ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กรรมทันตา (แย่งสามีเขาตัวเราโดนเอง)  (อ่าน 22375 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
กรรมทันตา (แย่งสามีเขาตัวเราโดนเอง)
« เมื่อ: มกราคม 26, 2012, 02:43:41 pm »
0
เรื่องจริงที่อยากเล่า กรรมตามทัน ( แย่งสามีเขาตัวเราโดนเอง )



เรื่องที่จะเล่านี้  เพิ่งเกิดขึ้นกับเรา เมื่อวันที่  15  ธันวาคม  2552  นี้เอง
เป็นเรื่องที่เราคิดไม่ถึงว่า มันจะเกิดขึ้นกับเรา

ก่อนอื่นเราจะบอกว่า  เราแต่งงานกับสามีเรา คนนี้ เมื่อ ต้นปี 2552  แต่คบกันมา ประมาณ  10  ปีแล้ว  และตอนนี้  เราท้องได้   8  เดือนแล้ว แต่เรื่องมาเกิดตอนที่เราท้องได้  5 เดือน

ประมาณ  19.00  น.  สามีเราโทรมาหา  ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้ว เครียด ๆ
เค้าบอกว่า
สามี    :  หนู พี่มีเรื่องจะบอกหนู
เรา      :  มีอะไรก็บอกมาเลย  ง่วงนอน เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย
สามี    :  พี่มี ผู้หญิงอีกคน  ก่อนที่จะแต่งงานกับหนู
เรา      :  อึ้งมาก  พูดอะไรไม่ออก  น้ำตาไหล โดยไม่รู้ตัว 
จากนั่นเราก็วางสายไป  คิดอะไรไม่ออก  ประมาณ ไม่ถึง  นาที  เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีก   เป็น สามีเราโทรมา   เราก็รีบรับสาย
สามี    :   หนู  ที่ออกค่าเช่าห้อง ค่าหอ ให้เค้าด้วย  พ่อพี่ก็รู้เรื่องนี้ ตั้งนานแล้ว
เรา      :   แล้วยังไง  (น้ำตาคลอ น้ำเสียงสั่น)
สามี    :  พี่จะมาขอเลิกกับเค้า   เค้าบอกว่า ให้โทรบอกหนู ว่าจะเลิกกับเค้า
เรา     :  พี่ไม่จำเป็นต้องเลิกกับเค้าหรอก  เลิกกับหนูก็ได้ เพราะว่า ที่พี่ทำ พี่ก็ไม่รักหนูแล้ว  พี่ไม่จำเป็นต้องเลิกกับเค้า 
แล้วเราก็วางสายไป  นอนร้องไห้ทั้งคืน

คงจะสงสัยกันว่า  สามี ภรรยา  ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ  เราและสามี  ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ครบกันแล้ว  แต่ง มาก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทำให้เป็นสาเหตุให้มีผู้หญิงอื่น เข้ามาแทรก

เราก็เลยลอง ๆ มานึกดูว่าคงจะเป็นกรรม ที่เราทำเอาไว้ เมื่อตอนที่เราเป็นวัยรุ่น

เรื่องของเราตอนวัยรุ่นมีอยู่ว่า
เมื่อ ต้นปี  2540  เราอายุประมาณ 20  เรียนจบ และได้ทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง  และได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง  และก็คบกับเค้ามา โดยที่รู้ว่า เค้ามีแฟนอยู่แล้ว  แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่น  ฉันจะเอา ใครจะทำไหม  อีกอย่างหนึ่ง พ่อแม่ ของผู้ชายก็ชอบเรา  ยิ่งทำให้เราได้ใจว่า ยังไงยังไง ฉันก็ต้องได้ เนี่ยละ ทำให้เราย้อนกับมาดูตัวเองตอนนี้เลยว่า   "ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เราแย่งแฟนเค้ามาเค้ารู้สึกอย่างไร"   
แต่เรื่องนี้ก็จบลงที่  "เราเป็นฝ่ายเดินออกมาเอง  เพราะคิดว่า  มันคงยังไม่ใช่คนที่เราจะลงหลักปรับฐานด้วยจริง ๆ "

