ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - tasawang
หน้า: [1] 2 3
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ กองผ้าป่า ช่วยเหลือ สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน ปี 2557 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2014, 02:57:13 pm
 st11 st12
2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปณิธาน ในการภาวนา และการเผยแผ่ พระธรรม เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2014, 07:59:50 am
 st11 st12
3  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำสมาธิแล้วมีเสียงในหัว และฝันมากขึ้น เมื่อ: มีนาคม 20, 2013, 10:14:45 am
น่าจะไม่เป็น สมาธิ นะครับ เพราะฟุ้งซ่าน นะครับ

   เพราะ สมาธิ เมื่อภาวนามากๆ แล้ว ฝันจะน้อยลงไปเรื่อย ๆ ครับ เพราะจิต จะหยุดปรุงแต่งลงตาม ไปประมาณนี้ ครับ ที่ว่านอนเป็นสุข เพราะไม่ต้องฝันร้าย และฝันดีครับ

   :49:
4  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ช่วยแนะนำเรียน วิธีปฏิบัติ ใน หน้า เดียวหน่อยครับ เอาแบบที่ได้ผล ครับ เมื่อ: มีนาคม 20, 2013, 10:13:21 am
น่าสนใจมากครับ การปฏิบัติ แบบย่อ นี้ ผมเองก็ตามสนใจ แต่อย่างไร ผมจะลองย่อแบบที่ผมทำให้ก่อนนะครับ

   คือ หายใจเข้า เป็น พุทโธ  หายใจออก เป็น พุทโธ  เท่านี้ครับ

  ในระหว่างที่ต้องการภาวนา พยายามตั้งมั่นในศีล ถ้าเป็นไปได้ ควรนุ่งชุดขาวประจำ ๆ ครับ

   :49:
5  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ศึกษา วิภังคสูตร เพื่อเข้าใจ ธาตุ กัน เถิดครับ เมื่อ: มีนาคม 08, 2013, 09:54:27 am
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://3.bp.blogspot.com

อ่านหน้า ต่าง สุดท้าย
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค

๒. วิภังคสูตร
             ๔ พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ-
*บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราจักแสดง จักจำแนกปฏิจจสมุปบาทแก่พวกเธอ พวกเธอจงฟังปฏิจจสมุปบาท
นั้น จงใส่ใจให้ดีเถิด เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ
             ๕ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิจจสมุปบาท
เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะสังขาร
เป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป เพราะนามรูป
เป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ เพราะผัสสะ
เป็นปัจจัย จึงมีเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย
จึงมีอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ โสกปริเทวทุกข์โทมนัสและอุปายาส
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ฯ
             ๖ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ชราและมรณะเป็นไฉน ความแก่ ภาวะของ
ความแก่ ฟันหลุด ผมหงอก หนังเหี่ยว ความเสื่อมแห่งอายุ ความแก่
หง่อมแห่งอินทรีย์ ในหมู่สัตว์นั้นๆ ของเหล่าสัตว์นั้นๆ นี้เรียกว่าชรา ก็มรณะ
เป็นไฉน ความเคลื่อน ภาวะของความเคลื่อน ความทำลาย ความอันตรธาน
มฤตยู ความตาย กาลกิริยา ความแตกแห่งขันธ์ ความทอดทิ้งซากศพ ความขาด
แห่งชีวิตินทรีย์ จากหมู่สัตว์นั้นๆ ของเหล่าสัตว์นั้นๆ นี้เรียกว่ามรณะ ชราและ
มรณะ ดังพรรณนามาฉะนี้ เรียกว่า ชราและมรณะ ฯ
             ๗ ก็ชาติเป็นไฉน ความเกิด ความบังเกิด ความหยั่งลง ๑- เกิด ๒- เกิด
จำเพาะ ๓- ความปรากฏแห่งขันธ์ ความได้อายตนะครบในหมู่สัตว์นั้นๆ ของ
เหล่าสัตว์นั้นๆ นี้เรียกว่าชาติ ฯ
             ๘ ก็ภพเป็นไฉน ภพ ๓ เหล่านี้คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ
นี้เรียกว่าภพ ฯ
             ๙ ก็อุปาทานเป็นไฉน อุปาทาน ๔ เหล่านี้คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน
สีลพัตตุปาทาน อัตตวาทุปาทาน นี้เรียกว่า อุปาทาน ฯ
             ๑๐ ก็ตัณหาเป็นไฉน ตัณหา ๖ หมวดเหล่านี้คือ รูปตัณหา สัททตัณหา
คันธตัณหา รสตัณหา โผฏฐัพพตัณหา ธัมมตัณหา นี้เรียกว่าตัณหา ฯ
             ๑๑ ก็เวทนาเป็นไฉน เวทนา ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุสัมผัสสชา-
*เวทนา โสตสัมผัสสชาเวทนา ฆานสัมผัสสชาเวทนา ชิวหาสัมผัสสชาเวทนา
กายสัมผัสสชาเวทนา มโนสัมผัสสชาเวทนา นี้เรียกว่าเวทนา ฯ
             ๑๒ ก็ผัสสะเป็นไฉน ผัสสะ ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุสัมผัส
โสตสัมผัส ฆานสัมผัส ชิวหาสัมผัส กายสัมผัส มโนสัมผัส นี้เรียกว่าผัสสะ ฯ
             ๑๓ ก็สฬายตนะเป็นไฉน อายตนะคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
นี้เรียกว่าสฬายตนะ ฯ
@๑. คือเป็นชลาพุชะหรืออัณฑชปฏิสนธิ ๒. คือเป็นสังเสทชปฏิสนธิ ๓. คือเป็น
@อุปปาติกปฏิสนธิ ฯ
             ๑๔ ก็นามรูปเป็นไฉน เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ
นี้เรียกว่านาม มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ นี้เรียกว่ารูป นามและ
รูปดังพรรณนามาฉะนี้ เรียกว่านามรูป ฯ
             ๑๕ ก็วิญญาณเป็นไฉน วิญญาณ ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุวิญญาณ
โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ นี้เรียกว่า
วิญญาณ ฯ
             ๑๖ ก็สังขารเป็นไฉน สังขาร ๓ เหล่านี้คือ กายสังขาร วจีสังขาร
จิตสังขาร นี้เรียกว่าสังขาร ฯ
             ๑๗ ก็อวิชชาเป็นไฉน ความไม่รู้ในทุกข์ ความไม่รู้ในเหตุเกิดแห่ง-
*ทุกข์ ความไม่รู้ในความดับทุกข์ ความไม่รู้ในปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับทุกข์
นี้เรียกว่าอวิชชา ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะ
สังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ... ดังพรรณนามาฉะนี้ ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์
ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ฯ
             ๑๘ ก็เพราะอวิชชานั่นแหละดับด้วยการสำรอกโดยไม่เหลือ สังขารจึง
ดับ เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ ... ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมี
ด้วยประการอย่างนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๒


http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=16&A=33
6  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ปฏิจจสมุปปาทธรรม นัยที่ ๓ วีสตาการา อาการ ๒๐ แห่งปฏิจจสมุปบาท เมื่อ: มีนาคม 08, 2013, 09:50:24 am
ปฏิจจสมุปปาทธรรม นัยที่ ๓ วีสตาการา

