ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน  (อ่าน 4583 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sayamol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
อยากทราบว่า พระป่า กับ พระบ้าน พระที่สามารถปฏบัติธรรมได้ดีกว่ากันหรือไม่

 :s_hi:
บันทึกการเข้า
จริงใจ อ่อนน้อม พรั่งพร้อมด้วยความรู้
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ
ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

tasawang

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 116
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2011, 08:41:44 am »
0
พระป่า ถ้าปฏิบัติ ก็จะได้เปรียบ เรื่อง ความสงัด

ส่วนพระบ้าน ถ้าปฏิบัติ ก็จะได้เปรียบเรื่อง ครูอาจารย์

พระป่า ถ้าไม่ปฏิบัติ อยู่ป่า ก็เท่านั้น

พระบ้าน ถ้าไม่ปฏิบัติ อยู่เมือง ก็ไม่ต่างกัน

ดังนั้น สรุปแล้ว ถ้าถึงคราวภาวนา กันจริง พระป่า จะได้เปรียบ ครับ คือ เรื่อง สัปปายะ ที่สงัด ส่งเสริม พลังจิต

 :49:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28420
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2011, 01:28:51 pm »
0
พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
อยากทราบว่า พระป่า กับ พระบ้าน พระที่สามารถปฏบัติธรรมได้ดีกว่ากันหรือไม่

 :s_hi:

  อย่าได้นำมาเปรียบเทียบกันเลย ทุกอย่างเป็นไปด้วย บุพกรรมทั้งสิ้น

  คนเราสร้างบุญบารมีมาต่างกัน มีจริตนิสัยที่ต่างกัน

  ใครชอบใครชังอย่างไร ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย

  เป้าหมายทางพุทธศาสนา มีสองทาง ทางหนึ่ง คือ พุทธภูมิ อีกทางคือ สาวกภูมิ

  แต่ทั้งสองทางจะมาบรรจบกันที่ "นิพพาน"


  สิ่งที่เราควรพิจารณาเนืองๆ ก็คือ "เราอยู่ในทางแล้วหรือยัง"



“หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้

ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลา จะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป

เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน”
:welcome: :49: :25: ;)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2011, 06:46:34 am »
0
พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน อยากทราบ


อรัวาสี

     เถรป่าร้างห่างบ้าน          เร้นคน
มิใคร่หมายยินยล               มากผู้
วิเวกปลีกเพียงผล             เจริญมรรค
ด้วยหน่ายหมายสิ้นสู้       บ่ข้องกลับเกิด.


                                                 ธรรมธวัช.!






คามวาสี

     เณรเถรเฝ้านิ่งรู้                 อยู่เพียร
เทศน์ท่องคล่องแต่เขียน        อรรถยื้อ
อีกยศลาภคาบเปรียญ          มากกราบ
ตรำตรากยากจิตรื้อ            ตกห้วงฤาสบาย.


                                                    ธรรมธวัช.!



http://board.palungjit.com/f14/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%B2-90857.html
http://campus.sanook.com/teen_zone/spice_01302.php
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2011, 07:44:26 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

เสริมสุข

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 223
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2011, 08:00:48 am »
0
พระป่า จะเคร่งกว่า พระบ้าน พิสูจน์ได้ครับ 80 เปอร์เซ็น ครับ และ ส่วนมากจะเป็นสายธรรมยุติ

ส่วน พระบ้าน เป็นพระที่ชอบเรียน ติดสบาย ไม่ค่อยปฏิบัติ สืบพระศาสนาด้วยการเรียน การท่อง เป็นพระพิธิกรรม
เป็นส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็น

 ที่ให้น้ำหนักไว้ที่ 80 เปอร์เซ็น ก็เพราะว่า พระป่า อาจจะมีบางรูป บางองค์ ไม่สำรวม ไม่ภาวนา ซึ่งมีจำนวนน้อยครับ 20 เปอร์เซ็น

 ส่วนพระบ้าน ที่ภาวนานั้น ผมให้ไว้อีก 20 เปอร์เซ็นครับ คือมี ก็น้อย อีกเหมือนกัน


 แต่จะเป็น พระป่า หรือ พระบ้าน ผมก็นับถือ ทั้งหมด นะครับ ถ้าท่านเป็นพระที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย
เราเป็นพุทธศาสนิกชน ก็ต้องส่งเสริม เท่าที่ทำกันได้ นะครับ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า
อยากได้รับความสุข จาก ธรรมะ อยากได้รับ ..... แหมก็อยากนี้จ๊ะ

