การศึกษา "ปุพเพกตปุญญตา" ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา
A Study of the Pubbekatapunnata in Buddhism
โดย นางสาวปุณภัท ธนาเดชกุลโชติ(-๑)
บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์เรื่องการศึกษาปุพเพกตปุญญตาในคัมภีร์พระพุทธศาสนานี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ข้อ
๑) เพื่อศึกษาปุพเพกตปุญญตาในคัมภีร์พระพุทธศาสนา
๒) เพื่อศึกษาหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับปุพเพกตปุญญตา
๓) เพื่อวิเคราะห์ปุพเพกตปุญญตาในทัศนะของนักวิชาการพระพุทธศาสนาในสังคมไทย
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ปุพเพกตปุญญตา ความเป็นผู้มีบุญที่ได้กระทำไว้ในปางก่อน เป็นมงคลข้อที่ ๕ ในจำนวนมงคล ๓๘ ข้อ ซึ่งมีอิทธิพลต่อสังคมไทย พระสิริมังคลาจารย์ชาวล้านนาไทยรวบรวมคำอธิบายมงคลแต่งคัมภีร์มังคลัตถทีปนีเผยแผ่ผ่านมา ๗๐๐ กว่าปี เป็นที่ยอมรับในสังคมพุทธไทยใช้เป็นตำราเรียนภาษาบาลีของพระภิกษุสามเณร พระพุทธเจ้ากับพระสาวกทั้งหลายเป็นบุคคลที่ได้กระทำบุญไว้ในปางก่อน บุญที่กระทำไว้นั้น ส่งผลให้พระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ส่งผลให้พระสาวกได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล มีประวัติบันทึกอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา
หลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับปุพเพกตปุญญตา คือ จักร ๔ เป็นหลักธรรมที่เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นปัจจัยของกันและกัน
(๑) ปฏิรูปเทสวาสะ อยู่ในประเทศอันสมควร
(๒) สัปปุริสูปัสสยะ คบสัตบุรุษ
(๓) อัตตสัมมาปณิธิ ตั้งตนไว้ชอบ
.... ทำให้เกิดปุพเพกตปุญญตา
หลักธรรมโดยอ้อม คือ กุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นปากทางแห่งการสร้างบุญกุศล บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ เป็นวิธีการสร้างบุญกุศลให้เกิดขึ้น ซึ่งจะเกื้อหนุนการทำบุญในอดีตที่ส่งผลมาให้ในปัจจุบัน และการทำบุญในปัจจุบันอันจะส่งผลไปในอนาคต ทัศนะของนักวิชาการพระพุทธศาสนาในสังคมไทย ท่านได้ให้ทัศนะว่า ปุพเพกตปุญญตามีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ เพราะบุญที่ทำไว้ก่อนส่งผลให้เกิดเป็นมนุษย์ หลักธรรมที่เกี่ยวข้อง คือ จักร ๔ ต้องอยู่ในประเทศที่เหมาะสม จึงจะได้คบสัตบุรุษ แล้วตั้งตนไว้ชอบ ปุพเพกตปุญญตามีอิทธิพลต่อสังคมไทยทั้งด้านวัฒนธรรม ด้านสังคม ด้านจริยธรรม เพราะสังคมไทยส่วนมากเป็นสังคมชาวพุทธที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา
คำสำคัญ : ปุพเพกตปุญญต, การทำบุญกุศล
Abstract
This thesis entitled ‘A Study of the Pubbekatapuññatã in Buddhism’ has two objectives :-
๑ ) to study Pubbekatapuññatã in Buddhist scriptures,
๒ ) to study Buddhist principles concerning Pubbekatapuññatã, and
๓ ) to analyze Pubbekatapuññatã in Buddhist scholars’ viewpoint in Thai society. This is a documentary research. (-๑) นิสิตปริญญาโท บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วารสารวิจัยพุทธศาสตร์ ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๑ มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๐ | ๒
In the study, it was found that etymologically Pubbekatapuññatã meaning gaining certain merit from past meritorious actions becomes the fifth blessing out of 38 blessings greatly influencing upon Thai society. Historically, it was compiled by Sirimagalacãraya in Magalatthadîpanî. In the story, the Buddha and His followers were endowed with Pubbekatapuññatã and thereby bringing Him Buddhahood and enlightenment to followers respectively.
As far as Pubbekatapuññatã is concerned, the Buddhist principles, four virtues wheeling one to prosperity, are conditionally directed to one another. They are as follows :-
1) Paµîrũpadesavã ; one should live in the right country,
2) Sappurisũpassaya ; one should associate with good man, and
3) Attasammãpanidhi ; one should put oneself in the proper way.
