ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: งมงาย หรือ ศรัทธา ถ้าเราภาวนาอย่างเดียวโดยไม่ใช้ปัญญา  (อ่าน 5618 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นินนินนิน

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
งมงาย หรือ ศรัทธา ถ้าเราภาวนาอย่างเดียวโดยไม่ใช้ปัญญา >

  บางทีเวลาจะได้ภาวนา มักฟังครูอาจารย์ กล่าวว่า ให้ภาวนาไปไม่ต้องไปคิดอะไร? ให้ภาวนาอย่างเดียว เท่านั้น

  ที่นี้ระหว่างที่ภาวนา การที่จะหยุดความคิดไม่ให้คิดนั้น โดยที่ไม่มีเหตุผลให้คือคำตอบว่าทำไมต้องภาวนาโดยที่ไม่ต้องคิด เพราะการภาวนาโดยที่ไม่ต้องคิดนั้นเป็นการใช้ปัญญา หรือ ไม่ครับ

  บางครั้งผมเอาหลัก กาลามสูตร มาเปรีบบเทียบ คืออย่าพึ่งเชื่อแม้เป็นครูอาจารย์ อย่างนี้ เลยมองเหตุผลออกมาว่า การภาวนาโดยที่เราไม่รู้ ไม่คิดนั้น เป็นการภาวนาแบบงมงาย

   ที่นี้เวลาภาวนา แบบมีความรู้ความคิดนั้น กำหนดได้ทันตาเหตุตามผล ก็ไม่เคยมีปีติเกิดขึ้น อย่างไรตามตำราเลย คือเลยคิดต่อไปว่า เราภาวนาแบบงมงาย ดีกว่า หรือไม่นะ

   แท้ที่จริงการภาวนาตามหลักพุทธศาสนา ควรใช้ปัญญา หรือความงมงาย

   หรือว่า ความงมงาย กับ คำว่า ศรัทธา คืออันเดียวกัน ครับ


  :smiley_confused1: :s_good: :c017:
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าจะภาวนาอย่างเดียวไม่สนใจอะไร ก็ไม่เป็นไร แต่ควรมีศรัทธาใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
         สามสิ่งนี้คือพระรัตนตรัย และเป็นเหมือน นําหนัก  เป็นเหมือนพลังใจ ที่จะทําในสิ่งที่หวัง คือศิล สมาธิ ปัญญา ได้สําเร็จไปตามเป้าหมาย
          ขอให้มีศรัทธา ในสิ่งนี้ และเคารพในพระอาจารย์ผู้สอนกรรมฐานของตน ปฏิบัติไปตามกรรมฐานที่พระอาจารย์ท่านให้ทํา
        ทําไปแค่เนี๊ยะ  ความก้าวหน้าก็มีได้เป็นได้ไปตามลําดับ
         ส่วนเรื่องความคิดเปรียบเทียบต่างๆ เราเห็นว่า ท่านจูน และตั้งอารมณ์ในเรื่องที่จะปฏิบัติ ไว้ดีแล้ว
      เรื่อง นิวรณ์ อื่นๆ  ให้ทิ้งเสียไม่ใช่สิ่งสําคัญ
        หากมีภาวนาเดี๋ยวปัญญามาเอง สิ่งสําคัญ คือ ภาวนา ภาวนา
           ศิล สมาธิ ปัญญา เกิดตาม เสต็บ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0



งมงาย คือ การทำอะไรแล้ว ทุ่มเทอย่างหัวปักหัวปำ แม้สิ่งนั้นจะรู้ว่าผิด หรือไม่รู้ว่าผิด แต่เมื่อทำลงไปแล้ว เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งจะนำซึ่งความไม่เจริญแก่ผู้กระทำ
  ยกตัวอย่าง
    เชื่อว่าการฆ่าคนบูชานั้น ทำให้มีอิทธิฤทธิ์ เป็นต้น

ศรัทธา คือ ความเชื่อ ความเคารพ ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งอาจจะพิสูจน์ได้ หรือ พิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็ทำออกไปเพื่อพอกพูนความเชื่อ ความเคารพไว้ ศรัทธา
   ยกตัวอย่าง
   เชื่อในหลักคำสอนของศาสนา ว่าจะนำมาซึ่งสันติ

ทั้งงมงาย และ ศรัทธา มีพฤติกรรมอยู่ 2 แบบ
 คือ 1.แบบที่แสดงออก   
     2.แบบที่ไม่แสดงออก
 
    ดังนั้นคำว่า งมงาย กับ ศรัทธา ก็มีความคล้ายกัน แต่ ใช้ไม่เหมือนกัน งมงาย จะใช้กับสิ่งเป็นอกุศล ส่วนศรัทธา จะใช้กับสิ่งที่เป็นกุศล

