ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - GodSider
หน้า: [1]
1  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พิธีกรรม ในพระพุทธศาสนา จริง ๆ แล้ว มีพิธีกรรม อะไรบ้าง ใครรู้ช่วยตอบด้วย เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2013, 08:36:34 am
คือเดี๋ยวนี้เวลาไปวัด ก็จะเห็นพิธีกรรม ต่าง ๆ ที่วัด ไม่ว่า อาราธนา ศีล รับศีล ให้ พร รับ พร งานศพ งานแต่ง งานบวช งาน อะไร สาระพัดงาน ไม่ทราบว่า แท้ที่จริง พิธีกรรมเหล่านี้ในครั้งพุทธกาล มีอย่างไร

   บางท่านกล่าวว่า พิธีกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่ พิธีกรรม พุทธ เช่นการสวดพระอภิธรรมไม่มีในงานศพ เมื่อก่อน งานแต่งงาน ก็ไม่มีการเจริญพุทธมนต์ ใดๆ อันนี้ จริง หรือ ไม่จริง ก็คงต้องรอท่านสมาชิก เพื่อนพี่น้อง ชาวกรรมฐาน มาช่วยเล่าให้ฟัง แล้วครับ


   thk56 thk56 thk56 ล่วงหน้า กับน้ำใจงาม ๆ ที่มาช่วยตอบครับ

2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การทบทวนกรรมฐาน คืออะไร ครับ เป็นการเรียนกรรมฐาน ใช่หรือไม่ครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2012, 12:45:07 pm
การทบทวน กรรมฐาน คือ อะไร ครับ

  ถ้าเราเรียนกรรมฐาน แล้วจำขั้นตอนไม่ได้ ควรจด ไว้ดีหรือไม่ครับ ?

   :25:
3  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / อยากได้รายละเอียด ความเข้าใจเรื่องการ ฉลาดในการศึกษา สมาธิ ครับ เมื่อ: สิงหาคม 24, 2012, 11:58:25 am
ปุจฉา
ปฏิบัติอย่างไร จึงจะสำเร็จในกรรมฐาน โดยไว ?


วิสัชชนา
 1.ปฏิบัติด้วยความฉลาด ใน องค์แห่งสมาธิ
    ความฉลาด ในสมาธิ มิได้ด้วยการตั้งมั่น ใน ฉันทะสมาธิ
 2.ปฏิบัติ ด้วยความสม่ำเสมอ มีความเพียรติดต่อ
 3.ปฏิบัติ ตามขั้นตอน ไม่บิดพริ้ว
 4.ปฏิบัติ ด้วยเป้าหมาย พ้นจากสังสารวัฏ
 5.ปฏิบัติ ด้วยการน้อมวิปัสสนา ธรรมคือ พระไตรลักษณ์ เข้าสู่ใจ


อยากได้รายละเอียด ความเข้าใจเรื่องการ ฉลาดในการศึกษา สมาธิ ครับ
ผมอ่านแล้วเหมือนพระอาจารย์ เพียงเริ่มหัวข้อไว้ ก่อนเท่านั้นนะครับ คิดว่า อาจจะถึงเวลาที่เราควรจะต้องถามวิธีการนี้ ด้วยนะครับ ผมจึงนำคำถามนี้ออกมาจากหัวข้อแนะนำเมื่อวานเพื่อนำมาสนทนากันให้เกิดประโยชน์ มากยิ่งขึ้นในการภาวนา ครับ ดังนั้นเพื่อนท่านใด มีแนวทาง หรือเห็นลิงก์ ไหนที่เกี่ยวข้องช่วยกันแบ่งเบาภาระพระอาจารย์กันและ พอกพูนธรรม ด้วยการแจกธรรมทานกันด้วยนะครับ


  :25: :c017:
4  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สวดมนต์ เป็นบาลี กับ สวดมนต์ เป็นจีน ธิเบต หรือ ไทย อย่างไหนได้บุญมากกว่ากันครับ เมื่อ: เมษายน 28, 2012, 01:19:58 pm
สวดมนต์ เป็นบาลี กับ สวดมนต์ เป็นจีน ธิเบต หรือ ไทย อย่างไหนได้บุญมากกว่ากันครับ

คือมีผู้กล่าวว่าการสวดมนต์ เป็นบุญ ผมก็เลยไปสวดเป็นภาษาบาลีกับเพื่อน ๆ กันครับ แต่ต่อมาก็มีผู้พูดกับกลุ่มพวกเราว่า สวดบาลีไม่ได้บุญหรอก ต้องสวดแปล หรือ เป็นไทย จะได้บุญมาก พวกเราก็เลยมาสวดมนต์แปล แต่ต่อมาก็มีคนเอา ซีดี สวดมนต์ภาษาธิเบต และ จีนมาบอก ฟัง สวดแบบนี้ จะได้บุญมากกว่า

  พวกเราก็เลยเกิดความสงสัยว่า สวดมนต์แบบไหน จะได้บุญมากกว่ากันครับ

   :c017: :smiley_confused1:
5  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / อยากนั่งสมาธิ แต่พอถึงเวลานั่งแล้ว ก็ขี้เกียจครับ ไม่เคยทำที่ตั้งใจได้เลยครับ เมื่อ: มีนาคม 18, 2012, 07:13:18 am
อยากนั่งสมาธิ แต่พอถึงเวลานั่งแล้ว ก็ขี้เกียจครับ ไม่เคยทำที่ตั้งใจได้เลยครับ เวลานั่งไปตั้งใจ 15 นาที่ ก็ทำได้ 10 นาที่แล้ว ก็ลุกออก เป็นต้นครับ เป็นอย่างนี้ทุกคร้ง ควรจะแก้ไขอย่างไรครับ

  :25:
6  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น เชิญอ่านกลอน คร๊าบ ผม เมื่อ: มกราคม 08, 2012, 07:00:43 pm
ไปไม่กลับ "..ลับลาแม้นาที
วันเวลาเดือนปีไม่มีหวน
คือกฎเกณท์เจนจบครบกระบวน
จงคํานวนทุกทางก่อนวางวาย

.." หลับไม่ตื่น "..คืนล่วงไม่ห่วงหา
ทิ้งยะถาหนหลังเรื่องทั้งหลาย
ฟ้าสะเทือนเศร้าโศกโลกมลาย
จะดี-ร้ายขอหลับไม่รับฟัง

.." ฟื้นไม่มี "..อีกแล้วดวงแก้วดับ
เขาก็จับห่อผ้ามัดตราสังข์
แถมทรัพย์สินใส่ปากเศษสตังค์
ก่อนจะฝังหรือเผาเป็นเถ้าธุลี

.." หนีไม่พ้น "..ชนใดว่าใหญ่ยิ่ง
จะชาย-หญิงสุดท้ายกลายเป็นผี
คงสถิตงดงามคือความดี
จักจารึกแทนชีวีที่ดับไป
 


 :25: :25: :25:

7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ชาวบุรีรัมย์ฮือบุกร้องเจ้าคณะจังหวัด - จี้หยุดสร้าง “วัดธรรมกาย” ฮุบที่ทำกิน เมื่อ: ธันวาคม 05, 2011, 12:58:31 pm
บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน “กลุ่มปลูกผักสวนครัวเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ” จาก 2 หมู่บ้าน อ.นางรอง บุรีรัมย์กว่า 100 คน สุดทนรวมตัวถือป้ายบุกร้องขอความเป็นธรรมจาก “เจ้าคณะจังหวัด” ให้พระยุติการก่อสร้าง “สาขาวัดพระธรรมกาย” บนที่สาธารณประโยชน์ หลังทำผิดเงื่อนไขถมดินขับไล่หวังฮุบที่ทำกินชาวบ้าน ที่ใช้ปลูกผักสวนครัวทำกินมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายกว่า 100 ปี พร้อมสร้างความแตกแยกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย
     
      วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านกลุ่มปลูกผักสวนครัวเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ บ้านเขว้า ม.5 และ บ้านจอมปราสาท ม.17 ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน นำโดย นายชยุต เหลวกูล ผู้ใหญ่บ้านจอมปราสาท และ นายบุญถึง ปรีชากูล สมาชิก อบต.สะเดา รวมตัวถือป้ายประท้วงขอความเป็นธรรม ที่บริเวณหน้ากุฎิเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ ภายในวัดกลางพระอารามหลวง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
     
      เพื่อขอให้เจ้าคณะจังหวัดมีคำสั่งยุติการถมดินก่อสร้างวัดสาขาพระธรรมกาย ของพระอาจารย์ไพรภูมิ บนพื้นที่วัดร้าง หรือที่สาธารณะประโยชน์ป่าช้าเก่า จำนวน 16 ไร่ บริเวณบ้านจอมปราสาท ต.สะเดา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ในการปลูกผักสวนครัวทำกินมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ตา ยาย มากกว่า 100 ปี ทำให้ชาวบ้านกลุ่มปลูกผักสวนครัวไม่มีที่ปลูกผักทำกิน
     
      โดยชาวบ้านอ้างว่า ก่อนหน้านี้ พระอาจารย์ไพรภูมิ เดินทางมาจากวัดพระธรรมกายได้มาขอชาวบ้านทำเป็นที่พักสงฆ์เพื่อปฏิบัติธรรมชั่วคราว ชาวบ้านจึงมีการทำประชาคมขอความเห็นชอบ ต่อมาได้มีการทำสิ่งปลูกสร้างขยายและถมที่ไปทับพื้นที่ปลูกผักของชาวบ้านไปกว่า 15 ไร่ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ ได้ร้องเรียนไปยังอำเภอนางรอง เจ้าคณะอำเภอ สำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ก็ไม่เป็นผล จึงได้รวมตัวกันเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อเจ้าคณะจังหวัด ให้ยุติการก่อสร้างวัดสาขาธรรมกาย ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
     
      เนื่องจากขณะนี้ชาวบ้านได้แตกแยกเป็น 2 ฝ่าย เกรงจะเกิดปัญหาบานปลาย ล่าสุด ได้มีบุคคลเข้าไปติดต่อเสนอเงินให้กับชาวบ้าน จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้ยุติการเคลื่อนไหวและไห้ยกที่ให้กับทางวัด แต่ชาวบ้านไม่ยินยอม ต้องการให้ยุติการก่อสร้างวัดคืนที่ดินให้ชาวบ้านกลุ่มปลูกผักสวนครัวทำกินอย่างที่ผ่านมา
     
      นายบุญถึง ปรีชากูล สมาชิก อบต.สะเดา กล่าวว่า พระอาจารย์ไพรภูมิ มาขอสร้างเป็นเพียงกระต๊อบเล็กๆ เพื่อให้พระสงฆ์จำวัดเพียง 3 หลัง ซึ่งกุฏิแต่ละหลังมีความกว้างเพียงหลังละ 4 เมตร จะไม่ไปรบกวนแปลงปลูกผักสวนครัวของชาวบ้าน พร้อมทั้งบอกว่าที่มาขออาศัยอยู่ที่วัดร้างไม่เคยคิดจะแย่งหม้อข้าวและที่ดินของใคร ไม่คิดจะแยกวัด และทำให้ชาวบ้านแตกความสามัคคี วัดจอมปราสาทเป็นวัดใหญ่ ส่วนวัดร้างจะขอแค่บูรณปฏิสังขรณ์และทำเป็นวัดเล็ก
     
      นายบุญถึง กล่าวต่อว่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างที่พูดแล้ว มีการขอก่อสร้างวัด สร้างอาคารที่พำนักสงฆ์ และสร้างอาคารต่างๆ ทับที่ดิน และยังได้ถมดินรุกล้ำแปลงปลูกผักสวนครัวของชาวบ้านรวมทั้งจะยึดที่ดินไปทั้งหมด โดยไม่มีการหยุดการสร้างแต่อย่างใด ทั้งที่ทางอำเภอนางรองได้มีหนังสือให้ยุติการก่อสร้าง เป็นการทำผิดข้อตกลงที่เคยทำไว้กับชาวบ้าน และยังสร้างความแตกแยกให้ประชาชนทั้งสองหมู่บ้าน ทำให้ปัญหาต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
     
      ต่อมา พระราชปริยัติกวี เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับหนังสือจากชาวบ้าน ทราบปัญหาความขัดแย้งระหว่างวัด และชาวบ้านกลุ่มพืชผักสวนครัว ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ก็รับปากว่าจะให้ทางชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านเข้าไปทำกินในที่ดินดังกล่าว พร้อมจะเชิญพระอาจารย์ไพรภูมิ และหน่วยงานที่ข้องเข้ามาหารือถึงข้อยุติความขัดแย้ง ให้สามารถอยู่กันได้ทั้งวัดและชุมชน ก่อนที่จะเกิดปัญหารุนแรงบานปลายขึ้นในภายหลัง ชาวบ้านพอใจจึงได้สลายตัวกลับในเวลาต่อมา

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000154482
 
 

จากคุณ    : ltf06


http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11417433/Y11417433.html
8  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ชวนศึกษาธรรม อันยิ่ง ครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 09:42:58 am
พระอภิธรรม

 หลังจากที่สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ได้ทรงแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์เป็นเวลายาวนานถึง ๔๕ พรรษา คำสั่งสอนที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ทั้งหมดรวบรวมได้ ๘๔๐๐๐ ธรรมขันธ์ เรียกว่าพระไตรปิฏก ซึ่งบรรจุคำสั่งสอนและเรื่องราวของพระพุทธศาสนาไว้โดยละเอียด แบ่งออกเป็น ๓ ปิฏก ด้วยกันคือ

๑. พระวินัยปิฏก หรือเรียกสั้นๆว่า พระวินัย เป็นปิฎกที่กล่าวถึงศีล หรือสิกขาบท (บทบัญญัติ) ตลอดจนพิธีกรรม และธรรมเนียมของสงฆ์อันเป็นกฏระเบียบ ที่พระภิกษุสงฆ์และพระภิกษุณีจะต้องปฏิบัติรวมถึงพระพุทธประวัติบางตอนและ ประวัติการทำสังคายนามีทั้งสิ้น ๒๑,๐๐๐ ธรรมขันธ์

๒.พระสุตตันตปิฎก หรือเรียกสั้นๆว่า พระสูตร เป้นปิฎกที่ประมวลพระธรรมเทศนา คำบรรยายธรรม และเรื่องเล่าต่างๆ อันยักเยื้องตามบุคคลและโอกาส เป็นธรรมที่แสดงโดยใช้สมมติโวหาร คือยก สัตว์ บุคคล กษัตริย์ เทวดาเป็นต้น มาแสดงเป็นคำสอนทั้งสิ้น๒๑,๐๐๐ ธรรมขันธ์

๓.พระอภิธรรมปิฎก หรือเรียกสั้นๆว่า พระอภิธรรม เป็นปิฎกที่ประมวลพุทธพจน์ อันเกี่ยวกับหลักธรรมที่เป็นวิชาการว่าด้วยเรื่องของปรมัตถธรรม ๔ ประการ อันได้แก่ จิต เจตสิก รูป และนิพพาน พระอภิธรรม เปรียบเสมือนแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา มีเนื้อหาสุขุมลุ่มลึกอันนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของธรรมชาติของ ชีวิต  เรื่องของกรรมและการส่งผลของกรรม เรื่องภพภูมิต่างๆ เรื่องของการเวียนว่ายตายเกิด และเรื่องของการปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นจุดหมายสูงสุดในพุทธศาสนา มีคำสอนทั้งสิ้น ๔๒,๐๐๐ ธรรมขันธ์


โดยทุกท่านสามารถเริ่มเรียนออนไลน์ได้ที่
http://www.buddhism-online.org/maingroup/apithum.html
9  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / ภาพประกอบ วัฏฏ์สงสาร ใครไม่เข้าใจ ดูที่ภาพนี้ ได้ครับ เมื่อ: ตุลาคม 30, 2011, 05:27:01 pm


ดูัเต็ม ๆ คลิ๊กที่ ลิงก์ นะครับ เพราะภาพใหญ่ ครับ

http://www.nirvanastream.com/media/31w.jpg

เครดิต เว็บ http://www.nirvanastream.com
10  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / คนฟุ้งซ่าน หลับง่าย นั่งสมาธิ แล้วปวดห้ว ควรปฏิบัติแบบไหนดีครับ ? เมื่อ: ตุลาคม 25, 2011, 10:08:35 am
มีเพื่อนคนหนึ่ง ทำนองจะเป็นเด็ก ลูกแหง่ คือ ติดบ้านอยู่กับแม่ เรียนเก่ง ได้ปริญญาตรี 3 ใบ 3 สาขา
ตอนมาบวชเป็นพระ ก็อยากฝึกกรรมฐาน สมาธิ แต่พอทำปฏิบัติ แล้ว ก็จะมีอาการคือง่วง หรือ ปวดหัว
เวลานั่งกรรมฐาน ถ้าเป็นอย่างนี้ควรแนะนำกรรมฐาน อะไรกันดีครับ

 :13: :c017:
11  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ชีวิต นี้สายเกินไปหรือไม่ ? เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 11:10:35 am
ผมเองทำงานเกี่ยวกับ คนที่หลงผิด แล้ว ก็มารับโทษ

  ทุกครั้งที่ต้องคอยตอบ ว่า เขาหมดโอกาสแล้ว เขาไม่มีหนทางแล้ว ถึงแม้เดินจากตรงนี้ไป ชีวิตก็เคว้งคว้าง จึงไม่อยากจากตรงนี้ไป

  แท้ที่จริง ชีวิตของคนเราสายไปแล้ว จริง หรือ ไม่ ? ที่หลังจากทุกคนได้กระทำผิด

  ยังทันเวลาหรือไม่ หรืออายุจะหมดก่อน หรือ โรคภัยไข้เจ็บที่เบียดเบียน

  ความหวังของผู้ป่วย ที่รู้ว่าตนเองจะตาย .... ควรจะเยียวยาอย่างไร ?

  ควรจะให้ ความหมายกับชีวิต อย่างไร ?

  และทำอย่างไร ที่จะให้คนรู้คุณค่าของการมีชีวิต อยู่

        :58:
12  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / สงสัยเรื่องกรรมฐาน ปรับธาตุ ได้ เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 10:51:39 am
สงสัยเรื่องกรรมฐาน ปรับธาตุ ได้

  จะปรับได้อย่างไร โปรดช่วยแนะนำด้วยครับ

 เวลาปรับธาตุ ต้องทำอย่างไร ในกรรมฐาน

  สมมุติ ถ้าอาหารไมย่อย ทำอย่างไร ?

  นอนไม่หลับ กระสับ กระส่าย ทำอย่างไร ?

 กรรมฐาน จะช่วยได้หรือไม่ครับ

  :25:
13  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ได้ยินหลายคน อยากพ้นจากวัฏฏะสงสาร แล้ว วัฏฏะสงสารนี้น่ากลัวอย่างไรครับ เมื่อ: กันยายน 02, 2011, 10:55:59 am
ได้ยินหลายคน อยากพ้นจากวัฏฏะสงสาร แล้ว วัฏฏะสงสารนี้น่ากลัวอย่างไรครับ

คือยังไม่ค่อยจะเข้าใจ เลยครับว่า วัฏฏะส่งสาร นี้ไม่ดีอย่างไร ทำไมถึงต้องออกจาก วัฏฏะสงสาร นี้กันครับ

จึงขอเชิญทุกท่าน มาช่วยกันชี้ความน่ากลัว ของวัฏฏะสงสาร นี้กันด้วยครับ

 :s_hi: :c017: :25:
14  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / MVเพลงผู้หญิงที่ดีที่สุด เมื่อ: สิงหาคม 17, 2011, 02:05:15 pm


MVเพลงผู้หญิงที่ดีที่สุด

อาจจะเลทไปนิด ครับ แต่ติดธุระ หลายวัน ครับ ขอโพสต์ เพลงนี้ให้กับคนที่ยังแม่ในหัวใจ นะครับ

 ;)
15  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / vcdข้อคิดดี ๆ.wmv เรื่อง คุ้กกี้ของฉัน เมื่อ: สิงหาคม 17, 2011, 01:58:36 pm


    * ที่สนามบินนานาชาติระดับโลก มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดี
      >>จำเป็นต้องรอเวลาถึง 3 ชั่วโมงในการเปลี่ยนเครื่องบินเพื่อไปจุดหมายปลายทาง
      >>เธอจึงตัดสินใจเดินไปซื้อหนังสือ 1 เล่ม และคุกกี้ 1 ห่อ
      >>และเตรียมหาที่นั่งเพื่ออ่านและกินฆ่าเวลาไปพลาง ๆ
      >>เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้ 1 แห่ง
      >>เมื่อนั่งลงก็เตรียมหนังสือและคุกกี้ เพื่ออ่านและกินไปพลาง ๆ
      >>เธอสังเกตเห็นว่าข้าง ๆ เธอ
      >>มีชายหนุ่มซึ่งนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา
      >>สักครู่หนึ่ง
      >>ขณะที่เธออ่านหนังสือชายหนุ่มก็หยิบขนมคุกกี้ออกจากถุงซึ่งวางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง
      >>แล้วกินมันทีละชิ้น เธอมองด้วยความโกรธ
      >>แต่ไม่ต้องการทำเรื่องวุ่นวาย เธอจึงทำเป็นไม่สนใจ
      >>เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุกกี้และเฝ้ามองนาฬิกา
      >>ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย กำลังกินมันให้หมดสิ้นไป
      >>เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า "ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดีมีการศึกษาแล้วละก็....ฉันจะชกหน้าเจ้าหมอนี่ให้แหลกไปเลย"
      >>ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน 1 ชิ้น ชายหนุ่มก็หยิบมันกิน 1 ชิ้น ทั้งสองส่งสายตามองกัน
      >>เมื่อคุกกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย...
      >> เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไร ชายหนุ่มค่อย ๆ หยิบคุกกี้ชิ้นสุดท้าย...แล้วหักออกเป็น 2 ชิ้น ส่งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น
      >>เธอรับจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว และคิดในใจว่า
      >>"เขาช่างเป็นคนไร้มารยาทสุด ๆ ช่างไร้การศึกษา ไม่มีแม้แต่พูดขอบคุณสักคำ"
      >>เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของทั้งหมดแล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่อง
      >>ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามองหัวขโมยผู้ไร้มารยาทซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม
      >>ภายหลังจากขึ้นเครื่องและนั่งประจำที่อย่างสบายแล้ว
      >>เธอก็หยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง
      >>ในขณะที่หยิบหนังสือจากกระเป๋า ก็พบว่ามีขนมคุกกี้ 1 ห่อ เธอตกใจมาก
      >>ถ้าคุกกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่า.....คุกกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่แบ่งให้ฉันกิน
      >>เธอลุกขึ้นทันที... แล้ววิ่งออกจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของชายหนุ่ม
      >>แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า มันสายไปเสียแล้วที่จะได้ขอโทษชายหนุ่ม
      >>ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
      >>เธอนั่นเองที่ไร้มารยาท เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง
      >>มีกี่ครั้งในชีวิตของคนเรา ที่ค้นพบในภายหลังว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นการเข้าใจ ผิด
      >>มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น
      >>และทำให้เราตัดสินผู้อื่นจากความคิดเย่อหยิ่งของเราเองซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย
      >>นี่แหละที่ทำให้เราต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนตัดสินผู้อื่น
    * >>หลายๆ ครั้ง ทุกสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ควรมองผู้อื่นในแง่ดี
      >>แล้วคอยสงสัยตัวเองว่า "เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง? เราเคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือไม่"__._,_.___

16  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ทำงานแล้วรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่อยากทำ อยากจะลาออก ไม่อยากทำ เมื่อ: สิงหาคม 01, 2011, 10:01:11 am
ทำงานแล้วรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่อยากทำ อยากจะลาออก ไม่อยากทำ ความรู้สึกนี้มองเห็นว่า การเป็นอยู่ของคนโลกนั้นต้องแ่ก่งแย่ง แข่งขัน เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าคนอื่น จนรู้สึกว่า โลกนี้มันน่าเบื่อ แสนจะไร้ค่า อยากหลบไปบวชเป็นพระเป็นชี ฤาษี บำเพ็ญตนในทางธรรม ความรู้สึก นึกคิดอย่างนี้ จัดว่าเป็นความบ้า หรือ ไม่ ?

 และ ถ้ามีเกิดขึ้นแล้ว จะทำอย่างไร ที่จะแก้อารมณ์ที่เกิดอย่างนี้ ที่จะไม่ให้เกิดอารมณ์ เบื่อ ๆๆๆๆ อย่างนี้ได้

 หรือ เป็นเพราะเราภาวนามาก ๆ จิตเข้ากระแสธรรม ที่จะต้องออกจากโลก

 ขอให้เพื่อน ๆ ที่มีประสพการณ์ ที่ผ่านตรงนี้ ช่วยแนะนำกันด้วย จ้า

  :s_hi: :c017:
17  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / การบวช จะทดแทน พระคุณพ่อแม่ ได้อย่างไร เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2011, 03:39:23 pm
ถ้าพ่อแม่ ไม่มีศรัทธา ให้บวช  แล้วเราไปบวช การบวชจะเป็นการทดแทนคุณพ่อแม่ได้อย่างไร

ผมมีพระรูปหนึ่งเป็นเพื่อนกัน พอเรียบจบ วิศวะ ก็ไปบวชในโครงการอะไรสักอย่าง โดยที่พ่อแม่ไม่ทราบ

และท่านก็ไม่ลาสิกขา ซึ่งตั้งแต่ท่านบวช มานั้นเป็นเวลาหลายสิบปี พ่อแม่ ไม่เคยทำบุญกับท่านเลยมีแต่

บอกว่าให้ท่านสึกมาช่วยงานบ้าน กิจการส่วนตัว ( ขายเครื่องอุปกรณ์ก่อสร้าง )

 :25:
18  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.phasornkaew.org/ วัดผาซ่อนแก้ว เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 12:31:17 pm


http://www.phasornkaew.org/
 วัดผาซ่อนแก้ว


ชมภาพบรรยากาศ ได้ที่ลิงก์นี้ ครับ
http://www.phasornkaew.org/gallery


พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส

ดาวน์โหลดหนังสือ ได้ที่ลิงก์นี้
http://www.phasornkaew.org/

19  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เที่ยวอินเดีย อย่าลืมใช้บริการ !! 'มหาราชาเอกซ์เพรส' เมื่อ: มิถุนายน 12, 2011, 06:45:22 pm
เที่ยวอินเดีย อย่าลืมใช้บริการ !! 'มหาราชาเอกซ์เพรส'
เคยไปอินเดียหลายครั้ง แต่มีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่ได้ใช้บริการรถไฟของที่นี่ โดยเฉพาะรถไฟสายมหาปรินิพพานเอกซ์เพรส

     ซึ่งจัดเป็นการเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปนมัสการสังเวชนียสถาน 4 แห่งในอินเดียและเนปาล นับเป็นบริการที่เอาใจลูกค้าจริงๆ เพราะในระหว่างที่นั่งบนรถไฟหรูขบวนนี้ จะมีการเสิร์ฟอาหาร เสิร์ฟกาแฟ นอนบนที่นอนสะอาด



     ใครจะอาบน้ำอุ่นน้ำเย็นก็มีให้เลือกด้วยบริการเช่นนี้ ทำให้มีลูกค้าต่างชาติมาก จนต้องจองกันไว้ล่วงหน้า เพราะปีหนึ่งๆ ทางการรถไฟเปิดบริการเพียงไม่กี่เดือนนับตั้งแต่เดือนต.ค. ของทุกปี ดร.นาลิน ชินฮาล ผู้อำนวยการด้านการท่องเที่ยวและการตลาด การรถไฟอินเดีย พูดให้ฟังว่า



     การรถไฟอินเดีย มีกิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงการจัดอาหารเสิร์ฟผู้โดยสารทุกขบวนทุกสถานีทั่วอินเดีย ในแต่ละวันต้องจัดอาหารไม่ต่ำกว่า 1 ล้านชุด และในแต่ละเดือนขายตั๋วรถไฟไม่ต่ำกว่า 6 ล้านใบต่อเดือนทั่วอินเดีย จะมีคอลเซ็นเตอร์ อยู่ที่กรุงเดลี มีโทรศัพท์เข้ามาในแต่ละวัน ประมาณ 2 ล้านสาย มีผู้โดยสารต่อเดือนเฉลี่ย 11 ล้านคน



     ด้านการท่องเที่ยวมีขบวนสำหรับ นักท่องเที่ยว มีแพ็กเกจราคาต่ำสุดคือ 10 เหรียญสหรัฐ สำหรับไซต์ซีอิ้งสูงที่สุดคือ ขบวนมหาปรินิพพานเอกซ์เพรส
 


     ซึ่งได้รับรางวัลการท่องเที่ยวยอดเยี่ยมจากการท่องเที่ยวอินเดีย ช่วง 3 ปีที่เปิดมา “คนไทย” เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มาใช้บริการ รองลงมาก็เป็นชาวไต้หวันและเกาหลี โดยอีกไม่นานนี้จะมีขบวนใหม่ชื่อ “มหาราชาเอกซ์เพรส” ในราคา 800 เหรียญสหรัฐ ต่อคืน เป็นชาร์เตอร์แพ็กเกจ บริการการจองรถ จองโรงแรม รถเช่า ลูกค้าสามารถจองผ่านการรถไฟอินเดียได้ทั้งหมด เป็น วันสต็อปเซอร์วิส

     รถไฟอีกขบวนที่มีชื่อเสียงคือ ดาร์จีลิง ฮิลเรลเวย์ ไปสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง ดาร์จีลิง ซึ่งเป็นมรดกโลก เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ เพราะยูเนสโกคัดเลือกให้เป็นมรดกโลก




     รถไฟการท่องเที่ยวเพื่อการขึ้นเขามี 5 ขบวน แล้วแต่ความต้องการของตลาดที่จะเลือกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น พักผ่อนหย่อนใจชายทะเล และการเยี่ยมชมโบราณสถาน โบราณวัตถุ ซึ่งขบวน ดาร์จีลิงได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คนยุโรปและอเมริกัน

     ขบวนรถ “มหาราชาเอกซ์เพรส” จะเริ่มเปิดให้บริการต้นปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างสร้างและตกแต่ง โดยดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้าของอินเดีย ซึ่งออกแบบตกแต่งโรงแรม 5 ดาวของอินเดียมาแล้ว

      รถไฟขบวนนี้มีการให้บริการที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด เช่นเดียวกับขบวนรถไฟที่ดีที่สุดในประเทศต่างๆ มีห้องน้ำอย่างดี พร้อมทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีทีวีทุกห้อง ขนาดห้องพักจะใหญ่กว่าปกติ ห้องอาหารในขบวนรถนี้จะมี 2 ห้อง


     ขบวนรถนี้ดีกว่ามหาปรินิพพานเอกซ์ เพรส เส้นนี้จะเริ่มที่เดลี เข้าอักกราผ่านเมืองต่างๆ แล้วไปสุดที่กัลกัตตา 1 สาย ส่วนอีกสายหนึ่งจากเดลี ไปสุดทางที่มุมไบ

