ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขั้นตอนกรรมฐาน จำเป็นหรือครับ สำหรับการภาวนา พุทโธ  (อ่าน 6988 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

rainmain

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 323
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

ขั้นตอนกรรมฐาน จำเป็นหรือครับ สำหรับการภาวนา พุทโธ


 thk56
บันทึกการเข้า
คิดดี พูดดี ทำดี เป็นกุศล และ กรรมฐาน เป็นมหากุศล นะครับ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
จำเป็น สิคะ แต่ จำเป็นอย่างไร ให้ ศิษย์กรรมฐาน สระบุรี กล่าวแสดงดีกว่า คะ

  :49: :s_hi:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมว่า พระอาจารย์ มีศิษย์ที่สระบุรี น่าจะหลายท่านแต่ท่านที่ใช้เน็ตเป็น แล้วอยากพิมพ์ด้วย นั้นน่าจะหาน้อยนะครับ

  :coffee2:
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การเรียนธรรมภาวนาสายวัดราชสิทธิ์ ฯ นั้น ครูอาจารย์ท่านจะเน้นย้ำขั้นตอนมาก ซึ่งผมพิจารณาแล้วอาจจะไม่ถูกจริตคนไทยที่นิสัยชอบอะไรง่ายๆ จากประสบการณ์ที่ผมปฏิบัติมา หากจะถามถึงความง่ายกล่าวคือ ไม่สลับซับซ้อนมากนักนักภาวนาต้องอาศัยความอดทนกับระยะเวลา บางท่านอาจถึงล้มเลิกเอาดื้อๆเพราะหน่ายกับความง่ายๆไม่เห็นจะพิศดารอะไร แต่กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ต้องลำดับฐานตามขั้นตามตอน ซึ่งข้อดีมีอยู่กล่าวคือ ผู้ภาวนาสามารถนั่งได้นาน เพลิน กำหนดกะเกณฑ์มาตรฐานตนเองได้จากเวลา ทั้งจากการกำหนดนับและปัคคหะจิต ซึ่งลำดับมาตรฐานดังกล่าวล้วนเอื้อต่อผู้ภาวนาทั้งสิ้น และที่สำคัญเห็นผลเร็ว สำหรับผู้ใหม่ในการภาวนาผมแนะให้เริ่มที่กรรมฐานสายนี้ดีที่สุด สายกรรมฐานอื่นนั้นยากกว่ามากบารมีต้องมีมากพอและเพียรจัด ท้อก็ม้วนเสื่อ ครับ.!
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

MICRONE

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 310
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณท่านธรรมธวัช ที่มาช่วยตอบอยู่ครับ ผมสังเกตห้องนี้จะเงียบหาย ( หมายถึงพระอาจารย์ )ไม่ค่อยมาตอบอย่างเมื่อก่อน นะครับ อันที่จริงก็มีคำถาม ค้างคาใจ อยู่หลายคำถาม แต่เห็นไม่มีผู้ตอบก็เลยไม่ได้มาถามเพิ่มเติมครับ

  st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
อบอุ่นใจด้วยคุณธรรม จุดเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

aom-jai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 134
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ทราบข่าวว่า พระอาจารย์อาพาธ จากเฟคบุ๊ค
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2013, 09:24:30 pm »
0
ทราบข่าวว่า พระอาจารย์อาพาธ จากเฟคบุ๊ค

http://facebook.com/dhammawangso

  รู้สึกว่า เฟคบุ๊ค ข่าวพระอาจารย์จะเร็วกว่า นะคะ ขอให้หายอาพาธไว ๆ คะ

  st12 st12 st12
บันทึกการเข้า

สนั่น

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 14
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทราบข่าวว่า พระอาจารย์อาพาธ จากเฟคบุ๊ค

http://facebook.com/dhammawangso

  รู้สึกว่า เฟคบุ๊ค ข่าวพระอาจารย์จะเร็วกว่า นะคะ ขอให้หายอาพาธไว ๆ คะ

  st12 st12 st12

 แล้วตอนนี้ ใครดูแลพระอาจารย์กันอยู่ ครับ

  :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

whuchi

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 80
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 :a102: :a102: :a102: :a102:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ask1

