นครู” และราคาพอจ่ายไหวที่หลักล้านต้นๆ--ใครไหวก็เชิญ ข้าพเจ้าไม่สู้




    ต่อไปเป็น พระสมเด็จ เกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ของ เสี่ยกิติภัค สนองคุณ พระสภาพงามสมบูรณ์พิมพ์ชัด เนื้อใช่ ปัจจุบันเป็นพระซื้อง่าย-ขายคล่อง ด้วยชื่อชั้นเป็น ๑ ใน ๓ พระพิมพ์สมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ตอนนี้ราคาก็ยังพอจ่ายไหว ที่หลักล้านต้นๆ



    อีกรายการ เป็น พระพิมพ์ไสยาสน์ กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพิมพ์พิเศษ ที่พบน้อย และ ปางไสยาสน์ เป็นปางพระประจำคนเกิดวันอังคาร องค์นี้ของ เสี่ยมนตรี ร้านขายยา ช.เจริญฟาร์มาซี จ.ชัยภูมิ เป็นพระสภาพงามสมบูรณ์ สวยเดิม สภาพองค์พิมพ์พระ คราบฝ้า-รากรุ มีให้พิจารณาครบสมบูรณ์ มีภาพเป็นองค์ดาราในตำราพระเครื่องมานานถึงปัจจุบัน สายตรง “พระสมเด็จ” เห็นต้องร้องอ๋อ ฮ่อ ฮ่อ กันทุกคน



    อีกสำนัก เป็น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๖ เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ๑ ในเหรียญเบญจภาคี พระเกจิอาจารย์ ที่มี ๑.เหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๖๙ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ จ.อยุธยา ๒.เหรียญยันต์สี่ รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๗ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพฯ ๓.เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๖ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ๔.เหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๖๕ หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม จ.เพชรบุรี ๕.เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๔ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จ.สมุทรสงคราม เหรียญนี้ของ “เสี่ยตั้ม” จตุโชค สัยยะนิฐี เป็นเหรียญรุ่นแรก สภาพผ่านใช้ ที่ยังสมบูรณ์สวยงาม ระดับแชมป์ ซึ่งมีราคายืนยงคงกระพันอยู่ที่หลักหลายล้านมานานแล้ว



    ต่อด้วย เหรียญ เม็ดแตง หลวงปู่ทวด รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๖ พระครูวิสัยโสภณ พระอาจารย์ทิม) วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ของศูนย์พระ เครื่องธนบุรี เป็นเหรียญบล็อกนิยมสูงสุด เส้นหน้าผาก ๔ เส้น หาพบยากมากๆ ยิ่งเป็นเหรียญสภาพสมบูรณ์ สวยเดิม ผิวเหรียญไร้รอยสัมผัส เนี้ยบๆ ประมาณแกะกล่องอย่างนี้ ถือเป็น ๑ ใน ๑๐๐



    รายการต่อไป เป็น พระปิดตา หลังเต่าเนื้อผงใบลาน ตะกรุดคู่ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ อีก ๑ ในพระปิดตา พิมพ์นิยมรุ่นนิยมที่หาพบยาก เพราะมีสร้างไว้น้อยกว่าน้อยแค่หลักสิบ โดยเฉพาะพระแท้ ดูง่าย สภาพงามยอด สมบูรณ์เยี่ยม อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยมาร์ค ดอนเมือง




    วันนี้ชุมนุมสุดยอดเหรียญ เพราะอีกสำนักคือ เหรียญเสมาหลวงพ่อโสธร ลงยาสีเหลือง รุ่นสร้างโรงพยาบาล พ.ศ. ๒๕๐๙ วัดโสธร วรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ๑ ในเหรียญหลวงพ่อโสธรยุคต้น ที่ทรงคุณค่าด้วยพิธีกรรมการสร้างเต็มสูตร ตามตำรับพิธีโบราณ เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เพราะพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงแห่งยุคเข้าร่วมพิธีปลุกเสกแบบครบองค์ จึงได้รับความนิยมเป็นเหรียญราคาหลักแสน องค์นี้ ของ “คุณเล็ก” จารวี สงวนพันธ์ เป็นเหรียญสภาพงามแชมป์ ลงยาเต็มร้อย ที่หาองค์สวยเทียบได้ยาก

    สุดท้ายก็เหรียญ คือ เหรียญหนุมานเชิญธง งานผูกพัทธสี มาฝังลูกนิมิต พ.ศ.๒๕๒๑ เนื้อเงิน หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จ.ชัยนาท เหรียญหลักยอดนิยมเบอร์ต้น ในสกุลเหรียญ “หลวงพ่อกวย” หลวงพ่อกวย เนี่ยเก่งวิชาหนุมาน สักหนุมานให้ศิษย์จนเป็นที่เลื่องลือ ซึ่ง ยันต์หนุมาน นี้ ท่านเรียนมาจากหลายอาจารย์ โดยอาจารย์ท่านหนึ่งได้สอน วิชาหนุมานนำทัพ ให้ท่าน เหรียญหนุมานเชิญธง ลักษณะเป็นเหรียญโล่ ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนนั่งขัดสมาธิเต็มองค์ มียันต์นะอุดปืนอยู่สองข้างใต้รูปเหมือนหลวงพ่อกวย เขียนคำว่า “หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม”




