ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - kobyamkala
หน้า: 1 ... 3 4 [5]
161  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ชีวิตคนก็เท่านี้ ดูแเล้วประทับใจ มากอยากให้ท่านได้ชม เมื่อ: มิถุนายน 01, 2011, 06:55:35 pm


แสดงถึงพลังของลูกหลาน มาก ๆ ที่มีต่อแม่อุ้ย ตั้งแต่เริ่มป่วยจนเสีย
ทุกคนทำทุกอย่างกันอย่างเต็มที่

 :25:
162  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมสมทบทุนซ่อมสะพานไม้ทางขึ้น-ลงวัดภูทอก บึงกาฬ เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2011, 12:25:57 pm
ร่วมสมทบทุนซ่อมสะพานไม้ทางขึ้น-ลงวัดภูทอก บึงกาฬ

วัด เจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นวัดเก่าแก่ดั้งเดิมของ “หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ” ได้มีการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมและเสนาสนะต่างๆ บนภูทอก ซึ่งเป็นภูเขาหินปูน โดยมีทางขึ้น-ลงเป็นสะพานไม้อายุกว่า ๔๐ ปี ทุกวันจะมีพระภิกษุ สามเณร และผู้ที่แสวงบุญต่างๆ ตลอดจนนักท่องเที่ยวใช้ขึ้นลงเป็นประจำ แต่สภาพในปัจจุบันได้ชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ไม่แข็งแรงดังเดิม ด้วยเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้สอย


ทางวัดจึงขอเรียนเชิญ สาธุชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วมบริจาคทุนทรัพย์เพื่อใช้ในการปรับปรุงซ่อมแซมสะพานไม้ทางขึ้น-ลงภูทอก โดยทุกท่านสามารถโอนปัจจัยเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้


ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบึงกาฬ
ชื่อบัญชี วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก)
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 447-0-26469-5


หากท่านใดประสงค์อยากจะได้ “ใบอนุโมทนาบัตร” โปรด Mail แจ้งไปยัง
คุณดาวเรือง เพียงเกษ หรือคุณนวฤกษ์ เนาวรังษี
โทรศัพท์ 04-249-1756 ถึง 59, โทรสาร 04-2491-1760


163  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / เพิ่มเวลา รายการ RDN หรือคะ เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2011, 09:47:10 pm
เพิ่มเวลา รายการ RDN หรือคะ 21.48 น.ยังฟังได้อยู่เลยคะ
เรื่อง ธิดาช่างหูก

 :s_good:
164  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / สัญญาณ RDN ไม่มี 1 ชม. คะ เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2011, 04:33:37 pm
แจ้งเพื่อทราบคะติดตามฟังรายการRDN อยู่คะ ไม่มีสัญญาณ 1 ชม.กว่า ๆ คะ
 :25:
165  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / เข้าเว็บเพื่อจะโพสต์ ภาพประกอบไม่ได้ คะ เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2011, 07:38:11 pm
คือเว็บ www.kidmadchima.th.ht  เข้าไม่ได้คะ
มีภาพบางส่วนที่เราได้ฝากไว้แล้ว ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกคะ

ต้องทำอย่างไรบ้างคะ สงสัยต้องใช้ domain จริง ๆ แล้วนะคะ  โดเมน ฟรีมักมีปัญหาคะ

 :s_hi:
166  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / กำลังติดตาม พิธิภิเษกสมรส ของเ้จ้าชายอังกฤษอยู่ ใครกำลังดูอยู่ ส่งเสียงด้วย เมื่อ: เมษายน 29, 2011, 04:53:57 pm
กำลังติดตาม พิธิภิเษกสมรส ของเ้จ้าชายอังกฤษอยู่ ใครกำลังดูอยู่ ส่งเสียงด้วย

 :58: :58: :58:
167  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / "ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร" เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 04:32:34 pm
มาแนวให้กำลังใจกันนะจ๊ะ วันนี้เพราะเห็นกล่าวเรื่องทุกข์ .... อ่านแล้ว รู้สึก หดหู่ คะ...


ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.chalitahoneywax.com

"ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร"

เพชรมีค่ามากกว่าถ่านหลายล้านเท่า ทั้งๆ ที่เพชรเป็นธาตุคาร์บอนเหมือนกัน
ไม้ผ่านการอบการเผา ไม่นานก็กลายเป็นถ่าน
แต่เพชรผ่านความร้อน ไม่ต่ำกว่า 5,000 องศาฟาเรนไฮต์
ได้รับความกดดันมากกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน  จนกระทั่งกลายเป็นเพชร
เพชรที่เป็นเครื่องประดับอันงดงาม
พร้อมๆ กับเป็นของที่มีความแข็งมากที่สุดในโลก

ถ้าท่านกำลังได้รับความกดดันอยู่ จงอดทน จงอดทน
ถ้าท่านกำลังถูกเคี่ยวถูกสับ ให้คิดว่าเพียงแค่นี้ จะทำให้เป้าหมายเราสั่นคลอนได้หรือ?
ถ้าสถานการณ์กำลังบีบคั้น แสดงว่าชัยชนะกำลังรออยู่ข้างหน้า
ถ้ายังถูกโหมกระหน่ำอีกให้รู้ตัวว่า ท่านกำลังใกล้จะเป็นเพชรเต็มที่แล้ว....

ในสถานการณ์เช่นนี้ หากหยุดคิดพิจารณาอย่างมีสติ
ย่อมจะเกิดปัญญาพบหนทางสว่างได้เสมอ จงมุ่งมั่นอาจหาญสง่างาม เสมือนดั่งเพชร
แม้เพชรจะตกอยู่ในสภาวะทุกข์ยากลำบาก อ้างว้างและโดดเดี่ยว
แต่เพราะเพชรไม่เคยย่อท้อต่อสู้เรื่อยไป
ให้ถือว่าทุกอย่างเป็นบทเรียนและบทฝึกตัวเองเสมอ จนกาลเวลาผ่านไป
เพชรจึงภูมิใจในตัวของมันเอง และด้วยความอดทนถึงที่สุดนั่นเอง
เพชรจึงเป็นอัญมณีล้ำค่า
ควรแก่การประดับมงกุฎของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่
จากอดีต... ปัจจุบัน....ตลอดไปในอนาคต

 :88:
168  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พุนพินน้ำท่วม เมื่อ: เมษายน 06, 2011, 05:30:41 pm
169  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฮือฮาพบพระพุทธรูปสมัยอยุธยา ปากแดง 8 องค์ เมื่อ: เมษายน 06, 2011, 05:23:38 pm
ฮือฮาพบพระพุทธรูปสมัยอยุธยา ปากแดง 8 องค์ พบเป็นพระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยาอายุเก่าแก่ราว 400  ปี





วันนี้ 6 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน ที่เดินทางไปกราบไหว้ขอพร จากพระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยาอายุเก่าแก่ราว 400  ปี พบพระบริวาร จำวน 8องค์  มีริมฝีปากสีแดง   อยู่ภายในพระอุโบสถหลังเก่า   วัดช้างใหญ่ ม.1  ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบพบพระอุโบสถหลังเก่า ปัจจุบันเป็นวิหาร สภาพทรุดโทรม  ปลูกขวางตะวัน   ภายในมีภาพวาดจิตกรรมฝาผนัง   มีพระประธานหลวงพ่อโต เป็นเนื้อปูนปั้น ลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ศิลปะชาวมอญสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยามีอายุเก่าแก่  400 ปี เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านนับถือกันมาก บริเวณรอบพระประธาน พบพระพุทธรูปเป็นพระบริวาร  ด้านซ้ายจำนวน 4 องค์ด้านขวาจำนวน 4 องค์รวม  8 องค์ ประดิษฐานอยู่บนแท่นสูงราว 50 ซ.ม.เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเนื้อปูนปั้นมีขนาดหน้าตัก  20 นิ้วและ 29 นิ้ว  ลักษณะของพระพุทธรูปบางองค์จะยิ้มเล็กน้อย  บางองค์ยิ้มมาก หรือชาวบ้านเรียกว่ายิ้มแฉ่ง  แต่ทุกองค์ที่ริมฝีปากจะมีสีแดงทั้ง 8 องค์
     
พระสมุห์สมจิตร์  สํวุฑุโฒ  อายุ 53 ปี  เจ้าอาวาส  กล่าวว่า  มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ประมาณ 2 ปี  วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ญาติโยม มาทำบุญปิดทองไหว้พระหลวงพ่อโตเป็นประจำ  มีญาติโยมนำแผ่นทองไปปิดที่ปากพระบริวารทั้ง 8 องค์    จึงมองไม่เห็นสีแดงจนกระทั่ง ใกล้เทศกาลสงกรานต์ พระเณร เข้าไปทำความสะอาดและปัดฝุ่นที่องค์พระบริวาร แผ่นทองหลุดออกจากปาก  จึงพบว่าที่ริมฝีปากมีสีแดง ทั้ง 8 องค์ พอชาวบ้านราบข่าวจึงเดินทางมาไหว้และดูตลอดทั้งวัน
     
เจ้าอาวาส  บอกต่อว่าวัดนี้มีความเกี่ยวข้องกับชาวมอญที่มีความสามารถพิเศษในการเลี้ยง ช้างฝึกถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในสมัยกรุงศรีอยุธยา ช้างที่สำคัญคือ เจ้าพระยาไชยยานุภาพระวางสูงสุดที่เจ้าพระยาปราบหงสาวดี เป็นช้างพระที่นั่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเจ้าพระยาปราบไตรจักร เป็นช้างพระที่นั่งของสมเด็จพระเอกาทศรถ หัวหน้าชาวมอญได้รับแต่งตั้งเป็นจาตุรงค์บาท ควบคุมช้างศึก ต่อมาได้เป็นทหารเอกแม่ทัพหน้าชนะศึกหลายครั้งคือ พระราชมนู ตำแหน่งสูงสุดที่เจ้าพระยาอัครเสนาบดีสมุหพระกลาโหม เพื่อเป็นอนุสรณ์ของชาวมอญและความสามารถของพระยาช้าง เมื่อร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดไว้ในพระพุทธศาสนาจึงได้ให้นามว่า วัดช้างใหญ่ ศิลปะพระพุทธรูปของชาวมอญหรือพม่าจะนิยมทาปากสีแดงเป็นเอกลักษณ์ดังนั้นคาด ว่าพระพุทธรูปทั้ง 8 องค์คงทาสีแดงมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งวัดนี้ตามประวัติศาสตร์ สันนิษฐานว่าชาวมอญที่อพยพมาเป็นผู้สร้าง ในช่วงที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช   มาแล้วแต่ปัจจุบันไม่ค่อยพบเห็น
   
นายประเสริฐ มีสมยุทธ์ นายก อบต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ ทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนพระอุโบสถหลังเก่า เป็นโบราณสถานเรื่องพระบริวาร ทั้ง 8 องค์ ริมฝีปากสีแดง ได้ยินเรื่องนี้มาจากคนรุ่นปู่ยาตายายบอกกล่าวกันมาแต่ไม่เคยเห็น ทราบจากชาวบ้านและพระที่เข้าไปทำความสะอาดนับว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์โดย เฉพาะองค์หลวงพ่อโต พระประธาน เชื่อว่าริมฝีปากน่าจะมีสีแดงด้วยแต่ยังไม่ได้เช็ดถูคงต้องปล่อยไว้ลักษณะ นี้ ชาวบ้านบางคนพูดว่าพระประธานมีลักษณะใบหน้าใหญ่โต   เหมือนคนกำลังยิ้ม คนที่มากราบไห้ขอพร ส่วนมากจะประสบผลสำเร็จและมักจะนำหัวหมูไข่ต้มมาสักการะเมื่อประสบผลสำเร็จ  ทาง อบต.ได้ผลักดันงบประมาณบางส่วนเข้าไปปรับภูมิทัศน์อยู่ตลอดเวลา ส่งเสริมให้เป็นวัดท่อเที่ยงเชิงพระพุทธศาสนา และในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีพิธีสรงน้ำพระและฟื้นฟูการเล่นสงกรานต์

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=38&contentID=131298
170  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วิสามัญ“ไอ้ไข่”ฆาตกรข่มขืนฆ่าสาวแม่ลูกอ่อน เรียบร้อยไปแล้ว..กรรมทันตา เมื่อ: เมษายน 05, 2011, 05:56:56 pm
วิสามัญ “ไอ้ไข่” ฆาตกรข่มขืนฆ่าสาวแม่ลูกอ่อน หลังฮึดแย่งปืนชุดสืบสวน

เมื่อ เวลา 06.30 น. วันที่ 5 เม.ย. ร.ต.ท.ไพศาล อัยรา ร้อยเวร สภ.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งจาก พ.ต.ท.มงคล แก้วโพธิ์ สว.สส.สภ.จอหอ ว่า ได้วิสามัญฆาตกรรม นายพรสวัสดิ์หรือ ไข่ สุริวงศ์ อายุ 23 ปี คนร้ายที่ก่อคดีข่มขืนฆ่า น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี สาวแม่ลูกอ่อน ทั้งยังพยายามใช้ผ้านวนกดหน้า ด.ญ.ฝน (นามสมมติ) วัย 11 เดือน หวิดตายตามแม่ เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังชุดสืบสวนเฝ้าติดตามอย่างกระชั้นชิด จนล่าสุด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พบผู้ต้องหาขี่รถ จยย. ฮอนด้า เวฟ สีดำ คู่ใจ อยู่หน้าตลาดเซฟวัน อ.เมืองนครราชสีมา จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้

จากนั้น นำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ซึ่งนายพรสวัสดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ทำไปเพราะความเมา หลังดื่มเหล้าขาวเข้าไป โดยหลังสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ชุดสืบสวนจึงคุมตัวนายพรสวัสดิ์ ใส่กุญแจมือไว้ข้างหน้า หิ้วขึ้นรถ เพื่อไปค้นหาโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าโยนทิ้งในป่าหญ้าใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ถนนบ้านโพธิ์-หนองไข่น้ำ บ้านหนองกระโดน หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 5 กิโลเมตร

แต่เมื่อถึงจุดที่ทิ้งของกลางตามคำบอกอ้างของคนร้าย ขณะที่ ด.ต.ประจวบ จอกจอหอ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.จอหอ กำลังก้มตัวหาของกลาง นายพรสวัสดิ์ ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังพยายามยื้อแย่งปืนพกสั้นขนาด .38 ของ ด.ต.ประจวบ ซึ่งเหน็บไว้ที่เอว จนเกิดการกอดปล้ำกัน ทำให้กระสุนลั่น 5 นัดซ้อน เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ต่างต้องกระโจนหลบพัลวัน หลังตั้งสติได้หนึ่งในชุดสืบสวนจึงจำเป็นต้องยิงใส่นายพรสวัสดิ์ คมกระสุนเจาะหน้าผาก และลำตัว เสียชีวิตทันที.

ขอบคุณข่าวสารจาก
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=131048
171  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / บทความดี ๆ สำหรับคนมีทุกข์.mpg เมื่อ: เมษายน 03, 2011, 06:58:55 pm


อยากให้คนที่คิดว่า ทุกข์ อ่านให้จบ คะ

172  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / งานพระนครคีรี-เมืองเพชร ครั้งที่ 25 1–10 เมษายน 2554 เมื่อ: เมษายน 02, 2011, 06:25:41 am

จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับกรมศิลปากร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี และเทศบาลเมืองเพชรบุรี โดยการสนับสนุนของท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ได้กำหนดจัดงานพระนครคีรี-เมืองเพชร ครั้งที่ 25 ประจำปี 2554 ขึ้น ระหว่างวันที่ 1–10 เมษายน 2554 ณ บริเวณพระนครคีรี (เขาวัง) อ.เมือง จ.เพชรบุรี

นาง สาวนงนิตย์ เต็งมณีวรรณ กล่าวว่า งานพระนครคีรีเป็นงานประเพณีของจังหวัดเพชรบุรี ที่จัดติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ททท.สำนักงานเพชรบุรี และหน่วยงานต่างๆในจังหวัดเพชรบุรีจึงได้จัดเตรียมงานยิ่งใหญ่กว่าทุกปี

โดยเฉพาะในส่วนของการประดับไฟบนพระนครคีรี พร้อมทั้งจุดพลุเทิดพระเกียรติทุกค่ำคืน นิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ และชมลีลาวดีล้านดอกบานสะพรั่งทั่วเขาวัง ปีละครั้ง พร้อมรับชมขบวนแห่พิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านเดินทางมาเที่ยวชมงานในปีนี้

โดย ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ประกอบด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรม สกุลช่างเมืองเพชร การประกวดตกแต่งโคมไฟและโคมกระดาษสี การแข่งขันกอล์ฟพระนครคีรี การออกร้านกาชาด การประกวดสาวหวานเมืองเพชร การแข่งขันประกวดนกกรงหัวจุก การสาธิตและจำหน่ายอาหาร-ขนมพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้านวิถีชีวิตไทย กิจกรรมการแสดงจากกรมศิลปากร และการออกร้านจำหน่ายสินค้าของหน่วยงานราชการในจังหวัดเพชรบุรี

สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
โทร. 032 428 047 , 032 410 505
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี
โทร. 032 471 005 – 6 หรือ Call Center 1672


http://www.phudoilay.com/huahin/?p=1307

173  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฟ้าหญิงทรงขอความเป็นธรรมให้แก่พระเจ้าอยู่หัวกับราชินี เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 06:00:20 am
"ฟ้า หญิงจุฬาภรณ์ฯ" ประทานสัมภาษณ์พิเศษรายการดัง "วู้ดดี้เกิดมาคุย" ทรงเปิดใจ “ในหลวง-ราชินี” ทรงเป็นห่วงคนไทยเรื่องสามัคคีอยากให้ทุกคนกลมเกลียวกัน อยากให้ 2 พระองค์ได้รับความยุติธรรมตามที่ท่านควรได้รับด้วย ขณะที่ “ฟ้าหญิง” ทรงเปิดตัวตนจริง ๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ ย้ำ 15 ปีที่ผ่านมาเป็นเด็กวัดอยู่กับวัดกับหลวงตามหาบัว รับคำสั่งสอนหลวงตา ทุกครั้งให้มองย้อนกลับพิจารณาคำนินทาว่ากล่าวนั้นว่าตรงกับตัวเราหรือไม่  ถ้าเป็นจริงเราต้องแก้ไข ทรงระบุ เกิดเป็นเจ้าหญิงไม่ได้สบายอย่างที่ใครคิด ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มี.ค. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทานวโรกาสพิเศษให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์  ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมี วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา ทำหน้าที่ในการสัมภาษณ์ ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จในชุดเสื้อกาวน์สีขาว ด้านในยังทรงชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลศิริราช ประทานสัมภาษณ์ว่า “อยากให้คนที่ติดตามชมรายการได้รู้จักตัวตนของฉันอย่างแท้จริง ไม่อยากให้ไปฟังข่าวลือ หรือข่าวที่พูด ๆ กันไป ณ วันนี้ คือตัวตนที่แท้จริงของฉัน ไม่มีบิดเบือน” พร้อมกันนี้ยังแนะวิธีเอาชนะปัญหาที่ผ่านมาในชีวิต 15 ปีที่ผ่านมา เป็นเด็กวัด กินนอน ทำสมาธิอยู่ในกุฏิเล็ก ๆ ที่วัด กับหลวงตามหาบัว  ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเด็กวัด

“แม้ว่าหลวงตาฯปลงสังขารไปแล้ว มีกระแสข่าวมากมาย มีคำกล่าวว่ามากมายมันย่อมมีผลกระทบกับชีวิตคนเราแน่นอน แต่อยากให้มองย้อนกลับไปพิจารณาคำนินทาว่ากล่าวนั้นว่า ตรงกับตัวเราหรือไม่  ถ้ามันเป็นจริงเราก็ต้องปรับปรุงแก้ไขตัวเองเสียก่อน  แต่ถ้าไม่ตรงกับเรา ต้องปล่อยวางกับสิ่งเหล่านี้ทันที หลวงตาท่านสอนไว้ ตอนแรกเริ่มจะทำยากมาก  แต่ก็พยายามสงบจิตใจและนึกถึงคำสอนของหลวงตา  กำหนดลมหายใจ ทุกวันนี้สามารถทำได้อย่างสบายใจและสงบ   เรื่องในอดีตให้มันผ่านไป อนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อย่าไปฟุ้งซ่านคาดเดา ให้อยู่กับปัจจุบัน  อยากให้อยู่กับปัจจุบัน” สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ทรงรับสั่ง

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ประทานสัมภาษณ์ต่อว่า การเกิดมาเป็นลูกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีหน้าที่มากมาย ไม่ได้สุขสบายอย่างที่หลายคนคิดหรือนึกภาพตามจินตนาการนิทานเจ้าหญิงเจ้าชาย ชีวิตถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชน ต้องทำงานตั้งแต่อายุ 14 จนถึงเรียนจบปริญญาเอก ทุกวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่านยังทรงงาน  แม้ว่าจะมีอาการเจ็บป่วย เห็นท่านตรากตรำทำงานเพื่อประชาชนของท่านมาตั้งแต่เด็ก ๆ เดินทางไปในแหล่งที่ไม่มีแม้กระทั่งถนน ช่วยเหลือประชาชน เด็กยุคใหม่ไม่รู้แล้วว่าท่านทำอะไรให้บ้านเมืองบ้าง

“ใจจริงของฉัน อยากจะขอเวลาจากรายการทีวี ช่วงสั้น ๆ แค่ 5 นาที 10 นาที ฉายพระราชกรณียกิจที่ท่านทำ สงสารท่านเถอะ ท่านทุ่มเทเต็มที่ เอาใจใส่ทุกรายละเอียดทุกงานที่ทำทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ทรงเป็นห่วงเรื่องความสามัคคีของคนไทย อยากให้กลมเกลียว คนไทยต้องเข้มแข็ง ชาติจะได้เจริญก้าวหน้าต่อไป ฉันอยากให้ทั้ง 2 พระองค์ได้รับความยุติธรรมตามที่ท่านควรจะได้รับ...” สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ทรงรับสั่ง

ทั้งนี้สามารถติดตามชมประเด็นการสัมภาษณ์พิเศษ พร้อมประเด็นและมุมมองที่ตรงไปตรงมาจากส่วนลึกของพระทัยของสมเด็จพระเจ้าลูก เธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รวมถึงการบอกเล่าถึงการดูแลพระอาการประชวรของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พร้อมทั้งทรงเผยให้ชมโต๊ะทรงงานและบันทึกพิเศษที่ท่านทรงอักษรจากใจ ความเชื่อเรื่องโลกแตกในฐานะนักวิทยาศาสตร์  เรื่องสนุกอารมณ์ดีกับเรื่องสุนัขทรงเลี้ยง และสุนัขประจำตึกที่โรงพยาบาลศิริราช ได้ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายนนี้ เวลา 22.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=38&contentID=129839
174  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นางสงกรานต์ปีกระต่ายดุเภทภัยทั่วประเทศ เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 05:53:37 am
เผยนางสงกรานต์ปีกระต่ายนาม "กิริณีเทวี" สุดดุ ตามตำราปฏิทินหลวง ระบุจะเกิดเหตุเภทภัยทั่วประเทศ

วันนี้ (31 มี.ค.) น.ส.ทัศชล เทพกำปนาท นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า ปฏิทินหลวงวันสงกรานต์ ปีพุทธศักราช 2554 สงกรานต์ปีใหม่ไทยนี้ ตรงกับปีเถาะ นางสงกรานต์มีนามว่า "กิริณีเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่ว งา พระหัตถ์ขวาทรงขอ พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จนั่งมาเหนือหลังกุญชร (ช้าง) เป็นพาหนะ วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 เวลา 13 นาฬิกา 25 นาที 25 วินาที วันที่ 16 เม.ย. เวลา 17 นาฬิกา 31 นาที 12 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1373

น.ส.ทัศชล  กล่าวต่อว่า วันศุกร์เป็นธงชัยและอธิบดี วันพฤหัสบดี เป็นอุบาทว์ วันอาทิตย์เป็นโลกาวินาศ น้ำฝนปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า นาคให้น้ำ 5 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 6 ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน ธัญญาหาร ผลาหาร มัจฉมังษาหาร จะบริบูรณ์ เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีปถวี (ดิน) น้ำงามพอดี

นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ สวธ. กล่าวอีกว่า จากคำประกาศสงกรานต์ดังกล่าวจะตรงกับคำทำนายและความเชื่อคนโบราณ ซึ่งจากหนังสือตรุษสงกรานต์ของนายสมบัติ พลายน้อย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี2553 ได้กล่าวถึงความเชื่อเกี่ยวเนื่องกับนางสงกรานต์ที่เสด็จนั่งมาบนหลังช้าง โดยวันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพฤหัสบดี วันเนาตรงกับวันศุกร์ และวันเถลิงศกตรงกับวันเสาร์ รวมคำทำนายว่า จะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตาย และเกิดเหตุเภทภัยต่าง ๆ นอกจากนี้ผู้น้อยจะแพ้ผู้เป็นใหญ่และเจ้านาย แร้งกาจะเป็นโรคสัตว์ป่าจะเป็นอันตราย แต่แม่หม้ายจะมีลาภ และบรรดาทหารทั้งปวงจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู ส่วนคำทำนายของล้านนาบอกว่า ปีนี้ฝนจะตกเสมอต้นเสมอปลายชอบตามฤดูกาล ผู้เป็นเจ้าเป็นใหญ่จะมีอันตราย ช้างม้าวัวควายจะตายมากนัก ไพร่ราษฎรจะอยู่ดีมีสุข ขุนใหญ่ ปุโรหิต พระสงฆ์จะเป็นทุกข์ คนเกิดวันศุกร์มีเคราะห์ คนเกิดวันอาทิตย์มีโชค

"จากคำทำนายค่อนข้างออกไปร้ายมากกว่าดี แต่นางสงกรานต์กิริณีเทวีนั่งมาบนหลังช้างซึ่งถือเป็นสัตว์ใหญ่ที่เป็นมงคล จะช่วยขับไล่สิ่งร้าย ๆ ให้ออกไป และยังทัดดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์อยู่บนสวรรค์ คนไทยโบราณเชื่อว่าจะช่วยพ้นวิกฤติจากหนักเป็นเบา เมื่อรวมกับภักษาหารที่เป็นถั่วงา ทางพืชผลข้าวปลาอาหารยังมีความสมบูรณ์อยู่ ส่วนคำทำนายที่ว่าทหารจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู ก็น่าจะแสดงถึงความสงบสุขของบ้านเมืองในปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตามคำทำนายดังกล่าวมาจากตำราตรุษสงกรานต์" น.ส.ทัศชล กล่าว.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=130146
175  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ในขณะที่ภาวนา มีใครรู้สึกร้อน ๆ บ้าง เมื่อ: มีนาคม 30, 2011, 07:41:44 am
เวลาภาวนาในกรรมฐาน ขณะภาวนามีความรู้สึกว่าร้อนจนเหงื่อแตกเลยคะ
ไม่ทราบว่าอาการอย่างนี้เป็นอาการผิดปกติ หรือไม่คะ
 :c017:
176  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญอบรมการเจริญสติแนวทางหลวงพ่อเทียน ที่สุวรรณภูมิ 1 เม.ย.54 เมื่อ: มีนาคม 27, 2011, 08:03:19 pm
เชิญอบรมการเจริญสติแนวทางหลวงพ่อเทียน ที่สุวรรณภูมิ    

สถานที่  ศูนย์ปฏิบัติการ การบินไทย สุวรรณภูมิ (OPC)

   เวลา  0900----1600 น (ทั้งวัน)   ห้องสุพรรณหงส์  อาคารA1

                 วันศุกร์ที่   1  เมษายน   2554

      โดย  พระอาจารย์ครรชิต  อกิญจโน  จากวัดป่าสันติธรรม

                        จ  ชัยภูมิ
 
      0845            ลงทะเบียนและรับของว่าง

      0900            พอจ ครรชิตแนะนำ การปฏิบัติ และนำปฏิบัติ

      1100            อาหารกลางวัน (เจ้าภาพเลี้ยงที่ ห้องอาหารประจำศุนย์)

      1230            พอจ  นำปฏิบัติต่อ

      1430            พักทานของว่าง

      1445            ปฏิบัติ

      1530            ซักถามข้อสงสัย  ถามตอบ

      1600            ปิดการอบรม

 *****ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่กรุณาลงทะเบียนล่วงหน้า****

สอบถามและลงทะเบียนที่    0868463377  ,   0813411775  ,  0818255951





http://www.pantip.com/cafe/religious/
177  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พม่าเขย่าเท่าปรมาณู6ลูก เมื่อ: มีนาคม 26, 2011, 07:26:56 am

เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกเกือบ 100 ครั้ง หลังเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริคเตอร์ในพม่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อไทยรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา แถมเป็นครั้งแรกที่ทำให้มีคนตาย  ระบุเกิดจาก “รอยเลื่อนน้ำมา” ไม่เกี่ยวธรณีพิโรธที่ญี่ปุ่น ความแรงเท่าปรมาณู 6 ลูก ส่งผลกระทบ 4 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงรายหนักสุด โบราณสถานหลายแห่งเสียหาย กฟผ.ยันทุกเขื่อนในไทยไม่กระทบ-มั่นคงแข็งแรงดี ด้านนายกฯสั่งตรวจสอบ 13 รอยเลื่อนที่มีพลังในไทย มีสิทธิ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริคเตอร์ กฟผ.ยันทุกเขื่อนในไทยยังมั่นคงแข็งแรงดี ขณะที่ชาวพม่าเปิดใจแผ่นดินไหวรุนแรงสุดในรอบ 40 ปี บ้านเมืองพังราบเป็นหน้ากลอง เดชะบุญคนไทยปลอดภัย ส่วนกรุงเทพฯก็สั่น โชคดีไม่มีอาคารเสียหาย แต่น่าห่วง 12 ตึกเสี่ยง เหตุอยู่ใกล้ชุมชน-ที่สาธารณะ

กรมอุตุฯแถลงแผ่นดินไหว
   
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่สำนักเฝ้าระวังแผนดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงข่าวกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศพม่า เมื่อเวลา 20.55 น.วันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า มีศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศพม่า ที่ละติจูด 20.59 องศาเหนือ ลองจิจูด 99.84 องศาตะวันออก ความลึก 10 กิโลเมตร ขนาด 6.7 ริคเตอร์ ห่างจาก จ.เชียงราย ประมาณ 56 กิโลเมตร ห่างจาก อ.แม่จันทร์และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 30 กิโลเมตร เบื้องต้นมีความเสียหายในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ และบริเวณใกล้กับการเกิดแผ่นดินไหว นอกจากนี้ยังรู้สึกสั่นไหวในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอาคารสูงหลายแห่งใน กทม.

อาฟเตอร์ช็อกเกือบ100ครั้ง
   
จากนั้นเมื่อเวลา 02.15 ของวันที่ 25 มี.ค. มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวตามมา หรืออาฟเตอร์ช็อก (after-shock ) อีกอย่างต่อเนื่องกว่า 40 ครั้ง ขนาดตั้งแต่ 3.0-6.2 ริคเตอร์ และช่วงเวลา 07.00-10.00 น.จากการตรวจสอบพบว่ามีรอยเลื่อนขนาด 3.8 ริคเตอร์ ซึ่งมีความใกล้เคียงกับช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมีการวิเคราะห์และประสานไปตามจังหวัดต่าง ๆ มีการแจ้งเตือนอพยพผู้คน และประกาศข่าวเพื่อให้ประชาชนอย่าได้ตกใจ โดยขอให้มั่นใจว่ากรมอุตุนิยมวิทยามีอุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องวัดแผ่นดินไหวทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องที่ทันสมัย มีการประสานงานกันตลอดเวลาทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว ไม่ว่าเล็กหรือขนาดใหญ่เครื่องวัดก็จะเตือนให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อจะวิเคราะห์สถานการณ์พร้อมประกาศเตือนต่อไป ทั้งนี้ ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. เกิดอาฟเตอร์ช็อกแล้วเกือบ 100 ครั้ง

ไหวบนบกไม่เกิดสึนามิ
   
นายต่อศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ เป็นการเกิดแผ่นดินไหวบนบกจึงไม่เกิดสึนามิ ถ้าสึนามิจะเกิดขึ้นต้องมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เกิดขึ้นในทะเล โดยเฉพาะทางด้านอันดามันซึ่งอยู่ทางตะวันตก ถ้าเกิดสินามิขึ้นในฝั่งสุมาตราก็จะใช้เวลาการเตือนภัยประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งประเทศไทยนั้นจะใช้เวลาเตือนภัยนานกว่าประเทศญี่ปุ่น การเกิดแผ่นดินไหวนั้นเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่หากเกิดแผ่นดินไหวขึ้นเราก็ควรมีการรับมือและหนีภัยที่ดีโดยเฉพาะผู้ที่ อาศัยอยู่ในอาคารสูงไม่ควรใช่ลิฟท์ และควรจะรีบออกจากอาคาร แต่ส่วนที่อยู่บนอาคารที่หนีไม่ทันควรหาที่ปลอดภัยกำบังตนเองจากสิ่งที่จะ ตกลงมาใส่ เช่นหลบใต้โต๊ะที่มีความแข็งแรง ทั้งนี้ หากเกิดแผ่นดินไหวขอให้ตั้งสติให้ดี อย่าตกใจเกินไป

อาฟเตอร์ช็อกอีก3สัปดาห์
   
ด่านนายบุรินทร์ เวชบันเทิง ผู้อำนวยการส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์กับ “เดลินิวส์” ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศพม่า มี อาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายครั้ง ขนาดตั้งแต่ 3.0–6.2 ริกเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3 ริกเตอร์ ซึ่งความรู้สึกของมนุษย์จะไม่รับรู้ โดยความรู้สึกของมนุษย์จะรับรู้ว่าเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 5 ริกเตอร์ ซึ่งขณะนี้เกิดขึ้นไปแล้วประมาณ 6 ครั้ง สำหรับอาฟเตอร์ช็อกคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยยกตัวอย่างกรณีแผ่นดินไหวปี 2547 ขนาด 9.3 ริกเตอร์ ส่งผลให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาต่อเนื่องถึง 2-3 ปี ซึ่งถือว่าเป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ แต่แผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ ถือเป็นแผ่นดินไหวขนาดกลางอาจทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์

เหตุเกิดจากรอยเลื่อน“น้ำมา”
     
นางพรทิพย์ ปั่นเจริญ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ว่า เป็นผลมาจากการเลื่อนตัวของแนวรอยเลื่อนน้ำมา วางตัวในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ ระนาบเหลื่อมซ้าย มีความยาว 150 กม. อยู่ในสหภาพพม่ายาวต่อเนื่องเข้าไปในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยวางตัวขนานกับกลุ่มรอยเลื่อนแม่จันในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงรายของประเทศไทย การเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้เกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนน้ำมา ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนอีกแนวหนึ่งของกลุ่มรอยเลื่อนน้ำมาที่เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.3 ริกเตอร์ ใน สปป.ลาว เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2550 และสร้างความเสียหายใน จ.เชียงรายหลายแห่ง

ไม่เกี่ยวเหตุธรณีพิโรธญี่ปุ่น
             
ส่วนนายอดิชาติ สุรินทร์คำ โฆษกกรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงผลกระทบและความเสียหายว่า แผ่น ดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ที่รอยเลื่อนน้ำมาครั้งนี้ นับว่าเป็นแผ่นดินไหวขนาดปานกลาง ซึ่งในพื้นที่นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต โดยรอยเลื่อนน้ำมาเป็นรอยเลื่อนที่พาดผ่านทั้งพม่า และลาว และขนานกับรอยเลื่อนแม่จันในประเทศไทย ที่มีระยะห่างราว 70 กม.  ดังนั้นจึงจะไม่ส่งผลกระทบกับรอยเลื่อนในไทย เพราะเป็นรอยเลื่อนที่ขนานกัน ไม่สามารถวิ่งมาปะทะกันได้ ส่วนที่เป็นห่วงว่ารอยเลื่อนสะกายของพม่าที่วิ่งจากทางเหนือ และมาทางด้านตะวันตกคือรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี และลงทะเลอันดามันจะเกิดการสั่นไหวตามมาหรือไม่นั้น เนื่องจากรอยเลื่อนสะกายเป็นรอยเลื่อนที่อยู่บนรอยต่อของเปลือกโลก จึงไม่เกี่ยวข้องกัน นอกจากนี้ยังไม่มีความเชื่อมโยงกับการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่นขนาด 9 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะเป็นคนละกลุ่ม ซึ่งที่ญี่ปุ่นมาจากแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกกับยูเรเชีย

ไทยมี13รอยเลื่อนที่มีพลัง
               
ขณะที่นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรฯ กล่าวว่า สำหรับการสำรวจรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทยมีทั้งหมด 13 รอยเลื่อน แต่ได้มีการศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มรอยเลื่อนแม่จันอย่างละเอียด พบว่ากลุ่มรอยเลื่อนแม่จันมีความยาว 150 กม. จำนวน 17 รอยเลื่อน สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวมาแล้วในอดีต ขนาดตั้งแต่ 5.8-6.8 ริคเตอร์ จากการขุดร่องสำรวจพบว่าในพื้นที่ จ.เชียงราย เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วในอดีต จำนวน 5 ครั้งๆ สุดท้ายเมื่อประมาณ 1,500 ปีที่ผ่านมา รอบของการเกิดประมาณ 1,000 ปี โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่าเวียงหนองหล่ม ใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทั้งนี้ ถึงแม้จะประเมินว่าคาบการเกิดไหวระดับนี้จะมีโอกาสเกิด 1 ครั้งในรอบ 1,000 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสก่อน ซึ่งกรมทรัพยากรฯ ได้ติดตั้งเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหวขนาดเล็ก เพื่อดูว่าจะมีการเคลื่อนตัวแบบเป็นระบบหรือไม่ เพราะถ้าเคลื่อนแบบเป็นระบบจะมีโอกาสไหวขนาดกลาง 5 ริคเตอร์ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กที่เป็นระบบ

ความแรงเท่าปรมาณู6ลูก
   
นายเลิศสิน กล่าวอีกว่า การเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยมี 3 ลักษณะคือ แผ่นดินแบบมุดเข้าหากัน แยกจากกัน ละ ขนานกัน ล่าสุดที่เกิดขึ้นที่ประเทศพม่าและส่งผลกระทบต่อประเทศไทย คือแผ่นดินไหวที่เกิดแบบขนานกัน และถือว่าเป็นการเกิดแผ่นดินที่รุนแรงที่สุดที่รับรู้ได้ในช่วงชีวิตของเรา ที่ผ่านมาประเทศไทยเคยเกิดแผ่นดินไหว 303 ครั้ง ใน 303 ครั้งมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศไทย 117 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ครั้งที่ อ. พาน จ.เชียงราย  ซึ่งไม่ได้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวโดยตรง แต่เกิดจากความตกใจและวิ่งหกล้มจนหัวฟาดพื้น แต่ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตโดยตรงจากแผ่นดินไหวที่ทำให้กำแพงบ้านล้มทับที่ อ.แม่สาย จ .เชียงราย  1 ราย อย่างไรก็ตามแผ่นดินไหวครั้งนี้สามารถเทียบกับการระเบิดของระเบิดปรมาณู 6 ลูก หากเกิดแผ่นไหวถึง 7.5 ริกเตอร์ จะสามารถเทียบได้กับระเบิดปรมาณู 30 ลูก

ยอดพระธาตุเจดีย์หลวงหัก
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศพม่าครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทย โดยเฉพาะหลายจังหวัดในภาคเหนือ โดยเมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่มีโบราณสถานหลายแห่งได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว โดยที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน พบว่าส่วนปลายของยอดเจดีย์ที่เรียกว่า "ลูกหมาก" หรือ "บัวหมาก" ซึ่งเป็นส่วนที่ตั้งอยู่เหนือฐานระฆังคว่ำไปจนถึงส่วนยอดสุด ซึ่งเรียกว่า "ยอดปลี" ความยาวประมาณ 7 เมตร ได้หักโค่นลงมา และกระทบกับเจดีย์เล็กที่ตั้งอยู่ใกล้ฐานของพระธาตุเจดีย์หลวง ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก จนทำได้แตกหักทั้งยอดเจดีย์และพระธาตุองค์เล็ก ขณะที่ตรงส่วนยอดที่เหลือของพระธาตุเจดีย์หลวงได้บิดงอไปทางทิศตะวันตก รวมทั้งมีร่องรอยแตกร้าวหลายแห่ง

รพ.ร้าว-แต่ไม่น่าวิตก
   
ทางด้าน นายแพทย์สุทัศน์ ศรีวิไล ผอ.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมด้วยนายประพนธ์ เอี่ยมสุนทร โยธาธิการและผังเมือง จ.เชียงราย ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอาคารสมเด็จย่า และอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นอาคารสำหรับเด็กทารก ได้มีการแตกร้าวหลายแห่งจนต้องอพยพผู้ป่วยลงไปนอนด้านล่าง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารอยแตกร้าวเกิดจากจุดเชื่อมต่อของอาคาร 2 หลังที่แยกส่วนกัน และมีการนำปูนมาฉาบปิด เมื่อมีแรงสั่นสะเทือนจึงทำให้ปูนฉาบเกิดการหลุดร่อนโดยไม่เกี่ยวกับโครง สร้าง จึงไม่น่าวิตกแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจะได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการประเมินความเสียหายและดำเนินการซ่อม แซมต่อไป

3รร.ฝ้าถล่ม-อาคารร้าว

นายวิศิฎฐ์  ดุลยพัชร์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต1 กล่าวว่า มีสถานศึกษาได้รับความเสียหาย 3 แห่งคือ โรงเรียนเวียงเชียงรุ้งวิทยา บ้านห้วยเคียน อ.เวียงเชียงรุ้ง ฝ้าเพดานห้องเรียน 1 ห้อง ร่วงหล่นลงมาเสียหาย โรงเรียนบ้านผาลั้ง ต.ห้วยชมภู อ.เมือง ผนังอาคารเรียนแบบ สปช.105 และอาคารห้องสมุดมีรอยร้าวยาวประมาณ 3 เมตร และโรงเรียนบ้านน้ำตกพัฒนา อ.เมือง อาคารเรียนก็มีรอยร้าว ซึ่งขณะนี้กำลังประสานงานวิศวกรสำรวจความเสียหายว่า จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของอาคารหรือไม่ โดยขณะนี้ได้เร่งให้ผู้บริหารโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง รายงานความเสียหาย เพื่อขออนุมัติงบประมาณซ่อมบำรุงต่อไป ซึ่งก็โชคดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนจึงไม่มีเด็กมาโรงเรียน

แม่สาย-เขตไม่ปลอดภัย
   
นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.เชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประกาศพื้นที่ อ.แม่สายเป็นเขตไม่ปลอดภัย พร้อมกันนี้ ได้ให้ฝ่ายปกครองของ อ.แม่สาย จัดโรงทานเพื่อทำอาหารออกแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว โดยเฉพาะชาวพม่าที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ และได้รับตู้รับเงินบริจาคไว้หน้าที่ทำการอำเภอด้วย มีกระแสข่าวว่าที่เมืองท่าเดื่อ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ศพ และที่เมืองเลน ประเทศพม่า พบศพอีก 30 รวม จำนวนกว่า 50 ศพแล้ว ขณะนี้ ได้ให้ความช่วยเหลือรับผู้ได้รับบาดเจ็บชาวพม่าเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่ สายจำนวนหลายรายแล้ว และผู้ที่จะเดินทางจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ไปเมืองเชียงตุง ตามถนนสาย R 3 B นั้น ไม่สามารถจะสัญจรไปมาได้ เนื่องจากมีสะพานหลายแห่งพังเสียหาย

มท.1รุดช่วยชาวแม่สาย
   
วันเดียวกัน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.กระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังที่ว่าการ อ.แม่สาย เพื่อตรวจเยี่ยมราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแผ่นดินไหวในครั้งนี้ พร้อมมอบเครื่องยังชีพช่วยเหลือราษฎร รวม 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.แม่สาย ต.เวียงพางคำ และ ต.โป่งงาม รวม 150 ครัวเรือน ต่อมาคณะของนายชวรัตน์ได้เดินทางไปบนสะพานเขตพรมแดนระหว่างไทย-พม่า พร้อมมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับนายทหารพม่า เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวพม่าที่ประสบภัยด้วยมนุษยธรรม พร้อมกำชับให้การรักษาชาวพม่าที่ได้รับบาดเจ็บ และข้ามพรมแดนมารักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สาย ซึ่งจ่อรอข้ามแดนมานับจำนวนกว่าร้อยคน

พม่าระบุรุนแรงสุดใน40ปี
   
นางนวล อายุ 40 ปี ชาวพม่าใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า แม่ของสามเณรเจ็ดเรียง อายุ 10 ปี สามเณรจากวัดเมืองเลน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวในพม่า และญาติได้นำตัวข้ามมารักษาที่โรงพยาบาลแม่สาย เล่าว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงและหนักที่สุดในรอบ 40 ปี ตั้งแต่เคยเจอมา แรงสั่นสะเทือนรุนแรงเหมือนถูกจับเขย่า ชาวบ้านต่างแตกตื่นวิ่งหนีเอาตัวรอดกัน สำหรับสภาพอาคารบ้านเรือนในเมืองเลน หลังเกิดแผ่นดินไหวพังถล่มลงมาทั้งหมด แทบไม่เหลือสภาพของเมือง ส่วนโรงพยาบาลในประเทศพม่าก็อยู่ไกลถึงเมืองเชียงตุงชาวบ้านที่พอมีเงินจึง เดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลใน อ.แม่สาย แทน โดยขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ หรือค้นหาศพจากแผ่นดินไหว

แม่ฮ่องสอนไม่มีเสียหาย
             
ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ. เปิดเผยว่า สำหรับในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เกิดแรงสั่นสะเทือนนานประมาณ 40 วินาที จากนั้นในช่วงเวลา 21.45 นาที ซึ่งทิ้งระยะห่างกันประมาณ 50 นาที เกิดอัพเตอร์ช็อกตามมาอีก 1 ครั้ง แรงสั่นสะเทือนประมาณ 5.4 ริกเตอร์ ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอ ตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย แล้วรายงานให้ทราบแล้ว เบื้องต้นไม่พบความเสียหายหรือมีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด แต่ได้สั่งการให้ทุกอำเภอเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เผยเชื่อมโยงกับที่ญี่ปุ่น
   
นายอดิศร ฟุ้งขจร ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงใหม่ ในฐานะรองโฆษกสาขาภาคเหนือ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า การเกิดแผ่นดินไหวในพม่าครั้งนี้เกิดขึ้นที่รอยเลื่อนฉาน ในเขตรัฐฉานของพม่า ซึ่งขนานกับรอยเลื่อนเชียงแสนประมาณ 50 กิโลเมตรไปทางเหนือ และเกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่นิวซีแลนด์ เมืองเซนไดญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกใบเดียวกัน และมีความเชื่อมโยงเป็นพลวัตซึ่งกันและกัน อย่างกรณีที่เซนไดประเทศญี่ปุ่นนั้นแผ่นเปลือกโลกของแปซิฟิกมุดลงไปใต้ เปลือกโลกของญี่ปุ่น เหมือนวัวกระทิงที่พยายามขวิด ดันกันไปดันกันมาแล้วเปลือกแปซิฟิกก็ชนะญี่ปุ่น ส่งผลให้เปลือกโลกญี่ปุ่นขยับไป 2.4 เมตร จึงทำให้กระทบไปยังรอยเลื่อนอื่นๆ เพราะเป็นโลกใบเดียวกัน

จับตาแผ่นดินไหวเปลี่ยนทิศ
   
ส่วนการเกิดแผ่นดินไหวในพม่าในครั้งนี้  สิ่งที่น่าห่วงคือรอยเลื่อนจากพม่าได้วิ่งขนานมากับลอยเลื่อนไทย แล้วมาหักศอกตรงบริเวณด้านทิศเหนือที่ จ.แม่ฮ่องสอน ไปประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งจะเกิดรอยตัดของเปลือกโลกบริเวณดังกล่าวซึ่งจะทำให้แผ่นดินไหวมีการ เปลี่ยนทิศ ตอนนี้บรรดานักวิชาการและอีกหลายหน่วยงาน กำลังจับตาว่าโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหว หรือการสะสมพลังในรอยเลื่อนที่ไม่เคยเกิดอาจเกิดขึ้น คืออาจเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวมาก่อน เพราะผลจากการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศพม่าครั้งนี้

น่าน-อุโบสถ700ปีแตกร้าว
   
ที่ จ.น่าน รับความรู้สึกสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน โดยผู้ที่พักในแฟลตที่พักของแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลน่าน ต่างวิ่งหนีออกจากแฟลตพักกันโกลาหล นอกจากนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวพากันแตกตื่น วิ่งออกมาจากอาคารสูง ขณะที่ นายทวีศักดิ์ สิงหราช รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองน่าน พร้อมด้วยนายธีระ คฤหนนท์ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองน่าน ได้ออกสำรวจโบราณสถานสำคัญ โดยพบว่าที่วัดภูมินทร์ อ.เมือง พระอุโบสถที่มีอายุกว่า 700 ปี ผนังตัวพระวิหารโดยรอบมีรอยแตกร้าวหลายจุด ส่งผลให้ภาพวาดจิตรกรรมบนผนังได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะส่วนสำคัญคือ ภาพปู่ม่าน ย่าม่าน ภาพกระซิบรักบันลือโลก ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณกรอบประตูวิหาร ซึ่งขณะนี้กรมศิลปากรที่ 7 เร่งสำรวจโบราณสถานหลายแห่ง และเฝ้าระวังสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด

พระคู่เมืองล้านนาเสียหาย
       
ในส่วนของ จ.พะเยา ที่วัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง (หรือวัดพระเจ้าตนหลวง) ต.เวียง อ.เมือง พระสุนทรกิตติคุณ รองเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ ได้เดินสำรวจพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองล้านนา อายุกว่า 500 ปี ที่ประดิษฐานในวิหารหลวง ปรากฏว่าพบรอยแตกร้าวบริเวณต้นแขนขวาขององค์พระเจ้าตนหลวง ความยาว 30 ซม. และที่บริเวณข้อศอก ยาว 80 ซม. กับที่ต้นขาขวา ยาว 20 ซม. นอกจากนี้พระพุทธรูปและรูปหล่อเกจิอาจารย์ มีร่องรอยขยับเขยื้อนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะได้รายงานให้กรมศิลปากรมาดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมต่อไป นอกจากนี้พระธาตุหลวง บ้านจำไก่ หมู่ 11 ต.สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ และพระพุทธลีลา สูง 28 เมตร บนวัดอนลโยทิพยาราม ที่ประดิษฐานอยู่บอดยอดดอยบุษราคัม ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน

เผย5รอยเลื่อนที่มีพลัง
   
นายสมบูรณ์ โฆษิตานนท์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหว 6.7 ริคเตอร์ รวมถึงการเกิดอาฟเตอร์เชอร์อีกหลายครั้ง ทางสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจรอยเลื่อนที่มีพลังที่มีอยู่ในภาคเหนือ 5 กลุ่ม ว่ามีการเปลี่ยนแปลงและเคลื่อนหรือไม่อย่างไร สำหรับรอยเลื่อนที่มีพลังที่พาดผ่านภาคเหนือ ได้แก่ รอยเลื่อนแม่จัน คลอบคลุม จ.เชียงราย และเชียงใหม่ รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน คลอบคลุม จ.แม่ฮ่องสอน และตาก รอยเลื่อนแม่ทา คลอบคลุม จ.เชียงราย เชียงใหม่ และลำพูน รอยเลื่อนเถิน คลอบคลุม จ.ลำปาง และแพร่ รอยเลื่อนปัว ครอบคลุม จ.น่าน

หวั่นดินถล่มภาคเหนือ
   
สำหรับการเกิดแผ่นดินไหวล่าสุด คาดว่าจะทำให้รอยเลื่อนแม่จัน ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางของการเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุด เกิดการเปลี่ยนแปลงไป ทางสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง ต้องมีการตรวจสอบ และต้องใช้ระยะเวลานาน เพราะเป็นรอยเลื่อนที่มีทางยาว ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวถือว่าอยู่ใกล้ประเทศไทยมาก และยังมีขนาดที่แรง สิ่งที่ตนเกิดความเป็นห่วงคือการเกิดดินถล่ม จึงกำชับไปยังแต่ละจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 17 จังหวัดภาคเหนือ ให้ระมัดระวังพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม เพราะการเกิดแผ่นดินไหวอาจจะทำให้พื้นผิวดินเกิดการขยับและไม่แน่น จึงเกิดดินถล่มตามมาในช่วงที่ฝนตกหนัก

แพร่ผวากลัวบ้านถล่ม
           
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.แพร่ รายงานว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวทางจังหวัดได้ออกตรวจสอบยังไม่พบความเสียหาย  ยกเว้นบ้านของนางคำผิน มั่งคั่ง อายุ 59 ปี เลขที่ 100 หมู่ 5 บ้านพระหลวง ต.พระหลวง อ.สูงเม่น ที่บริเวณดังกล่าวมีแผ่นดินยุบตัวอยู่ก่อนแล้วจนทำให้บ้านทั้งหลังแตกร้าว โดยนางผินกล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงบ้านเพราะอยู่ตรงรอยยุบตัวของแผ่นดินพอดี พอแผ่นดินไหวก็มาดูรอยที่เจ้าหน้าที่ธรณีวิทยาขีดเป็นเส้นตรงไว้ พบว่ามีดินยุบตัวลงเล็กน้อย บ้านนี้สร้างตั้งแต่ปี 42 ต้องจ้างช่างมายกบ้านถึง 2 ครั้ง เพราะแผ่นดิบยุบตัวจนบ้านเกือบพังมาแล้ว

ไม่กระทบทุกเขื่อนในไทย
             
นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทยทั่วประเทศ กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศพม่า ขนาด 6.7 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งทุกเขื่อนแล้ว พบว่าไม่มีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อน เนื่องจากอยู่ไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 725 กิโลเมตร ห่างจากเขื่อนภูมิพลประมาณ 428 กิโลเมตร และห่างจากเขื่อนสิริกิตติ์ประมาณ 352 กิโลเมตร จึงขอให้วางใจว่าทุกเขื่อนของ กฟผ.มีความมั่นคงปลอดภัย