ขั้นตอนกรรมฐาน จำเป็นหรือครับ สำหรับการภาวนา พุทโธ


 thk56


     ans1 ans1 ans1

     คำถามนี้กว้างไปหน่อย ควรระบุว่า ขั้นตอนไหน อย่างไร
     เคล็ดลับหนึ่งที่กรรมฐานมัชฌิมาฯ นำมาปฏิบัติก็คือ การอธิษฐาน
     การกล่าวคำอธิษฐานมีอยู่ในทุกขั้นตอนในกรรมฐานมัชฌิมา ช่วงแรกๆผมก็รู้สึกต่อต้าน
     แต่พอมาคิดดู คิดมาคิดไป ก็มีคำถามว่า ในบารมี ๓๐ ทัศของพระพุทธเจ้า ทำไมจึงมี "อธิษฐานบารมี"
     การอธิษฐานต้องสำคัญมาก อาจเทียบเท่ากับอีก ๙ บารมีที่เหลือ


    การกล่าวคำอธิษฐาน เป็นการตั้งเข็มทิศให้ตัวเอง เป็นการแสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้า
    เป็นการปลุกจิตและกำหนดจิต ให้จิตได้รับรู้และดำเนินไปตามจุดประสงค์ที่ได้กล่าวอธิษฐานไว้


     ในพระไตรปิฎกได้กล่าวถึง พระพุทธเจ้าทรงอธิษฐานจงกรม และสอนให้พระโมคคัลลานะอธิษฐานจงกรม
     ในกรรมฐานมัชฌิมาฯ ก่อนเดินจงกรมจะต้องกล่าวคำอธิษฐานจงกรม
     ในพระไตรปิฎกมีข้อธรรมว่าด้วยอธิษฐานดังนี้

    อธิฏฐาน ๔ อย่าง
           ๑. ปัญญาธิฏฐาน      [อธิษฐานคือปัญญา]
           ๒. สัจจาธิฏฐาน        [อธิษฐานคือสัจจะ]
           ๓. จาคะธิฏฐาน        [อธิษฐานคือจาคะ]
           ๔. อุปสมาธิฏฐาน     [อธิษฐานคืออุปสมะ]


อธิษฐาน หรือ อธิษฐานธรรม 4 (ธรรมเป็นที่มั่น, ธรรมอันเป็นฐานที่มั่นคงของบุคคล, ธรรมที่ควรใช้เป็นที่ประดิษฐานตน เพื่อให้สามารถยึดเอาผลสำเร็จสูงสุดอันเป็นที่หมายไว้ได้ โดยไม่เกิดความสำคัญตนผิด และไม่เกิดสิ่งมัวหมอง หมักหมมทับถมตน, บางทีแปลว่า ธรรมที่ควรตั้งไว้ในใจ)
       1. ปัญญา (ความรู้ชัด คือ หยั่งรู้ในเหตุผล พิจารณาให้เข้าใจในสภาวะของสิ่งทั้งหลายจนเข้าถึงความจริง)
       2. สัจจะ (ความจริง คือ ดำรงมั่นในความจริงที่รู้ชัดด้วยปัญญา เริ่มแต่จริงวาจาจนถึงปรมัตถสัจจะ)
       3. จาคะ (ความสละ คือ สละสิ่งอันเคยชิน ข้อที่เคยยึดถือไว้ และสิ่งทั้งหลายอันผิดพลาดจากความจริงเสียได้ เริ่มแต่สละอามิสจนถึงสละกิเลส)
       4. อุปสมะ (ความสงบ คือ ระงับโทษข้อขัดข้องมัวหมองวุ่นวายอันเกิดจากกิเลสทั้งหลายแล้ว ทำจิตใจให้สงบได้)


       ทั้ง 4 ข้อนี้ พึงปฏิบัติตามกระทู้ดังนี้
       1. ปญฺญํ นปฺปมชฺเชยฺย (ไม่พึงประมาทปัญญา คือ ไม่ละเลยการใช้ปัญญา)
       2. สจฺจํ อนุรกฺเขยฺย (พึงอนุรักษ์สัจจะ)
       3. จาคํ อนุพฺรูเหยฺย (พึงเพิ่มพูนจาคะ)
       4. สนฺตึ สิกฺเขยฺย (พึงศึกษาสันติ)


อ้างอิง :- ที.ปา. 11/254/241; ม.อุ. 14/682/437.
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=4501&Z=7015
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2013, 10:36:53 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Mario

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 208
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 gd1 st11 st12


  อ่านแล้ว เข้าใจได้ง่าย เลยคะ

   การอธิษฐาน ได้ยินในรายการ หลายครั้งแต่ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ


  thk56
บันทึกการเข้า
hero ผู้ปราบอธรรม มาแว้ว
มาเพราะยายกบ เป็นคนชวน
ฝากตัวด้วยไม่ถนัดเว็บ ธรรม
แต่เป็น hero ต้องไม่กลัว ธรรม

ปัญญสโก ภิกขุ

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 403
  • อริยสโก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การอธิฐาน ในทางโลก หลาย ๆ คน ยังไม่เข้าใจ เข้าใจยังไม่ถูก

     บางคน เข้าใจว่า เป็นการไปบอกเป้าหมายที่เราต้องการจะทำ แล้ว เรานะแหละ เพียงคนเดียว ดำเนินไป ทำไป จนกว่าจะสำเร็จ
ในข้อนี้ยังไม่ใช่ทั้งหมด ที่เป็นส่วนของการอธิฐาน
เพราะในหลาย ๆ ครั้ง ในความเป็นจริง ในระหว่าง กว่าที่เราจะทำได้จนสำเร็จ ก็อาศัย ปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ประกอบกัน จนกว่าจะสำเร็จได้

อย่างในการอธิฐานกรรมฐาน ในช่วงต้น ก็จะมีการขอ มีการอราธนา ขอให้ .....  มาเป็นที่พึ่ง อย่างนี้ ก็ไม่ใช่เพียงเรา คนเดียวแล้ว เราก็ได้กล่าวขออาศัยท่าน ให้ท่านมาเป็นที่พึ่งของเรา  (มาช่วยเราด้วย ในระดับนึ่ง ตามจะมีจะเป็นไปได้) และก็ที่จิตเราจะได้มีที่เกาะเกี่ยว เป็นสรณะ ได้จริง ตัวอย่าง ตามที่เราได้กล่าว ไว้แล้วว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ และ.....  ......  เป็นต้น (เป็นการนำมาใช้จริง ในภาคสนาม ในภาคปฏิบัติ ส่วนใหญ่ที่เรากล่าวกัน เป็นเพียงแค่ปาก แต่จิตมิได้ดำเนินไปด้วยเลย  ดำเนินไปด้วยอย่างไร ยกตัวอย่าง เวลาเราคลานเข่าถือดอกไม้ ธูปเทียนแพ เข้าไปไหว้ เข้าไปบอกขอขมาพ่อ ขอขมาแม่ ในตอนที่เรารู้สึกว่า ที่ผ่านมา เราได้กระทำผิดไปจริง ๆ แล้วตอนนี้ รู้ผิดแล้ว อยากจะขอขมาพ่อแม่จริง ๆ อย่างสุดซึ้ง แล้วเราก็เข้าไปพูดบอกขอโทษ ที่ผ่านมา ที่ได้ทำไป ลองนึกดูว่า จะปีติแค่ไหน ในการกล่าวอธิฐานกรรมฐานก็เหมือนกัน ถ้าท่านกล่าวด้วยจิตอย่างจริง ๆ ลองนึกตามดู พอเราเข้าถึงปีติตรงนี้แล้วจนน้ำตาไหล หลังจากนั้น จิตก็จะสงบระงับ พอท่านเริ่มนั่งกรรมฐาน ท่านก็จะมีความสงบมาก อย่างนี้เป็นต้น) 


เหล่านี้ เป็นตัวอย่าง ว่าส่วนหนึ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่ตัวเราเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอื่น ๆ ประกอบอยู่ด้วย

อีกส่วนก็เป็นที่ตัวเรา แต่จะมีองค์ประกอบปีกยอยอีก เช่น การที่เราทำ การอธิฐานของเรา ให้เป็นจริงได้นั้น ถ้าเราทำได้ ก็เป็นในส่วนของสัจจะด้วย และยังเป็น ความที่เราเพียรด้วย  และก็อาศัยความอดทนด้วย และ ........ ......... .......