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2011, 10:20:25 am »
0
พระป่าเพียรบำเพ็ญสมณธรรม ด้วยอิทธิบาทสี่ และสัมมัปปธานสี่ จะต้องอดทนต่อความเป็นอยู่ซึ่งล้วนแล้วแต่ตรงกันข้ามกับความสุขสบาย ต้องระมัดระวังทุกฝีก้าว ไม่ทำผิดพระวินัย และผิดระเบียบของวัด สำหรับระเบียบของวัดพอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้

         ๑.เวลาออกบิณฑบาตห้ามคุยกัน ให้ภาวนากำหนดจิตของตน ตั้งอยู่ในความไม่ประมาททุกเมื่อ
         ๒.กลับจากบิณฑบาตถึงวัดแล้ว ขณะนั่งจัดบาตรอยู่ห้ามคุยกัน
         ๓.เมื่อได้ยินระฆังสัญญาณ ให้พร้อมกันออกมาทำกิจวัตรปัดกวาดสถานที่
         ๔.ถ้าหมู่เดียวกันทำผิดศีลธรรม ให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ถ้าว่าไม่ฟังให้ร้องเรียนครูอาจารย์ให้ทราบโดยด่วน อย่าถือว่าเป็นการฟ้องร้อยกัน
         ๕.เมื่อผู้อื่นนั่งภาวนากำหนดจิตของท่านอยู่ อย่าไปเพ่งโทษท่านว่าหมู่รังเกียจตน
         ๖.เมื่อทำกิจวัตรสรงน้ำเสร็จแล้ว ห้ามคุยกันบนกุฏิ เว้นไว้แต่ไปศึกษาธรรม และไปดูแลความเจ็บป่วยของกันและกัน
         ๗.เมื่อมีกิจของสงฆ์เกิดขึ้นอย่าเมินเฉย ต้องเอาธุระช่วยดูแล ถ้าใครไม่เอาใจใส่ท่านปรับอาบัติทุกกฏ
         ๘.ห้ามเก็บอาหารไว้ฉันตอนเพล เพราะจะทำให้เสียระเบียบพระธุดงค์กัมมัฏฐาน
         ๙.เวลาไปต้อนรับแขกที่มาสู่วัด ต้องห่มจีวรให้เรียบร้อย
         ๑๐.เมื่อได้ยินสัญญาณที่ศาลาการเปรียญ ต้องรีบไปให้ถึงภายใน ๑๐ นาที เมื่อถึงแล้วห้ามคุยกันในกิจที่ไม่จำเป็น ให้นั่งภาวนากำหนดจิตของตน เมื่อเห็นผู้อื่นไม่พูดด้วยอย่าหาว่าท่านรังเกียจ ให้เข้าใจว่าท่านกำลังกำหนดจิตของท่านอยู่
         ๑๑.ช่วยกันรักษาของสงฆ์ที่มีอยู่ตามศาลาและกุฏิ ใครไม่เอื้อเฟื้อในของสงฆ์ท่านปรับอาบัติเท่ากับละเมิดของสงฆ์
         ๑๒.ของสิ่งใดที่มีผู้เอามาถวาย มีเจ้าหน้าที่เก็บไว้ ถ้าจะใช้ต้องได้รับอนุญาตจากผู้เก็บเสียก่อน

         นอกจากต้องระวังตัวไม่ให้ทำผิดพระวินัย และไม่ผิดระเบียบของวัดแล้ว พระป่ายังต้องพากเพียรฝึกอบรมจิตของตน เพื่อยังกิเลสให้เบาบางไปตามลำดับ จุดหมายปลายทางที่สุดยอดคือความหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ถ้าพลาดจากนั้นก็ขอให้ได้อริยธรรมชั้นใดชั้นหนึ่ง ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป ซึ่งจะประกันว่าจะไม่ต้องไปเกิดในทุคติภพ ความมุ่งมาดดังกล่าวเป็นความจริงจังของพระป่า