อาการ ๒๐ แห่งปฏิจจสมุปปาท คือ อดีตเหตุ ๕, ปัจจุบันผล ๕, ปัจจุบัน เหตุ ๕ และอนาคตผล ๕

มีความหมายว่า อาการ ๒๐ นั้นได้แก่ สภาพความเป็นไปของปฏิจจสมุปปาท นั่นเอง จึงจำแนกไปตามเหตุตามผลแห่งกาลทั้ง ๓ จึงจัดได้เป็น ๔ พวก ๆ ละ ๕ รวมเป็นอาการ  ๒๐ คือ

๑. อดีตเหตุ ๕ ได้แก่ อวิชชา สังขาร ตัณหา อุปาทาน และภพ ธรรม ๕ ประการนี้ เป็นปัจจัยให้ปรากฏปัจจุบันผล ๕

๒. ปัจจุบันผล ๕ ได้แก่ วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ และเวทนา

๓. ปัจจุบันเหตุ ๕ ได้แก่ ตัณหา อุปาทาน ภพ อวิชชา และสังขาร ธรรม ๕ ประการนี้เป็นปัจจัยให้ปรากฏอนาคตผล ๕

๔. อนาคตผล ๕ ได้แก่ วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ และเวทนา

อาการที่เป็นไปในกาลเวลาที่ล่วงไปแล้วซึ่งเรียกว่า อดีตเหตุนั้นมี ๕ ประการ ได้แก่ อวิชชา สังขาร ตัณหา อุปาทาน และภพ(คือกัมมภพ)ที่นับ ตัณหา อุปาทาน ภพ รวมเข้ากับอวิชชา สังขารด้วยนั้น ก็เพราะว่า ธรรม ๕ ประการนี้เกี่ยวเนื่องกัน ไม่เว้นจากกันไปได้เลย กล่าวคือ เมื่อมีอวิชชา สังขาร เกิดขึ้นแล้ว ที่จะไม่มีตัณหา อุปาทาน กัมมภพ เกิดรวมด้วยนั้นเป็นไม่มี ในทำนองเดียวกัน ตัณหา อุปาทาน กัมมภพ ปรากฏเกิดขึ้นในขณะใด ขณะนั้นย่อมจะต้องมี อวิชชา สังขาร เกิดร่วม ด้วยเสมอไป รวมความว่า เพราะในอดีต มีอวิชชาอยู่ จึงได้กระทำกรรม อันเป็น เหตุให้ได้รับผลในปัจจุบัน

ผลที่ได้รับในปัจจุบันนี้ก็ได้แก่วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนารวม ๕ ประการ ไม่นับ ชาติ ชรา มรณะ รวมเข้าด้วยก็เพราะเหตุว่า ชาติ ชรา มรณะ เป็นแต่เพียงอาการของ วิญญาณ นามรูป เท่านั้นเอง ไม่มีองค์ธรรมโดยเฉพาะ จึง ไม่นับรวมเข้าด้วย รวมความว่า เพราะในอดีตกาลได้ก่อเหตุขึ้นไว้ จึงมาได้รับผล เป็นรูปเป็นนามในปัจจุบันนี้

วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา อันเป็นผลในปัจจุบันนี้นี่เอง เป็นตัวการที่ก่อให้มี ตัณหา อุปาทาน กัมมภพ อวิชชา และสังขารขึ้นอีก เพราะว่า ได้ก่อเหตุโดยกระทำกรรมขึ้นอีกดังนี้ จึงเรียกว่า ตัณหา อุปาทาน กัมมภพ อวิชชา สังขาร รวม ๕ ประการนี้เป็นปัจจุบันเหตุ เมื่อได้ก่อให้เกิดปัจจุบันเหตุเช่นนี้แล้ว ก็เป็นที่แน่นอนว่าจะได้รับผลต่อไปในอนาคต ผลที่จะได้รับต่อไปในภายหน้านั้นจึง ได้ชื่อว่า อนาคตผล

เมื่อรู้ผลปัจจุบัน และละเหตุปัจจุบันได้โดยสิ้นเชิงแล้ว ผลในอนาคตก็ไม่มี เมื่อนั้นจึงเรียกว่า สิ้นเหตุสิ้นปัจจัย พ้นจากอาการ ๒๐ แห่งปฏิจจสมุปปาทธรรม นี้ได้



ขอบคุณภาพจาก http://1.bp.blogspot.com


http://abhidhamonline.org/aphi/p8/051.htm
7  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เมื่อพระพุทธองค์ ทรง อสัญญีภาพ เมื่อ: มีนาคม 08, 2013, 09:42:20 am
ทรงอสัญญีภาพ

ทรงอดพระอาหาร ผ่อนเสวยแต่วันละน้อย ๆ บ้าง เสวยอาหารละเอียดบ้าง จนพระกายเหี่ยวแห้ง พระฉวี(ผิว)เศร้าหมอง พระอัฏฐิ(กระดูก)ปรากฏทั่วพระกาย เมื่อทรงลูบพระกาย เส้นพระโลมามีรากเน่าร่วงจากขุมพระโลมา พระกำลังน้อยถอยลง จะเสด็จไปข้างไหนก็ซวนเซล้ม วันหนึ่งทรงอ่อนพระกำลัง อิดโรยโหยหิวที่สุด จนไม่สามารถจะทรงพระกายไว้ได้ ก็ทรงวิสัญญีภาพ(สลบ)ล้มลงในที่นั้น

ขณะนั้น เทพยดาองค์หนึ่งสำคัญผิดคิดว่า พระมหาบุรุษดับขันธ์ทิวงคตแล้ว จึงรีบไปยังพระปราสาทพระเจ้าสุทโธทนะ ณ เมืองกบิลพัสดุ์ ทูลว่า บัดนี้ พระสิทธัตถะกุมารพระราชโอรสของพระองค์ สิ้นพระชนม์ชีพเสียแล้ว พระเจ้าสุทโธทนะรับสั่งถามว่า พระโอรสของเราได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าหรือยัง เป็นประการใด เทพยดาก็ตอบว่า ยังมิทันได้บรรลุพระสัมโพธิญาณ ท้าวเธอไม่ทรงเชื่อ จึงรับสั่งว่า จะเป็นเช่นนั้นไม่ได้ หากพระโอรสของเรายังมิได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จะด่วนทำลายพระชนม์ชีพหามิได้เลย แล้วเทพดาองค์นั้นก็อันตรธานจากพระราชนิเวศน์ไป