     เป็นขบวนรถระดับ 5 ดาว เริ่มต้นที่ 800 เหรียญสหรัฐต่อคืน ไม่รวมค่าทริป และมีห้องเพรซิเดนท์เชียลสวีต มี 2 ห้องใน 1 ขบวน มีห้องน้ำ 2 ห้อง มีอ่าง อาบน้ำ มีห้องนั่งเล่นและห้องอาหาร ส่วนตัว ราคาห้องละ 2,500 เหรียญสหรัฐต่อคืน (8 หมื่นบาท)

     เวลาลงรถไฟ ลูกค้าที่พักห้อง เพรซิเดนท์เชียลสวีต จะมีรถโค้ชส่วนตัว ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตอนนี้มีคนจองแล้ว ทั้งขบวนทั้งเดือนก.พ. และมี.ค. โดยลูกค้าจากอังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย รัสเซีย


     ขบวนพาเลซ ออนวีลส์ ก็ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งสำหรับตลาดบน แต่ต้องจองล่วงหน้านานถึง 2 ปี ถึงจะได้ใช้บริการ นอกจากนี้ขบวนรถสายอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมมีหลายขบวน อย่างเช่นไป อัครา ไปพาราณสี ฯลฯ แต่ไม่ใช่ขบวนที่จัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว เหมือนมหาปรินิพพานเอกซ์เพรส เพราะสายอื่นๆ ผู้โดยสารทั่วไปสามารถใช้บริการได้ตลอดเวลา

     สายในประเทศที่ได้รับความนิยม เช่น เดลี เชนไน กัลกัตตา มุมไบ ซึ่งเป็นสายหลักที่คนใช้มากที่สุดในขณะนี้ เพราะเป็นเมืองการค้าการพาณิชย์

     ทุกชนชั้นของอินเดียก็ใช้บริการการรถไฟเหมือนกัน คือถ้าเดินทางมากกว่า 18 ชั่วโมงขึ้นไป ตลาดบนจะใช้บินมากกว่า ในระยะใกล้จะไม่นิยมบินเพราะจะเสียเวลาในการเดินทางมากกว่าการเดินทางด้วย รถไฟ ถ้าใช้รถไฟจะสะดวกกว่าเพราะถ้าใช้บริการของรถไฟจะอยู่ในใจกลางของเมือง รถไฟระดับกลางๆ ที่แล่นเเร็ว จะมีผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อวันในทุกขบวน

     รถไฟมีหลายระดับ มีรถไฟนั่ง ตู้นอน มีแอร์กับไม่มีแอร์ มีสองชั้นสามชั้น ถ้าเป็นรถไฟทั่วไปก็ไม่ต้องจอง คนนั่งคนนอนกันเต็มไปหมด ไม่มีแอร์ เช่น คนเดินทางไปทำงาน กลับบ้าน ราคาต่ำสุดประมาณจากเดลีไปมุมไบ 100-150 รูปี หรือ 2-3 เหรียญสหรัฐ ถ้าเป็นตู้นอนราคา 3,000-4,000 รูปี หรือประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ

     ขบวนรถไฟทุกขบวนที่ใช้ในอินเดีย ต่อโดยโรงงานในอินเดียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหัวรถ เครื่องจักร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีโรงงานผลิตหัวจักรรถไฟใหญ่ๆ 2 แห่งในอินเดีย พวกเทคโนโลยีต่างๆ ก็นำเข้า ระบบที่ทันสมัยทางการรถไฟอินเดียพยายามศึกษาจากประเทศอื่นๆ แล้วนำมาพัฒนาเอง

     การรถไฟอินเดียมีแผนที่จะสร้างขบวนรถเร็วที่สุดในอินเดีย เทียบเท่ากับต่างประเทศ อย่างที่ญี่ปุ่นและจีน อีกสองสามปีข้างหน้าจะมีแผนกใหม่อีก 1 แผนกเรียกว่า แผนกรถไฟที่เร็วที่สุด ตอนนี้ขบวนเร็วที่สุดชื่อ “สตัฟดาร์จีเอกซ์เพรส” แล่นระหว่างเดลีถึงอัครา วิ่งประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
20  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 8 ข้อควรหลีกเลี่ยง สำหรับงานแรกในชีวิตคุณ เมื่อ: มิถุนายน 12, 2011, 06:38:18 pm



งานแรก คือจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ทำงาน เพื่อจุดเริ่มต้นที่ดี นี่คือสิ่งที่คุณไม่ควรทำ....

           1. ขาดความอดทน เมื่อเริ่มงานแล้ว อย่าเพิ่งรีบถามถึงผลตอบรับของงาน เมื่อคุณเริ่มสร้างผลงานได้เป็นรูปเป็นร่าง ค่อยถามฟีดแบ็กจากเจ้านาย
       
           2. อดทนเกินไป อย่ามัวแต่อดทนรอให้เพื่อนร่วมงานต้องเป็นฝ่ายเข้ามาแนะนำตัวกับคุณก่อนเลย
       
           3. ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด เหลือบดูเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ด้วยว่าเขาเล่นเฟซบุ๊กหรือแอบแชตบีบีในระหว่างประชุมหรือเปล่า แต่ละบริษัทย่อมไม่เหมือนกัน เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามหน่อยก็ดี เพราะบางที่เขาซีเรียสกับเรื่องนี้นะ
       
           4. ทำลายความประทับใจครั้งแรก การวางตัวให้เจ้านายและเพื่อนร่วมงานประทับใจก็มีความสำคัญ การงานคุณอาจสะดุด หากคุณทำให้พวกเขาไม่ปลื้มตั้งแต่แรกพบ
       
           5. ไม่ปรึกษาเจ้านายเรื่องเป้าหมาย คุณ ควรหาคำตอบไว้ว่าเจ้านายต้องการให้คุณทำอะไรได้สำเร็จบ้างในช่วง 90 วันแรกของการทำงาน เพื่อให้รู้ว่าคุณต้องทำอย่างไรจึงผ่านช่วงโปรฯ ไปได้
       
           6. ไม่เข้าใจเจ้านาย เจ้านายคุณอาจมีแนวทางการสื่อสารที่ต่างไปจากคุณก็ได้ สิ่งสำคัญคือเลือกปฏิบัติในสิ่งที่จะทำให้เจ้านายของคุณพอใจ
       
           7. ฉายเดี่ยว นอกจากเจ้านายของคุณแล้ว เพื่อให้ผลงานออกมาดี คุณควรมองหาผู้ให้คำแนะนำคนอื่นๆ ด้วย
       
           8. ไม่ปลื้มกับงาน คิดซะว่าคุณทำเพื่อหาประสบการณ์ ไม่ใช่ว่าคุณจะต้องทำงานนี้ไปตลอดชีวิตนี่
21  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เส้าหลิน ซอคเกอร์ เมื่อ: มิถุนายน 06, 2011, 10:13:43 am











เส้าหลินซอคเก้อร์

จีนสร้างตำนาน เส้าหลินซอคเก้อร์ของแท้

รายงาน ข่าวจากสำันักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่วัดเส้าหลิน ในประเทศจีน เกาะกระแสบอลโลกฟีเวอร์ ด้วยการเปิดหลักสูตรประยุกต์การฝึกวิชาในวัดด้วยการเล่นฟุตบอล

ทั้ง นี้ ที่วัดได้มีการให้หลวงจีนออกมาเตะฟุตบอล โดยนำท่าทางของศิลปะการป้องกันตัวอันโด่งดังมาเล่นกับลูกฟุตบอล ซึ่งหลวงจีนทั้งหลายต่างโชว์ลีลาการเตะฟุตบอลในแบบหนังจีนกำลังภายใน สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