   คำว่า ศรัทธา ในพระพุทธศาสนา ใช้คำร่วมกันคือ สัทธาปสาทะ ความเชื่อความเลื่อมใส มักจะใช้กันอย่างนี้ คือต้องมาทั้งสองประการ สัทธาปสาทะ เป็นแรงจูงใจให้ พุทธบริษัทมีกำลังใจในการภาวนา สัทธาปสาทะ ใช้กับพระรัตนตรัย โดยตรง ก็คือ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า

    ศรัทธาในพระรัตนตรัยนั้น จำเป็นต้องใข้หลักกาลามสูตร หรือ ไม่ ?
    ตอบถ้าคุณเป็นพุทธบริษัทอยู่แล้ว ก็ต้อบว่า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้
    หลักกาลามสูตรเหมาะแก่คนที่ไม่ใช่ พุทธบริษัท คือ เป็นคนต่างลัทธิ ต่างศาสนา ซึ่งก็อยู่ที่ผู้ที่จะนำเสนอ จะนำเสนออย่างไร ให้เกิดความเข้าใจ คือ ปัญญา

    ปัญญา เป็นเหตุนำมาซึ่ง ความเลื่อมใส ประการหนึ่ง
    การประจักษ์ รู้แจ้ง ก็เป็นเหตุนำมาซึ่งความเลื่อมใสประการหนึ่ง
    ความพอกพูน วัฒนธรรม เป็นเหตุนำมาซึ่งความเลื่อมใสประการหนึ่ง
    จะกล่าวโดยรวม คือ เหตุปัจจัย นำมาซึ่งความเชื่อเลื่อมใส

    ดังนั้นท่่านที่ งมงาย และ ศรัทธา ก็ใกล้เคียงกันอยู่ที่ท่านมีฉลาดในการใช้ สติ ปัญญา อย่างไร แตกต่างกันที่ตรงนี้

   ศรัทธา บางอย่าง อาจจะเป็นทั้งประโยชน์ตน และประโยชน์ผูู้อื่น
   แต่ ศรัทธาในพระรัตนตรัย นั้นเป็นประโยชน์ ทั้ง 2 ประการ คือ ทั้งตนเอง และ ผู้อื่น

   สรุป บุคคลพึงพอกพูนศรัทธา ในพระรัตนตรัย ไว้ให้มาก ๆ

    เจริญพร / เจริญธรรม


    ;)
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 26, 2012, 02:35:37 pm โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

sinjai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 144
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
งมงาย ใน พระรัตนตรัย เป็นไปได้หรือไม่คะ
  เช่น งมงาย เชื่อว่่า พระพุทธรูป ( สัญญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า ) ว่าจะช่วยดลบันดาล อะไรๆ ให้เราได้เช่นถูกหวยรางวัลที่ 1 เป็นต้น อย่างนี้เป็น ศรัทธา หรือ งมงาย คะ

  :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

pamai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
งมงาย ใช้กับเรื่อง อกุศลครับ
ศรัทธา ใช้กับเรื่อง กุศลครับ
 
 จับประเด็นนี้ก่อน ก็จะเข้าใจครับ
  :25:
บันทึกการเข้า

เสริมสุข

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 223
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0



ศรัทธาหัวเต่า สมาธิหัวตอ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7686.0

เครดิตผู้โพสต์ด้วยครับ  ศรัทธาหัวเต่า สมาธิหัวตอ
« เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2012, 12:33:37 PM »
บันทึกการเข้า
อยากได้รับความสุข จาก ธรรมะ อยากได้รับ ..... แหมก็อยากนี้จ๊ะ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
งมงาย หรือ ศรัทธา ถ้าเราภาวนาอย่างเดียวโดยไม่ใช้ปัญญา ?

นักศึกษาธรรม(ภาวนา)ในทุกวันนี้งมงายไปในเชิงตรรกะมากไป จริงแท้แล้วจิตสิกขา(ภาวนา)ต้องใช้ตัวจิตทำงาน

เมื่อจิตได้งานจิตนั้นจะเป็นตัวตรึกตัวตรองได้เองที่เรียกว่าเกิดปัญญาก็ตรงนี้ ดังนั้นให้เอาภาวนาเป็นเหตุ ปัญญาจึงจะ

เป็นผล ครับ! ถ้ายังกังขาด้วยคร้านภาวนาเห็นเสียว่างมงายซะแล้วเห็นทีคงหมดวาสนา หายใจรอวันตายอย่างเดียว

ครับ!
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา