ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยวให้หายแค้น กระแสแรงหลังเปิดประเทศ อาเซียนแข่งเอาใจคนเก็บกดจากโควิด  (อ่าน 237 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28420
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เที่ยวให้หายแค้น กระแสแรงหลังเปิดประเทศ อาเซียนแข่งเอาใจคนเก็บกดจากโควิด

ตอนคลายล็อกดาวน์เปิดเมืองใหม่ๆ เกิดกระแส “ช็อปปิ้งล้างแค้น” ระบาดไปทั่วโลก หนุนส่งให้ยอดขายสินค้าแบรนด์เนมพุ่งกระฉูดพักใหญ่ เพราะคนอัดอั้นอยู่กับบ้านนานหลายเดือนเมื่อถึงคราวประเทศไทยและเพื่อนบ้านอาเซียนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ จึงปลุกกระแส “Revenge Travelers เที่ยวให้หายแค้น” บูมไปทั้งภูมิภาค

คนกลุ่มนี้เก็บกดอยากเดินทางมานาน และโหยหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ขาดหายไปในช่วง 2-3 ปี อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด เพื่อชดเชยความรู้สึกและเวลาที่สูญเสียไป คนจำนวนมากจึงกระตือรือร้นอยากแพ็กกระเป๋าออกท่องโลก แถมยังพร้อมใช้จ่ายเงินไปกับตัวเลือกการท่องเที่ยวระดับพรีเมียม ส่งผลให้เทรนด์ การท่องเที่ยวแบบกินหรูอยู่แพง “Luxury Tourism” เติบโตรวดเร็วควบคู่กับ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน “Sustainable Tourism” จนกลายเป็นเทรนด์หลักของการท่องเที่ยวยุคหลังโควิด




“ประเทศไทย” ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับ 4 ของโลก จากผลสำรวจแผนการท่องเที่ยวระดับโลกของวีซ่า พลอยได้อานิสงส์เต็มๆจากเทรนด์ใหม่มาแรง โดยมี 4 เมืองคือ กรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และหัวหิน เป็นเดสติเนชั่นในดวงใจ

“ความกระหายท่องเที่ยวหลังโควิด” ของกลุ่ม “Revenge Travelers” จะเริ่มต้นจากคนกลุ่มเล็กที่มีกำลังทรัพย์เพียงพอต่อการใช้จ่ายขณะออกเดินทางท่องเที่ยว, ไม่จำเป็นต้องวางแผนท่องเที่ยวรัดกุมมากเกินไป และสามารถออกเดินทางได้ทันที นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อาจมีจำนวนไม่มาก แต่มีอัตราการจับจ่ายสูง สิ่งที่พวกเขาคาดหวังคือ การได้ทำกิจกรรมแปลกใหม่เพื่อชดเชยช่วงเวลาของชีวิตที่ขาดหายไป และต้องการบริการที่สะท้อนความใส่ใจ ทำให้รู้สึกถึงความเป็นคนพิเศษ

ฉะนั้น การบ้านของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ก็คือการออกแบบกิจกรรมที่เหนือกว่าความคาดหวัง โดยเฉพาะกิจกรรมท่องเที่ยวที่ส่งเสริมประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำใคร ผสานแนวคิดความยั่งยืนและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมียมนี้รู้สึกมีคุณค่า และได้ทำประโยชน์กับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน




มีการคาดการณ์ว่าในไตรมาสที่เหลือของปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะค่อยๆเพิ่มขึ้น และภายในปี 2565 อาจมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 4 ล้านคน โดยส่วนใหญ่มาจากทวีปยุโรป กระนั้น การท่องเที่ยวไทยจะพลิกฟื้นกลับมาคึกคักเท่าเดิมได้เมื่อไหร่ คงขึ้นกับสถานการณ์ความเป็นไปของโลก เมื่อทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี ทั้งสถานการณ์โรคระบาด, ปัญหาเศรษฐกิจ, เงินเฟ้อ, สงครามรัสเซีย-ยูเครน และปัญหาราคาพลังงาน

ไม่ว่าผลสำรวจของสำนักไหน ประ เทศไทยและอาเซียนก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักเดินทางทั่วโลกในยุคหลังโควิด รู้อย่างนี้แล้วต้องเร่งสปีดทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง.














Thank to : https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2421882
ไทยรัฐฉบับพิมพ์ ,ไลฟ์สไตล์ ,ท่องเที่ยว ,18 มิ.ย. 2565 ,07:17 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 28, 2022, 07:48:26 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