ส่วนพระมหาบุรุษ เมื่อได้ซึ่งสัญญาฟื้นพระกายกุมพระสติให้ตั้งมั่น พิจารณาดูปฏิปทาในทุกกรกิริยาที่ทำอยู่ ทรงดำริว่า ถึงบุคคลทั้งหลายใด ๆ ในโลกนี้ จะทำทุกกรกิริยาอย่างอุกฤษฐ์นี้ บุคคลนั้น ๆ ก็ทำทุกกรกิริยาเสมออาตมาเท่านั้น จะทำให้ยิ่งกว่าอาตมาหามิได้ แม้อาตมาปฏิบัติอย่างอุกฤษฐ์อย่างนี้แล้ว ไฉนหนอจึงยังไม่ได้บรรลุพระโพธิญาณ ชรอยทางตรัสรู้จะมีเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่อย่างนี้เป็นแน่ เกิดพระสติหวลระลึกถึงความเพียรทางใจว่า จะเป็นทางตรัสรู้ได้บ้าง

พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
8  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ชอบเสียงสวดมนต์ วันนี้มากคะ ใช่บท แผ่เมตตา 10 ทิศหรือไม่คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2013, 07:10:18 pm
ฟังเหมือนกัน น่าจะเป็น บท เจโตวิมุุตติ ทิศ 10  นะ
9  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ใครเคยแผ่ เมตตา 10 ทิศบ้างครับ ไม่ทราบหาครูอาจารย์ อธิบาย นำสอนเรื่องนี้ได้ที.. เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2013, 07:00:15 pm
 ask1

ใครเคยแผ่ เมตตา 10 ทิศบ้างครับ ไม่ทราบหาครูอาจารย์ อธิบาย นำสอนเรื่องนี้ได้ทีไหน บ้างครับ ที่จะได้ปฏิบัติแผ่เมตตา 10 ทิศ และเราควรมีสภาวะจิต อย่างไรจึงจะสามารถแผ่เมตตา 10 ทิศได้ จำเป็นต้องสวดบท ออกทิศด้วยหรือไม่ครับ

 thk56

10  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ขณะเพ่งจิต คือการตั้งจิตไว้ในกาย ขณะปล่อยจิต คือการตั้งกายไว้ในจิต ใช่หรือไม่ ? เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2013, 06:57:43 pm
 ask1
อยากให้ท่านผู้รู้ ช่วยอธิบาย

   ขณะเพ่งจิต คือ

   การตั้งจิตไว้ในกาย คือ

   ขณะปล่อยจิต คือ

   การตั้งกายไว้ในจิต คือ

  ผมอาจจะยังไม่เข้าใจ เพราะอ่านแล้ว ก็ยังงุนงง กับคำศัพท์ นี้ครับ

   thk56
11  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปุจฉา ขอปรึกษากรรมฐาน ด้วยอีกคนครับ ^^ Z เลียนแบบ แต่ถามจริงครับ เมื่อ: มกราคม 07, 2013, 10:14:53 am
 ans1

  ก็ปฏิบัิติ ตาม อริยมรรค มีองค์ 8 เลยครับ อย่างไรเสีย ก็ต้องมี อุปจาระสมาธิ นะครับ ไม่มีทางหลบเรื่องสมาธิไปได้ หรอกครับ อย่างไรก็ต้องปฏิบัติสมาธิ กันด้วยครับ

 
 :s_hi:
12  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปฏิบัติ กรรมฐาน กันเองโดยการอ่าน อย่างนี้ โดยไม่ขึ้นกรรมฐาน กับครูอาจารย์เป็นการ เมื่อ: มกราคม 07, 2013, 10:13:39 am
 ans1

  การปฏิบัติเอง ตาม ที่อ่าน ได้ฟัง ได้เรียน ได้ทราบ มาจากทางใด ทางหนึ่ง ไม่จัดว่าเป็นการปรามาส เพราะเป็นเหมือนการทดลองปฏิบัติ ดูว่าถูกกับจริต หรือไม่ แต่ ถ้าเมื่อถูกจริต ถูกทาง ถูกอารมณ์ แล้ว ก็ควรไปขึ้นกรรมฐาน ประกาศตนเรียนเป็นทางการ กระทำอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ใช่ ๆ หลบ ๆ ซ่อน ๆ ในการเรียนกรรมฐาน เพราะจะได้รู้วิชา จากครูอาจารย์ ให้สมบูรณ์ ตอนนี้ ครูอาจารย์ เริ่มล้มหาย จากเราไปทุกวัน แล้วนะครับ อย่ามัวเสียเวลา เพราะครูอาจารย์ ท่านจะจากเราไปวันไหน ก็ไม่สามารถที่จะทราบได้นะครับ

  :s_hi: :49:
13  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเรียนเชิญร่วมงานทำบุญประจำปีของคุณแม่พระอาจารย์สมชิด วัดป่าสันติธรรม 12ม.ค.56 เมื่อ: มกราคม 05, 2013, 10:09:52 pm
 st11 st12
14  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การทบทวนกรรมฐาน จำเป็นต้องทำทุกครั้งหรือไม่ครับ เมื่อ: ธันวาคม 27, 2012, 08:57:32 pm
พีเจ ส่องธรรม
ก่อนนอน
ชีวิต..ไร้สาระ..ขณะนี้
ยังไม่สาย..เกินที่..จะแก้ไข
แม้ชีวิต..เหลือน้อย..ลงเพียงใด
ควรภูมิใจ..ที่ได้..ทำดีทัน
ใครจะเห็น..หรือไม่..เป็นไรเล่า
ควรเลือกเอา..ความดี..ที่สร้างสรรค์
ใครจะเห็น..หรือไม่..พีเจว่าไม่สำคัญ
ใจเรานั้น..รู้ว่าดี..เท่านี้พอ..!!!
15  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: รู้สึกเงียบเหงา หดหู่ ครับ ผ่านมา 4 ปีแล้ว ควรทำอย่างไรดีครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2012, 03:04:07 pm
แนะนำให้ติดตามฟัง  เรื่องปาฏิหาริย์แห่งลมหายใจ ทาง RDN มัชฌิมา RADIO ONLINE  เวลาประมาณ  ตั้งแต่  09.00 น.  เป็นต้นไป  ก็เป็นกำลังใจให้นะ  สู้ๆ

ชอบเสียงบรรยาย เรื่อง ปาฏิหาริย์แห่งลมหายใจ โดยพระอาจารย์
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8961.0

ฟังดีนะครับ ผมได้ฟังอยู่วันหนึ่ง ที่พระอาจารย์ท่านได้แสดงธรรม ปฏิบัติภาวนาง่าย ๆ เบื้องต้นแต่ผมว่าใช้ได้ดีเลยนะครับ

