ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอให้เราตั้งสติ อย่าโยนบาปให้แก่กัน  (อ่าน 1112 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ขอให้เราตั้งสติ อย่าโยนบาปให้แก่กัน
« เมื่อ: สิงหาคม 22, 2015, 09:30:10 pm »
0


ขอให้เราตั้งสติอย่าโยนบาปให้แก่กัน
วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยมนสิกุล โอวาทเภสัชช์

       “ขอไว้อาลัยแก่ชีวิตพี่น้อง ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ได้รับโศกนาฏกรรมถึงขั้นเสียชีวิตบนผืนแผ่นดินไทย เราในฐานะคนไทยรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวของพี่น้องทั้งหลายที่หวังว่าจะมาหาความสุขในประเทศไทยด้วยการมาเที่ยว มาชม มากิน อย่างมีความหวัง แต่ว่าในที่สุดก็ต้องมาจบชีวิตบนผืนแผ่นดินที่ตรงนี้ บางคนก็หวังจะมาอธิษฐานขอศีลขอพรจากองค์พระพรหมว่าเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่สุดท้ายก็ต้องมาจบชีวิต ณ ที่ตรงนี้ ก็ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง”

      พระราชญาณกวี (สุวิทย์ ปิยวิชฺโช) หรือนามปากกา ปิยโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก กรุงเทพฯ กล่าวกับ คมชัดลึก วันพระ ในวันที่คนไทยทั้งแผ่นดินประสบกับความทุกข์พร้อมกับเพื่อนร่วมโลกที่่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่กว่า ๒๐ ชีวิตที่่จากไป และอีกเป็นร้อยที่บาดเจ็บ ณ บริเวณพระพรหม ที่ใครๆ ต่างมากราบไหว้บูชา แสวงหาความสงบสุขทางใจ


      ans1 ans1 ans1 ans1

     ท่านกล่าวต่อมาว่า ...
     “ในนามของพระสงฆ์ วันพระนี้ซึ่งเป็นวันเสาร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลาหกโมงเย็น คณะสงฆ์ประมาณ ๑๐๐ รูป จะมาสวดมนต์ที่หน้าพระพรหม เพื่อส่งดวงวิญญาณ อุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณที่จากไป และเคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็จะได้หายไป สี่แยกมหาเทพนี้ก็จะได้เป็นสี่แยกแห่งความเป็นสิริมงคลต่อไป”

     สำหรับเรื่องที่ท่านเจ้าคุณปิยโสภณอยากจะให้เป็นข้อคิดสำหรับรัฐบาลที่กำลังจะเปิดประเทศโดยเฉพาะก็คือ

     "ประเทศเรามีความพร้อมขนาดไหนที่จะป้องกันคนต่างชาติที่จะเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวก็ดี ในฐานะที่มาทำมาค้าขายในประเทศไทยก็ดี การเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ การตรวจตราผู้คนเข้าเมืองก็ดี  แทบจะไม่มีเลย แม้แต่ร้านค้าที่ขายอาวุธ เช่น ขายปืน ขายลูกกระสุน ขายผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ต่างๆ เรามีความพร้อมหรือไม่  เรามีความระมัดระวังมากน้อยแค่ไหน เพราะอาวุธเหล่านี้ไม่น่าจะเป็นอาวุธที่ซื้อมาสำเร็จรูป แต่น่าจะเป็นการซื้อจากแหล่งละเล็ก แหล่งละน้อย และมาผสมกัน รู้วิธีทำ เช่น ใช้ถังแก๊ส ก็ต้องระมัดระวัง หรือว่าอะไรต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นทางภาคใต้ของเรา ต่อไปนี้ เราจะ้ต้องสังวรเอาไว้ว่า มันอาจจะเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ในที่ชุมชนใหญ่ โดยอาศัยความขัดแย้งที่มันเกิดขึ้นระหว่างประเทศ ในด้านศาสนา ลัทธิความเชื่อที่แตกต่างกัน เช่น คนหนึ่งบอกว่า ฆ่ายุงบาป อีกคนบอกว่า ฆ่าคนไม่บาป ถือว่าเป็นคำสอนที่ขัดแย้งต่อสันติภาพเป็นอย่างยิ่ง

  st12 st12 st12 st12

      “พระพุทธศาสนามีแต่ให้อภัย ไม่จองเวร ไม่พยาบาท แต่คนอีกกลุ่มหนึ่ง กลับเรียกร้องสันติภาพด้วยความรุนแรง เรียกร้องความต้องการของตนเอง ด้วยความตายของผู้อื่น  วิธีการนี้จะทำให้โลกไม่มีสันติสุข เราพึงสังเกตให้ดีว่า รัฐบาลเองก็ควรตระหนักถึงความสงบสุข ความมั่นคง อย่าชะล่าใจ อย่าคิดว่า ไม่มีภัย ไม่เป็นไร รัฐบาลเองควรมีความพร้อม อย่าให้โจรข่มขู่ จนโจรได้ใจ ไม่ใช่ว่า ใครอยากได้อะไรก็ให้หมด เขาอยากทำอะไรให้ทำหมด  โจรที่มาในคราบของนักบุญเยอะมาก  โจรที่เข้ามาในระดับนานาชาติ ที่ร่วมมือกับคนในประเทศก็มีมาก”