จนปี  2543  ปลาย ๆ เราได้ไปทำงานอยู่ จังหวัดราชบุรี  และเราก็  ยังไม่เลิกนิสัยแย่งสามี หรือแฟนคนอื่นอีก
เราก็คบกับ สามีคนอื่น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า เค้ามีลูกมีเมียอยู่แล้ว แต่เราไม่เคยที่จะไป พูดอะไรกับภรรยาเค้าให้เสียใจนะว่า ฉันเป็นแฟนของสามีคุณ
(เราไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย 2 คนนี้เลย)  แต่ด้วยความอยากได้  ใคร่มี ทำให้เราคบกับผู้ชายคนนี้ มาจน เจอกับสามีคนปัจจุบัน
เรื่องมันจบลง ตรงที่เรา ย้ายมาทำงาน กทม.  เราเบื่อที่จะเป็นที่ สอง  เราอยากเป็น หนึ่งของคนที่รักเรา และรักเรา

เราคบกับสามี ตั้งแต่ ปลายปี 2543  ตั้งแต่เค้าเรียนรามฯ ยังไม่จบ จนจบและบวชแทนคุณพ่อแม่ ปลายปี 2548 และ เรียนเนติจบปี 2549  และได้ทำงาน รับราชการตำรวจ ในปลายปี 2550  แต่เราก็แต่งงานกัน ต้นปี 2552

เราอยู่กับสามีเรามาตั้งแต่ เจอกันใหม่  (เค้าเป็นคนแรกของเรา ตัวเค้าเองก็รู้ตอนมีอะไรกัน)  ตั้งแต่คบกันมา เค้าไม่เคยมีนิสัยเจ้าชู้ให้เราต้องระแวงเลย เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมองใคร 

แต่เรื่องที่มันเกิด  เกิดจาก  ผู้หญิง คนนี้มาติดต่องานกับสามีเรา  สามีเราต้องทำคดีใหเค้า  ก็เลยเกิดความสัมพันธ์กันแบบชู้สาว  ประมาณ ปีกว่า ๆ

สามีเรา  เล่าเรื่องทั้งหมดให้เราฟัง  บอกว่า  ผู้หญิงคนนี้ เค้าชวนไปกินข้าว ชวนไปไหนต่อไหนด้วย ก็เลยเกิดความ เผลอ  เผลอใจด้วยกันทั้งคู่
เราเสียใจมาก ๆ  แต่ก็ไม่เคยที่จะต่อว่า สามี ไม่โกรธ เพราะเราเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า เราก็เคย แย่งแฟน และ สามีคนอื่นเค้ามาเหมือนกัน 
สามีเราขอโอกาสแก้ตัวใหม่ ขอโทษเรา ว่าต่อไปจะไม่ทำอีก แต่ในใจลึก ๆ ของเรา  เราไม่เชื่อใจ สามีตัวเองอีกแล้ว  มันมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สองต่อไปอีก  แต่เราไม่เคยโทษใคร  โทษตัวเราเองมากกว่า ว่าไปทำกับคนอื่นเค้าไว้   เค้าก็เลยมาทำกับเราบ้าง

ทุกวันนี้  เรื่องมันผ่านไป  3  เดือนกว่า ๆ แต่เราก็ยังไม่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้อยู่เพื่อ "ลูก"  มีลมหายใจ  มีชีวิตอยู่เพื่อ "ลูก" คนเดียว ส่วนสามี จะยังไง เราก็คงจะไปบังคับอะไรเค้าไม่ได้  แต่เค้าก็ มาหาเรา มีเพียงบางวันที่เค้า เข้าเวร เที่ยงคืน ออก หกโมงเช้า เค้าจะอยู่บ้านพ่อที่ กทม เพราะว่า บ้านเราอยู่ ไกลจากที่ทำงาน อยู่คนละจังหวัดกันเลย

แต่เราคงจะห้ามให้เค้า  มีใหม่ไม่ได้  แต่ถ้าจิตสำนึกเค้าคิดได้ เค้าคงจะไม่ทำอีก
ขนาดพ่อเค้ารู้  พ่อเค้ายังไม่ห้ามเค้าเลย  แถมยังตามใจอีก "เอ็งมี ก็จัดการ จัดสรรเวลาให้ดีละกัน"   พ่อสามี  เค้าไม่ค่อยชอบเราเท่าไร  เค้าก็เลยส่งเสริมสามีเรามั่ง  (เราคิดแบบนี้อ่ะ) 
คนเป็นพ่อเป็นแม่  เมื่อลูกตัวเองทำผิด ก็ควรตักเตือนบาง ไมใช่  "ตามใจเอ็ง"
นี้ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราไม่ไปอยู่กับสามีเรา ที่กรุงเทพ เพราะไป อยู่กับครอบครัวใหญ่ ๆ เราอึดอัด  ยิ่งเค้าไม่ชอบเราแล้วด้วย เราอยู่บ้านเราดูแลพ่อแม่เราดีกว่ายังสบายใจเสียกว่า