ข้อควรทราบบางประการเกี่ยวกับพระป่า
         การทำบุญบริจาคทานกับพระป่านั้น ควรทราบว่าอะไรทำและอะไรไม่ควรทำ อะไรไม่ควรบริจาคทานทำบุญกับพระป่า อะไรสมควรที่ท่านจะบริโภคได้ อาหารอะไรควรฉันเวลาไหน

เวลาและประเภทของโภชนาหารที่พระภิกษุรับประเคนได้
         ๑. ของที่ควรถวายแก่พระป่าตอนเช้า ได้แก่ โภชนาหารห้าอย่างคือ ข้าวสุก ขนมสด ขนมแห้ง ปลาและเนื้อ
         ๒. ของที่พระป่ารับประเคนได้ ฉันได้ทั้งในตอนเช้า ตอนเย็น ตอนกลางคืน และท่านเก็บไว้ฉันได้เจ็ดวัน ได้แก่ น้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำตาล น้ำหวาน เนยใส เนยข้น
         ๓. ของที่พระป่ารับประเคนได้ ทั้งตอนเช้า ตอนเย็น ตอนกลางคืน และฉันได้ทุกเวลา ถ้ามีเหตุจำเป็นได้แก่ยารักษาโรค
         ๔. ของที่พระป่ารับประเคนได้ และฉันได้ในตอนบ่าย ตอนเย็น และตอนกลางคืน ได้แก่น้ำปานะ ซึ่งทำจากผลไม้ที่ไม่ใช่เป็นมหาผล ผลไม้ที่ควรใช้ทำน้ำปานะถวายพระป่า ได้แก่ มะนาว พุทรา ลูกหว้า ส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง มะขาม มะปรางดิบ กล้วยดิบมีเมล็ด ฯลฯ น้ำที่ใช้ทำน้ำปานะควรต้มให้สุกเสียก่อน แล้วตั้งทิ้งไว้ให้เย็น วิธีทำน้ำปานะโดยสังเขปคือ นำผลไม้มาแกะเอาเมล็ดออก แล้วคั้นเอาแต่น้ำผลไม้ จากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาวเจ็ดครั้ง แล้วจึงนำมาผสมด้วยพริกหรือเกลือ หรือน้ำตาล หรือยาสมุนไพรต่าง ๆ ตามต้องการ น้ำปานะที่ผสมเสร็จแล้วนี้ห้ามนำไปต้มให้สุกอีก น้ำปานะจะประเคนพระได้ตั้งแต่เที่ยงวัน ถึงเที่ยงคืนก็หมดอายุกาล เพราะน้ำปานะนั้นจะกลายเป็นเมรัยไป จึงห้ามภิกษุสามเณรฉันเป็นอันขาด

จากคุณ    : โชติช่วงชัชวาล
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

เฉินหลง

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 153
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2011, 09:20:24 am »
0
การ ปฏิบัติธรรม หากเราพอมีพื้นฐานหรือแนวทางอยู่บ้าง อยู่ที่ไหนก็สามารถปฏิบัติได้

เพราะหลักการของการฝึกจิตคือ ทำได้ในทุกอิริยาบท ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องใส่ชุดขาว หรือปฏิบัติที่วัดอย่างเดียว นั้นอาจจะหมายถึงผู้เริ่มต้น แต่สำหรับคนที่พอมีประสบการณ์แล้ว

การปฏิบัติธรรมที่แท้จริงคือ การรู้เท่าทันต่ออารมณ์ที่กระทบจิตของเราในทุกขณะ เช่น อารมณ์อันเกิดจากความโกรธหรือไม่พอใจ มันเกิดขึ้นเรารู้ตัวไหม ดับมันได้ไหม.. อารมณ์ความต้องการสิ่งต่างๆ มันเกิดขึ้นรู้ตัว และดับมันได้ไหม..หากเราปฏิบัติธรรมทุกวัน แต่เรายังไม่รู้เท่าทันอารมณ์ของตน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะพระพุทธเจ้าสอนเรื่องมหาสติปัฏฐาน คือกำหนดรู้กาย-รู้ใจ..ในอิริยาบททั้งสี่ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน..

 เราสามารถนำมาประยุกต์กับชีวิตประจำวันเราได้ เช่น ทำงานแทนที่เราจะปล่อยให้จิตคิดฟุ้งซ่าน แต่เรากำหนดจิตโดยบริกรรมภาวนาในใจ เช่น พุทโธ.ๆ และหากอารมณ์ขณะนั้นมีอะไรมากระทบ ก็ให้กำหนดเป็นปัจจุบันธรรม หรือปัจจุบันอารมณ์ ความรู้สึกเหล่านั้นมันดับไป เราก็เป็นนายของใจเรา..เพราะเรารู้เท่าทันมันได้ พูดแบบภาษาทั่วไปคือเราชนะใจตัวเองได้ไหม..

ของบางอย่างก็ต้องรู้จักฝืนจึงจะชนะมันได้.. จิตของเรามีสองด้าน คือด้านดี และด้านร้าย..หากเราไม่พยายามฝึก เราก็จะเชื่อด้านร้ายตลอด เพราะมันยุยงส่งเสริมให้เราเก่งมากๆ  ยุให้ทำในสิ่งที่ผิดเสมอ.. แต่ด้านดีมักจะไม่ค่อยจะได้ทำ เพราะอำนาจของฝ่ายร้ายสูงและเก่งกว่า..

เราก็ต้องพยายามฝึกฝ่ายดีให้มีกำลังบ้าง ให้สูสีกับฝ่ายร้าย จึงจะต่อสู้กันพอฟัดพอเหวี่ยง.. ถ้าเราไม่ฝึกใจของเรา มันก็มีแต่แพ้ เพราะอำนาจฝ่ายดีไม่มีกำลังเพียงพอ.. ดังนั้นฝากไว้ ชีวิตที่วุ่นวายนี่แล่ะ เป็นสนามฝึกฝนจิตใจได้เป็นอย่างดี.

ดังนั้นจะเป็น พระป่า หรือ พระบ้าน ถ้าปฏิบัติก็เสมอกัน ถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ไม่ต่างกัน

 :97:
บันทึกการเข้า

สุราษฎร์ธานี

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2011, 08:16:00 am »
0
พระป่า กับ พระบ้าน
พระที่ปฏิบัติจริง จะได้ธรรมดีกว่า :25:
บันทึกการเข้า

rainmain

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 323
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 07:57:27 pm »
0
จะพระป่า หรือ พระบ้าน ที่แน่ ๆ ถ้าไม่ปฏิบัติภาวนา ก็ไม่ไปไหนเกินหรอกครับ
ดังนั้น จะพระป่า หรือ พระบ้าน ก็ต้องภาวนาปฏิบัติครับ

  ส่วนจำนวน พระธรรมยุต กับ พระมหานิกาย นั้น พระมหานิกายมีมากกว่า ครับ หลายเท่าเลยครับ วัดก็มากกว่าหลายเท่าด้วยครับ เพียงแต่ พระธรรมยุต ที่ชาวบ้านอย่างพวกผมนับถือก็จะเป็นในสายหลวงปู่มั่น ครับ

  ส่วนพระมหานิกาย ก็เป็นพระเรียนเป็นส่วนใหญ่ จริง ๆ ที่ผมพบและเจอเวลาไปคุยด้วยก็จะคุยแต่เรื่องเรียน ป.ตรี โท เอก ประมาณนี้ ส่วนที่เห็นมาปฏิบัติวิปัสสนา กรรมฐานจริง ๆ ผมเห็นน้อยอาจจะเป็นเพราะว่าต้องอยู่กับสังคมจึงเรียกพระฝ่าย คันถะธุระ นี้จึงมุ่งทำงานศาสนา ส่วนรวมมากว่า ที่จะมาภาวนาเป็นการส่วนตัว แต่ละูรูป แต่ละองค์ ถือ notebook ไปสอนหนังสือ ออกบรรยายธรรมตามโรงเรียน เป็นพระนักพูดเรียกว่า พูดชั้นยอด แต่การภาวนา ด้านกรรมฐานไม่เอาสักรูปเลยครับ

  เผลอแพล็บเดียวไปพบก็ลาสิกขา หายจากไปแล้วกัน หลายรูป....

 

  :s_hi: :s_hi:
บันทึกการเข้า
คิดดี พูดดี ทำดี เป็นกุศล และ กรรมฐาน เป็นมหากุศล นะครับ