ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มิคลัณฑิกสมณกุตตก์ "ตาเถนรับจ้างฆ่าภิกษุ"  (อ่าน 3975 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
มิคลัณฑิกสมณกุตตก์ "ตาเถนรับจ้างฆ่าภิกษุ"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 09:52:46 am »
0
11 มิถุนายน 2506 วันที่โลกตะลึง พระภิกษุ ทิจ กวาง ดึ๊ก วัยุ 73 ปี จากวัดเทียนมู่
ประกาศอุทิศชีวิตเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา ด้วยการเผาตนเอง


ภิกษุเจริญอสุภกัมมัฏฐานแล้วฆ่าตัวตาย

    [๑๗๖] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวันเขตพระนครเวสาลี ครั้งนั้นพระองค์ทรงแสดงอสุภกถา ทรงพรรณนาคุณแห่งอสุภกัมมัฏฐานทรงสรรเสริญคุณแห่งการเจริญอสุภกัมมัฏฐาน ทรงพรรณนาคุณอสุภสมาบัติเนืองๆ โดยอเนกปริยายแก่ภิกษุทั้งหลาย แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราปรารถนาจะหลีกออกเร้นอยู่ตลอดกึ่งเดือน ใครๆ อย่าเข้าไปหาเรา นอกจากภิกษุผู้นำบิณฑบาตเข้าไปให้รูปเดียวภิกษุเหล่านั้นรับ รับสั่งแล้ว ไม่มีใครกล้าเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเลย นอกจากภิกษุผู้นำบิณฑบาตเข้าไปถวายรูปเดียว

    ภิกษุเหล่านั้นสนทนากันว่า พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอสุภกถา ทรงพรรณนาคุณแห่งอสุภกัมมัฏฐาน ทรงสรรเสริญคุณแห่งการเจริญอสุภกัมมัฏฐาน ทรงพรรณนาคุณแห่งอสุภสมาบัติเนืองๆ โดยอเนกปริยายดังนี้ แล้วพากันประกอบความเพียรในการเจริญอสุภกัมมัฏฐานหลายอย่างหลายกระบวนอยู่


     :41: :41: :41:

    ภิกษุเหล่านั้น อึดอัด ระอา เกลียดชังร่างกายของตน ดุจสตรีรุ่นสาวหรือบุรุษรุ่นหนุ่ม พอใจในการตกแต่งกาย อาบน้ำสระเกล้า มีซากศพงู ซากศพสุนัขหรือซากศพมนุษย์มาคล้องอยู่ที่คอ พึงอึดอัด สะอิดสะเอียน เกลียดชัง
    ฉะนั้น จึงปลงชีวิตตนเองบ้าง วานกันและกันให้ปลงชีวิตบ้าง บางเหล่าก็เข้าไปหามิคลัณฑิกสมณกุตตก์ ๑- กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อคุณ ขอท่านได้ปลงชีวิตพวกฉันที บาตรจีวรนี้จักเป็นของท่าน

    ครั้งนั้นมิคลัณฑิกสมณกุตตก์ อันภิกษุทั้งหลายจ้างด้วยบาตรจีวร จึงปลงชีวิตภิกษุเป็นอันมากแล้ว ถือดาบเปื้อนเลือดเดินไปทางแม่น้ำวัคคุมุทา ขณะเมื่อมิคลัณฑิกสมณกุตตต์ กำลังล้างดาบที่เปื้อนเลือดนั้นอยู่ได้มีความรำคาญ ความเดือดร้อนว่า ไม่ใช่ลาภของเราหนอ ลาภของเราไม่มีหนอ เราได้ชั่วแล้วหนอ เราไม่ได้ดีแล้วหนอ เราสร้างบาปไว้มากจริงหนอ เพราะเราได้ปลงชีวิตภิกษุทั้งหลายซึ่งเป็นผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม

     :96: :96: :96:

    ขณะนั้นเทพดาตนหนึ่งผู้นับเนื่องในหมู่มาร เดินมาบนน้ำมิได้แตกได้กล่าวคำนี้กะเขาว่า ดีแล้ว ดีแล้ว ท่านสัตบุรุษ เป็นลาภท่าน ท่านได้ดีแล้ว ท่านได้สร้างสมบุญไว้มาก เพราะท่านได้ช่วยส่งคนที่ยังข้ามไม่พ้นให้ข้ามพ้นได้ ครั้นมิคลัณฑิกสมณกุตตก์ได้ทราบว่าเป็นลาภของเรา เราได้ดีแล้ว เราได้สร้างสมบุญไว้มาก เพราะเราได้ช่วยส่งคนที่ยังข้ามไม่พ้นให้ข้ามพ้นได้

    ดังนี้ จึงถือดาบอันคม จากวิหารเข้าไปสู่วิหาร จากบริเวณเข้าไปสู่บริเวณ แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า ใครยังข้ามไม่พ้น ข้าพเจ้าจะช่วยส่งให้ข้ามพ้น บรรดาภิกษุเหล่านั้นภิกษุเหล่าใด ยังไม่ปราศจากราคะ ความกลัว ความหวาดเสียว ความสยอง ย่อมมีแก่ภิกษุเหล่านั้นในเวลานั้น ส่วนภิกษุเหล่าใดปราศจากราคะแล้ว ความกลัว ความหวาดเสียว ความสยองย่อมไม่มีแก่ภิกษุเหล่านั้นในเวลานั้น

    ครั้งนั้นมิคลัณฑิกสมณกุตตก์ ปลงชีวิตภิกษุเสียวันละ ๑ รูปบ้าง ๒ รูปบ้าง ๓ รูปบ้าง ๔ รูปบ้าง ๕ รูปบ้าง ๖ รูปบ้าง ๗ รูปบ้าง ๘ รูปบ้าง ๙ รูปบ้าง๑๐ รูปบ้าง ๒๐ รูปบ้าง ๓๐ รูปบ้าง ๔๐ รูปบ้าง ๕๐ รูปบ้าง ๖๐ รูปบ้าง.

_________________________________________________
@๑ คนโกนผมไว้จุกนุ่งผ้ากาสาวะผืนหนึ่ง ห่มผืนหนึ่ง ทำนองเป็นตาเถน ฯ


จากเหตุการณ์ที่พระภิกษุ ทิจ กวาง ดึ๊ก เผาตัวเองประท้วง รัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจใยดี
แต่กลับกวาดล้างพระสงฆ์หนักขึ้น จนมีพระรูปอื่นเผาตัวเองประท้วงอีกหลายรูป


รับสั่งให้เผดียงสงฆ์

    [๑๗๗] ครั้นล่วงกึ่งเดือนนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่ประทับเร้นแล้ว รับสั่งถามท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์ เหตุไฉนหนอ ภิกษุสงฆ์จึงดูเหมือนน้อยไป

    ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า จริงอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า เพราะพระองค์ทรงแสดงอสุภกถา ทรงพรรณนาคุณแห่งอสุภกัมมัฏฐาน ทรงสรรเสริญคุณแห่งการเจริญอสุภกัมมัฏฐานทรงพรรณนาคุณแห่งอสุภสมาบัติเนืองๆ โดยอเนกปริยายแก่ภิกษุทั้งหลาย พระพุทธเจ้าข้า และภิกษุเหล่านั้นก็พากันพูดว่า

    พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอสุภกถา ทรงพรรณนาคุณแห่งอสุภกัมมัฏฐานทรงสรรเสริญคุณแห่งการเจริญอสุภกัมมัฏฐาน ทรงพรรณนาคุณแห่งอสุภสมาบัติเนืองๆ โดยอเนกปริยาย จึงพากันประกอบความเพียรในการเจริญอสุภกัมมัฏฐาน หลายอย่างหลายกระบวนอยู่เธอเหล่านั้น อึดอัด ระอา เกลียดชังร่างกายของตน ดุจสตรีรุ่นสาวหรือบุรุษรุ่นหนุ่ม พอใจในการตกแต่งกาย อาบน้ำ สระเกล้า มีซากศพงู ซากศพสุนัข หรือซากศพมนุษย์มาคล้องอยู่ที่คอ จะพึงอึดอัด สะอิดสะเอียน เกลียดชัง


    :03: :03: :03:

    ฉะนั้น จึงปลงชีวิตตนเองบ้าง วานกันและกันให้ปลงชีวิตบ้าง บางเหล่าก็เข้าไปหามิคลัณฑิกสมณกุตตก์ กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อคุณ ขอท่านได้ช่วยปลงชีวิตพวกฉันที บาตรจีวรนี้จะเป็นของท่าน พระพุทธเจ้าข้า ครั้นมิคลัณฑิกสมณกุตตก์ได้บาตรจีวรเป็นค่าจ้างแล้ว จึงปลงชีวิตภิกษุเสียวันละ ๑ รูปบ้าง ๒ รูปบ้าง ๓ รูปบ้าง ๔ รูปบ้าง ๕ รูปบ้าง ๖ รูปบ้าง ๗ รูปบ้าง ๘ รูปบ้าง ๙ รูปบ้าง ๑๐ รูปบ้าง ๒๐ รูปบ้าง ๓๐ รูปบ้าง ๔๐ รูปบ้าง ๕๐ รูปบ้าง ๖๐ รูปบ้าง
    ข้าพระพุทธเจ้าขอประทานพระวโรกาส ภิกษุสงฆ์นี้จะพึงดำรงอยู่ในพระอรหัตตผลด้วยปริยายใด ขอพระผู้มีพระภาคจงตรัสบอกปริยายอื่นนั้นเถิดพระพุทธเจ้าข้า

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ถ้าเช่นนั้น เธอจงเผดียงภิกษุที่อาศัยพระนครเวสาลีอยู่ทั้งหมด ให้ประชุมกันที่อุปัฏฐานศาลาเป็นดังรับสั่งพระพุทธเจ้าข้า ท่านพระอานนท์รับสนองพระพุทธพจน์แล้ว จึงเผดียงภิกษุสงฆ์ที่อาศัยพระนครเวสาลีอยู่ทั้งสิ้น ให้ประชุมที่อุปัฏฐานศาลา แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุสงฆ์ประชุมพร้อมกันแล้ว ขอพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดทราบกาลอันควร ในบัดนี้เถิด พระพุทธเจ้าข้า.



พระภิกษุ ทิจ กวาง ดึ๊ก วัยุ 73 ปี จากวัดเทียนมู่


ทรงแสดงอานาปานสติสมาธิกถา

    [๑๗๘] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าสู่อุปัฏฐานศาลาประทับนั่งเหนือพุทธอาสน์ที่จัดไว้ถวาย แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้สมาธิในอานาปานสตินี้แลอันภิกษุอบรมทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นคุณสงบ ประณีต เยือกเย็น อยู่เป็นสุข และยังบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วๆ ให้อันตรธานสงบไปโดยฉับพลัน ดุจละอองและฝุ่นที่ฟุ้ง ขึ้นในเดือนท้ายฤดูร้อน ฝนใหญ่ที่ตกในสมัยมิใช่ฤดูกาล ย่อมยังละอองและฝุ่นนั้นๆ ให้อันตรธานสงบไปได้ โดยฉับพลัน ฉะนั้น

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อานาปานสติสมาธิ อันภิกษุอบรมอย่างไร ทำให้มากอย่างไร จึงเป็นคุณสงบ ประณีต เยือกเย็น อยู่เป็นสุข และยังบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วๆ ให้อันตรธานสงบไปโดยฉับพลัน..ฯลฯ



หัวใจของพระภิกษุ ทิจ กวาง ดึ๊ก ไม่ได้มอดใหม้ไปกับกองเพลิง
ปัจจุบันเก็บไว้ในสถูปทองคำ วัดเทียนมู่ เมืองเว้


ตติยปาราชิกสิกขาบท นิทานปฐมบัญญัติ เรื่องภิกษุหลายรูป
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๗๔๓๖ - ๗๕๕๗. หน้าที่ ๒๘๘ - ๒๙๒.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=7436&Z=7557&pagebreak=0             
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i=176
ขอบคุณภาพและข้อมูลของพระภิกษุ ทิจ กวาง ดึ๊ก จากเว็บ
http://www.photoontour9.com/outbound/vietnam/vn6/xvn06_25.htm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 09:54:44 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

meditation

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 127
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มิคลัณฑิกสมณกุตตก์ "ตาเถนรับจ้างฆ่าภิกษุ"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 09:56:03 am »
0
เรื่องนี้ ทันเหตุการณ์ บรรยายธรรม ของพระอาจารย์ ขณะนี้ จริง ๆ กำลังอยากอ่านเพิ่มพอดี เลย

 thk56 thk56 thk56
บันทึกการเข้า
ข้าพเจ้าปรียบเหมือนนกที่กำลังหัดเดิน มีสิ่งใดที่ล่วงเกินใคร ก็ขอกราบอภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ภาวนากรรมฐาน เพื่อใคร เพื่ออะไร ทำไม ? หาคำตอบจากใจเราก่อนนะคะ

Jojo

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 237
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มิคลัณฑิกสมณกุตตก์ "ตาเถนรับจ้างฆ่าภิกษุ"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:09:10 am »
0
 st11 st12 thk56
บันทึกการเข้า
ฉันมาเพราะเธอนะ ยายกบ มาศึกษาธรรมะบ้าง ยินดีที่รู้จักทุกท่านคะ
ช่วยเมตตา แนะนำด้วยมิตรภาพ นะคะ

aom-jai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 134
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มิคลัณฑิกสมณกุตตก์ "ตาเถนรับจ้างฆ่าภิกษุ"
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:14:56 am »
0
 thk56 st12 st12
บันทึกการเข้า

Dotahon

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 54
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มิคลัณฑิกสมณกุตตก์ "ตาเถนรับจ้างฆ่าภิกษุ"
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:18:25 am »
0
ก็แสดงว่า พระฆ่าตัวตาย ก็เป็นปาราชิก ด้วยสิครับ

 โอ ..... ไม่น่าเลย

 ผมยังนึกชื่นชมพวกพระจีน พระเวียตนามที่เผาตนประท้วง พอทราบดังนี้ แล้ว รู้สึกเสียดายความกล้าหาญของพวกท่านจริง ๆ


  thk56
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: มิคลัณฑิกสมณกุตตก์ "ตาเถนรับจ้างฆ่าภิกษุ"
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:18:40 am »
0



พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงห้ามภิกษุฆ่ากัน เพราะทรงเห็นกรรมเก่า

    ถามว่า ก็เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสอย่างนี้?
    แก้ว่า ได้ยินว่า ในครั้งดึกดำบรรพ์ นายพรานเนื้อประมาณ ๕๐๐ คน เอาท่อนไม้และข่ายเครื่องจับสัตว์เป็นอันมาก ล้อมป่าไว้พากันหัวเราะรื่นเริง รวมเป็นพวกเดียวกันนั่นแล สำเร็จการเลี้ยงชีวิตด้วยกรรมคือการฆ่าเนื้อและนก จนตลอดชีวิต แล้วเกิดในนรก.
     พรานเนื้อเหล่านั้นหมกไหม้ในนรกนั้นแล้ว เกิดในหมู่มนุษย์ เพราะกุศลกรรมบางอย่างที่ตนทำไว้แล้วในหนหลังนั่นแล จึงได้บรรพชาและอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ทั้งหมดด้วยอำนาจแห่งอุปนิสัยแห่งกรรมอันงาม.

    อปราปรเจตนาของพรานเนื้อเหล่านั้นที่ยังไม่ได้เผล็ดผล เพราะอกุศลกรรมที่เป็นรากเหง้านั้น ได้กระทำโอกาสเพื่อเข้าไปตัดรอนชีวิตเสียด้วยความพยายามของตนเอง และด้วยพยายามของผู้อื่น ในภายในกึ่งเดือนนั้น.


     ans1 ans1 ans1

    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นความขาดไปแห่งชีวิตนั้นแล้ว.
    ขึ้นชื่อว่ากรรมวิบากใครๆ ไม่สามารถจะห้ามได้.
    ก็บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุผู้ยังเป็นปุถุชนก็มี เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามีและพระขีณาสพก็มี. ในภิกษุเหล่านั้น ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพระขีณาสพไม่มีการถือปฏิสนธิ พระอริยสาวกทั้งหลายนอกนี้เป็นผู้มีคติแน่นอน คือมีสุคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า. คติของพวกภิกษุผู้ยังเป็นปุถุชน ไม่แน่นอน.

    คราวนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดำริว่า ภิกษุเหล่านี้กลัวต่อมรณภัย เพราะความรักด้วยอำนาจความพอใจในอัตภาพ จักไม่อาจชำระคติให้บริสุทธิ์ได้. เอาเถิด! เราจะแสดงอสุภกถาเพื่อละความรักด้วยอำนาจความพอใจแก่เธอเหล่านั้น เธอเหล่านั้น ครั้นได้ฟังอสุภกถานั้นแล้วจัดทำการชำระคติให้บริสุทธิ์ได้ เพราะเป็นผู้ปราศจากความรักด้วยอำนาจความพอใจในอัตภาพแล้ว จักถือเอาปฏิสนธิในสวรรค์ การบรรพชาในสำนักของเรา จักเป็นคุณชาติมีประโยชน์แก่เธอเหล่านั้น ด้วยอาการอย่างนี้.
    เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแสดงอสุภกถา ด้วยหัวข้อพระกรรมฐาน เพื่ออนุเคราะห์แก่เธอเหล่านั้น หาได้แสดงด้วยความประสงค์ในการพรรณนาถึงคุณแห่งความตายไม่.





    ก็แล ครั้นทรงแสดงแล้ว พระองค์ได้มีความดำริอย่างนี้ว่า
    ถ้าภิกษุทั้งหลายจักพบเห็นเราตลอดกึ่งเดือนนี้ไซร้ เธอเหล่านั้นจักมาบอกเราว่า วันนี้ภิกษุมรณภาพไปรูปหนึ่ง วันนี้มรณภาพไป ๒ รูป ฯลฯ วันนี้มรณภาพไป ๑๐ รูป ดังนี้
    ก็แลกรรมวิบากนี้ เราหรือใครคนอื่นก็ไม่สามารถจะห้ามได้ เรานั้นแม้ได้ฟังเหตุนั้นแล้วก็จักทำอะไรเล่า? จะมีประโยชน์อะไรแก่เรา ด้วยการฟังที่หาประโยชน์มิได้มีแต่ความฉิบหายใช่ประโยชน์ เอาเถิด! เราจะเข้าไปยังสถานที่ๆ ภิกษุทั้งหลายจะเห็นไม่ได้.

    เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสอย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เราปรารถนาจะหลีกออกเร้นอยู่ตลอดกึ่งเดือน ใครๆ อย่าเข้าไปหาเรา นอกจากภิกษุผู้นำบิณฑบาตเข้าไปให้รูปเดียว.


     :25: :25: :25:

    ส่วนอาจารย์เหล่าอื่นกล่าวว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสอย่างนั้นแล้ว จึงได้หลีกออกเร้นอยู่ เพื่อจะเว้นความติเตียนของผู้อื่น.
    นัยว่า ชนพวกอื่นจักกล่าวติเตียนพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
    พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นี้เป็นผู้ทรงรู้สิ่งทั้งปวง ทั้งทรงปฏิญาณอยู่ว่า เราเป็นผู้ยังจักรคือพระสัทธรรมอันบวรให้เป็นไป ไม่ทรงสามารถจะห้ามพระสาวกทั้งหลายแม้ของพระองค์ ผู้วานกันและกันให้ฆ่ากันอยู่ ไฉนจักทรงอาจห้ามบุคคลอื่นได้เล่า.?

    ในข้อที่ผู้อื่นกล่าวติเตียนนั้น บัณฑิตทั้งหลายจักกล่าวแก้ว่า
    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกอบการหลีกออกเร้นอยู่ หาได้ทรงทราบความเป็นไปนี้ไม่ แม้ผู้จะทูลบอกพระองค์ บางคนก็ไม่มี ถ้าพึงทรงทราบไซร้ ก็จะพึงทรงห้ามแน่นอน. แต่เพียงข้อที่ทรงมีความปรารถนาเป็นข้อแรกนี้นั่นเอง ย่อมเป็นเหตุในคำนี้ได้.


อรรถกถา มหาวิภังค์ ปฐมภาค ปาราชิกกัณฑ์ ตติยปาราชิกสิกขาบท
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i=176
ขอบคุณภาพจาก
https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/
http://www.manager.co.th/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