Once one follows these virtues then Pubbekatapuññatã is gradually caused. In this matter, the indirect Buddhist principles are 10 wholesome courses of action ; they are
regarded as ways leading to merit action. Apart from this, 10 bases of meritorious action are also the ways supporting the past merit to produce the present result and the present merit action will be conducive to the future merit as well.
Viewed from Buddhist scholars’ viewpoints in Thai society, it showed that Pubbekatapuññatã is extremely essential to human beings’ life because being reborn as human being is conditionally determined by it. Therefore, first, in order to gain this four virtues wheeling one to prosperity should be in the proper country and then one can associate with wise man and thereby putting oneself in proper place. It can be claimed that Pubbekatapuññatã plays a crucial roles in Thai society, be it culture, society, and morality, because most of Thais are Buddhists.
Key word : Pubbekatapunnata, Make merit
บทนำ
พระพุทธศาสนามีหลักคำสอนเรื่องกรรม คือ การกระทำ และกรรมวิบาก คือ ผลของการกระทำ ดังที่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า
“เรามีกรรมเป็นของตน เป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้ จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น” (พระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม ๒๒ ข้อ ๕๗ : ๑๐๐)
แล้วพระองค์ทรงขยายความว่า
“สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า ‘เรามีกรรมเป็นของตน เป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้ จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แลว่า ‘สัตว์ทั้งหลายมีกายทุจริตวจี ทุจริต มโนทุจริต เมื่อเขาพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละทุจริตได้โดยสิ้นเชิง หรือทำให้เบาบางลงได้” (พระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม ๒๒ ข้อ ๕๗ : ๑๐๐)วารสารวิจัยพุทธศาสตร์ ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๑ มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๐ | ๓
จากข้อความนี้ หมายความว่า เมื่อบุคคลที่เกิดมาได้ศึกษาหาความรู้ มีวิชาติดตัวแล้วได้ประกอบสัมมาอาชีพ แล้วดำชีวิตอยู่ได้ ด้วยผลของความรู้และการประกอบอาชีพ เขาชื่อว่า ได้กระทำกรรมและได้รับวิบากกรรม เรื่องนี้เป็นหลักคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงสอนตามวิถีชีวิตของชาวโลก คือ ชาวโลกทุกชาติ ก็ขวนขวายกระทำ คือ ขวนขวายศึกษา ขวนขวายประกอบสัมมาอาชีพ และก็ได้ผลของการศึกษา เช่น มีหน้าการงานที่ดี ได้ทรัพย์มาเลี้ยงชีวิตตนและครอบครัว
หลักคำสอนเรื่อง ปุพเพกตปุญญตา การได้สร้างบุญไว้ในปางก่อน เป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในมงคลสูตรว่า “การได้สร้างบุญไว้ในปางก่อน” (พระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม ๒๒ ข้อ ๕๗ : ๑๐๐) หมายถึง เป็นผู้ที่กระท าบุญกุศลไว้ปรารภพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในชาติที่ล่วงมาแล้ว บุคคลที่ทำบุญไว้ในชาติก่อนอย่างนี้ เมื่อสิ้นชีพในชาตินั้นมาเกิดในชาติต่อมา ได้พบพระพุทธเจ้า ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า หรือพระสาวกของพระพุทธเจ้า ย่อมบรรลุธรรมด้วยบุญกุศลที่สั่งสมมา ดังเช่น พระเจ้ามหากัปปินะกับบริวารที่ทำบุญไว้ในอดีตชาติ แล้วมาสมัยพระพุทธเจ้าโคดม ได้พบพระพุทธเจ้าฟังธรรมแล้วบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด (พระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม ๒๒ ข้อ ๕๗ : ๑๐๐)