กทม.ไม่มีอาคารเสียหาย
   
ขณะเดียวกัน นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ปทุมวัน และอาคารออลซีซั่น เพลส ถนนวิทยุ เพื่อตรวจสอบผลกระทบที่เกิดจากแผ่นดินไหวในประเทศพม่า หลังจากนั้นกล่าวว่า จากรายงานเบื้องต้น ยังไม่พบว่าอาคารในกทม.ได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าว แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังเพราะในกทม.มีอาคารที่สูงกว่า 15 เมตรขึ้นไปจำนวน 2,718 อาคารโดยอยู่ในฝั่งพระนคร 2,448 อาคาร ฝั่งธนบุรี 270 อาคาร และในจำนวนนี้มี 12 อาคาร ที่กทม.ต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ

12อาคารต้องตรวจพิเศษ
   
ประกอบด้วย อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ตึก 30 ชั้น อาาคารชุดเฟิรสทาวเวอร์ตึก 22 ชั้น, ศูนย์การค้ามาบุญครอง ตึก 29 ชั้น,ตึกออลซีซั่นส์ พร็อพเพอร์ตี้ตึก 53 ชั้นจำนวน 1 หลัง,อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ 58 ชั้น,อาคารชัยทาวเวอร์ตึก 30 ชั้น,อาคารเบญจจินดา 36 ชั้น,ตึกชินวัฒน์ 3 ตึก 32 ชั้น,อาคารไอทาวเวอร์ตึก 32 ชั้น,อาคารธนาคารทหารไทยตึก 34 ชั้น,อาคารซันทาวเวอร์ตึก 40 ชั้น 1 หลัง และ 34 ชั้น 1 หลัง เนื่องจากอาคารดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ใกล้ชุมชน ย่านธุรกิจ และที่สาธารณะ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าอาคารทั้ง 12 อาคารจะไม่มีความปลอดภัย

ตึกเก่าสร้างหลังปี50เสี่ยง
   
นอกจากนี้ทางกทม.ได้ทำหนังสือไปยังเจ้าของอาคารดังกล่าว เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบในด้านของความมั่นคงแข็งแรงของตัวอาคาร และวัสดุที่ใช้ว่าเป็นอันตรายต่อประชาชนหรือไม่ถ้าเกิดเหตุ โดยอาคารส่วนใหญ่ได้ทำการจดทะเบียนการก่อสร้างอาคารก่อนปี 2550 ซึ่งไม่ได้รองรับในเรื่องของเหตุแผ่นดินไหวเอาไว้ ส่วนที่อาคารที่มีการจดทะเบียนภายหลังปี 2550 ก็อยู่ในข่ายพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2550 ซึ่งระบุไว้ว่าจะต้องเป็นอาคารที่รองรับแรงสั่นสะเทือนได้ไม่ต่ำกว่า 5 ริคเตอร์ อย่างไรก็ตาม จะเร่งให้มีการแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าวให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น สำหรับตึกร้างหรืออาคารร้างในพื้นที่กทม.นั้น บางพื้นที่ทางกทม.ก็ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขได้ ต้องประสานความร่วมมือไปยังสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ เพื่อช่วยประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีการปรับปรุงแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากให้กทม.เข้าไปตรวจสอบอาคาร สามารถแจ้งผ่านสายด่วนกทม.1555

โบราณสถานเสียหายหนัก
   
นางโสมสุดา ลียะวนิช อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากการรายงานของสำนักศิลปากรที่ 8 จ.เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางลงตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่ จ.เชียงราย หลังได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว พบว่ามีโบราณสถานหลายแห่งใน อ.เชียงแสน ได้รับความเสียหาย ได้แก่ ที่วัดพระธาตุจอมกิตติ ฉัตรชำรุดและเอนออกจากองค์ ขณะนี้ทางสำนักศิลปากรที่ 8 สั่งดำเนินการซ่อมแซมทันที ขณะที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวง พบปล้องไฉนขนาด 2 ใน 3 หักลงมาถูกเจดีย์บริวารแตก 1 องค์ ที่วัดพระธาตุภูเข้า พบมณฑปร้าวและผนังแยกออก และที่วัดป่าสัก พบยอดขนาดประมาณ 1 ศอกหักตกลงมา  ขณะเดียวกันยังได้รับรายงานผนังในวิหารวัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน มีรอยร้าว และที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน พบผนังและเพดานมีแนวแตกแยก โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้ให้ปิดโบราณสถาน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ทอท.ยันไม่กระทบสนามบิน
   
รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศพม่านั้น ไม่กระทบกับการให้บริการอากาศยานและผู้โดยสาร โดยท่าอากาศยานชียงใหม่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ยังคงเปิดให้บริการได้ตามปกติ ซึ่งทอท. ได้มอบหมายให้ฝ่ายวิศวกรรมตรวจสอบโครงสร้างอาคารผู้โดยสาร ลานจอดอากาศยาน และทางขับ-ทางวิ่งทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อยืนยันในความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย

สพฉ.เผยตาย1เจ็บ16
   
นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เปิดเผยว่า สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศ พม่า และส่งผลกระทบถึงประเทศไทย ได้รับรายงาน ณ เวลา 11.00 น. มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางหงส์ คำปิง อายุ 55 ปี ชาว อ.แม่สาย และมีผู้บาดเจ็บ 16 ราย อยู่ที่ รพ.แม่สาย 10 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย พม่า 7 ราย โดยมีการส่งต่อชาวพม่า 4 ราย ไปรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ส่วนที่ รพ.เชียงแสน มีผู้บาดเจ็บเข้ารักษาตัว 6 ราย เป็นคนไทย 1 ราย และชาวจีนที่มาจากฝั่งลาว 5 ราย โดยในจำนวนนี้ 3 รายถูกส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศรีบุรินทร์ ซึ่งเป็น รพ.เอกชน ทั้งนี้ ผู้ที่ส่งต่อส่วนใหญ่มีอาการบาดเจ็บที่กระดูก มี 1 รายบาดเจ็บที่ศีรษะ ส่วนผู้ป่วยที่ไม่ได้มีการส่งต่อนั้นมีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยและได้กลับ บ้านแล้ว

นายกสั่งตรวจสอบรอยเลื่อน
               
ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแผ่นดินไหวในประเทศพม่า ขนาด 7 ริคเตอร์ ที่ส่งแรงสะเทือนมาภาคเหนือของไทยรวมถึงตึกสูงใน กทม.ว่า เรื่องนี้จะต้องนำไปสู่การปรับเปลี่ยนการเตือนภัยและให้ความรู้กับประชาชน รวมทั้งต้องประเมินความเปลี่ยนแปลงของภัยพิบัติ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบรอยเลื่อนต่างๆ ในประเทศไทย นอกจากนั้นในอนาคตการก่อสร้างตึกสูงต่างๆ จะต้องคำนึงถึงเหตุแผ่นดินไหว ทั้งการป้องกันภัยและลดผลกระทบ แต่เบื้องต้นการปรับเปลี่ยนวิธีการก่อสร้างอาคารและข้อบังคับต่างๆ คงไม่จำเป็นต้องออกเป็นกฎหมาย แต่สามารถใช้การปรับกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องแทน

คนไทยในพม่าปลอดภัย
   
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในฝั่งพม่านั้นไม่มีคนไทยอาศัยอยู่ เพราะส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ ส่วนการส่งสารแสดงความเสียใจหรือการให้ความช่วยเหลือนั้น ทางกระทรวงฯกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่ าในพม่ามีความเสียหายมากน้อยอย่างไร ทั้งนี้ สถานเอกอัคราชทูตไทย ณ เมืองย่างกุ้ง จะได้รายงานสถานการณ์เข้ามาเป็นระยะๆเพื่อดูความต้องการของพม่าในการส่งความ ช่วยเหลือต่อไป

เขย่าพม่าสังเวยกว่า74ศพ
     
ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่าว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารพม่าคนหนึ่งเปิดเผยว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวรุนแรงในประเทศพม่า ซึ่งรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ไปไกลถึงกรุงเทพฯแม้อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลาง เกือบ 800 กม.ก็ตาม รวมถึงในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และ บางส่วนของประเทศจีน ระหว่างที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่าวัดระดับแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 ริคเตอร์นั้น มีรายงานผู้เสียชีวิต 74 ศพ ซึ่งอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวและบ้านเรือนราษฎรพังเสียหาย 400 หลังคาเรือนใน 4 หมู่บ้าน นอกนั้นยังมีบาดเจ็บอีก 111 คน แต่ตัวเลขอาจจะสูงกว่านี้ เพราะยังมีบางพื้นที่ที่เข้าไปสำรวจไม่ถึง อาคารสถานที่ราชการได้รับความเสียหายอีก 9 แห่ง ในพื้นที่ของเมืองทาร์เลย์ นอกจากนั้นก็ยังมีวัดหลายแห่งที่ปรากฏให้เห็นรอยร้าว กำลังทหารและตำรวจของพม่า พยายามติดตามหาผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่เข้าไปในพื้นที่ไม่ได้เนื่องจากถนนปิด

เผยทาร์เลย์-หม่องลินโดนหนัก
   
ที่กรุงย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของพม่า นายคริส เฮนริก ผู้อำนวยการสำนักงานองค์กรการกุศล “เวิลด์ วิชั่น” กล่าวว่า ทีมงานของเวิลด์ วิชั่น ในพื้นที่ประสบภัยแจ้งว่า เมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือเมืองทาร์เลย์ กับ หม่อง ลิน  ทางการพยายามแจ้งตัวเลขรายงานความเสียหายและผู้เสียชีวิตบาดเจ็บอย่างต่อ เนื่อง  ทางเวิลด์วิชั่น ซึ่งรับอุปการะเลี้ยงดูเด็ก 7,000 คน โดยเงินบริจาคช่วยเหลือจากต่างชาติ มีความเป็นห่วงสภาพของเด็กๆแ
178  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สารกัมมันตภาพรังสีสูงในโตเกียว เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 06:31:12 am
เผยยอดตัวเลขผู้สูญหายญี่ปุ่น-ตายพุ่งเป็น 11,000 รายแล้ว ตรวจพบสารกัมมันตภาพรังสีในโตเกียวสูงกว่าปกติ

วันนี้ 16 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้สูญหายและเสียชีวิตของญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้นเป็น 11,000 คน จำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิต 3,676 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้บาดเจ็บมีจำนวน 1,990 ราย โดยก่อนหน้านี้ หัวหน้าสำนักงานตำรวจเมืองมิยางิ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดของแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์ของญี่ปุ่น คาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉพาะเมืองนี้จะมีจำนวนกว่า 10,000 ราย

เซาอิริ โคกะ เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้ตรวจพบสารกัมมันตรังสี ที่สูงกว่าระดับปกติในเมืองหลวงของญี่ปุ่นแล้ว แต่ยืนยันว่า ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ แต่เตือนว่า ระดับกัมมันตรังสี บริเวณใกล้กับโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 250 กิโลเมตร เป็นอันตรายต่อมนุษย์แล้ว หลังเกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้อาคารเตาปฏิกรณ์

ทั้งนี้ ปริมาณกัมมันตภาพรังสีในเมืองหลวงของญี่ปุ่น ที่วัดได้ 0.809 ไมโครซีเวิร์ต ระหว่างเวลาประมาณ 10.00-11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าปริมาณ ในวันจันทร์ที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ถึง 20 เท่าตัว
 
เอเอฟพีรายงานว่า แม้ที่ผ่านมาสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ทั่วโลกได้แพร่ภาพคลื่นสึนามิถล่มบ้านเรือนและกวาดรถยนต์เหมือนตุ๊กตา แต่ข่าวดังกล่าวยังสะท้อนภาพอีกด้าน นั่นคือ การที่ญี่ปุ่นได้แสดงความนิ่งในขณะที่พวกเขากำลังค้นหาบุคคลที่รัก หรือการเข้าแถวรอรับข้าวของเครื่องใช้และสิ่งจำเป็น โดยไม่มีสัญญาณของเหตุการณ์ปล้นสะดมบ้านเรือนหรือสินค้า หรือความรุนแรงต่าง ๆ แต่อย่างใด นอกจากนี้ ประชาชนญี่ปุ่นยังเข้าแถวยืนอย่างมีระเบียบซื้อสินค้าตามร้านค้าต่าง ๆ แม้สินค้าจะหมดแล้วก็ตาม
 
นายโจเซฟ เนย์ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวว่า ภัยพิบัติครั้งนี้อาจทำให้ญี่ปุ่นได้รับพลังแห่งความอ่อนโยน หรือการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งสามารถบรรลุเป้าหมายได้ด้วยการสร้างความ ประทับใจให้แก่ผู้อื่น โดยแม้ว่าประเทศจะต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมขนาดมหึมา เหตุการณ์น่าเศร้านี้ยังแสดงภาพน่าประทับใจของญี่ปุ่น และนอกจากความเห็นอกเห็นใจจะเกิดขึ้น ญี่ปุ่นยังแสดงให้เห็นถึงสังคมที่มีรูปแบบอย่างดีในการเตรียมพร้อมรับมือกับ ภัยพิบัติเช่นนี้ ในฐานะที่ประเทศสมัยใหม่ควรจะเป็น และญี่ปุ่นสามารถรับมือกับวิกฤตอย่างนิ่งสงบและมีระเบียบด้วย

นายเจ ย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า สหรัฐไม่ได้แนะนำให้ชาวอเมริกาเดินทางออกจากโตเกียว เพียงเตือนให้ติดตามคำเตือนจากกระทรวงการต่างประเทศ ท่ามกลางกระแสหวดวิตกเรื่องวิกฤติพลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้า ฟูกูชิมา

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=5&contentID=127133
179  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ฉลอง100ปีหลวงพ่อปัญญา เมื่อ: มีนาคม 16, 2011, 12:46:48 am


น.ส.นราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผอ.ศูนย์คุณธรรม เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะโครงการกตัญญูกตเวที สองศรีพระศาสนา เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี ชาตกาลของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ปี 2554 โดยวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้ร่วมหารือถึงแนวทางจัดกิจกรรมของโครงการฯ ซึ่งกำหนดจัดตลอดทั้งปี 2554 โดยคณะกรรมการเน้นเป้าหมายสำคัญที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนา อย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือของสถานศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากวัดในการเชิญผู้ปกครอง ชุมชนและเยาวชน มาร่วมกิจกรรมที่สถานศึกษาจัดขึ้น
   
พระมหาดุษฎี เมธงฺกุโร เจ้าอาวาสวัดทุ่งไผ่ ฐานะคณะกรรมการโครงการ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมที่จะเน้นการเผยแผ่คำสอนทางพระพุทธศาสนาปัจจุบันทำได้ 4 วิธี คือ การเทศนาธรรมตามสถานศึกษา การจัดทำค่ายวิถีพุทธ การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ของทางวัด และการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมในครอบครัว แต่ในภาวะปัจจุบันต้องมีการปรับเปลี่ยน แทนที่จะนำพระธรรมมาเป็นคำสอนโดยตรง อาจแฝงหลักธรรมเข้าไปในกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว เช่น การสอนนวดแผนไทย โดยให้เด็กได้ฝึกแล้วนำกลับไปปฏิบัติให้ พ่อแม่ หรือปู่ ย่า ตา ยาย เป็นวิธีที่ทำให้เด็กได้เรียนรู้วิธีการกตัญญูและส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมใน ครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง.   