  :s_hi: :49:
16  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: คบคนเช่นไร เป็นคนเช่นนั้น ทำไม ? ไม่มีใครเป็นเช่นเรา เลยคะ เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2012, 03:02:07 pm
โฆษณา ชุดนี้ทำได้กินใจ โดยเฉพาะคนเป็นพ่อ อย่างผม ตอนที่มัวแต่นั่งทำงาน จนลืมมองลูกตนเอง ว่าเขาคิดอย่างไร ต้องการอย่างไร ครับ

  :s_good:
17  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ต้องการ 5 หมื่นชื่อ..ด่วน.! เพื่อรักษา "วัดเก่าแก่และโบราณวัตถุ" เมื่อ: ตุลาคม 29, 2012, 10:30:51 am
www.borkboon.com/donate/ต้องการ-5-หมื่นชื่อด่วน-เ/



 ร ะ ก า ศ !!! ร่ ว ม ล ง ชื่ อ 5 ห มื่ น ชื่ อ

เพื่อ

ป้องกันสถานที่เก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา และโบราณวัตถุมากมาย

โดยร่วมลงชื่อ ป้องกันการทำเหมืองทองแดง ทับพุทธสถานเก่าแก่ ที่ Mess Aynak ณ ประเทศอัฟกานิสถาน

รายชื่อนี้ จะยื่นต่อองค์การ UNESCO และต่อประธานาธิบดี ของประเทศอัฟกานิสถาน เพื่อขอต่อรองเลื่อนเวลา ของการทำเหมืองแร่ทองแดงออกไป

การทำเหมืองแร่ทองแดง ซึ่งกำลังจะเริ่มในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ จะทำลายโบราณสถานและโบราณวัตถุทางพระพุทธศาสนาไปสิ้น และสร้างมลพิษให้เกิดขึ้น กับประชาชนอัฟกานิสถานเองด้วย

การขอยืดเวลาออกไป จะทำให้นักโบราณคดีมีเวลาทำงานอนุรักษ์และนำหลักฐานเก่าแก่ของพุทธศาสนา ไปรักษาไว้ในที่อันควร เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

จนถึงบัดนี้ เป็นที่ทราบกันดีในวงวิชาการศึกษาคัมภีร์พระพุทธศาสนาว่า คัมภีร์พุทธที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา ถูกพบจากอัฟกานิสถานกับปากีสถาน ถ้าถูกทำลายไป หลักฐานดั้งเดิมก็ถูกทำลายไปด้วย

ทุกท่านสามารถลงชื่อได้ในทั้ง ๒ เว็บนี้ ซึ่งจะส่งไปคนละแห่ง
18  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / หนังสือ ดูรู้ หนึ่งพรรษา ( บรรณาการเชิญดาวน์โหลดครับ ) เมื่อ: สิงหาคม 05, 2012, 02:12:06 pm




พึ่งจะเริ่มเข้าพรรษานะครับ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์นะครับ

เชิญดาวน์โหลดได้ นะครับ สำหรับสมาชิกครับ

19  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอความอนุเคราะห์พระอาจารย์ช่วยสอนมัชฌิมากรรมฐานตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อ: สิงหาคม 05, 2012, 01:53:21 pm
ผมก็เลยถือโอกาส ขึ้นกรรมฐาน ที่บ้านตามนี้ก่อนเลยเช่นกันครับ บ้านผมอยู่ พิษณุโลก ยังไม่สะดวกไปที่วัดครับ ก็จัดถาดขึ้นบูชาตามนี้ก่อนเมื่อผมมีโอกาสแล้ว จะไปขึ้นกรรมฐานที่วัดราชสิทธาราม อีกครั้ง ครับพรรษานี้ก็จะตั้งใจปฏิบัติกรรมฐาน ครับ เพื่อน ๆ หลายท่านก็คงมีความปรารถนาเช่นเดียวกัน ก็ขอคำแนะนำจากศิษย์พี่ ๆ ทุกท่านช่วยแนะนำด้วยนะครับ

   :25: :25: :25:
20  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / Re: รำลึกเพลงเกี่ยวกับแม่ ใกล้จะวันแม่แล้ว นะครับ เมื่อ: สิงหาคม 04, 2012, 09:56:26 pm
ชอบโฆษณา ลูกผู้ชายยอมบวช นั่นแหละครับ ส่อเรื่องแม่ที่ดี ๆ ได้นะครับ
แต่ถ้าใครเก็บความทรงจำกับแม่ที่ไม่ดี มามันก็ไม่ได้ผลครับ

 เช่นข้างบ้าน โดนแ่ม่ตี แม่ด่า เมาเหล้า อาละวาด เล่นการพนัน อะไรประมาณนี้ ความทรงจำดี ๆ อย่างนี้ฟื้นไม่ได้ครับ ในเรื่องโฆษณาอาจจะโดนใจไม่กี่คน แต่ก็โดนใจผมคนหนึ่งครับ แต่ผมเป็นคนที่ต้องการบวชเองครับ จำได้เลยว่า ตอนอายุ 21 ปีไปหาพ่อแม่ บอกผมจะบวชนะครับ พ่อแม่ตอนนั้นไม่มีอะไรมอบให้ผมเลยครับ นอกจากมาในงานบวชเท่านั้นครับ ตอนนั้นนึกน้อยใจเหมือนกันครับว่า อุตส่าห์ตั้งใจบวชเพื่อทดแทนคุณแต่ พ่อกับแม่ กับมีเงินกินเหล้าเล่นไพ่ไฮโล ได้ทุกวัน แต่ไม่มีเงินซื้อผ้าไตร อัฏฐบริิขาร หรือเป็นเจ้าภาพอะไรสักอย่าง ผมเป็นลูกคนโตด้วยครับ สุดท้ายก็หาเงินเองครับในงานบวช ผมเป็นเจ้าภาพให้ตนเอง แต่ให้พ่อแม่เป็นผู้มอบให้ นึก ๆ ตอนนั้นมันโมโหเหมือนกันครับ เลยพูดค่อนแคะพ่อแม่ไปบ้างเชิงน้อยใจ แต่พอวันนี้ผ่านมา 20 กว่าปีแล้วทำให้ผมนึกถึง พ่อแม่ ผมมากจริง ๆ ครับถึงท่านจะไม่ได้เป็นเจ้าภาพอะไรแค่มาในงานก็พอแล้ว ผมบวชทดแทนคุณก็ไม่เห็นต้องให้พ่อแม่ต้องมาหาอะไรให้ เสียดายวันนี้ผมไ่ม่มีลูกชาย มีแต่ลูกสาว จะได้เห็นผ้ากาสาวพัตรห่มอย่างที่ผมทำให้กับพ่อแม่นั้น เป็นเรื่องไม่มีแล้วครับ
  เล่ามานี้ถ้าใครมีโอกาสแล้ว อย่าทิ้งโอกาสนะครับ อย่าดูแลพ่อแม่วันเดียวคือวันพ่อวันแม่ เท่านั้นนะครับ
 ก่อนที่อะไรมันจะสายไป เพราะท่านจากไปแล้วครับ
  :s_hi:
21  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เคล็ดนั่งกรรมฐานได้นาน ๆ ( นำมาฝาก ) เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2012, 12:16:31 pm
มีบทสรุป เกี่ยวกับท่านั่งกรรมฐาน ต่าง ๆ หรือไม่ครับ ว่าแบบไหน นิยม และดีที่สุดครับ
 :s_hi: :c017:
22  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เว็บนอกแสบ!! ขายเก้าอี้ทรงพระพุทธรูป อ้าง ทำให้เข้าถึงการตรัสรู้ เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2012, 12:09:21 pm
กฎหมายที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
ปอ.มาตรา 206 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น  ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี  หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ
ปอ.มาตรา 207 ผู้ใดก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในที่ประชุมศาสนิกชนเวลาประชุมกันนมัสการหรือกระทำพิธีกรรมตามศาสนาใด ๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี  หรือปรับไม่เกินสองพันบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ
ปอ.มาตรา 208  ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ  สามเณร  นักพรต  หรือนักบวชในศาสนาใด  โดยมิชอบ  เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นเช่นนั้น  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี  หรือปรับไม่เกินสองพันบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ
ปอ.มาตรา 335 ทวิ  ผู้ใดลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปหรือวัตถุในทางศาสนา  ถ้าทรัพย์นั้นเป็นที่สักการะบูชาของประชาชน  หรือเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ  หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของพระพุทธรูปหรือวัตถุดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี  และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำผิดตามวรรคแรกได้กระทำในวัด  สำนักสงฆ์  สถานอันเป็นที่เคารพในศาสนา โบราณสถานอันเป็นที่ทรัพย์สินของแผ่นดิน  สถานที่ราชการหรือพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ  ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี  และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท
ปอ.มาตรา  339 ทวิ  ถ้าการชิงทรัพย์ได้กระทำต่อทรัพย์มาตรา 335 ทวิ  วรรคแรก  ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี  และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท
ถ้าการชิงทรัพย์นั้นได้กระทำในสถานที่ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 335 ทวิ  วรรคสองด้วย  ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี  และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
ปอ.มาตรา 340 ทวิ  ถ้าการปล้นทรัพย์ได้กระทำในสถานที่ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 335 ทวิ วรรคแรก  ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี  และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
ถ้าการปล้นทรัพย์นั้น ได้กระทำในสถานที่ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 335 ทวิ  วรรคสองด้วย  ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี  และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
ปอ.มาตรา 147  ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ  หรือรักษาทรัพย์ใด  เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน  หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต  หรือ  โดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย  ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี  และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท (ปอ.ม.352)
ปอ.มาตรา 161 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร  กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร  กระทำการปลอมแปลงเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่เช่นนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี  และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท (ประกอบ ปอ.ม.264)


น่าจะเข้ากับมาตรา นี้ นะครับ โดยส่วนกฏหมาย
23  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ช็อค.! 'พระเจสัน ยัง-ดาริกา' ประกาศถอนหมั้น ชาวเน็ต..อนุโมทนาบุญ เมื่อ: มิถุนายน 26, 2012, 08:37:35 pm
อย่าพึ่งรีบด่วนสรุปกันเร็ว ไป
ติดตามข่าวนี้อยู่ เช่นกันครับ

  ก็อนุโมทนา กับความตั้งใจที่ศึกษาพระธรรม ของท่านด้วยครับ

   :s_hi:
24  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 'พบ 2 พี่น้องยอดกตัญญู'..ช่วยพ่อขายของทุกเช้า เมื่อ: มิถุนายน 26, 2012, 08:35:37 pm
เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ทำให้มองเห็นแง่มุมของ พระธรรมมากขึ้นครับ

   1. กฏแห่งกรรม ไม่มีใครหนีพ้น การที่คุณแม่ต้องป่วย นอนได้ท่าเดียว และไปไหนไม่ได้นั้น คิดว่ามาจากกรรมที่เคยสร้างไว้ในอดีต ส่วนหนึ่งเป็นแน่

   2. การที่คุณพ่อ ไม่เอากับชีวิต ทั้งที่ ๆ มีสภาพร่างกายดี แต่กลับหมักหมมกับ อบายมุขนั้นเป็นเพราะขาดการอบรมธรรมะ ไม่ได้ปฏิบัติ

   3. นิมิตของคนดี คือ ความกตัญญู

   4. การที่คนจะดี หรือ จะเลว ไม่ได้เกี่ยวเพราะชาติกำเหนิด แต่เกี่ยวเพราะมีธรรมมากน้อยเพียงใด

   5. คนดีที่ได้รับผลดี ต้องผ่านการอดทน เพราะผลของกรรมดีนั้น ที่เป็นรูปธรรมนั้น เป็นเรื่องที่กล่าวแสดงได้ยาก เชื่อว่ามีคนดี ๆ ที่ทำดี เสียสละ แต่ตกระกำลำบากยังมีอีกมาก ส่วนคนที่ทำเลว ผลกรรมเลวยังไม่มาแสดงก็ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก


   6.ทุกข์ในสังสารวัฏ นี้ไม่จบสิ้นตราบใดที่เรายังหายใจรดร่วงหล่น แผ่นดิน น้ำตาที่ำไหลหยด ทุกข์ที่ถาโุถม อีกกี่มากมายนั้น จะไม่หมดไป ตราบใดที่เรายังต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิด

   7.จงเชื่อผลแห่งกรรมเถอะ แล้วเร่งรีบสะสมความดี และ ปฏิบัติภาวนาอย่างน้อย ๆ ก็ขั้นพื้นฐาน

    :25: :25: :25: :c017:
25  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมสาระวันนี้ "เข้าใจ ธาตุ ก็เข้าใจ นามรูป รู้ที่ตั้งที่ดับ เพราะ อุปาทายรูป " เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 01:28:04 pm
ถ้าผมจำไม่ผิด เคยมีกระทู้ว่าด้วยเรื่อง ธาตุ ที่มีผุ้ยกข้อความในคู่มื่อกรรมฐาน กล่าวเรื่องธาตุ และพระอาจารย์เคยอธิบายไว้ ตั้งแต่ เรื่อง รูป คือหทัยรูป เป็น อายตนะรูป อุปาทายรูป อะไรประมาณนี้แหละ ถ้าได้อ่านหรือค้นเจอตรงนั้นเอามาช่วย น่าจะเข้าโจทก์ นี้โดยไวนะครับ

  ผมว่า ความสำคัญอยู่ที่ ความฉลาดในสมาธิ จะเห็นคำตอบเรื่อง รูป เรื่อง ธาตุ หรือไม่

  ถ้าลำดับไม่ผิด น่าจะมีผู้ถามเรื่องการสัมปยุตธาตุ และ สัมปยุตธรรม น่าจะเป็นเหตุที่พระอาจารย์ออกบทความธรรมบทนี้มาให้ได้อ่านกันในเมื่อวานนะครับ