บุคคลเหล่านี้ คือ ตัวอย่างของบุคคลผู้ทำบุญไว้ในปางก่อน คือ ทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้าในชาติที่เกิดเป็นช่างทอหู กและทำบุญในศาสนาของพระพุทธเจ้ากัสสปะเมื่อ ๑ แสนอสงไขย แล้วมาเกิดในศาสนาของพุทธเจ้าโคดมได้ฟังธรรมแล้วบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ แล้วบวชเป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้า ได้รับยกย่องจากพระพุทธเจ้าเป็นเอตทัคคะ คือ เป็นเลิศทางด้านผู้กล่าวสอนภิกษุทั้งหลาย ดังข้อความว่า “ภิกษุทั้งหลาย มหากัปปินะเลิศกว่าภิกษุสาวกทั้งหลายของเรา ผู้กล่าวสอนภิกษุ” (พระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม ๒๒ ข้อ ๕๗ : ๑๐๐) ถือว่าได้รับผลบุญที่ทำไว้
นอกจากนี้ยังมีคฤหัสถ์ผู้ครองเรือน ทั้งสตรีและบุรุษที่กระทำบุญไว้ในชาติก่อน แล้วมาเกิดในสมัยพระพุทธเจ้าโคดม แล้วได้รับผลบุญทั้งระดับโลกิยะ คือ ผลระดับประชาชนทั่วไป และระดับโลกุตตระ คือ มรรคผลอันสูงสุดในพระพุทธศาสนา
ปุพเพกตปุญญตา คือ การได้สร้างบุญไว้ในปางก่อนนี้ มีหลักธรรมที่เกี่ยวข้องสนับสนุนให้การสร้างบุญสมบูรณ์และสำเร็จผลในกาลต่อมา และในชาติต่อๆ มา เช่น หมวดธรรม จักร ๔ คือ ธรรมที่เป็นหลักปฏิบัติอันจะนำไปสู่ความดีงาม ความเจริญก้าวหน้า หรือ ธรรมที่เป็นเครื่องช่วยให้สามารถสร้างความดีอื่นๆได้ทุกอย่าง และช่วยให้ประสบความเจริญก้าวหน้าในชีวิตอย่างมั่นคง
หลักธรรมอีก ๓ ข้อในหมวดนี้ ถือว่าเป็นหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับปุพเพกตปุญญตา ซึ่งพระสารีบุตรแสดงไว้ว่าเป็นธรรมมีอุปการะมาก ซึ่งมีปุพเพกตปุญญตาอยู่ด้วย ได้แก่
(๑) ปฏิรูปเทสวาสะ การอยู่ในถิ่นที่ดี
(๒) สัปปุริสสังเสวะ การคบหาสัตบุรุษ
(๓) อัตตสัมมาปณิธิ การตั้งตนไว้ชอบ
(๔) ปุพเพกตปุญญตา ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ในก่อนแล้ว (พระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม ๒๒ ข้อ ๕๗ : ๑๐๐)
จักร ๔ นี้เป็นเหตุให้บุคคลประพฤติปฏิบัติ ดำเนินชีวิตไปได้ มีหน้าที่การงาน มีโภคสมบัติ (พระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม ๒๒ ข้อ ๕๗ : ๑๐๐)
จักร คือ สมบัติ ๔ ย่อมหมุนสืบต่อกันไป
บุคคลผู้ประพฤติปฏิบัติไป ดำเนินชีวิตในถิ่นไหน ถิ่นที่อยู่นั้นจัดเป็น ปฏิรูปเทสวาสะ
การอยู่ในถิ่นที่ดี ย่อมได้พบปะคบหาสัตบุรุษ นี้คือ สัปปุริสูปัสสยะ
การสมาคมกับสัตบุรุษ ความพึ่งพิงสัตบุรุษ การตั้งตนไว้ชอบ ประกอบสุจริตธรรม เป็น อัตตสัมมาปณิธิ
การตั้งตนไว้ชอบ ความตั้งคนไว้ชอบ ความเป็นผู้มีกุศลอันสั่งสมไว้ในกาลก่อน ชื่อว่า ปุพเพกตปุญญตา
ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ก่อนแล้ว ความเป็นผู้ทำบุญมาก่อน เป็นกุศลจิตที่นำบุคคลเข้าไปอยู่ในถิ่นที่เหมาะ ให้คบหาสัตบุรุษ ก็บุคคลนั้น ชื่อว่าตั้ง คนไว้ชอบ (พระไตรปิฎกภาษาไทยเล่ม ๒๒ ข้อ ๕๗ : ๑๐๐)
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ได้อธิบายจักร ๔ ไว้ในหนังสือพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรมว่า จักร ๔ ธรรมนำชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองดุจล้อนำรถไปสู่ที่หมาย
(๑) ปฏิรูปเทสวาสะ อยู่ในถิ่นที่ดีมีสิ่งแวดล้อมเหมาะสม
(๒) สัปปุริสูปัสสยะ สมาคมกับสัตบุรุษ
(๓) อัตตสัมมาปณิธิ ตั้งตนไว้ชอบ, ตั้งจิตคิดมุ่งหมายนำตนไปถูกทางวารสารวิจัยพุทธศาสตร์ ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๑ มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๐ | ๔
(๔) ปุพเพกตปุญญตา ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ก่อนแล้ว, มีพื้นเดิมดี, ได้สร้างสมคุณความดีเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ต้น
ธรรม ๔ ข้อนี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พหุการธรรม คือ ธรรมมีอุปการะมาก เป็นเครื่องช่วยให้สามารถสร้างสมความดีอื่นๆ และช่วยให้ประสบความเจริญก้าวหน้าในชีวิต บรรลุความงอกงามไพบูลย์ (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต), ๒๕๕๑ : ๑๒๒-๑๒๓)