ข้อมูล mthai
22  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สติของพระซน ( ไม่ใช่พระเซ็น ) เรื่องที่ดีอยากให้อ่านครับ เมื่อ: มิถุนายน 06, 2011, 10:09:13 am
ขอบคุณเจ้าของเรื่องด้วยนะครับ

สติของพระซน

เมื่อ 20 ปีก่อน มีพระรูปนึง ขอเรียกว่าพระซนก็แล้วกันนะครับ ไม่ใช่พระเซ็น
คือบวชพรรษาแรกก็ธุดงค์ตามหลวงพ่อไปอยู่บนเขาซะแล้ว
อยู่เขานี้ กว่าจะเดินขึ้นเขาบุกป่าไปถึงกุฎิที่พักก็ร่วมๆ ชั่วโมง
หอบกันแฮ่ก กุฏิที่พักก็เป็นเพิงง่ายๆ ต้องกางกลดข้างในกุฎิ
กลางคืนวังเวงมาก เงียบ... เสียงใบไม้แห้งตกกรอบแกรบ
เสียงเหมือนคนเดินเหยียบใบไม้เลย ถ้าขวัญอ่อนละเสร็จ

พระซนรูปนี้ท่านฝึกสติฝึกสมาธิมา ก็ไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพายเท่าไหร่ครับ
พึ่งพรรษาแรกนี่ แต่สมชื่อล่ะครับ ท่านก็ซนของท่านไปเรื่อย
แต่กลางคืนท่านก็มีสติ มีสมาธิพอข่มความกลัวได้นะ
ตอนเช้าออกบิณฑบาตร ท่านก็ไปรูปเดียว
หลวงพ่อที่มาด้วยท่านอายุมากแล้ว ขึ้นลงเขาบ่อยๆ ไม่ไหว
ทีนี้เวลาลงเขา ไม่ลงธรรมดาครับ ท่านใช้วิธี "โผ"
คือมัดจีวร บาตร ติดกับตัวให้แน่น เสร็จแล้วก็เกาะต้นไม้ไว้
จากนั้นก็ "โผ" ไปเกาะอีกต้นหนึ่ง(คือพุ่งลงเขามาอย่างเร็ว)
แล้วก็ โผไปเกาะต้นโน้นต้นนี้ แป้ปเดียวถึงตีนเขาเลยครับ
ไปบิณฑบาตรที่หมู่บ้านข้างล่าง ชาวบ้านดีใจนะครับ มีพระมาอยู่เขา
ขาขึ้นโผไม่ได้นะครับ ก็ต้องค่อยๆ เดินขึ้นไป
ตอนขึ้นชั่วโมงนึง ตอนลงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

วันนึงหลวงพ่อได้คนพาเที่ยวรอบเขา พระซนก็เลยเดินทางไปด้วย
อ้อ...ลืมบอกไป บนเขาใช้น้ำที่มาจากแอ่งน้ำฝนสูงขึ้นไป
ชาวบ้านต่อท่อลงมาที่ใกล้ๆ กฏิ ใช้อาบและก็ดื่มด้วยนะครับ

กลุ่มเดินทางรอบเขามาถึงป่าไผ่ พื้นแถวนั้นเต็มไปด้วยใบไผ่ที่ร่วงอยู่
ใครเคยเหยียบใบไผ่จะรู้ว่ามันลื่นมาก และพระซนเองก็กำลังลื่น
ช่วงนั้นเป็นพื้นเท (Slope) พระซนจึงไถลไปตามแนวเขาที่ลาดเท
ลื่นไม่หยุดครับ มือก็พยายามเกาะพื้นก็ไม่อยู่ ใบไผ่มันหนามาก
พระซนหันไปดูเบื้องล่าง อีกไม่กี่เมตร ทางจะขาด นั่นหมายถึง เหว!
ท่านยังลื่นไม่หยุด เหวก็ใกล้เข้ามา จนเริ่มเห็นแล้วว่า ลึกมองไม่เห็นพื้นล่าง
มือก็พยายามยึดดิน แต่ไม่สำเร็จ จับพื้นไม่ติดเลย
ที่กลุ่มก็ไม่มีใครเห็นนะครับ ท่านลื่นลงไปอยู่รูปเดียว
ทำไงดี ทำอะไรไม่ได้แล้ว ยังไงก็ไม่หยุด
...แต่... จิตท่านนิ่งมากครับ
ขณะนั้นจิตของพระซนนิ่งมาก ไม่มีความกลัวในจิต แม้แต่นิดเดียว
ด้วยอานิสงค์การฝึกสติแบบไม่เป็นโล้เป็นพายนั่นแหละครับ
เวลาสถานการณ์คับขันจริงๆ จิตนิ่งสุดๆ ไม่มีอะไรในจิตเลย
สติมาช่วยในเวลาคับขัน ตื่นขึ้นเต็มที่ ความกลัวแทรกไม่ได้เลย
ตอนนี้พระซนพร้อมที่จะตกเหวแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวินาทีต่อไป
ท่านพร้อมแล้ว ตกก็คือตก ตายก็คือตาย

เดชะบุญพอมีอยู่ พอลื่นไปถึงขอบเหว พลันเท้าไปติดกับท่อน้ำที่ชาวบ้านทำไว้
ที่ลำเลียงน้ำไปให้ใช้ที่กุฏิน่ะครับ ติดแล้วหยุดได้พอดี
ขอบเหวพอดีเลยครับ รอดตาย มองลงไปดูที่เหว ลึกมาก ลงไปคงไม่รอด
แต่จิตใจก็ยังคงเหมือนเดิม รอดตายกับจะตกเหว ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
ไม่มีการถอนใจ โล่งอก อะไรเลย... ปกติ... เหตุการณ์ในจิตปกติมาก
ท่านก็ปืนเขากลับขึ้นไปรวมกลุ่มเดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"หลวงพ่อครับ เมื่อกี้พอดีลื่นใบไผ่นิดนึงน่ะครับ" พระซนบอกหลวงพ่อ

ทุกวันนี้ พระซนก็สึกไปแล้ว แต่เค้าฝากมาบอกว่า
ให้ฝึกสติกันไว้นะครับ ฝึกให้มากๆ สติจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่มีอยู่
ในเวลาที่คุณอยู่ในเหตุการณ์คับขัน ในขณะที่ไม่มีอะไรมาช่วยคุณได้แล้ว
นอกจากสติแล้วไม่มีอย่างอื่นจริงๆ
ถ้าคุณจะคบเพื่อนซักคน คบกับคุณสติเถิดครับ
คุณจะมีเพื่อนแท้ และเพื่อนตาย เค้าจะมาหาคุณในยามเดือดร้อนครับ
เค้าฝากมาบอกอย่างนี้นะครับ

จากคุณ : ทางนี้
23  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ทำไมหลายคน เวลาชวนปฏิบัติสมาธิ จะบอกว่าอย่าทำเลยเดี๋ยวเป็นบ้า เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2011, 10:42:06 am
ทำไมหลายคน เวลาชวนปฏิบัติสมาธิ จะบอกว่าอย่าทำเลยเดี๋ยวเป็นบ้า

่คือสงสัยอยู่เหมือนกัน ที่หลายคนชอบตอบอย่างนั้น พอถามเหตุผลทุกคนก็ตอบไม่ได้ว่า

บ้าอย่างไร ?