อยากจะฝากบอก สาว ๆ ที่คิดจะแย่ง แฟน หรือ สามีคนอื่น หรือ ที่อยากจะไปเป็นเมียน้อย

ขอเถอะ  "กรรม มันตามทันในชาตินี้ละ ไม่ต้องรอชาติหน้าเลย"   เจ็บนะ กับสิ่งที่เกิดขึ้น  แต่ก็ต้องทำใจ  อยู่ต่อไป

บ่นมาซะยาว  ก็แค่อยากจะระบายให้ฟัง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น เราไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย  มันเจ็บ ร้องไห้ทุกวัน  ระแวง  กังวล  กลัว ไปหมด แต่ก็พยายามไม่คิดมาก  เดี่ยวตัวเล็กออกมาจะเครียดตามเปล่า ๆ

ลืมเหตุการณ์อีกอย่างหนึ่ง

ผู้หญิงคนนี้ โทรมาหาเรา บอกว่า

ผู้หญิง : พี่ .... ใช่ไหมค่ะ หนู เป็นเมียของ พี่..... ค่ะ
เรา : อืม แล้วยังไงเหรอ
ผู้หญิง : หนูขอสามี พี่ได้ไหม เพราะว่า ถ้าเค้ารักพี่เค้าคงจะไม่นอกใจพี่มาคบกับหนู
เรา : พี่ไม่ใช่คนตัดสินใจ พี่.... เป็นคนตัดสินใจนะ ถ้าเค้าจะไป พี่ก็ห้ามเค้าไม่ได้ (แต่ในใจร้องไห้แล้ว)
ผู้หญิง : หนูขอสามีพี่ละกัน ยังไงหนูก็จะทำให้ สามีพี่ เลิกกับพี่ให้ได้
เรา : อืม ก็ตามใจ อยากได้ก็เอาไปนะ

เราก็เล่าให้สามีเราฟัง สามีเราโมโหมากที่ผู้หญิงคนนี้ โทรมาราวีเรา แต่เรารู้สึก ด้านแล้วละ เพราะว่า เราเข้าใจ ผู้หญิงคนนี้ไง เพราะเป็นเคยเป็นมาก่อน ไม่โกรธนะ ไม่แค้นด้วย ถ้าแค้น เราด่าไปแล้ว แต่นี้เรานิ่ง

ทุกวันนี้  ผู้หญิงคนนั้น ทั้งส่งข้อความและก็โทรศัพท์ มาหา  อย่างล่าสุดเลย  โทรมาบอกว่า
ผู้หญิง  :  พี่....  ตอนนี้   พี่.....  อยู่กับหนูนะ
เรา      :  นิ่ง  และ ก็ เงียบ  (แต่ในใจมันกังวลบอกไม่ถูกว่าจะเชื่อใครดี)
ผู้หญิง  :  พี่เป็นอะไรไปหรือค่ะ  เงียบเลย  เสียใจเหรอ  หนูขอละกัน  ยังไง พี่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันนี่น่า  จะมาห่วงก้างทำไมค่ะ
เรา      :  พูดจบแล้วใช่ไหม  แค่นี้นะ  (นิ่ง  เสียใจ  และ ร้องไห้  เพราะม่รู้ว่าจะเชื่อใคร)  แต่วันนี้ สามีเราทำงานไง  เราโทรไป เช็คที่ ที่ทำงานเค้าแล้ว  แล้วเค้าก็อยู่ที่นั่นด้วย  เค้าไม่ได้โกหกเรา
อยากจะบอก ภรรยาหลาย ๆ คน ที่เจอเหตุการณ์แบบเรา ให้ "นิ่ง" อยากเดียว ถ้าไป ด่า อย่าไป ทุบตี สามี จะยิ่งทำให้สามีห่างจากเรามากขึ้น
ยังไง เรื่องมันก็คงยังไม่จบหรอก แต่ไม่เป็นไร เรามีสิ่งที่สำคัญกว่านั้นรออยู่
       
 

ขอขอบคุณที่มา   http://www.tairomdham.net/index.php?topic=229.0

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2012, 05:52:12 pm โดย jaravee »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