   :s_hi:
26  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมสาระวันนี้ "ธรรมปฏิรูป แปลว่า ธรรมปลอม,ธรรมเทียม,ธรรมที่ไม่แท้ " เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 11:34:37 pm
แต่ถ้าอ่านให้ดี ก็มีความหมายแล้วในตัว นะครับ ส่วนนี้ยังไม่ได้เป็นพระสูตรนะครับ ยังเป็นแค่ส่วนนำอธิบายศัพท์ครับ ผมลองเข้าไปอ่านพระสูตร แล้ว น่าอ่านมากครับ

  :25: :25: :25:
27  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมสาระวันนี้ "“เราหยุดแล้ว องคุลิมาล ท่านต่างหากจงหยุด" เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 11:33:29 pm


หยุด เป็นคุณธรรมแรก ในพระพุทธศาสนา หัวใจศาสนา ข้อที่ 1 ครับ

 หยุด คือการไม่เบียดเบียน

 หยุด คือการไม่ทำชั่ว ครับ

 นับว่าเป็นบทความที่เริ่ม ต้น ในการภาวนา ที่ดีครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ

28  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: มจร.- ผู้นำพุทธ 85 ประเทศ ฉลองวิสาขบูชานานาชาติ เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2012, 01:39:04 pm
ถึงแม้ ว่า มจร. จะโดนภัยน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็กู้วิกฤต แก้สถานการณ์ และยังคงเดินหน้าเป็นศูนย์สัมพันธ์ศาสนาพุทธโลก ต่อไป ปีนี้ทราบข่าว ว่า ทางรัฐบาล สรุปแล้วให้จังหวัด ปทุมธานี ฐานศูนย์กลางใหญ่ในการเผยแผ่ พุทธศาสนา พุทธชยันตี จัดงานได้ใหญ่ที่สุด ครับ....

   ก็อนุโมทนา กับ คณะสงฆ์ มหานิกายที่ ทำให้พุทธศาสนาขจร ขจายไปทั่วโลกครับ

   ที่สำคัญ นะครับ ใครเคยได้อ่านประวัติของ วัดประยูรวงษาวาศ หรือไม่ครับ ว่ามีความเกี่ยวข้องกับวัดพลับอย่างไร ในสมัยที่ศิษย์กรรมฐานเป็น เจ้าอาวาส นะครับ


   
    ขอบคุณภาพประกอบจาก
    รวมภาพ GiF animation สำหรับ มัชฌิมา คะ
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7623.0
    ตามโครงการรณรงค์การใช้ Gif อนิเมชั่น ของ คุณ patra ครับ

 
29  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "ตำนานภูลังกา" ดินแดนแห่งพระเจ้าห้าพระองค์ เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2012, 01:33:11 pm
พิชิต ภูลังกา 1409 ขั้นบันได กับ noverber rain ( facebook )
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6976.0






มีภาพให้ดู อย่างจุใจ นะครับ
ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธ ครับ
30  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ศรัทธาหัวเต่า สมาธิหัวตอ เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2012, 01:30:53 pm

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.oknation.net

สมาธิหัวตอ

   ในความเข้าใจของผมนั้นหมายถึง สมาธิที่ทำไปไร้ประโยชน์ นะครับ ไม่โตแล้ว ตายจบตรงนั้นแล้ว เพราะถูกตัดทำลายแล้ว เช่นการบริกรรมไป แล้ว เดี๋ยวก็กลายเป็นนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นเป็นต้น กลายเป็นนิ่งนั่งหลับ อยู่อย่างนั้น ไม่มีธรรมใด ๆ เกิดขึ้นเลยในขณะนั้น นอกจาก นิ่ง นั่ง หลับ เฉย เฉพาะหน้านั้น

     สมาธิหัวตอ กํบ สมาธิหินทับหญ้า นี่น่าจะมีความหมายคล้าย ๆ กันนะครับ

     ส่วน สมาธิหัวต่อ นี่อันตรายครับ พวกบ้า ทะลุ นะครับ ไม่ใช่ บรรลุ นะครับ พวกนี้พวกคลั่งการเห็น ชอบพูดเกี่ยวกับเรื่องการเห็น เทพ ผี สาง เทวดา สิ่งที่ไม่มีตัวตนให้คนทั่วไปเห็น อีกสักพัก ก็ไปเป็นร่างทรง บ้าง เพ้อพก แต่เรื่องพวก วิญญาณ สาระตะไปเรื่อย ๆ จนเกิดมานะสำคัญว่าตนเอง นั้นสุงส่งกว่าใคร ครับ

     สมาธิหัวต่อ นี่ต้องระวัง นะครับ

   
31  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: "ห้องน้ำสาธารณะใหญ่ที่สุดในโลก" ที่ญี่ปุ่น เป็นมากกว่าที่ปลดทุกข์ธรรมดา..มาดูกัน เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2012, 08:40:19 pm
ญี่ปุ่นทำได้สมกับชื่อห้องน้ำครับ สุขา เมืองไทยเราเอง เห็นตามวัดก็พยายามปรับปรุง ให้มีแอร์ ทีวี อินเตอร์เน็ต ใช้ในห้องน้ำด้วย ผมเข้าไปบางทีแล้วไม่กล้าใช้ครับ เพราะบางห้องปูพรมด้วย ปกติผมเป็นคนใช้ห้องน้ำแล้วชอบราดน้ำฉีดน้ำครับ เห็นปูพรมแล้ว อึ้งครับต้องไปใช้ตามปั๊มน้ำมันแทนครับ วัดที่ผมเจอเ็ห็นมีที่อยุํธยา ที่หนึ่งครับ ถ้าจำไม่ผิดก็วัดท่าการ้อง นะครับ

 ส่วนวัดที่ติดเน็ตเวิร์กเข้าไป ผมสงสัยเหมือนกัน เขาแอบติดกล้องไว้ด้วยหรือไม่ นี่สิผมสงสัยนะครับ เพราะสมัยนี้ hitect นะครับ ต้องระวังนะครับ ห้องน้ำอาจจะไม่ใช่ที่ส่วนตัวต่อไป ขนาดอยู่ในบ้านพวกยังเอากล้องมาส่องเลย อันนี้ผมว่า ต่อไปความเป็นส่วนตัวจะมีน้อยลงนะครับ เพราะว่าตาเหล่านี้กำลังมีอยู่ทั่วไปหมดแล้วครับ

  :c017: :coffee2: :49:
32  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / Re: ช่วยด้วย USB Flash Drive โกงความจุ เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2012, 08:59:30 pm
เคยสงสัยเหมือนกัน พึ่งถึงบางอ้อ ก็เพราะเหตุนี้เองครับ ขอบคุณมากครับ
ชาวธรรม ก็ควรจะมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์มาก ๆ หน่อย นะครับ ยิ่งต้องใช้ อินเตอร์เน็ตทุกวัน

