ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ผลสำรวจชี้.! เสพติด "เฟซบุ๊ก" ทำให้จิตหดหู่-มีความสุขน้อยลง  (อ่าน 1384 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ผลสำรวจชี้.! เสพติด "เฟซบุ๊ก" ทำให้จิตหดหู่-มีความสุขน้อยลง

ผลสำรวจประชาชนวัยผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรพบว่า กว่า 6.9 ล้านคนมีความรู้สึกหดหู่ จากการเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับเพื่อนในโลกออนไลน์ โดยกว่าครึ่งหนึ่งหรือราวร้อยละ 56 ของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ได้รับผลกระทบทางจิตใจหลังการใช้โซเชียลมีเดียยอดนิยม จากการเห็นข้อความหรือรูปภาพต่างๆ ที่เพื่อนในโลกออนไลน์โพสต์ผ่านสื่อ

การสำรวจยังพบว่า ร้อยละ 18 ของผู้ใช้จะโพสต์รูปภาพเฉพาะที่พวกเขาคิดว่าดูดี ร้อยละ 7 โพสต์รูปภาพเฉพาะที่ผ่านการตกแต่งด้วยแอพพลิเคชันหรือฟิลเตอร์ของสมาร์ทโฟน ร้อยละ 10 จะรู้สึกแย่และอับอายหากสิ่งที่โพสต์ไม่ได้รับการตอบสนองแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งการกดไลค์ รีทวีต แชร์ต่อ หรือแสดงความเห็น และร้อยละ 8 จะรีบลบโพสต์ที่ไม่มีใครสนใจนั้นออก ซึ่งผู้ใช้อายุตั้งแต่ 18-34 ปีจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า


 :49: :49: :49: :49:

ในกลุ่มอายุนี้ยังมีร้อยละ 8 ที่ถูกลงโทษทางวินัยหรือโดนไล่ออกจากงานหลังการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม ร้อยละ 23 มีการตอบโต้กับผู้ที่แสดงความเห็นไม่ถูกใจ และร้อยละ 17 แสดงความเห็นที่พวกเขาต้องมารู้สึกเสียใจในภายหลัง ร้อยละ 36 จำต้องกดไลค์โพสต์ของเพื่อนตนเสมอ และ 1 ใน 4 ของผู้ใหญ่จะรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องอวยพรวันเกิดเพื่อนผ่านทางสื่อออนไลน์แม้ว่าจะอวยพรกับเจ้าตัวโดยตรงไปแล้วก็ตาม

นอกจากนี้ร้อยละ 22 ยังรู้สึกว่าจำเป็นต้องตอบรับการขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กของเพื่อนร่วมรุ่น และจะฟอลโลว์กลับกรณีเป็นทวิตเตอร์ ขณะผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่เกินครึ่งจะติดตามเพื่อนเก่า เพื่อนสมัยเรียนและแฟนเก่าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อีกร้อยละ 25 จะมองหาคนที่พวกเขาสนใจ ร้อยละ 17 จะคอยติดตามดูความเคลื่อนไหวของเพื่อน และร้อยละ 13 จะมองหาเรื่องราวอื้อฉาวในอินเตอร์เน็ตมาพูดคุย


 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวโดย Privilege Home Insurance ยังระบุด้วยว่า ชาวอังกฤษกว่า 3.4 ล้านรายใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างน้อย 2 ครั้งใน 1 ชั่วโมง ทำให้ผู้คนเริ่มห่างเหินจากสังคมในโลกความเป็นจริงมากขึ้น และเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวออกไปสู่สาธารณะโดยไม่รู้ตัว

ที่สำคัญทำให้ผู้คนยึดติดกับการเป็นที่ยอมรับในโลกออนไลน์จากยอดไลค์ เกิดการเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับชีวิตที่ดูสวยหรูของผู้คนในโลกออนไลน์ จึงทำให้จิตใจหดหู่ มีรู้สึกความพึงพอใจในตัวเองลดลง และมีความสุขน้อยลงไปได้



ขอขอบคุณ : metro.co.uk
http://campus.sanook.com/1381213/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เฟค อาจจะโพสต์ง่ายกว่า เว็บตอนนี้ นะคะมันมี แอพช่วยงานโพสต์และแจ้งข่าวสารเตือนกับผู้ที่เป็นสมาชิก และเพื่อนทันที ไม่เหมือนเว็บ อย่างตอนนี้จะเห็น พระอาจารย์ท่านใช้เฟคแจ้งข่าวการเดินทาง แต่ที่เว็บไม่มีเลยแสดงว่าการโพสต์โดยใช้เว็บนั้น สู้ เฟคไม่ได้

 :58: :49: like1
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เห็นด้วย ว่า ระบบของเฟคบุ๊ค เอื้อในการโพสต์ง่ายกว่า
ของเว็บยังเป็นรอง เรื่องการอัพภาพ และ การแจ้งเตือน

   ฉันก็คิดอยู่ว่าถ้าไม่บอกสถานะ การเดินทาง บ้าง หลายคนก็จะไม่ทราบ มันเป็นงานที่ลำบากแม้กระทั่งการเดินงานสถานี ด้วยอุปกรณ์ติดตัว ต้องวางเครื่องทิ้งไว้ฝากไว้กันคนที่ไม่รู้จัก ตอนนี้เครื่องเปิดถ้าไฟฟ้าดับ ก็จบกันเพราะฉันจะเชื่อมต่อทางไกลจากมือถือไม่ได้ มีความเสี่ยงในระบบ และที่สำคัญเครื่องร้อน ไฟช๊อตพวกนี้มีความเสี่ยงทั้งหมด วัดใจกันว่า เครื่องน่าจะอยู่รอดจนฉันกลับ

   ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา