หัวข้อ: ตามรอยบุญ...นมัสการพระบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 10, 2015, 09:32:45 am (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000002284607.JPEG) ตามรอยบุญ...นมัสการพระบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี - พุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลสู่จันทบุรี มนัสการรอยพระบาทพลวง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาเขาคิชฌกูฏ พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างเฝ้ารอคอยเดือนมกราคมของทุกปี เพื่อเดินทางขึ้นยอดเขาเขาคิชฌกูฏ ต.พลวง อ.เขาคิชฌกุฏ จ.จันทบุรี ร่วมพิธีนมัสการรอยพระบาทพลวง สำหรับปี 2558 จังหวัดเปิดให้พุทธศาสนิกชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ได้ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ถึงวันที่ 19 มีนาคม โดยมีการทำพิธีบวงสรวงเปิดป่าไปเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา :49: :49: :49: :49: จากวันแรกจนถึงวันนี้ ยังคงมีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเดินทางขึ้นเขาเขาคิชฌกูฏ เพื่อมนัสการรอยพระบาทพลวงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะวัดหยุดสุดสัปดาห์ ลานจอดรถที่วัดกระทิงแทบจะไม่มีที่ว่าง ทั้งที่วันที่ผู้เขียนเดินทางไปถึงนั้นเพิ่งจะเวลา 03.00 น. หลังจากพยายามหาที่จอดรถจนได้แล้ว จึงเดินทางเข้าวัดเพื่อไปขึ้นรถที่จะพาขึ้นเขาคิชฌกูฏ ก็ถึงกับอึ้งอีกครั้ง เมื่อพบผู้คนจำนวนมาก ทั้งนั่ง นอน เดินไป-มาเต็มลานวัดเพื่อรอคิวที่จะขึ้นรถแล้ว ยังมีอีกกลุ่มยืนเข้าแถวเพื่อรอซื้อตั๋วขึ้นรถ เล่นเอาผู้เขียนถึงกับเข่าอ่อน คิดในใจว่าแล้วเราจะได้ขึ้นเวลาไหนกัน (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000002284605.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000002284608.JPEG) น.ส.สมจิต สอนสี ที่ตั้งใจมามนัสการรอยพระบาทพลวง พร้อมเพื่อนอีก 5-6 คน กล่าวว่า มาจาก จ.สมุทรปราการ ออกจากบ้านตั้งแต่ 20.00 น.วันเสาร์ มาถึงวัดกระทิง เวลาประมาณ 01.30 น. วันอาทิตย์ ได้คิวขึ้นเขารอบที่ 300 กว่า ซึ่ง ณ เวลานั้นคือ คิวที่ 59 ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ขึ้นเขาเวลาใด แต่ทุกคนไม่หวั่นไหว ขึ้นมานอนบนศาลาวัดที่ทางวัดได้จัดไว้ให้ประชาชน กราบไหว้หุ่นขี้ผึ้ง “หลวงพ่อเขียน” อดีตเจ้าอาวาสวัดกระทิง ที่เป็นผู้ค้นพบรอยพระบาทพลวง ไปพลางก่อน จากการสอบถามผู้จัดคิวรถได้ความว่า วันนี้บนยอดเขามีฝนตก ทำให้การวิ่งรถรับส่งพุทธศาสนิกชนได้ช้า เนื่องจากถนนลื่นจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งทางขึ้นเป็นพื้นที่ลาดชัน ต้องให้คนขับรถที่มีฝีมือ และชำนาญอย่างมาก จึงทำให้การเดินทางล่าช้ากว่าปกติ :96: :96: :96: :96: และเมื่อไปถึงจุดที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขาแล้ว ทุกคนมีความพยายามที่จะไปต่อ และไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เมื่อไปถึงบนยอดเขากลับปลื้มปีติ ที่ได้เห็นรอยพระบาทพลวง ต่างพากันถือดอกดาวเรืองสีเหลืองอร่ามมาโปรยตามทางเดินขึ้นเขา ด้วยเชื่อว่าเส้นทางที่พวกเขากำลังจะเดินขึ้นไปเป็นเส้นทางสวรรค์ หากมีการนำดอกไม้ที่ชื่อมงคลอย่างดอกดาวเรืองมาโปรย จะทำให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย และเมื่อหายเหนื่อยแล้ว ก็อิ่มเอมกับบรรยากาศบนยอดเขายามเช้าที่สวยงาม เต็มไปด้วยหมอกจาง เย็นสบาย หลายคนยังอ้อยอิ่งสัมผัสอากาศยามเช้าบนยอดเขาคิชฌกูฏ หลังจากมนัสการรอยพระบาทพลวงแล้ว แต่ผู้เขียนตั้งใจนมัสการรอยพระบาทพลวงอย่างเดียว จึงตัดสินใจเดินลงเขา เพราะอากาศยังไม่ร้อนเท่าไหร่ มีเพียงแสงแดดอ่อนๆ กับเหงื่อชุ่มๆ เย็นกายเมื่อมีลมพัดผ่าน (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000002284601.