พอดีไปเจอมาในอรรถกถา ยกมาให้ดูกันน่าจะได้ประโยชน์
พระอริยสาวกประกอบด้วยมรรค เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและ
จรณะ ดุจคนเดินทางไกลประกอบด้วยตาสามารถเห็นได้ และด้วย
เท้าสามารถเดินไปได้ เว้นที่สุด ๒ อย่าง คือ เว้น กามสุขัลลิกานุโยค
ด้วยวิปัสสนายาน เว้น อัตกิลมถานุโยค ด้วยสมถยาน ปฏิบัติ
มัชฌิมาปฏิปทา ทำลายกองโมหะด้วยปัญญาขันธ์... กองโทสะด้วย
สีลขันธ์...กองโลภะด้วยสมาธิขันธ์ ถึงสมบัติ ๓ คือ ปัญญาสัมปทาด้วย
อธิปัญญาสิกขา, สีลสัมปทาด้วยอธิสีลสิกขา, สมาธิสัมปทาด้วยอธิ-
จิตตสิกขา แล้วบรรลุนิพพานอันเป็นอมตะ. ภิกษุหยั่งลงสู่อริยภูมิ
กล่าวคือ สัมมัตตนิยาม อันวิจิตรด้วยธรรมรัตนะ คือ โพธิ-
ปักขิยธรรม ๓๗ งามในเบื้องต้น ท่ามกลางและที่สุด ด้วยประการฉะนี้.
จบ อรรถกถามรรคสัจนิทเทส
สมถะ บางคนว่า ติดสุข
วิปัสสนา บางคนว่า ฟุ้งซ่าน
แต่สมถวิปัสสนา คือ ไม่ฟุ้งซ่าน และไม่ติดสุข เพราะไม่เอียงข้าง
เราจะทำอย่างไหนก่อนก็ได้ แต่ที่สุดแล้วต้องมีทั้งสองอย่าง
การมุ่งมั่นอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป ทำให้ใจก้าวไปสู่ความสุดโต่ง 2 ข้าง
ไม่ใช่ทางสายกลาง
จากคุณ : พักผ่อน