 :c017:
33  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ยังมีคนอีกมากมาย ที่ร่วมปิดทองหลังพระ อยากเชิญท่านทั้งหลายมาร่วมปิดทองหลังพระกัน เมื่อ: เมษายน 30, 2012, 06:18:57 pm
สาธุ ครับ
ฟังดีมากนะครับ

  :25:
34  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: พิธีล้างป่าช้า มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ครั้งที่ 2 ถึง25 มี.ค.- 29 พ.ค.55 เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 02:19:20 pm
น่าสนใจ นะครับ
 :25: :25: :25:
35  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญเข้าปฏิบัติธรรมวันเสาร์-อาทิตย์ที่๒๖-๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 02:18:59 pm
สาธุ ครับที่ยังมี ศูนย์กลางพระกรรมฐาน ยังคงเผยแผ่ และ มีการปฏิบัติทุกวัน ทุกเดือนครับ

 สาธุ สาธุ สาธู
 :49: :25: :25: :25:
36  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เผย..พระธาตุหลากสีของ..ปรมาจารย์เซน เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 01:59:47 pm
มหัศจรรย์ ครับ ไม่เคยเห็นครับ

 :c017:
37  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รายงาน 7 วันเทศกาล เพื่อความปลอดภัย ( น้อยลงหรือไม่ ) เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 11:02:26 pm


เพียงวันแรก 12 เมษายน 2555 นะครับ



อันนี้รวม 2 วัน 12 -13 เมษายน 2555



สาเหตุหลัก ก็ เมาแล้วขับ

38  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เป็นไปได้หรือป่าวครับ ที่คนดื่มเหล้าจะสามารถ เข้า ฌาน ได้ 5 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 12:04:29 pm
คิดว่า ฌาน 5 ของสัปเหร่อ ก็คือ ดื่มแล้ว ก็ไปนอนอยู่ที่ ชาน 5 กระมังครับ

 :hee20hee20hee: :hee20hee20hee:
39  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / คิดอย่างไร ไม่ให้ทุกข์ เมื่อ: เมษายน 01, 2012, 03:22:21 pm


ชีวิตกับความทุกข์นี้ดูเหมือนว่าจะเป็นของที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า “ทุกข์เป็นสัจจะ” หมายความว่า เป็นความจริง เป็นสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่ตลอดเวลา

มีพระพุทธภาษิตบทหนึ่งตรัสว่า “ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นดับไป นอกจากทุกข์หามีอะไรไม่” ชีวิตจิตใจของเรานั้นมีเรื่องเกี่ยวกับความทุกข์อยู่ตลอดเวลา เกิด-ดับ.. เกิด-ดับ.. อยู่ในชีวิตของเรา

แต่ว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น เป็นเรื่องที่แก้ได้ พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ค้นพบวิธีการแก้ทุกข์เป็นคนแรก แล้วก็ใช้วิธีนั้นเยียวยาพระองค์เอง จนพระองค์หลุดพ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อนอย่างเด็ดขาด ไม่มีความทุกข์ยากลำบากใจเกิดขึ้นในใจต่อไป

ตามปกติคนเราไม่ได้เป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา ที่เป็นทุกข์เกิดขึ้นนั้นก็เพราะความคิดผิดในเรื่องเกี่ยวกับชีวิต เกี่ยวกับความนึกคิดจิตใจของเรา เมื่อใดเราคิดผิดไป เราก็เกิดความทุกข์ความเดือดร้อน

การที่คิดผิดนั้นก็เพราะอำนาจอวิชชา ความไม่รู้ไม่เข้าใจในเรื่องเกี่ยวกับชีวิตในเรื่องปัญหาเหล่านั้น ความทุกข์อาจเกิดแทรกแซงขึ้นได้ แต่ว่าความทุกข์มันก็เป็นสิ่งไม่เที่ยงเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเป็นของเที่ยงแท้ถาวรคงทนอยู่อย่างนั้นตลอดไป อะไรๆมันเกิดขึ้นนั้น มันอยู่ในสภาพที่เรียกว่าเกิด-ดับอยู่ตลอดเวลา

ความทุกข์ก็เกิด-ดับ ความสุขก็เกิด-ดับ อะไรๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้น มันเป็นเรื่องเกิด-ดับอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าถ้ามีเหตุปัจจัยเครื่องส่งเสริม การเกิดนั้นก็ง่ายมาก แล้วก็ดับอยู่เหมือนกัน

ความเกิด-ดับของสิ่งทั้งหลายนั้น มันชั่วขณะเดียวเท่านั้น ชั่วขณะหายใจเข้าหายใจออกเท่านั้นเอง แล้วมันก็ดับไปก่อน แต่มันเกิดอีก ทำไมจึงได้เกิดขึ้นมาอีก ก็เพราะว่าเราเอาใจเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นในทางที่ผิด เราไปยึดสิ่งนั้นไว้ ไปคิดในเรื่องนั้นโดยไม่ถูกต้อง เราก็มีความทุกข์ติดต่อเรื่อยๆกันไป

ตัวอย่างเช่นว่าเรากลุ้มใจ ความกลุ้มใจนั้นก็เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป แต่ว่าเราก็ยังกลุ้มอยู่ตลอดเวลา ที่เรากลุ้มนั้น ก็เพราะว่าเราใส่เชื้อแห่งความกลุ้มเข้าไปในความคิดของเรา คล้ายกับไฟที่มันไหม้เชื้อ เมื่อมีเชื้อให้ไหม้ ไฟก็ลุกโพลงเรื่อยไป ไม่รู้จักดับไม่รู้จักสิ้น

แต่ถ้าหมดเชื้อเมื่อใดไฟมันก็ดับลงเมื่อนั้น แต่ถ้ายังมีเชื้ออยู่ไฟก็ไม่ดับ

คนที่หมั่นใส่เชื้อเพลิง ไฟก็ลุกโหมอยู่ตลอดเวลาฉันใด ในจิตใจของเรานี้ก็เหมือนกัน ถ้าเราเพิ่มเชื้อให้แก่ความทุกข์ ให้แก่ความกลุ้มใจอะไรก็ตาม สิ่งนั้นก็เกิดเรื่อยไปไม่รู้จักจบสิ้น เช่นว่า

ความกลุ้มใจเกิดขึ้นเพราะว่าเราคิดในแง่ที่ให้เกิดความกลุ้มใจ

ความโกรธก็คิดในแง่ที่ให้เกิดความโกรธ

ความเกลียดก็เพราะคิดในแง่ที่ให้เกิดความเกลียด

ความริษยาเกิดขึ้นในใจ ก็เพราะความคิดในแง่ริษยา

แล้วมันก็มีเชื้อคืออารมณ์ที่เราใส่ลงไปนั่นแหละ มันก็ลุกโพลงอยู่ในใจของเรา เผาใจของเราให้เร่าร้อนอยู่ด้วย ปัญหาอย่างนั้นตลอดเวลา ไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น เพราะว่าเราไม่รู้จักตัดต้นเหตุ

