ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คนไม่ยอม "ฟังธรรม" มักลำเค็ญ เพราะไม่เห็น..ดีชั่วที่ตัวทำ  (อ่าน 1526 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28413
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


การฟังธรรมตามกาล

อรรถกถาท่านกล่าวว่า บุคคลใดมีใจฟุ้งซ่าน ถูกวิตกอย่างใดอย่างหนึ่งมีกามวิตก คือการตรึกถึงกามเป็นต้นครอบงำ การฟังธรรมเพื่อขจัดความฟุ้งซ่านในขณะนั้น เรียกว่าการฟังธรรมตามกาล เพราะละอกุศลวิตกเป็นต้นได้

อีกอย่างหนึ่ง การเข้าไปหากัลยาณมิตรแล้วฟังธรรม เพื่อกำจัดความสงสัยในกาลใด กาลนั้นชื่อว่าการฟังธรรมตามกาล การฟังธรรมตามกาลจัดเป็นอุดมมงคล เพราะเป็นเหตุให้ได้บรรลุคุณวิเศษต่างๆ มีการละนิวรณ์เป็นต้นได้ นอกจากนั้นยังกำจัดกิเลสให้สิ้นไปได้ด้วย

   การฟังธรรมมีอานิสงส์ถึง ๕ ประการ (จาก : อัง. ปัญจกนิบาต ข้อ ๑๐๒) คือ
   ๑. ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟัง
   ๒. แม้ฟังแล้วเมื่อได้ฟังซ้ำอีกย่อมเข้าใจและจำได้
   ๓. ทำให้บรรเทาหรือคลายความสงสัยได้
   ๔. ทำความเห็นให้ถูกตรง ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ
   ๕. จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส

ส่วนการฟังธรรมตามกาลมีอานิสงส์ ๕ ประการ (จาก : อัง. นวกนิบาต ข้อ ๒๐๘) ดังที่ท่านพระนันทกะแสดงให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า
   ๑. ผู้ฟังย่อมเป็นที่รักที่พอใจ เป็นที่ยกย่องของพระศาสดา
   ๒. ผู้ฟังย่อมซาบซึ้งในอรรถะและธรรมะ คือเหตุและผลของธรรมนั้นๆ
   ๓. ย่อมแทงตลอดในธรรมะนั้นๆ
   ๔. ย่อมได้รับคำสรรเสริญจากเพื่อนพรหมจรรย์
   ๕. ทำให้ปรารภความเพียร เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังไม่แจ้ง


@@@@@@@

อีกอย่างหนึ่ง พระบรมศาสดาตรัสว่า การฟังธรรมตามกาลอันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ

   ส่วนอาจารย์บางท่านกล่าวว่า
   ๑. การฟังธรรมเป็นเหตุให้พระศาสนารุ่งเรืองอยู่ได้นาน
   ๒. ตายไปแล้วได้เกิดในสุคติโลกสวรรค์
   ๓. จะได้ตรัสรู้มรรคผล
   ๔. เป็นอุปนิสสัยปัจจัยไปในภพภายหน้า

ดังเรื่องนี้เป็นตัวอย่าง

แม่ไก่ตัวหนึ่งฟังภิกษุรูปหนึ่งสาธยายธรรม ด้วยความเลื่อมใส ถูกนกเหยี่ยวโฉบไป มีจิตนึกถึงเสียงพระธรรมนั้นตายไปบังเกิดเป็นธิดากษัตริย์ ออกบวชเจริญฌานตายแล้วไปเกิดในพรหมโลก จุติจากพรหมโลกมาเกิดเป็นลูกเศรษฐี ตายแล้วไปเกิดเป็นสุกร ได้เห็นพระพุทธเจ้ามีจิตเลื่อมใส ตายแล้วเกิดเป็นธิดากษัตริย์อีก จากนั้นไปเกิดในบ้านคามวาสีเป็นลูกพ่อค้า แล้วเกิดเป็นลูกกุฎุมพีในเมืองอนุราะชื่อสุมนา

เมื่อเป็นสาวได้เป็นภริยาของมหาอำมาตย์ อยู่มาวันหนึ่งพระอุตตระพาภิกษุสงฆ์เข้าไปบิณฑบาตที่บ้านของนางสุมนา เห็นนางแล้วก็กล่าวว่า ลูกสุกรมาเกิดในที่นี้แล้ว นางได้ฟังว่าตนเคยเกิดเป็นลูกสุกรก็สลดใจ เกิดความเบื่อหน่าย จึงลาสามีออกบวชเป็นภิกษุณี เจริญสติปัฏฐาน ๔ จนเกิดวิปัสสนาญาณ บรรลุเป็นพระอรหันต์

นี่ก็ด้วยอานิสงส์ของการฟังธรรมตั้งแต่ครั้งยังเป็นแม่ไก่ อันเป็นอุปนิสัยปัจจัยสืบต่อกันมาเป็นลำดับถึง ๑๒ ชาติ จึงบรรลุ มรรคผล เป็นพระอรหันต์ เป็นการสิ้นสุดวัฏฏะอย่างแท้จริง

เพราะฉะนั้น การฟังธรรมตามกาลจึงเป็นอุดมมงคล...กาเลน ธมฺมสฺสวนํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ



ขยายความมงคลข้อที่ ๒๖ การฟังธรรมตามกาลเป็นอุดมมงคล โดย อ.ประณีต ก้องสมุทร
ขอบคุณ : https://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html#26
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 08, 2020, 10:39:39 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