เฉพาะนั้น เมื่อทราบประโยชน์ดังนี้แล้ว ท่านจะเห็นได้ว่า ท่านกระทำเพียง หนึ่ง แต่ได้หลายอย่าง นี้คือความ พิศดาน พิเศษ ของกรรมฐานที่นักปฏิบัติจะได้ โดยไม่รู้ตัว


การอธิฐาน บางท่านจะยังไม่เข้าใจ ขอให้ลองไปนึกในตอนที่เราสิ้นหวัง หมดที่พึ่ง ไม่มีใครที่จะสามารถมาเป็นที่พึ่งให้เราได้ เมื่อนั้นท่านทั้งหลายจะกระทำการอธิฐานจิตโดยอัตโนมัต  โดยการใส่ความปราถนาลงไปในจิตอย่างแรงกล้า อย่างรุนแรง เพื่อให้สิ่งที่เราปราถนานั้น ได้บังเกิดขึ้น จากสิ่งศักสิทธฺ์ทั้งหลายบ้าง จากตัวเราเองบ้าง แล้วปฏิหารก็เกิดขึ้นจริง อย่างนี้ ชัดเจนมาก ในส่วนของการอธิฐาน

ที่นี้เราก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ในกรรมฐาน ในการปฏิบัติ อย่างในตอนปฏิบัติเสร็จ อย่างแรก ที่เราถูกสอนกันมาให้ทำการอธิฐาน คือ ขอความสำเร็จในกรรมฐานจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด (ผู้ที่ได้เข้ามาขึ้นกรรมฐานจะทราบดี)

ทางฝังผู้ที่ฝึกแต่ ปัญญามา ก็จะกล่าวว่า เมื่ออธิฐานแล้ว ไม่ใช่จะมานั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร แล้ว มันจะสำเร็จได้ยังไง  ก็บางเรื่อง บางครั้ง เราเองก็ไม่สามารถที่จะไปทำอะไรได้เลย อย่างเช่น ในอดีต ไทยเรามีการสู้รบกันบ่อย ถามว่า ผัว ลูกชาย ออกไปทำศึกสงคราม แล้วคนที่อยู่ที่บ้านละ จะให้ทำอย่างไร ก็ชัดเจน เขาก็อธิฐานช่วย ไปอธิฐานที่หน้าพระ บอกขอให้ มันปลอดภัย ขอให้ลูกให้ผัวปลอดภัย ด้วยเถิด บอกอย่างนี้ น่าจะแทงใจดี เพราะน่าจะมีกันอยู่ในจิตใต้สำนึกกันทุกคน

โดยเฉพาะคนที่มีคนที่รัก

บางคนก็กล่าวว่า เป็นเพียงรูปแบบ ทำ ๆ ไป อย่างนั้นนะแหละ (ก็เขาให้ทำ)


ที่จริงก็เป็นการเช็คตัวเราเองด้วย โดยไม่ต้องไปถามใคร แล้วก็อยู่ด้วยว่าเราโกหกตัวเราเองหรือเปล่า ว่าเราทำได้ไหม มีการพัฒนาไหม เจริญสติ แล้วจิตมีกำลังจำได้ไหม กล่าวอธิฐานกรรมฐาน ได้โดยไม่ต้องดูหนังสือ ถ้าใครที่ปฏิบัติมานานแล้วยังดูอยู่ อันนี้ใช้ไม่ได้ ต้องไม่ดู เพราะ เวลาที่เรานั่งหลับตาปฏิบัติ จะลืมตามาดูมาอ่านดูว่า เอะ ต้องทำยังไงต่อ ตอนนั่งปฏิบัติจริง ๆ  มันทำอย่างนั้นไม่ได้ มันต้องทรงจำได้ เมื่อปฏิบัติถึงในตอนไหนช่วงไหน จิตก็รู้จำได้ ว่าจะต้องทำอะไรต่อ อย่างนี้เป็นต้น

