พิมพ์

[raponsan]

ครบ ๑๒ ปี องค์การยูเนสโกประกาศยกย่อง "ท่านพุทธทาสภิกขุ" เป็นบุคคลสำคัญของโลก ถือเป็นคนไทยลำดับที่ ๑๗  ที่ได้รับเกียรตินี้ #วันนี้ในอดีต

การเสนอชื่อท่านพุทธทางภิกขุให้ยูเนสโกประกาศยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลกนี้ เป็นการเสนอของมูลนิธิเสถียรโกเศศ-นาคะประทีป ที่ได้ประสานงานมากับนายจาตุรนต์ ในปลายปี ๒๕๔๗ ในสมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีได้ทำหนังสือถึงนายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศธ.ในสมัยนั้นโดยให้พิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งต้นปี ๒๕๔๘ นายอดิศัยได้เสนอเรื่องไปยังยูเนสโก ประกาศยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก ซึ่งแต่ละปียูเนสโกจะคัดเลือกบุคคลดีเด่นที่ประเทศสมาชิกเสนอชื่อเข้ามาจำนวนหนึ่ง แล้วคัดเลือกประกาศยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลกในด้านต่างๆ และจัดเฉลิมฉลอง

ต่อมานายจาตุรนต์ ฉายแสง สมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสมัยสามัญขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประชุมที่กรุงปารีส ฝรั่งเศล มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ ต.ค. ๒๕๔๘ ให้ประกาศยกย่องพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ฉายา เงื่อม อินทปัญโญ เป็นบุคคลสำคัญของโลก และจัดเฉลิมฉลองตลอดปี ๒๕๔๙ ในวาระครบชาตกาล ๑๐๐ ปี ของท่านพุทธทาสภิกขุเมื่อวันที่  ๒๗พฤษภาคม ๒๕๔๙ ตามที่ประเทศไทยเสนอ พร้อมทั้งบันทึกการเฉลิมฉลองครั้งนี้ไว้เป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของยุเนสโก ประจำปี ๒๕๔๙ – ๒๕๕๐ ด้วย

โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณานั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีผลงานดีเด่นระดับภูมิภาค เป็นแบบอย่างอันดีที่แสดงออกชัดเจนในเรื่องของการส่งเสริมขันติธรรม สันติธรรม วัฒนธรรม ตลอดจนความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีของมวลมนุษย์ตามสาขาหลักของยูเนสโก คือ การศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม สังคมศาสตร์หรือการสื่อสาร โดยทางยูเนสโกจะตั้งกรรมการพิจารณาขั้นต้น และพิจารณากลั่นกรองอีก ๒ ครั้ง ก่อนเสนอให้ที่ประชุมสมัยสามัญของยูเนสโลกพิจารณารับรองขั้นสุดท้าย

ในส่วนของประเทศไทยนั้น ตั้งแต่ปี ๒๕๐๕ เป็นต้นมา มีบุคคลสำคัญของไทยได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญจากยูเนสโกทั้งหมดก่อนท่านพุทธทาสจำนวน ๑๖ ราย บุคคลล่าสุดในปี ๒๕๔๘ ยูเนสโลกได้ประกาศยกย่อง กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา เป็นบุคคลสำคัญของโลก และท่านพุทธทาสภิกขุถือเป็นบุคคลรายที่ ๑๗

ประวัติท่านพุทธทาสภิกขุ เกิดเมื่อวันที่ ๒๗ พ.ค. ๒๔๔๙ ที่อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ชื่อเดิมว่า เงื่อม พานิช บิดาชื่อเซี้ยง มารดาชื่อ เคลื่อน มีน้อง ๒ คน เริ่มบวชเป็นพระเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ตามคตินิยมของชายไทย ที่วัดโพธาราม อ.ไชยา ได้รับฉายาว่า “ อินทปัญโญ “ แปลว่า ผู้มีปัญหาอันยิ่งใหญ่

เดิมตั้งใจจะบวชเรียนแค่ ๓ เดือน แต่ความสนใจ ซาบซึ้งในพุทธศาสนา ไม่สึกเลย และยังเป็นผู้ก่อตั้งสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นเมื่อปี ๒๔๗๕ ให้เป็นสถานปฏิบัติธรรม ซึ่งมีผู้มาปฏิบัติธรรมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และยังมีผลงานแปลและงานเขียนอีกมากมาย และมรณภาพเมื่อวันที่ ๘ ก.ค. ๒๕๓๖ อย่างสงบที่สวนโมกขพลาราม รวมอายุได้ ๘๗ ปี


ขอขอบคุณที่มา http://www.cdthamma.com
เรียบเรียงโดยกิตติ จิตรพรหม : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/370204