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=42&contentID=126835
180  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วิธีเช็คเห็ดว่ามีพิษหรือไม่ เมื่อ: มีนาคม 15, 2011, 02:01:21 pm

วิธีแรก   ให้นำเห็ดมาต้ม แล้วใส่ข้าวสารหยิบมือหนึ่ง ถ้าข้าวสารบานเหมือนหุงข้าว แสดงว่าเห็ดไม่เป็นพิษ แต่ถ้าข้าวไม่บานทรงรูปเดิมแสดงว่าเห็ดเป็นพิษ



อีกวิธีหนึ่ง ให้นำ เห็ดมาต้มพอน้ำออกเอาช้อนเงินจุ่มลงคน ถ้าช้อนเงินดำ แสดงว่าเห็ดเป็นพิษ รับประทานไม่ได้

 
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : หนังสือความรู้คู่บ้าน
181  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ชนะหรือแพ้...มันก็แค่สิ่งสมมุติ เมื่อ: มีนาคม 15, 2011, 01:57:28 pm
ชนะหรือแพ้...มันก็แค่สิ่งสมมุติ
 
เคยรู้สึกกันบ้างหรือเปล่าว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ล้วนแล้วแต่จะนำมาซึ่งความผิดหวังได้ทั้งสิ้นเพราะความผิดหวังหรือความล้ม เหลว มันอยู่ไม่ไกลจากตัวเรา มันเกิดขึ้นมาจากทุกอย่างรอบตัว มันทั้งหยอกเล่น เอาจริง รังแก หรือแค่ทดสอบเรา จนบางครั้งทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปเสียอย่างนั้น

            แต่เมื่อเจอกันอีกครั้ง เรากลับต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้มันอยู่ดี หลายคนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และทำอย่างไรจึงจะสามารถเอาชนะมันได้สักที

            อาจกล่าวได้ว่า ความล้มเหลวและความผิดหวังนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเราไม่ต่างจากความสม หวัง เพีงแต่คนเรามักจะสมมติให้ตัวเองพึงพอใจกับความสมหวังมากกว่าเท่านั้นเอง

            ในยามที่สมหวัง เราอาจจะบอกกับตัวเองว่าเป็น "ผู้ชนะ" โดยที่ไม่เคยสนใจว่าได้มันมาอย่างไร หรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเก็บรักษาเอาไว้ได้นานอย่างไร

            ในทางกลับกัน เมื่อเป็นฝ่ายที่ต้องผิดหวังบ้าง เราก็มักจะตอกย้ำกับตัวเองอยู่เสมอว่าเราเป็น "ผู้แพ้" คนส่วนใหญ่จึงมองข้ามสิ่งสำคัญของชีวิตไป เพราะมัวแต่จดจ้องอยู่แค่คำว่า

            แพ้ . . . ชนะ

            สำหรับ ผมแล้วมีสิ่งหนึ่งที่คนเราไม่ควรมองข้าม นั่นคือการมีน้ำใจนักกีฬา และการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรู้เท่าทัน ไม่ว่าจะเป็นผู้แพ้หรือชนะ เมื่อได้สู้อย่างเต็มที่แล้ว ให้คิดเสียว่าเราแพ้สิ่งหนึ่งเพื่อทำให้รู้ตัวว่า

            "เราอาจจะเหมาะกับอีกสิ่งหนึ่งมากกว่า"

            จงอย่ามัวเสียดายในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเราให้นานนัก จงออกไปค้นหาสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองดีกว่า เพราะไม่มีประโยชน์อะไรกับการพรรณนาถึงความล้มเหลวอย่างไร้สติรังแต่จะทำให้ ตัวเองรู้สึกด้อยค่ายิ่งขึ้นเท่านั้น

            หากเปรียบชีวิตคนเราเป็นการแข่งขัน โลกนี้ก็คงเป็นสนามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เราทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะเข้าร่วมอย่างไม่มีเงื่อนไข และก็ใช่ว่าโลกจะจำกัดชนิดกีฬาที่แข่งขัน มีหลากหลายอย่างที่ให้เราเลือกเล่น เราจึงต้องแสดงฝีมือในสิ่งที่ตนเองถนัดอย่างเต็มความสามารถ จนกว่าระฆังยกสุดท้ายของชีวิตจะดังขึ้น ซึ่งก็จะเป็นการสิ้นสุดการแข่งขันอันยาวนานนั้นลง

            และในสนามแข่งขันของเกมชีวิตนั้นจะไม่มีการพักครึ่ง ไม่มีการขอเวลานอก ที่สำคัญไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ เพราะเราต่างเกิดมาเพื่อที่จะเล่นเกมของตัวเองด้วยตัวเองจนจบ

            แม้บางเกมเราจะแพ้หรือชนะ แต่ทุกๆ เกมเกิดจากการตัดสินใจของตัวเราเองทั้งสิ้น เราจึงต้องยืดอกยอมรับต่อผลที่เกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ และน่าจะดีกว่าถ้าเราทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อจะไม่ต้องเสียใจในภายหลังเมื่อความผิดหวังมาเยือน

            เมื่อพูดอย่างนี้ ก็ใช่ว่าจะยิ่งใหญ่ที่สุดเสมอไป เพราะบางครั้งความพ่ายแพ้ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย แม้ว่าชัยชนะจะเป็นยอดปรารถนาของคนเราก็ตามที แต่เรามักจะได้อะไรดีๆ ในชีวิตจากความพ่ายแพ้มากกว่า เพียงแต่เราต้องทำความรู้จักและเรียนรู้จากมัน เพื่อสามารถนำเอาความผิดพลาดต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในครั้งต่อไป ดังเช่นที่ นโปเลียน นักการเมืองการทหารผู้ยิ่งใหญ่ชาวฝรั่งเศส เคยกล่าวไว้ว่า

            "คนที่ไม่รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาด ยังห่างไกลจากหนทางสู่ความสำเร็จนัก"

            ไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นผู้ชนะฝ่ายเดียว
            แพ้เสียบ้างก็เป็นกำไรชีวิตได้เช่นกัน

            และ นอกเหนือจากมนุษย์ทุกคนจะต้องการปัจจัย 4 เพื่อการดำรงชีวิต ความทุกข์ที่เกิดจากความผิดหวังและความพ่ายแพ้ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องพบพานเหมือนกันหมด และเมื่ออยู่ในสนามแข่งขัน ทุกคนต่างก็มุ่งหวังที่จะเป็นผู้ชนะให้ได้

            คนส่วนใหญ่จึงอาจจะคิดว่าการเป็นที่หนึ่งนั้นจำเป็นต้องเอาชนะคนอื่นเท่า นั้น หากแต่แท้จริงแล้ว เกมที่เราแข่งขันอยู่ในสนามชีวิตจริง อาจไม่จำเป็นต้องมีคู่แข่งอื่นใดนอกจากตัวเรา เพราะบางทีเพียงแค่การเอาชนะใจตัวเองมันก็เป็นเรื่องที่ยากเย็นเสียนี่กระไร

            บางทีหากเราต้องการจะเป็นผู้ชนะตัวจริง จึงไม่ใช่การวิ่งแซงหน้าเพื่อเอาชนะใครต่อใคร หากแต่คือการเอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก็ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแล้วล่ะ

 
 
 
ที่มา...หนังสือจะท้อไปใย...เริ่มใหม่ลองดู โดย: ฤทธิรงค์
teenee.com
182  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญปฏิบัติธรรม "ชั่วโมงพุทธวัจน์" ที่ กบท สุวรรณภูมิ ตลอดปี54 เมื่อ: มีนาคม 14, 2011, 06:15:40 pm
เชิญปฏิบัติธรรม "ชั่วโมงพุทธวัจน์" ที่ กบท สุวรรณภูมิ ตลอดปี54

นำโดย  พระอาจารย์คึกฤทธิ์  โสตถิผโล  แห่ง วัดนาป่าพง

              ตลอดทั้งปี54  ในทุกวันศุกร์ของเดือนดังนี้

                 ศุกร์ที่     18   มีนาคม

                 ศุกร์ที่     8     เมษายน (เชิญร่วมสรงน้ำ พอจ เนื่อวในวันสงกรานต์ )

                 ศุกร์ที่     20   พฤษภาคม

                 ศุกร์ที่     17   มิถุนายน

                 ศุกร์ที่     15   กรกฏาคม (วันอาสาฬหบูชา)**(สอบถามล่วงหน้า)

                 ศุกร์ที่     19   สิงหาคม

                 ศุกร์ที่     16   กันยายน

                 ศุกร์ที่     21   ตุลาคม

                 ศุกร์ที่     18   พฤศจิกายน

                 ศุกร์ที่     16   ธันวาคม

        เวลา   1300-------1600 น.

     ณ   ห้องสุพรรณหงส์   อาคารA1  ศูนย์ปฏิบัติการ กบท สุวรรณภูมิ ( opc)

       ****ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลงทะเบียน ครับ****

   สอบถาม    0868463377,,0813411775

183  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เริ่มทำบัตรสมาร์ทการ์ด21มี.ค. เมื่อ: มีนาคม 11, 2011, 07:21:41 am
นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน (สปค.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กรมการปกครอง ได้มีหนังสือแจ้งปลัด กทม.จะมีการส่งมอบบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (สมาร์ทการ์ด) ให้ทั่วถึงทุกสำนักทะเบียนภายในวันที่ 21 มี.ค.นี้  ในส่วนของ กทม.คาดว่าจะได้ประมาณ 400-500 ใบต่อเขต และหากหมดลงก็สามารถเสนอขอเพิ่มเติมไปได้  ทั้งนี้ได้ให้สำนักงานเขตเตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชนเนื่องจากคาด ว่าจะมีประชาชนที่ถือใบเหลืองไปรับบัตรฯจำนวนมาก และขณะเดียวกันก็ต้องให้บริการทำบัตรใหม่ตามปกติไปพร้อม ๆ กันด้วย จึงได้ให้ทุกเขตขยายเวลาทำการเปิดให้บริการนอกเวลาราชการถึง 18.00 น. ในวันทำการและในวันเสาร์ เปิดให้บริการเพิ่มเติมในเวลา 08.00-16.00 น. แต่ขอแจ้งว่าในช่วงแรก ๆ อาจจะมีปัญหาคือประชาชนต้องคอยนาน เพราะแต่ละเขตส่วนใหญ่มีเครื่องผลิตบัตรเพียงเครื่องเดียว ซึ่งให้บริการได้เฉลี่ยไม่เกิน 200 คนต่อวัน ทั้งนี้ สปค.จะจัดรถให้บริการเคลื่อนที่ไปช่วยสำนักงานเขตที่มีประชาชนไปติดต่อจำนวน มากด้วย.

http://www.dailynews.co.th
184  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ตรวจสภาพรถฟรีเดินทางสงกรานต์ เมื่อ: มีนาคม 11, 2011, 07:19:53 am
นายเทียนโชติ จงพีร์เพียร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมฯสนองนโยบายปีแห่งความปลอดภัย โดยเตรียมความพร้อมรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของประชาชน จึงร่วมมือกับภาคเอกชนกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศจัดกิจกรรม “ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน” เพื่อให้บริการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถเบื้องต้นฟรีแก่ประชาชน จะให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.-10 เม.ย.  สามารถนำรถเข้าตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถได้ ณ จุดที่มีป้ายข้อความ “ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน” จะให้บริการตรวจเช็กระบบเครื่องยนต์ สภาพเบรก คลัตช์ เกียร์ สายพาน  ที่ปัดน้ำฝน  ตรวจวัดระดับน้ำมันเครื่อง  น้ำในหม้อน้ำ  รวมทั้งระบบไฟส่องสว่างต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทาง พร้อมจัดตั้งจุดพักรถทุกระยะ 400 กม. นอกจากนี้  ยังจัดตั้งจุดพักรถโดยสารสาธารณะบนถนนสายหลัก 7 จุด  ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา  บุรีรัมย์  ประจวบคีรีขันธ์  นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี  และจังหวัดระยอง  รวมทั้งจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ให้บริการประชาชน ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต เอกมัย สายใต้ วันที่ 7–12 เม.ย. และตั้งแต่วันที่  21 มี.ค.-8 เม.ย. และวันที่ 11–17 เม.ย. กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ยังได้สนับสนุนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดนักศึกษาจากวิทยาลัย เทคนิค และวิทยาลัยการอาชีพ  ให้บริการซ่อมรถเบื้องต้นบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศด้วย.