      เพราะฉะนั้นสิ่งทีี่ท่านเจ้าคุณสุวิทย์ แนะนำเพิ่มเติมคือ     
      "เวลาที่เราเปิดประเทศแล้ว เราต้องมั่นใจว่าตู้เซฟของเราดี มีกุญแจอยู่ที่เราแล้ว เขาไม่ประทุษร้าย ไม่ลักขโมยของในตู้เซฟของเรา เพราะประเทศไทย เปรียบเสมือนบ้าน การที่เปิดประเทศอาเซียน ก็เหมือนการเปิดประตูรั้วบ้าน เปิดประตูให้คนเข้ามานอนในบ้านเราได้ เผลอๆ เขาจะเข้าไปนอนในห้องนอนเรา แล้วในที่สุดเขาจะเป็นเจ้าของบ้าน เราจะต้องมีวิธีการที่ดีกว่านี้ มั่นคงกว่านี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามีรายได้อันดับหนึ่งจากการท่องเที่ยว ถามว่าใครมาท่องเที่ยว คนทั่วโลก เราดีใจใช่ไหม คนเอาเงินเอาทองมาให้ มาเที่ยวบ้านเรา แต่ในขณะเดียวกัน อันตรายก็มาจากคนนั่นแหละ ซึ่งเราดูไม่ออกว่า ใครจะมาประทุษร้ายเรา ในฐานะนักท่องเที่ยวบ้าง เราก็จำเป็นต้องตรวจตรา ดูแลให้ดี


 :25: :25: :25: :25:

      "ประเทศเรา ใจดี ใจบุญ ใครอยากจะทำอะไรเชิญเลย แต่ไม่มีวิธีการที่จะรักษาประเทศชาติของตัวเองให้ปลอดภัย ประเทศอื่น เมืองอื่น เขาประสบชะตากรรมแบบเดียวกับเรา ตอนนี้เขาซึ้งแล้วว่าอะไรคือภัย คำสอนแบบไหนคือภัย ลัทธิไหนคือภัย ความรุนแรงที่่เกิดขึ้น เหมือนเอามีดมาแทงหัวใมจของคนไทยทั้งชาติ มันเป็นอะไรที่รุนแรงมาก เป็นอะไรที่เกิดขึ้นมาแล้ว ยากที่จะทำใจได้  ถ้าไม่เกิดกับตัวเอง เราอาจไม่รู้สึก แต่วันนี้ผู้สูญเสียไม่มีน้ำตา เพราะมันไหลลงไปข้างในหมด มันเหือดแห้งลงไปข้างใน ร่างที่แหลกเหลว เละ จนหาชิ้นดีไม่ได้ หัวที่หลุด แขนขาที่ขาดออกไป อวัยวะที่หลุดออกไปแตกละเอียด เพียงเพราะว่ามีบางคนที่ต้องการสนองบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น  แต่กลับมาทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เป็นประชาชนคนธรรมดา เดินบนถนน ไปทำร้ายเขาทำไม

       “อาตมาอยากจะบอกว่า คนที่หวังร้ายต่อคนอื่น เมืองอื่น เป็นคนที่ใช้ความรุนแรงเรียกร้องความต้องการของตัวเอง คนเหล่านี้จะเข้ามาประทุษร้ายประเทศชาติของเราในอนาคต ซึ่งอยากจะเตือนไปที่รัฐบาลว่า ความเข้มงวดกวดขันของท่าน ยังไม่เพียงพอ อย่าคิดว่าพรุ่งนี้ มะรืนนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกนะ มันเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกหนทุกแห่ง ในทำเนียบรัฐบาล ในโรงแรม ในวัดวาอาราม”
       อย่าคิดแต่จะเอานักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศ อย่าคิดแต่จะเอาเงินเขา แต่ไม่คิดถึงความปลอดภัยว่า ควรจะห้ามปรามอย่างไร มีการตรวจตราอย่างไร มีวิธีการอย่างไร อีกไม่กี่เดือนจะเปิดอาเซียนแล้ว จะมีขโมยขโจร เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทยมากมายมายมหาศาล แล้วนั่นแหละ ภัยจะมาจ่อที่คอหอยคนไทยเมื่อไหร่ก็ได้ ก็อยากจะฝากรัฐบาลไว้ ถ้าเราไม่ต้องการความรุนแรง

 st12 st12 st12 st12

      “ขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อยามค่ำของวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.๕๕ น. เป็นบทเรียนของทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าโยนความผิดให้คนนั้น คนนี้ กล่าวหากัน ว่านี่เป็นฝีมือของคนต่างแดน นี่เป็นฝีมือของคนในประเทศนอกประเทศ อันนี้ว่าจ้างมา ยุติเสียที เพราะทำให้เกิดความอ่อนแอของประเทศ เพราะมันเกิดความเสียหายมากแล้ว เรามาช่วยกันแก้ไข ในสิ่งที่โลกกำลังบอกเรา แต่ละประเทศบอกเรา ว่าเขาเจอปัญหามาก่อนแล้ว เขาบอกว่า คุณต้องเตรียมพร้อม เพราะคนพวกนี้ไม่มีสันติวิธีอะไรที่จะมามอบให้กับชาวโลก เขาต้องการเพียงว่า ต้องการสิ่งใด ต้องได้สิ่งนั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ รุนแรงขนาดไหน เอาชีวิตเข้าแลก เขาก็ยอม เขาต้องเป็นผู้ชนะ”

     ดังนั้นเราต้องมีวิธีการปกป้องคุ้มครองผืนแผ่นดินเราใหเปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องความหวาดระแวงกันและกัน
     “อาตมาก็ขออนุโมทนาบุญให้คนไทยระมัดระวัง อย่าชะล่าใจ อย่าเหิมเกริม อย่าทำอะไรตามใจตนเองมากเกินไป ให้มีวินัยในตัวเอง ถึงเวลากลับบ้านก็กลับ ถึงเวลาทำงานก็ทำ อย่าเผลอเพลินกับความสุขภายนอกจนขาดสติ”


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150822/212062.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