  มีใคร มีประสพการณ์ เจอคนปฏิบัติสมาธิ แล้วเป็นบ้า จริง ๆ บ้างครับ

  ใครรู้ ช่วยแชร์ประสพการณ์กันหน่อยนะครับ

 :c017:
24  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / กรณีเจริญธรรมอย่างนี้ มีข้อผิดพลาดประการใดแนะนำหรือไม่ครับ เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2011, 08:55:26 pm
กรรมฐานใช้แนวทางอานาปานสติ ครับ

เมื่อจิตสงบดีแล้ว หรือถึงที่สุดแห่งกำลังสมาธิจะได้แล้ว ก็กลับมาพิจารณาใหม่
ถ้าทำอานาปานสติ ก็พิจารณาลมหายใจเข้าออก โดยผมยึดแนวทาง วิปัสสนาญาณ ๙ นะครับ
1. อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันตามเห็นความเกิดและความดับ คือ พิจารณาความเกิดขึ้น และความดับไปแห่งเบญจขันธ์จนเห็นชัดว่า สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้น ครั้นแล้วก็ดับไปในที่สุด (เกิด-ดับ)

2. ภังคานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันตามเห็นความสลาย คือ เมื่อเห็นความเกิด-ดับ เช่นนั้นแล้ว เข้าใจความดับอันเป็นจุดจบสิ้นก็เห็นว่าสังขารทั้งปวงล้วนจะต้องสลายไปในที่ สุด

3. ภยตูปัฏฐานญาณ หมายถึง ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว คือ เมื่อพิจารณาเห็นความแตกสลายของสังขารแล้วก็ปรากฏเป็นของน่ากลัว เพราะล้วนต้องสลายไป ไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น

4. อาทีนวานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงเห็นโทษ คือ เมื่อพิจารณาเห็นสังขารทั้งปวงซึ่งล้วนต้องแตกสลายไป เป็นของน่ากลัวแล้วย่อมคำนึงเห็นสังขารทั้งปวงนั้นว่าเป็นโทษ เป็นสิ่งที่มีความบกพร่อง จะต้องประกอบไปด้วยความทุกข์

5. นิพพิทานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงเห็นความหน่าย คือ เมื่อพิจารณาเห็นว่าสังขารทั้งปวงเป็นโทษแล้ว ย่อมเกิดความหน่ายไม่เพลิดเพลินติดใจในสังขารนั้น

6. มุญจิตุกัมยตาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงด้วยใคร่จะพ้นไปเสีย คือ เมื่อหน่วยสังขารทั้งหลายแล้วย่อมปรารถนาที่จะพ้นไปเสียจากสังขารเหล่านั้น

7. ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงพิจารณาหาทางหลุดพ้น คือ เมื่อต้องการจะพ้นไปเสียจากสังขารจึงกลับหันไปยกเอาสังขารทั้งหลายขึ้นมา พิจารณากำหนดด้วยไตรลักษณ์เพื่อมองหาอุบายที่จะปลดเปลื้องหรือหาทางหลุดพ้น

8. สังขารุเปกขาญาณ หมายถึง ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร คือ เมื่อพิจารณาสังขารต่อไปย่อมเกิดความรู้เห็นสภาวะของสังขารตามความเป็นจริง ว่ามีความเป็นอยู่เป็นไปของมันอย่างนั้นเป็นธรรมดา จึงวางใจเป็นกลางได้ไม่ยินดียินร้ายในสังขารทั้งหลาย ญาณจึงมุ่งสู่นิพพาน โดยเลิกละความเกี่ยวพันกับสังขารอีก

9. สัจจานุโลมิกญาณ หรือ อนุโลมญาณ หมายถึง ญาณอันเป็นไปโดยอนุโลมแก่การหยั่งรู้อริยสัจ คือ เมื่อวางใจเป็นกลางต่อสังขารทั้งหลายและญาณมุ่งสู่นิพพานแล้ว ญาณก็จะส่งผลต่อการตรัสรู้อริยสัจ ย่อมเกิดขึ้นในลำดับต่อไป เป็นขั้นสุดท้ายของวิปัสสนาญาณต่อจากนั้นก็จะทำให้สำเร็จเป็นอริยบุคคลต่อไป

*ลอกมาจาก http://mediacenter.mcu.ac.th/data/caipyo/m6/web/l_toom/p19.php
25  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / กรณีอย่างนี้มีวิธีช่วย ทางกรรมฐานหรือไม่ครับ เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2011, 08:47:49 pm
ลูกศิษย์ของแฟนผมเป็นเด็กหญิงอยู่ชั้นอนุบาล เป็นเด็กน่ารัก เรียนเก่ง กิีฬาเก่ง ว่านอนสอนง่าย ผมเคยเอาของขวัญไปให้เด็กและทำกิจกรรมกับเด็กเหล่านี้ในวันปีใหม่มาสองหนเลย ทำให้ได้รู้จักกับน้องคนนี้ ปัญหาคือว่า เมื่อก่อนสงกราน น้องเขาไปอยู่กับญาติ ที่ชลบุรี แล้วน้องได้พลัดตกสระน้ำ นานหลายนาที จนน้องจมไปอยู่ใต้ท้องสระแล้ว จึงมีคนไปพบ และได้นำน้องส่งโรงบาล อาการของน้องนะตอนนั้นจะไม่รอดแล้วนิ่ง ไม่รู้สึกตัวเลย พอผมรู้ ตอนกลางคืนผมไหว้พระสวดมนต์แล้วนั่งสมาธิ แล้วก็แผ่ส่วนกุศลไปให้น้อง และเจ้ากรรมนายเวรของน้อง ทำแบบนี้อยู่หลายวัน ก็ได้ข่าวดีมาว่า อาการของน้องดีขึ้นแล้ว คือฟื้นแล้ว  ผมจึงไปเยี่ยมกับแฟนพบว่า น้องฟื้นแล้วแต่เหมือนจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ตาของน้องจะลืมอยู่ตลอดเวลา ร่างกายน้องจะกระตุกตลอด เหมือนจำความรู้สึกขณะที่จมน้ำได้ แล้วไม่มีอาการตอบสนองอะไรอีกเลย ตอนนี้ก็มีปัญหาอีกว่า ปอดติดเชื้อ ผมจึงอยากถามพี่ๆว่า พอมีสิ่งไหน ช่วยบรรเทาน้องได้ไหมครับ ถึงจะไม่หายดี แต่อาการดีขึ้นกว่านี้ก็ได้ครับ เห็นแล้วสงสารน้องเขามากครับ