http://www.dailynews.co.th
185  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระครูยัน"จักษุธาตุ"ของจริงไม่ใช่เพชรรัสเซีย เมื่อ: มีนาคม 10, 2011, 08:10:15 am
    พระครูพันธกิจประจักษ์ ภูริปญโญ วัดสัมพันธวงษ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ถึงกรณีพระพรหมเมธี เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ออกมากล่าวว่า พระจักษุธาตุที่้อ้างว่าเป็นพระธาตุของพระพุทธเจ้านั้นเป็นของปลอมและน่าจะ เป็นเพียงเพชรรัสเซีย ว่า เรื่องจักษุธาตุ ปกติอาตมาบูชาเป็นพระบรมสารีริกธาตุอยู่ในผอบ แต่ต่อมาก็เห็นแสงเปล่งประกายและมีดวงตาขึ้นมา เรื่องนี้มีครูบาอาจารย์หลายองค์ที่บอกว่าเกิดขึ้นได้จากพุทธานุภาพของพระ พุทธเจ้า
    ส่วนที่บอกว่า ไม่มีในตำรานั้น พระครูพันธกิจประจักษ์ กล่าวว่า ก็เหมือนพระนิพพาน สมัยพุทธกาลก็ไม่มีในตำราแต่พระพุทธเจ้าท่านสรรหาเอง อันนี้เป็นสันฐานเหมือนเพชรแต่เปลี่ยนสีได้ บางครั้งปรากฎเป็นรูปดวงตาขึ้นมา ยืนยันว่าพิสูจน์ได้100% เพราะถ้าเป็นเพชรอะไรก็ตามจะไม่มีการเปลี่ยนสี
    "อาตมามาจำพรรษาเมื่อปี 2544 พระพรหมเมธีให้มาช่วยวัด เมื่อมีพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาก็ไปเรียนท่าน ท่านก็ไม่เชื่อ ทีแรกก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อมีคนมาศรัทธาเยอะ ก็มีการจะให้พิสูน์จะอะไรต่างๆ ต่อต้านมาตลอด" พระครูพันธกิจประจักษ์ กล่าว
    พระครูพันธกิจประจักษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ขอบริจาคเรี่ยไรเงินญาติโยมมาสร้างเจดีย์ที่ จ.อุดรฯ ว่า ก็เชิญชวนทุกคนมาบริจาค และได้ขอให้พระพรหมเมธีมาเป็นประธานฝ่ายส่งฆ์ร่วม ตอนนั้นท่านก็ไม่มีปัญหาอะไร ที่ผ่านมาก็ได้ 11 ล้าน และจะมีการวางศิลาฤกษ์ 19 มี.ค.นี้ มีคณะกรรมการทุกอย่าง
    "ถ้ามาพิสูน์แล้ว สรุปได้ว่าพระธาตุนี้ไม่จริง เป็นเพชรหรือเป็นอะไร ถ้าใครไม่ศรัทธา ก็ยินดีที่จะคืนเงินให้ เพราะเงินเรายังไม่ได้ใช้จ่ายอะไร" พระครูพันธกิจประจักษ์ กล่าว
186  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ม.ค.54แตะ 40 ล้านบาท เมื่อ: มีนาคม 08, 2011, 06:47:14 am
ปอศ.เผยการจับกุมละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 54 พบมียอดการจับกุมการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในองค์กรธุรกิจคิดเป็นมูลค่า เกือบ 40 ล้านบาท เป็นบริษัทขนาดใหญ่มีทุนจดทะเบียนเฉลี่ย 131.2 ล้านบาท และรายได้ต่อปีเฉลี่ย 1.47 ล้านบาท 

พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามและการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก. ปอศ.) กล่าวว่า ปัจจุบันอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยอยู่ที่ร้อยละ 75 และมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีการสืบสวนผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการดำเนินการป้องปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ดำเนินไปอย่าง เข้มข้นตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา  โดยจากการตรวจค้นในแต่ละครั้ง พบว่า มูลค่าของซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์แตกต่างกันออกไปตามขนาดของบริษัท และประเภทของธุรกิจ และยังมีบริษัทจำนวนมากที่นำซอฟต์แวร์มูลค่าสูงมาใช้สร้างผลกำไรมหาศาล โดยไม่ได้ชำระค่าลิขสิทธิ์ และเพื่อบรรลุเป้าหมายในการปกป้องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ และลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศลง เราจะดำเนินการสืบสวน เก็บรวบรวมหลักฐาน และเข้าตรวจค้นบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องสงสัยว่าละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่องต่อไป
   
ล่าสุด ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เข้าตรวจค้นบริษัทที่ต้องสงสัยว่าละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ซึ่งบริษัทที่ถูกตรวจค้นเหล่านี้ล้วนเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ และมีทุนจดทะเบียนเฉลี่ย 131.2 ล้านบาท และรายได้ต่อปีเฉลี่ย 1.47 ล้านบาท โดยจากการตรวจค้นและจับกุมการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นมา พบว่า มียอดการจับกุมการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในองค์กรธุรกิจคิดเป็นมูลค่า เกือบ 40 ล้านบาท
   
การบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ในปีนี้ ส่งผลให้กรรมการของบริษัทเกือบ 20 แห่ง ต้องถูกกล่าวโทษในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ โดยซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์บ่อยที่สุด ได้แก่ ซอฟต์แวร์ของบริษัทไทย ชื่อ ไทยซอฟท์แวร์เอ็นเตอร์ไพรส์ นอกจากนี้ตำรวจยังตรวจพบซอฟต์แวร์ของออโต้เดสค์ (Autodesk) อโดบี (Adobe) และไมโครซอฟต์ (Microsoft) อีกด้วย สามารถแจ้งเบาะแสการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ผ่านทางเว็บไซต์ www.stop.in.th



ที่มาเนื้อหาข่าวสาร
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=316&contentID=125390
187  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ตามดูผลกระทบ 'แผ่นดินไหว' ยิ่งใกล้เพื่อนบ้าน...ไทยเสี่ยง?!? เมื่อ: มีนาคม 08, 2011, 06:43:52 am
ข่าวการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศนิวซีแลนด์ที่ผ่านมาสร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ทำ ให้เกิดความเศร้าสลดไปทั่วโลก และต่อมาเพียงวันเดียวก็เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศลาว ซึ่งเรารับรู้ได้ถึงการไหวสะเทือนในหลายจังหวัด ถ้าดูเผิน ๆ จะรู้สึกว่าพิบัติภัยแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นบ่อยและถี่ขึ้นทุกวันทั่วโลก เพราะล่าสุดก็ยังมีการเกิดอยู่อย่างต่อเนื่องที่ภาคเหนือของไทย ถึงแม้จะไม่รุนแรงแต่ก็สร้างความตื่นตระหนกได้ไม่น้อยว่าพิบัติภัยจะรุนแรง ขึ้นในบ้านเราเมื่อใด...?!?
   
ดร.ปริญญา พุทธาภิบาล สาขาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ให้ความรู้ว่า ในเชิงสถิติอาจกล่าวได้ว่าแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลกมีจำนวน ครั้งที่ค่อนข้างคงที่ใกล้เคียงกันในแต่ละปี โดยแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 7-8-9 เกิดขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 18 ครั้ง 3 ครั้งและน้อยกว่า 1 ครั้งตามลำดับ ส่วนแผ่นดินไหวที่มีขนาดความรุนแรงน้อยกว่านั้นเกิดขึ้นรวมกันทั่วโลกนับ ล้านครั้งในแต่ละปี   
   
แม้เราจะทราบว่าแผ่นดินไหวรุนแรงส่วนใหญ่เกิดขึ้นในบริเวณหรือใกล้เคียงรอย ต่อหรือรอยตะเข็บระหว่างแผ่นธรณีและบริเวณรอยเลื่อนมีพลังที่เกี่ยวเนื่อง แผ่นดินไหวรุนแรงส่วนน้อยมากที่เกิดลึกเข้าไปในทวีป แต่ทั้งหมดก็สัมพันธ์กับแรงที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นธรณีทั้งทางตรง และทางอ้อม เช่น ภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวรุนแรงลำดับต้น ๆ ของโลก ได้แก่ ประเทศที่ตั้งอยู่บริเวณขอบมหาสมุทรแปซิฟิก ที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นแนววงแหวนไฟ เช่น ฝั่งตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก เปรู ชิลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฯลฯ ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ เช่น ฟิจิ นิวซีแลนด์ ประเทศอื่น ๆ เช่น พม่า บังกลาเทศ เนปาล อินเดีย จีน และประเทศในแถบทะเลเมดิเตอเรเนียน เช่น อิหร่าน ตุรกี ฯลฯ
   
สำหรับประเทศไทยเองเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินซุนด้าที่ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เกาะสุมาตรา ชวา บอร์เนียว และส่วนที่เป็นไหล่ทะเลตื้น ซึ่งแผ่นธรณีส่วนนี้อยู่ภายใต้แรงบีบอัดที่เกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นธรณีรอบ ด้าน จึงทำให้มีความเสถียรสูง ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของแผ่นดินซุนด้าค่อนข้าง ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว ยกเว้นบริเวณขอบ ๆ ของแผ่นดินซุนด้าที่มีแรงเฉือนมาก เกิดรอยเลื่อนมีพลังแนวระดับและเกิดแผ่นดินไหวหนาแน่นกว่าพื้นที่อื่น ๆ จึงเห็นได้ชัดว่าในส่วนของประเทศไทยรอยเลื่อนมีพลังและพื้นที่ที่เคยเกิด แผ่นดินไหวขนาดรุนแรงน้อยถึงปานกลางเกิดหนาแน่นในภาคเหนือ ตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันตกและภาคใต้
   
นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีแหล่งน้ำพุร้อนที่พบแล้วกว่า 90 แห่ง ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตกและภาคใต้ แหล่งน้ำพุร้อนทั้งหมดเกิดในบริเวณรอยเลื่อนมีพลังหรือมีความสัมพันธ์กับรอย เลื่อนมีพลังโดยตรง จากการศึกษาอุณหภูมิของน้ำพุร้อนที่ผิวดินพบว่า อุณหภูมิน้ำพุร้อนในแหล่งภาคเหนือและภาคใต้มีอุณหภูมิประมาณ 80-100 องศาเซลเซียส และ 60-79 องศาเซลเซียสตามลำดับ ส่วนน้ำพุร้อนภาคตะวันตกและภาคกลางมีอุณหภูมิต่ำกว่ามากประมาณ 37-59 องศาเซลเซียส ลักษณะที่ปรากฏนี้สะท้อนให้เห็นว่ารอยเลื่อนมีพลังที่สัมพันธ์กับน้ำพุร้อน ในภาคเหนือและภาคใต้มีการขยับตัวบ่อยและรุนแรงมากกว่าส่วนของภาคตะวันตกและ ภาคกลาง
   
แต่สำหรับการศึกษาแนวการวางตัวของแหล่งน้ำพุร้อนตามแนวรอยเลื่อนเจดีย์สาม องค์และตำแหน่งความร้อนใต้พิภพ จากข้อมูลของการสำรวจปิโตรเลียมในอ่าวไทยพบว่า แนวการวางตัวของรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์พาดลงอ่าวไทยผ่านบ้านเขาหลาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยส่วนที่อาจต่อเนื่องยาวลงไปในอ่าวไทยมีลักษณะการเหลื่อมเหมือนถูกตัดผ่าน ด้วยรอยเลื่อนระนองที่วางตัวในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ทำให้รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ถูกทอนพลังลงมามากไม่สามารถ เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ นอกจากนั้นข้อมูลธรณีฟิสิกส์ไม่แสดงว่ามีแนวรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ซ่อนอยู่ ใต้ผิวดินแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับชาวเมืองหลวง
   
การเปรียบเทียบสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณต่าง ๆ ของโลกกับประเทศไทย ถือว่าได้ประโยชน์เพื่อนำไปประเมินโอกาสการเกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง ต่าง ๆ แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุด คือสภาพธรณีแปรสัณฐานของพื้นที่ โครงสร้างทางธรณีวิทยา สถิติการเกิดแผ่นดินไหวในอดีต ทิศทางความเร็วการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปพื้นที่ที่มีสภาพธรณีแปรสัณฐานแบบเดียวกันหรือคล้ายกันมีโอกาสที่ จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงแบบเดียวกันก็เป็นไปได้มาก เช่น นิวซีแลนด์ แอลเอ ซาน        ฟรานซิสโก หมู่เกาะอันดามัน-นิโคบาร์ และบริเวณแนวเลื่อนสะกาย (Sagiang) ในเมียน มาร์ เมื่อกลไกการเกิดแผ่นดินไหวเป็นเช่นนี้ ปัจจุบันแผ่นดินไหวที่ไทยเผชิญอยู่จึงมีขนาดรุนแรงต่ำถึงปานกลาง
   
อย่างไรก็ตามนอกจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่ส่งผลกระทบโดย ตรงแล้วการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศข้างเคียงที่ไหวสะเทือนมีความรุนแรงพอก็ สามารถส่งผลกระทบต่อประเทศไทยได้ โดยสถิติการเกิดแผ่นดินไหวทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งผลกระทบต่อ พื้นที่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2455-2547 จำนวน 4,310 ครั้ง และระหว่างปี  2547-2549 จำนวน 5,799 ครั้ง แต่จำนวนครั้งของการเกิดแผ่นดินไหวแถบเกาะสุมาตราระหว่างปี  2547-2549 มีสัดส่วนสูงมากขึ้นภายหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547
   
จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าแผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งผลกระทบต่อประเทศ ไทยมากได้แก่ แผ่นดินไหวขนาดรุนแรงมากกว่า 7 ริคเตอร์ ที่เกิดตามแนวรอยตะเข็บระหว่างแผ่นธรณีอินเดีย-ออสเตรเลียและแผ่นซุนด้าใน ทะเลอันดามันและแนวรอยเลื่อนสะกายในเมียนมาร์ที่ต่อเชื่อมกับรอยเลื่อนเกาะ สุมาตราบนเกาะสุมาตราและแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดบริเวณรอยต่อระหว่างเมีย นมาร์และจีนและทางตอนใต้ของจีน ส่วนแผ่นดินไหวในประเทศลาวที่เชื่อมต่อกับรอยเลื่อนเดียนฟู และรอยเลื่อนแม่น้ำแดงมีแผ่นดินไหวขนาดปานกลางและเล็กที่อาจรู้สึกได้ในหลาย พื้นที่และอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยตามจังหวัดชายแดน เช่น อุตรดิตถ์ น่าน และพื้นที่ข้างเคียงได้บ้าง
   
ดังนั้นเมื่อพิบัติภัยแผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้านรอบ ๆ ประเทศไทยแม้จะมีขนาดความรุนแรงก็จะไม่ส่งผลกระทบถึงไทยได้ในวงจำกัด จากข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวที่ได้ติดตามศึกษาในประเทศไทยเองในภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันตกและภาคกลางมีความเสี่ยงต่อพิบัติภัยแผ่นดินไหวน้อยลงตามลำดับ แต่ในส่วนของกรุงเทพมหานครเองนั้นแม้ว่าจะอยู่ไกลจากพื้นที่ที่มีการเกิด แผ่นดินไหวก็ตาม เนื่องจากสภาพดินเป็นดินอ่อนชั้นหนามากมนที่ราบภาคกลางตอนล่างอาจส่งผลให้ เกิดการขยายคลื่นของแผ่นดินไหวเป็น 3 เท่าของการเกิดแผ่นดินไหว ฉะนั้นในการก่อสร้างอาคารหรือบ้านเรือนต่าง ๆ ในพื้นที่เสี่ยงภัยจะต้องปฏิบัติตามประกาศกรมโยธาธิการอย่างเคร่งครัดเพื่อ ช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้.

ทีมวาไรตี้
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=125363
188  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คนถือใบเหลืองเฮ"สมาร์ทการ์ด"คลอดแล้ว เมื่อ: มีนาคม 08, 2011, 06:41:12 am
คนถือใบเหลืองยิ้มออก สมาร์ทการ์ดคลอดแล้ว คาดทั่วหน้า พ.ค.นี้ ส่วนงานทะเบียนขอทำบัตรแข็งให้ผู้ถือบัตรเหลืองก่อน



วันนี้ (7 มี.ค.) นายพิภพ ดำทองสุข ผู้อำนวยการบริหารงานทะเบียนได้จัดสาธิตการทำบัตรประชาชนเอนกประสงค์หรือ บัตรสมาร์ทการ์ด โดยนายพิภพ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร (ไอซีที)  ได้ส่งบัตรมาให้กระทรวงมหาดไทยแล้ว 3 แสนใบ และได้จัดส่งไปให้สำนักงานเขตและอำเภอพื้นที่ห่างไกล 200 แห่ง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะสามารถจัดทำบัตรได้

ซึ่งเมื่อทางอำเภอได้รับบัตรจากนั้นจะทำการตรวจรับและเช็คสภาพเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำบัตร เพราะหยุดใช้ไปนาน หากเครื่องเสียก็จะรีบดำเนินการซ่อมโดยเร็ว และภายในสัปดาห์นี้ทางกระทรวงไอซีทีจะจัดส่งบัตรมาให้อีก 7 แสนใบ รวมเป็น 1 ล้านใบ จึงเชื่อว่าจะกระจายให้กับที่ทำการเขตต่าง ๆ ทั่วประเทศภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ผู้ที่ใช้บัตรเหลืองอยู่ประมาณ 4 ล้านใบนั้นจะสามารถได้รับบัตรสมาร์ทการ์ดทั้งหมดภายในเดือน พ.ค.

"ขณะนี้เราเร่งผลิตบัตรวันละ 8 หมื่นใบ ซึ่งจะขอย้ำกับเจ้าหน้าที่ว่าการทำบัตรสมาร์ทการ์ด ต้องทำให้คนที่ยังใช้บัตรเหลืองก่อน สำหรับผู้ที่บัตรจะหมดอายุในช่วงนี้ ขอให้เลื่อนการทำบัตรออกไปก่อน เพราะตามกฎหมายสามารถใช้บัตรหมดอายุได้อีก 60 วัน" นายพิภพ กล่าว.


ที่มาข่าวสาร
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=125483
189  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ทำไม พรหม และ เทวดา ไม่ปรารถนาความเป็นพระอรหันต์ เมื่อ: มีนาคม 04, 2011, 07:45:29 am
กระทู้สืบเนื่องคะ

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3241.msg11600;topicseen#msg11600


อาจจะดูคำถาม เหมือนว่าถามเรื่องไกลตัว แต่เป็นเพราะความสงสัยว่า

 ในเมื่อเทวดา และ พรหม นั้นเป็นผู้มีฤทธิ์ กันเป็นปกติ น่าจะบำเพ็ญเพียรเพื่อเข้าสู่ นิพพานกันดีกว่า

แต่ในจำนวน เทวโลก 16 ชั้น มีเพียง 5 ชั้นที่เรียกว่า สุทธาวาส ที่อยู่ของ พรหมอนาคามี และ พวก สกิทาคามี

พระโสดาบัน ที่จะบรรลุในเทวโลก เทียบเปอร์เซ็นแล้ว น่าจะอยู่น้อย เปอร์เซ็น

 การบำเพ็ญเป็นพระอรหันต์ ทำไมต้องมาสู่โลกมนุษย์ รวมทั้งการสร้างบุญบารมีของเทวดา นั้นก็ต้องมาที่โลก

มนุษย์เป็นหลัก

  ดังนั้นการจะกล่าวว่าไปเกิดเป็นเทวดา ดีกว่า มนุษย์ นั้นก็ยังไม่น่าจะถูก.....

  พระพุทธเจ้า ต้องมาตรัสรู้บนโลกมนุษย์ มีประวัติตรัสรู้ ในเทวโลก มีองค์ไหนบ้างเอ่ย...

  ขอบคุณคะ

   :c017:
190  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริฑัต เมื่อ: มีนาคม 01, 2011, 01:18:27 pm

หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
191  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เริ่มต้นศึกษาหลักธรรม เพื่อภาวนาให้ชีิวิตมีความสุข เริ่มจาก... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 09:33:37 pm
มีความสนใจในหลักธรรม ในการเจริญภาวนา ควรเริ่มต้น ที่จะทำความเข้าใจเรื่องใดก่อนคะ

เห็นเพื่อน ๆ บอกว่าต้องไปสอบ ธรรมศึกษา และต้องไปฟังธรรมทุกวันอาทิตย์ ต้องทำบุญใส่บาตรทุกวัน

ต้อง.. ซะมากมายเลย จนเริ่มสับสนแล้วว่า ทำไมเริ่มต้นจึงมีมากมายหลายประเด็นจังคะ

ที่นี้ถ้าเอาแบบตามกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับนี่คะเพราะบ้านอยู่ฝั่งธน อยู่แล้ว ควรจะทำอย่างไร และเริ่ม

อย่างไรคะ

 :25: :c017:
192  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ขิง" ช่วยบรรเทาอาการเมารถเมาเรือได้ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2011, 10:11:57 pm

ขิง" ช่วยบรรเทาอาการเมารถเมาเรือได้ อาจจะลองซื้อลูกอมรสขิงหรือใช้แง่งขิงจากในครัวมาก็ได้ ช่วยลดอาการคลื่นเหียนอาเจียน...

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลีก เลี่ยงการเดินทางไกล เพราะเป็นห่วงว่าจะเจ็บ ไข้ได้ป่วยจากอาการเมารถ-เมาเรือ วันนี้เรามีข้อเสนอให้คุณๆ หันมาลองสู้กับมันซักตั้ง ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ในการ ป้องกันอาการ "เมา" ให้ลองดูกันเป็นข้อดังต่อไปนี้เลย

-ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าให้ ลองพกขนมขบเคี้ยวที่อุดมด้วยโปรตีน อย่างเม็ดอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง หิมพานต์ เอาไว้เคี้ยวเล่นระหว่างเดินทาง เพราะถ้าหากท้องว่างเสียแล้วคุณก็จะมีโอกาสรู้สึกไม่สบายได้ง่าย และควรจะกินของขบเคี้ยวพวกนี้ทุก 2-3 ชั่วโมง

-ข้อนี้อาจฟังดูโบราณไปเสียหน่อย แต่ก็ยังใช้ได้ดีจริง นั่นคือเขาบอกว่า "ขิง" ช่วยบรรเทาอาการเมารถเมาเรือได้ อาจจะลองซื้อลูกอมรสขิงหรือใช้แง่งขิงจากในครัวมาก็ได้ ช่วยลดอาการคลื่นเหียนอาเจียน ไม่ว่าจากอาการปวดไข้ แพ้ท้อง หรือท้องไส้ไม่ค่อยดี ใช้ได้เหมือนกัน ถ้าการอมหรือเคี้ยวขิงสดจะแรงเกินไป แนะนำให้ลองชาขิงก็ได้เหมือนกัน

-บางทีอาการเมารถ เมาเรือนั้นอาจจะเกิดจากการอยู่ในที่แคบ หรืออึดอัดอย่างในเครื่องบิน หรือบนรถประจำทาง ดังนั้น จึงควรจะ เปิดหน้าต่างใน โอกาสที่พอจะทำได้ เพราะอากาศสดชื่นจากภายนอกจะช่วยลดอาการไม่พึง ประสงค์ลงได้

-ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารหนัก หรืออาหารที่มันเยิ้มก่อนการเดินทาง เพราะจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายท้องขึ้นได้ แต่ควรจะกินอาหารเบา อย่างขนมปังกรอบ ผัก และผลไม้ที่ไม่เป็นกรด จะดีกว่า การ เคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอมก็อาจช่วยได้ และถ้าหากเพิ่งจะกินอาหารเข้าไปก็พึงหลีกเลี่ยงการนอนภายในครึ่งชั่วโมง จนกว่าอาหารจะได้ย่อยเสียก่อน

-เรื่อง การเลือกหาที่นั่งก็สำคัญเช่นกัน ไม่ควรเลือกนั่งในตำแหน่งท้ายรถประจำทาง เพราะนั่นเป็นจุดที่กระแทกกระเทือนที่สุด ควร หาที่นั่งด้านหน้าติดหน้าต่างจะดีกว่า หากเดินทางด้วยเครื่องบิน ควรขอที่นั่งใกล้กับปีก ซึ่งจะเป็นจุดที่นั่งได้สบายกว่า เช่นเดียวกับเวลาเดินทางด้วยเรือก็ลองถามกัปตันดูว่าตรงส่วนไหนของเรือจึงจะ นั่งสบายที่สุด.
193  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การขึ้นกรรมฐาน หลายที่ นั้นเป็นการปรามาสครูอาจารย์หรือไม่คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 10:26:49 pm
เคยไปปฏิบัติ กับเพื่อน ๆ และพระท่านก็ให้ขึ้นกรรมฐาน หลายครั้ง
จนไม่แน่ใจว่า การขึ้นกรรมฐาน นี้เป็นการปรามาสครูอาจารย์หรือไม่คะ

สมัครเรียนหลาย สำนัก มากเกินไป จะมีอุปสรรค ขวางธรรมหรือไม่คะ

 :25:
194  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / ชีิวิตจริง ยิ่งกว่าละคร เชิญติดตาม เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 04:17:38 am
สุ ภาวิณี แซดกระโทก หรือพลอย ต้องช่วยพ่อกับแม่ทำนามาตั้งแต่เรียนอยู่เพียงชั้นป.4 แม้จะมีโรคประจำตัวป่วยเป็นโรคหอบหืด แต่ยังสู้งานหนัก เพราะอยากแบ่งเบาภาระให้ครอบครัว ไม่เพียงแต่พลอยที่มี            ปัญหา ด้านสุขภาพ พ่อและน้องชายคนสุดท้อง ป่วยเป็นโรคหอบหืดเช่นกัน ส่วนน้องชายคนกลาง ร่างกายไม่แข็งแรง เนื่องจากป่วยเป็นทั้งโรคหอบหืดและโรคหัวใจ





ร่วมติดตามเป็นกำลังใจให้พลอยใน
รายการสานรรักคนเก่ง หัวใจแกร่ง ตอน สู้ชีวิต
ออกอากาศวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 15.10 น. ทาง ททบ.5


สามารถช่วยเหลือพลอยได้ที่บัญชีนางสาวสุภาวิณี แซดกระโทก
ธนาคารกรุงไทย  สาขาโชคชัย
หมายเลขบัญชี 344-0-37966-3



ติดตามอ่านต่อได้ที่นี่คะ

http://www.payai.com/payai/main/main/main.php?mainmenu=program&submenu=spotdetail&pid=4&spotid=709
หน้า: 1 ... 3 4 [5]