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000002284602.JPEG) กลับมาถึงข้างล่างแทบอยากจะล้มตัวลงนอน ในที่ซึ่งทางวัดจัดไว้รองรับ แต่ทำไม่ได้เพราะสถานที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนพุทธศาสนิกชนที่มากันมืดฟ้ามัวดิน ดังนั้น ขอแนะนำว่าใครที่ยังพอมีแรง ก็เดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งภูเขา น้ำตก และชายทะเลที่สวยงาม เช่น หาดเจ้าหลาว ซึ่งบอกได้เลยว่า ทุกคนจะพกแต่ความอิ่มเอมใจกลับไปสู้ชีวิตสู้งานกันต่อ และพร้อมที่จะกลับมาอีกครั้งในปีต่อไป สำหรับยอดเขาคิชฌกูฏ เป็นยอดเขาที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร เป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทย รู้จักกันดีในชื่อรอยพระพุทธบาทพลวง หรือพระบาทพลวง สถานที่ซึ่งพุทธศาสนิกชนต่างศรัทธา และเชื่อว่าหากได้เดินขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงบนยอดเขา จะได้บุญอันใหญ่หลวง สามารถขอพรได้หนึ่งข้อ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ขอพรมักจะประสบความสำเร็จดังใจหวัง จึงทำให้มีผู้เลื่อมใส และศรัทธาเดินทางมาสักการะไม่ขาดสาย (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000002284603.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000002284604.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000002284606.JPEG) รอยพระพุทธบาทพลวง หรือรอยพระบาทพลวง มีขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร และใกล้กับรอยพระพุทธบาททางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีหินกลมก้อนใหญ่ริมหน้าผา ที่เราเรียกกันว่า “หินลูกพระบาท” ตั้งเด่นเป็นสง่าชวนน่าอัศจรรย์ และเมื่อมองไปรอบๆ ก็จะเห็นทิวทัศน์ของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ที่ครอบคลุม อ.มะขาม และ อ.เขาคิชฌกูฏ ด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นต้นน้ำสำคัญของจังหวัด ตามประวัติกล่าวว่า รอยพระพุทธบาทพลวง ถูกค้นพบประมาณปี พ.ศ.2397 ต่อมาในปี พ.ศ 2515 พระครูธรรมสรคุณ หรือหลวงพ่อเขียน เจ้าอาวาสวัดกระทิง เจ้าคณะอำเภอมะขาม ได้บุกเบิกเบิกทางขึ้น และค่อยๆ พัฒนาให้ดีขึ้น และปลอดภัยมาจนถึงปัจจุบัน หากมีโอกาสลองแวะไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงกันสักครั้ง เพราะนอกจากจะได้อิ่มอกอิ่มใจต่อการทำบุญแล้ว ยังได้ความเพลิดเพลินสนุกสนานจากการท่องเที่ยวจันทบุรีอีกด้วย ขอบคุณภาพและบทความจาก http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000022080 (http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000022080) หัวข้อ: Re: ตามรอยบุญ...นมัสการพระบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มีนาคม 10, 2015, 08:00:12 pm สาธุ ครับ คราที่ไป ครั้งนั้น ไปพร้อม ท่าน ธรรมธวัช |