ในการปฏิบัติในขั้นที่สูง ๆ ขึ้นไป ไม่ว่าในกรรมฐานอะไร ก็จะมีการอธิฐานจิตนี้อยู่ด้วย

เพราะฉะนั้น  ยังไงท่านทั้งหลายก็ต้องทำอยู่ดี ก็เริ่มซะเลย จะเป็นไร


เราเห็นประโยชน์ เราจึงทำ
บันทึกการเข้า

ปัญญสโก ภิกขุ

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 403
  • อริยสโก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถามว่าขั้นตอนกรรมฐาน จำเป็นหรือครับ

งั้นถามกลับ ว่า 

       ท่านเคยไหมละ พอปฏิบัติ ๆ ไป มันค้างเติ่ง มันไม่รู้ว่า จะทำอะไรต่อ ไปต่อไม่เป็น เช่น เมื่อเกิดปีติ ขึ้นแล้วจะต้องทำยังไงต่อ หรือ เวลานั่ง ๆ ไปแล้ว มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น แล้วเราจะต้องทำอย่างไร หรือบางท่าน ปีติค้าง เพราะตอนออกกรรมฐาน อยู่ ๆ ก็ออกเลย ไม่ทำตามลำดับขั้นตอน ไม่ถอนปีติลงก่อน ดังนี้เป็นต้น

สำหรับนักปฏิบัติใหม่ การกระทำตามขั้นตอนกรรมฐานนั้น จะทำให้ท่าน สามารถอยู่จนครบการนั่งกรรมฐานในแต่ละครั้ง ขั้นต่ำ ไม่ต่ำกว่า 30 นาที เพราะ ถ้าท่านทำตามลำดับกรรมฐานไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นห่วงโซ่ ในแต่ละข้อ ร้อยเรียงต่อเนื่องกัน จนเป็นเส้นยาว ไม่ขาดตอน เป็นสมาธิต่อเนื่อง จาก ทีละสิบวินาที ต่อเนื่อง กันเป็นหนึ่งนาที จนเป็นชั่วโมง นั้นจึงทำให้ท่านทำได้
บันทึกการเข้า

ก้านตอง

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 195
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขั้นตอน กับ วิธีการ ก็มีการสอนแนะนำในกรรมฐาน ทุกสาย อยู่แล้ว ขั้นตอนในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นต่างกันอย่างไร กับกรรมฐาน อื่น ๆ
 
   ยกตัวอย่าง  พระพุทธานุสสติ ก็ ภาวนา พุทโธ เหมือนกัน ใช่หรือไม่คะ

    :smiley_confused1: :49: :58:
บันทึกการเข้า

ปัญญสโก ภิกขุ

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 403
  • อริยสโก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
         ในกรรมฐานมัชฌิมา มีการเดินจิต มีการงานให้จิตต้องกระทำตลอด ไม่ทิ้งจิตเลย มีรายละเอียด ต่อเนื้องกันจนจบพระกรรมฐานในแต่ละครั้ง ไม่ปล่อยที่ว่างให้กิเลสเข้าครอบงำ หากจะเกิดขึ้น ก็เพราะกำลังจิตที่อ่อน ของผู้ปฏิบัติ

ดังนี้ จึงเห็นต่าง เป็นอย่างมาก

ที่จริง ในกรรมฐานอื่น ๆ ก็มีเช่นกัน แต่ไม่เห็นนำมาเปิดเผย บอกกล่าวกัน
บันทึกการเข้า

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การขึ้นกรรมฐาน มีความจำเป็น ต่อการปฏิบัติครับ เพราะการขึ้นกรรมฐาน ก็คือ การมอบตัวเป็นศิษย์ต่อครูกรรมฐาน ซึ่ง การมีครู นั้นย่อมดีแน่ ครับ เพราะถ้าไม่มีครู สอน แล้วโอกาสที่เราจะทำได้ถูกหรือ เร็ว นั้นคงยาก นะครับ

  :49:
บันทึกการเข้า