พระพุทธเจ้าท่านชี้ไว้ชัดในเรื่องนี้ว่า สิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ ไม่มีเหตุ ผลจะเกิดขึ้นไม่ได้ แต่บางทีเราก็ลืมไปถึงหลักความจริงข้อนี้ ไม่ได้เอาหลักความจริงข้อนี้มาใช้ เป็นหลักในการปฏิบัติ แก้ไขปัญหา เช่น มีอะไรเกิดขึ้น เราก็ไม่ได้คิดนึกตรึกตรองเพื่อจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้น เราปล่อยให้ใจของเรามีแต่ความทุกข์ความเดือดร้อนตลอดเวลา ไม่คิดแก้ไม่สะสาง เราก็มีความทุกข์เรื่อยไป

เพราะฉะนั้น ในการแก้ไขปัญหาชีวิต คือความทุกข์ความเดือดร้อน เราต้องใช้ธรรมะเป็นเครื่องประกอบ เอาธรรมะเข้าไปแก้

บางทีมันมีเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา แล้วเราก็มีความไม่สบายใจด้วยปัญหานั้นๆ ตัวอย่างที่เห็นง่ายๆ เช่นว่าเราต้องสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิตของเราไป จะเป็นบุคคลก็ตาม จะเป็นวัตถุสิ่งของเครี่องใช้ไม้สอยก็ตาม

เวลาสิ่งนั้นสูญหายไป เราก็มีความระทมตรมตรอมใจ มีความทุกข์อยู่ในใจตลอดเวลา ไม่สบายไม่อยากพูดกับใคร นั่งคนเดียว ปล่อยจิตปล่อยใจไปตามอารมณ์ อันเป็นเหตุที่จะให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนใจเท่านั้น

ไม่พยายามเปลี่ยนความคิด ไม่พยายามวิเคราะห์วิจัย ตัวปัญหาที่มันเกิดขึ้นในใจของเราว่า มันคืออะไร ทำไมมันจึงทำให้เรามีความคิดอย่างนั้นมีความคิดอย่างนี้ การไม่วิเคราะห์วิจัยนั้นแหละเรียกว่า “ไม่ใช้ปัญญา” เป็นเครื่องพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า

พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ชัดในเรื่องนี้ ท่านบอกว่า เมื่อใดมีอะไรเกิดขึ้นในใจของเรา จงใช้ปัญญาเพ่งพินิจในเรื่องนั้น เพ่งพินิจหมายความว่าดูอย่างละเอียด ดูอย่างรอบคอบ ดูให้มันลึกซึ้ง เพื่อจะให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเราจะแก้ไขสิ่งนั้นอย่างไร

ตามปกติคนเราทั่วๆ ไปนั้น ไม่ค่อยจะได้ใช้สิ่งนี้ ที่ไม่ได้ใช้นั้นเพราะอะไร เพราะว่าไม่เคยใช้เลย ก็ใช้ไม่เป็น แต่ถ้าหัดใช้บ่อยๆ ก็เคยชินเป็นนิสัย แล้วเราก็จะหยิบเอาปัญหาขึ้นมาวินิจฉัยได้ง่ายขึ้น

จึงอยากขอแนะนำญาติโยมทั้งหลายว่า เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นเราต้องหมั่นคิด

แต่ว่าการคิดนั้นอย่าคิดในแง่ที่ให้เกิดความกลุ้มใจ ในแง่ที่ให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อนใจ เราต้องคิดในแง่ที่ว่าความจริงของสิ่งนั้นคืออะไร มันเกิดจากอะไร มันอาศัยอะไร แล้วเมื่อสิ่งนั้นมาอยู่ในใจของเรานั้น สภาพจิตใจของเราเป็นอย่างไร มีความทุกข์มีความเบาใจ มีความสุขใจ ร้อนใจ เย็นใจ หรือว่าสงบใจอย่างไร เป็นเรื่องที่จะต้องเพ่งลงไปพิจารณาลงไป ให้เข้าใจเรื่องนั้นชัดเจนถูกต้อง


(เรียบเรียงจากส่วนหนึ่งของปาฐกถาธรรม
วันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๐)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 132 พฤศจิกายน - ธันวาคม 2554
โดย พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) วัดชลประทานรังสฤษฎ์ จ.นนทบุรี)
40  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ธรรมมะ สั้น ๆ ง่าย ๆ อริยะสัจจ์ประยุกต์มิใช่ปฏิรูป เมื่อ: เมษายน 01, 2012, 03:19:11 pm
การเอาชนะใจตนเองคือการมี
“ศีล” อันประเสริฐ 
 ท่านปัญญานันทภิกขุ แห่งวัดชลประทานรังสฤษฎ์
ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับการเอาชนะใจตนเองไว้ดังนี้
 
“การควบคุมตัวเองนั้นมันหนักเหนื่อยในชั้นต้น ความจริงสบายปลายมือ
แต่ว่าคนเราขาดความอดทน จึงไม่สามารถจะควบคุมตัวเองไว้ได้
เรามีแต่เรื่องการตามใจตัวเอง การปล่อยไปตามอารมณ์
ปล่อยไปตามอำนาจของสิ่งแวดล้อม
แต่ไม่เคยกำราบปราบปรามตัวเอง จึงยากแก่การที่จะควบคุมตัวเอง
“ แต่ถ้าหากเราคุมบ่อยๆ ประพฤติจนเป็นนิสัย
สิ่งใดที่ทำจนเป็นปกติ มันก็เป็นศีลสำหรับบุคคลนั้น
 เพราะศีลนั้นเขาแปลว่า “ปกติ”
ก็ได้ เช่นว่าเราตื่นเช้าเป็นปกติ ก็เรียกว่ามีศีลของคนตื่นเช้า
 เราทำอะไรๆเป็นปกติก็เรียกว่ามีศีลในรูปนั้น
“คนเราบังคับตัวเองได้มากเท่าใด ยิ่งเป็นผู้ประเสริฐมากเท่านั้น
คนที่ประเสริฐคือคนที่บังคับตัวเองได้ ถ้าบังคับตัวเอง
ไม่ได้ก็มีประเสริฐอะไร
ความใหญ่ของคนมันอยู่ที่การบังคับตัวเอง
ถ้าไม่รู้จักบังคับตัวเอง เขาตั้งให้ใหญ่เท่าใด
มันก็ใหญ่ไม่ได้เรื่องนั่นแหละ สำคัญมันอยู่ตรงนี้
เพราะฉะนั้นเราจะต้องฝึกบังคับตัวเองไว้ เหนี่ยวรั้งไว้” 


หน้า: [1] 2 3