เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. ดูแลงานด้านปราบปราม เปิดเผยกรณีที่มีการโพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊คว่า มีคนร้ายโรคจิตออกอาละวาดไล่ฉีดน้ำกรดใส่หญิงสาว หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ไม่ได้เป็นการโพสต์ข้อความที่เป็นเท็จ เบื้องต้นได้รับรายงานจากผกก.สน.ลุมพินี ว่ามีหญิงสาวรายหนึ่ง(ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เข้าแจ้งความว่า ถูกคนร้ายฉีดของเหลวบางอย่างใส่ที่ร่างกาย ขณะที่กำลังเดินอยู่ด้านหน้าโรงแรมอโนมา ถนนราชดำริ หลังเกิดเหตุได้ไปพบแพทย์ ทำให้ทราบว่าของเหลวที่คนร้ายฉีดใส่นั้น เป็นน้ำที่มีลักษณะเป็นกรด ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิวหนัง แต่
ไม่รุนแรงมาก นอกจากนี้ยังทราบว่ามีผู้เสียหายอีกรายถูกก่อเหตุที่ย่านสะพานควาย กำลังจะเดินทางเข้าแจ้งความที่สน.บางซื่อด้วย
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน คนร้ายเข้ามาประชิดตัวและก่อเหตุอย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้เสียหายไม่ทันสังเกต เมื่อละอองน้ำกระเด็นมาถูกตัวก็เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนัง เบื้องต้นคากว่าคนร้ายน่าจะมีความผิดปกติทางจิต ขณะนี้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เกิดเหตุตรวจสอบภาพวงจรปิดอย่างละเอียดทุกจุดแล้ว เพื่อติดตามตัวคนร้ายให้ได้ ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก
ที่ สน.บางซื่อ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ผู้เสียหายที่ถูกคนโรคจิตสาดน้ำกรดใส่ เข้าพบ พ.ต.ท.หญิงชุติมา ศิริเมธาวี พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.บางซื่อ เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมน้ำเสื้อผ้าและกระเป๋าที่ใส่ในวันเกิดเหตุมาด้วย โดยมี พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 ร่วมทำการสอบปากคำ
พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่ามีเหตุเกิดขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง มีผู้เสียหาย 5 คน เป็น หญิง 4 ชาย 1 โดยในท้องที่ บก.น.2 จำนวน 3 ครั้ง ประกอบด้วยท้องที่สน.บางซื่อ 1 ครั้ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.30 น. ที่ถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า บริเวณสะพานลอยข้ามแยกสะพานควาย ฝั่งเดียวกับห้างบิ๊กซี และในท้องที่สน.พหลโยธิน มีจำนวน 1 ครั้ง เหตุเกิดบริเวณริมถนนปากซอยลาดพร้าว15 แต่มีผู้เสียหาย 2 คน และท้องที่ สน.สุทธิสาร จำนวน 1 ครั้ง บริเวณปากซอยลาดพร้าว 20 ซึ่งทั้งสองเหตุเกิดในวันที่ 4 มิ.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. ส่วนในท้องที่ บก.น. 5 มีจำนวน 1 ครั้ง ท้องที่ สน.ลุมพินี บริเวณหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ ใกล้กับแยกราชประสงค์ เหตุเกิดวันที่ 11 พ.ค. เวลาประมาณ 22.00 น.
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) เล่าว่า ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 31 พ.ค. เวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่ตนเดินข้ามสะพานลอยบริเวณแยกสะพานควาย เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย ฝั่งห้างบิ๊กซี เมื่อลงจากสะพานลอยมายังฟุตบาธได้สักพักก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีน้ำกระเด็นมาถูกตัวเราที่บริเวณคอและแขน ซึ่งตอนแรกตนก็นึกว่าน้ำฝนเพราะว่าช่วงนั้นฝนเพิ่งจะหยุดตก จากนั้นไม่นานจุดที่โดนน้ำก็รู้สึกแสบร้อนขึ้นมาทันที และแดงมากขึ้นจนเป็นรอยไหม้ จึงรีบไปหาหมอที่โรงพยาบาลเปาโล แพทย์บอกเพียงแค่ว่าเป็นเคมีเบิร์น ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นน้ำกรดหรือสารเคมีอะไร
“ส่วนที่บริเวณจุดเกิดเหตุก็ไม่เห็นมีใครหรือมีอะไรที่น่าสงสัยหรือผิดปกติ และไม่มีคนเดินตามหลังแต่อย่างใด ยืนยันว่าไม่ได้มีเหตุทะเลาะกับใครมาก่อนแน่นอน ส่วนบาดแผลตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว หมอให้ยาทาและให้ใช้ผ้าพันแผลปิดไว้และให้ไปพบแพทย์อีกครั้ง ขอฝากไปถึงคนร้ายว่า เราไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มุ่งหวังเรื่องชิงทรัพย์ หรือทำเพื่อความสนุก มันกระทบกระเทือนต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก ตนไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก และหลังจากนี้ก็คงต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้น” น.ส.เอ กล่าว
พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล จิตแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะรองโฆษก สตช. เปิดเผยว่า ตรวจสอบข้อมูลคนไข้ของโรงพยาบาลตำรวจ พบว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่13พ.ค.ที่ผ่านมา มีหญิง อายุ 38 ปี มารักษา อ้างว่าเดินมาจากบริเวณ ถ.ราชดำริ จากนั้นได้มีคนฉีดน้ำใส่ โดนที่บริเวณใบหน้า และแขน ทำให้เกิดอาการแสบร้อน บริเวณที่โดนน้ำมีลักษณะเป็นแผลไหม้ กระจายหลายแห่งคิดเป็น15% ของร่างกาย หรือไหม้ระดับ3 ถึงชั้นเนื้อ แพทย์ศัลยกรรมที่ดูแผล จึงรักษาเบื้องต้นแล้วให้กลับบ้าน โดยไม่ได้มีการแอดมิดนอนพักที่โรงพยาบาล และพบว่ามีเพียงรายเดียวที่เป็นลักษณะนี้
www.isnhotnews.com/ระดมตรวจวงจรปิด-ล่าโรคจิตฉีดน้ำกรดใส่หญิงสาว/