ด้านหลังเป็นรูปหนุมานเชิญธง ขอบด้านล่างระบุว่า “ที่ระลึกในงาน พ.ศ.๒๕๒๑ ผูกพัทธสีมา” อันนี้เป็น เหรียญเนื้อเงิน สภาพสมบูรณ์สวยเดิม ของ เสี่ยบอมเบย์ สุพรรณ ที่เลื่องลือด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ เด่นสุดด้านคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัย หนุนนำความเจริญก้าวหน้า จนข้าราชการบอกใช้แล้วดีมีตำแหน่งสูงขึ้นไวกว่าวิ่ง วันนี้มีพื้นที่ตอบ คำถามสนามพระ เรื่อง การสัก ที่ท่านผู้ชมถามว่า ควรสักอะไรถึงจะดี และต้องทำยังไง ก็ขอตอบในแง่การสัก ที่หวังผลทางอยู่ยงคงกระพัน ถูกยิง ฟัน แทง ไม่เข้าไม่โดน ก็จะนิยมสักลวดลายของสัตว์ในวรรณคดี สัตว์หิมพานต์ สัตว์มีอำนาจ สง่างาม เก่งกล้าสามารถ เช่น สักหนุมาน สักเสือเผ่น ซึ่งกรรมพิธีนั้นยังเป็นความลับของแต่ละสำนัก ไม่สอนไม่บอกกันถ้าไม่ใช่ศิษย์ที่อาจารย์สักไว้ใจให้สืบทอดวิชา ซึ่งเป็นอาคมชั้นสูง ก่อนเข้าสู่พิธีสักยันต์ต้อง ขึ้นครู ก่อน โดยหาดอกไม้ ธูปเทียน และค่ายกครู มาทำพิธีไหว้ครู และรับสัจจะว่าจะปฏิบัติตัวอยู่ในศีล

ในการสักแต่ละสำนักก็มีกรรมวิธีต่างกัน บ้างก็จุดตะเกียงน้ำมันก๊าด เอาพิมพ์ที่อยากให้สักรมควันจนเขม่าจับพิมพ์ และกดพิมพ์บนผิวหนัง หรือใช้หมึกจีนวาดลายบนผิวหนัง พอได้ลายบนตัวแล้ว อาจารย์สักก็เอาเครื่องมือ คือเหล็กปลายแหลมสักจึ๊กๆตามลวดลาย โดยสักไปสวดคาถาไป--ใครทนเจ็บไม่ไหวก็ขอลด จนมีเรื่องขำกันว่า จากจะสักพญานาคซึ่งมีรายละเอียดมากก็เหลือแค่งู แล้วสุดท้ายขอแค่ไส้เดือน และผู้ที่สักยันต์จะต้องยึดถือคือ จะไม่ประพฤติผิดศีลธรรม ผิดลูกเมียใคร ไม่ลักขโมย ห้ามด่าบุพการี ยันต์ที่สักไปถึงจะมีอานุภาพคุ้มครองตัว

ส่วนที่ ห้ามกินน้ำเต้า มะเฟือง ฟัก ห้ามลอดไม้ค้ำกล้วย ไม่ลอดสะพานท่าน้ำ สะพานหัวเดียวนั้น ใครรู้จริงช่วยตอบมาที มาถึงเรื่องปิดท้าย ที่เล่าถึง นายนิคม พ่อม่ายเมียตาย เจ้าของร้านขายมอเตอร์ไซค์ ย่านพุทธมณฑล มีลูกชายชื่อ ศักดิ์ชัย เรียนอยู่วิทยาลัยอาชีวะ แต่มีนิสัยใจร้อนชอบเอารถมอเตอร์ไซค์ไปแว้น ถูกตำรวจจับ และมีเรื่องพะบู๊บ่อยๆ ห้ามก็ไม่ฟัง นายนิคม จึงต้องขึ้นโรงพัก เข้า-ออกโรงพยาบาลบ่อย จนเอือมระอา แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรเด็ดขาด เพราะเห็นว่าลูกมีปมด้อยที่ไม่มีแม่ แต่แอบกลุ้มใจจนต้องหันหน้าเข้าหาวัด พึ่งบารมีเจ้าอาวาสวัดใกล้บ้าน เล่าปัญหาให้ท่านฟัง เจ้าอาวาสฟังแล้วก็ออกความเห็นว่า แบบนี้ต้องหาพระดีๆ ให้คล้องคอสักองค์ จะได้ช่วยคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัย ใจเย็นลง

นายนิคม ก็เห็นด้วย ถามหลวงพ่อให้ใช้พระอะไรดีถึงจะทำให้ลูกผมใจเย็น หยุดเป็นคนใจร้อน โมโหร้ายได้ เจ้าอาวาสฟังแล้วยิ้มตอบว่า แบบนี้น่าจะลองให้ใช้ พระหลวงพ่อปาน นะโยม และถ้าอยากให้หยุดเรื่องร้ายๆได้ชะงัด ต้องเป็น พิมพ์ไก่เบรก เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

                            สีกาอ่าง





Thank to : https://www.thairath.co.th/lifestyle/amulet/2699133
4 มิ.ย. 2566 09:00 น. | ไลฟ์สไตล์ > พระเครื่อง > สีกาอ่าง
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