จากคุณ : deseme

ไปอ่านเจอมาจาก

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10467403/Y10467403.html
26  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ล้างกรรมที่ไม่หนักมากด้วย เมตตาเจโตวิมุติ เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2011, 08:44:23 pm
อุปมานิวรณ์ ๕
            ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงกู้หนี้ไปประกอบการงาน การงานของเขาจะพึง
สำเร็จผล เขาจะพึงใช้หนี้ที่เป็นต้นทุนเดิมให้หมดสิ้น และทรัพย์ที่เป็นกำไรของเขา จะพึงมี
เหลืออยู่ สำหรับเลี้ยงภริยา เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเรากู้หนี้ไปประกอบ
การงาน บัดนี้ การงานของเราสำเร็จผลแล้ว เราได้ใช้หนี้ที่เป็นต้นทุนเดิมให้หมดสิ้นแล้ว และ
ทรัพย์ที่เป็นกำไรของเรายังมีเหลืออยู่สำหรับเลี้ยงภริยา ดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ถึงความ
โสมนัส มีความไม่มีหนี้นั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
            ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงเป็นผู้มีอาพาธถึงความลำบากเจ็บหนัก บริโภค
อาหารไม่ได้ และไม่มีกำลังกาย สมัยต่อมา เขาพึงหายจากอาพาธนั้น บริโภคอาหารได้และมี
กำลังกาย เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเราเป็นผู้มีอาพาธ ถึงความลำบาก เจ็บหนัก
บริโภคอาหารไม่ได้ และไม่มีกำลังกาย บัดนี้ เราหายจากอาพาธนั้นแล้ว บริโภคอาหารได้และ
มีกำลังกายเป็นปกติ ดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ ถึงความโสมนัส มีความไม่มีโรคนั้น
เป็นเหตุ ฉันใด.
            ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงถูกจำอยู่ในเรือนจำ สมัยต่อมา เขาจะพึงพ้น
จากเรือนจำนั้นโดยสวัสดีไม่มีภัย ไม่ต้องเสียทรัพย์อะไรๆ เลย เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า
เมื่อก่อนเราถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ บัดนี้ เราพ้นจากเรือนจำนั้นโดยสวัสดีไม่มีภัยแล้ว และเรา
ไม่ต้องเสียทรัพย์อะไรๆ เลยดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ ถึงความโสมนัส มีการพ้นจาก
เรือนจำนั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
            ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษพึงเป็นทาส ไม่ได้พึ่งตัวเอง พึ่งผู้อื่น ไปไหนตาม
ความพอใจไม่ได้ สมัยต่อมา เขาพึงพ้นจากความเป็นทาสนั้น พึ่งตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งผู้อื่น
เป็นไทแก่ตัว ไปไหนได้ตามความพอใจ เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเราเป็นทาส
------------------------------------------------------------------------
หน้าที่  ๓๘๑.
พึ่งตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งผู้อื่น ไปไหนตามความพอใจไม่ได้ บัดนี้ เราพ้นจากความเป็นทาสนั้น
แล้ว พึ่งตัวเอง ไม่ต้องพึ่งผู้อื่น เป็นไทแก่ตัว ไปไหนได้ตามความพอใจ ดังนี้ เขาจะพึงได้
ความปราโมทย์ ถึงความโสมนัส มีความเป็นไทแก่ตัวนั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
            ดูกรวาเสฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษมีทรัพย์ มีโภคสมบัติ จะพึงเดินทางไกลกันดาร
หาอาหารได้ยาก มีภัยเฉพาะหน้า สมัยต่อมา เขาพึงข้ามพ้นทางกันดารนั้นได้ บรรลุถึงหมู่บ้าน
อันเกษมปลอดภัยโดยสวัสดี เขาจะพึงมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเรามีทรัพย์ มีโภค
สมบัติ เดินทางไกลกันดาร หาอาหารได้ยาก มีภัยเฉพาะหน้า บัดนี้ เราข้ามพ้นทางกันดารนั้น
บรรลุถึงหมู่บ้านอันเกษม ปลอดภัยโดยสวัสดีแล้ว ดังนี้ เขาจะพึงได้ความปราโมทย์ถึงความ
โสมนัส มีภูมิสถานอันเกษมนั้นเป็นเหตุ ฉันใด.
            ดูกรวาเสฏฐะ ภิกษุพิจารณาเห็นนิวรณ์ ๕ ประการเหล่านี้ที่ยังละไม่ได้ในตน เหมือนหนี้
เหมือนโรค เหมือนเรือนจำ เหมือนความเป็นทาส เหมือนทางไกลกันดาร และเธอพิจารณา
เห็นนิวรณ์ ๕ ประการที่ละได้แล้วในตน เหมือนความไม่มีหนี้ เหมือนความไม่มีโรค เหมือน
การพ้นจากเรือนจำ เหมือนความเป็นไทแก่ตน เหมือนภูมิสถานอันเกษม ฉันนั้นแล.
            เมื่อเธอพิจารณาเห็นนิวรณ์ ๕ เหล่านี้ ที่ละได้แล้วในตน ย่อมเกิดปราโมทย์ เมื่อ
ปราโมทย์แล้ว ย่อมเกิดปิติ เมื่อมีปิติในใจ กายย่อมสงบ เธอมีกายสงบแล้วย่อมได้เสวยสุข
เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น เธอมีใจประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่สอง ที่สาม
ที่สี่ ก็เหมือนกัน ตามนัยนี้ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์
ทุกเหล่าในทุกสถาน ด้วยใจประกอบด้วยเมตตาอันไพบูลย์ ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้
ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่ คนเป่าสังข์ผู้มีกำลัง พึงยังบุคคลให้รู้แจ้งทั้งสี่ทิศ โดยไม่
ยากเลย ฉันใด กรรมที่ทำพอประมาณอันใดในเมตตาเจโตวิมุตติ ที่บุคคลอบรมแล้วอย่างนี้
กรรมนั้นจะไม่เหลือ ไม่ตั้งอยู่ในรูปาพจรและอรูปาพจรนั้นฉันนั้นเหมือนกัน ดูกรวาเสฏฐะ
แม้นี้แล ก็เป็นทางเพื่อความเป็นสหายแห่งพรหม.
            เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๙  บรรทัดที่ ๘๘๓๔ - ๙๑๐๗.  หน้าที่  ๓๗๐ - ๓๘๑.





ขอบคุณภาพจาก http://www.our-teacher.com
27  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.paipibut.org มูลนิธิเตือนภัยพิบัติ เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2011, 10:46:19 am




http://www.paipibut.org

28  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ชั่วโมงเตือนภัย 14พ.ค.54 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2011, 10:43:01 am






ติดตามได้จากรายการต่อไปนะครับ อย่างน้อยจะได้ลดความวิตกกังวลใจกันบ้างครับ

http://www.paipibut.org/webboard/forum.php
29  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / อนาถ! พระ-ญาติโยมจับกลุ่มเล่นพนันบั้งไฟที่บ้านทุ่งมั่ง ศรีสะเกษ เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2011, 10:38:51 am
ศรีสะเกษ- พระ-โยมจับกลุ่มเล่นพนันบั้งไฟที่บ้านทุ่งมั่ง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ชาวพุทธสลดใจทำให้ศาสนามัวหมอง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ ว่า จากการที่สื่อมวลชนได้มีการตีแผ่การลักลอบเล่นพนันบั้งไฟในเขตพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ที่มีการลักลอบเล่นพนันบั้งไฟกันอย่างเย้ยกฎหมายบ้านเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้าไปทำการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายแต่อย่างใด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
       
       ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่บ้านทุ่งมั่ง ต.อิปาด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า มีการลักลอบเล่นพนันบั้งไฟที่กลางทุ่งนาใกล้บ้านทุ่งมั่ง โดยปรากฏว่า ได้มีบรรดาเซียนพนันจำนวนมากพากันมารวมกลุ่มกันเล่นพนันบั้งไฟกันอย่างเปิด เผย ทั้งที่การเล่นพนันบั้งไฟเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกันทรารมย์ ซึ่งเป็นท้องที่ที่รับผิดชอบรวมทั้งตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เข้าไปทำการตรวจสอบและจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายแต่อย่างใด
       
       ในการเล่นพนันบั้งไฟที่หมู่บ้านแห่งนี้ ปรากฏว่า ได้มีพระจำนวนประมาณ 15 รูปพากันมาชมการจุดบั้งไฟและเล่นพนันบั้งไฟกันอย่างไม่ละอายต่อสายตาของพุทธ ศาสนิกชนทั่วไปที่อยู่ในบริเวณนี้
       
       พระสงฆ์จะพากันนำเอาเงินสดมาแทงพนันบั้งไฟกับเซียนยั้งที่มารับแทง กันอย่างไม่อั้น และหลังจากที่พระสงฆ์แทงพนันบั้งไฟแล้วก็จะพากันมานั่งรอลุ้นผลการจับเวลา บั้งไฟ พร้อมทั้งส่งเสริมเชียร์อย่างสนุกสนานเมื่อเห็นบั้งไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และหลังจากที่ผลการจับเวลาบั้งไฟประกาศออกมา ปรากฏว่า เวลาที่แทงพนันเอาไว้พระสงฆ์เป็นผู้ชนะก็จะไปรับเงินจากเซียนพนันที่มารับ แทงหน้าตาเฉย โดยไม่ได้คำนึงถึงว่าจะผิดพระธรรมวินัยของสงฆ์และกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การที่พระสงฆ์พากันเล่นพนันกับบรรดาเซียนบั้งไฟในครั้งนี้ ได้ทำให้ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์พากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากว่าเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ผิดทั้งกฎหมายและผิดทั้งวินัยของสงฆ์ และมีการเรียกร้องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาโดย ด่วน ก่อนที่ศาสนาพุทธจะมัวหมองไปมากกว่านี้






http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000061914
หน้า: [1]